เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 283 แย่งลูกที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
ช่วงค่ำคืนที่นิวยอร์กแสงไฟส่องสว่าง บนชั้นระเบียงที่ชมวิวสูง เธอซบอยู่ในอ้อมกอดเขา เขาหยิบโทรศัพท์มาถ่ายเซลฟี่ตัวเอง
สายตาของทั้งสองคนต่างเป็นประกาย รอยยิ้มดูจริงใจหาที่เทียบไม่ได้
ภีมพลมองออกว่าตัวเองในตอนนั้นดูมีความสุขอย่างเทียบไม่ได้
พลิกดูต่อไป ทั้งหมดเป็นภาพคู่กับเธอ ไปกินข้าวด้วยกัน เดินจูงมือกัน ซื้อถังหูหลู่ กินสายไหม………คล้ายกับคู่รักคู่หนึ่งที่มีความสุข แต่ละรูปพลิกดูยิ่งดูโรแมนติกและอบอุ่นยิ่งขึ้น
ภีมพลนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ออก แต่ในใจอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวด
เธอไปอยู่ที่วิลล่าของไวศิษฎ์ ไม่แน่ตอนนี้อาจจะนอนอยู่ข้างไวศิษฎ์
ทันใดนั้นความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูกปกคลุมทั่วตัวเขา ทำให้คืนนี้เขาดื่มไปไม่นอน แถมยังนอนไม่หลับอีก
เช้าวันถัดไป
แลมโบกินี่เพิ่งจะออกจากเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า ใจของภีมพลยังคงสับสนวุ่นวาย
หลังจากนั้นห้านาที ข่าวเด็กๆถูกลักพาตัวก็ปล่อยออกมาบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดความโกลาหลและการคาดเดาต่างๆมากมาย
ระหว่างทางไปบริษัท สีหน้าของญาณีเปลี่ยนไป แต่ไม่นาน ริมฝีปากเธอก็ยกขึ้นอย่างได้ใจ
บางทีพระเจ้ากำลังช่วยเธออยู่ หากเด็กสองคนนี้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันจะดีสักแค่ไหน?
ตอนนี้ ความรักของญาณีที่มีต่อภีมพลมันบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว
ในเวลาเดียวกัน เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งจอดไม่ไกลจากสนามบินส่วนตัวของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่ามากนัก
นภาลัยนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง เธอรอคอยอย่าตื่นเต้น
ไวศิษฎ์พาคนไปห้าสิบคน ทำลายประตูใหญ่ของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า!
และลงมือกับบอดี้การ์ดทั้งเจ็ดคน
มีเสียงปืนดังขึ้นมา!
ทำให้พ่อบ้านปวิธและป้าโสนที่อยู่ในห้องรับแขกตกใจจนเดินออกมา เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเจอมาก่อน
“รีบไปรายงานคุณภีม!!”
เวลานี้เอง เด็กที่แอบอยู่ชั้นดาดฟ้าได้ยินเสียงปืนก็รีบปีนหน้าต่างขึ้นมา มองไปยังสวนที่ดูวุ่นวายอยากแปลกใจ
“พี่ชาย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?” ขวัญข้าวตกใจกลัว “จะมีคนมาลักพาตัวพวกเราจริงๆหรอ?”
แชมป์ก็ตกใจเช่นกัน เขาเคยเจอเหตุการณ์ยิงต่อสู้กันจริงๆเสียที่ไหนกันล่ะ? มากสุดก็ดูในโทรทัศน์
นภาลัยที่ได้ยินเสียงปืนในใจก็สั่น เธอลงจากเครื่องบินทันที วิ่งไปทางเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า!!
และแลมโบกินี่ที่เพิ่งจากไป เห็นข่าวเด็กๆถูกลักพาตัว
โทรศัพท์ดังขึ้น พ่อบ้านปวิธโทรเข้ามา “คุณภีม แย่แล้ว! มีกลุ่มคนแกร่งบุกเข้ามาที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า ประมาณสี่ห้าสิบคน พวกเราฝั่งนี้ยิงไปแล้ว ยิงตายไปสองสามคน………”
“กลับรถ! กลับเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า!” ภีมพลออกคำสั่ง
ในเวลาเดียวกัน เขาโทรหาอีกเบอร์ นำกำลังคนรีบตามมา
ไวศิษฎ์มีคนเยอะ แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝั่งจะยิงปืน
มองดูพี่น้องที่ล้มจมกองเลือดสองสามคน ในใจเขารู้สึกโกรธ โกรธจนอดไม่ได้ที่จะยิงภีมพลทิ้ง!
บอดี้การ์ดเจ็ดคนยืนเรียงแถวอยู่หน้าพวกเขา จับปืนมือเดียว ท่าทางเคร่งขรึม
“กล้าเหยียบเท้าเข้ามาอีกเพียงครึ่งก้าว ก็อย่าโทษพวกเราที่ไม่เกรงใจ!” บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงกลางพูดข่มขู่
คนสี่สิบกว่าคนหยุดฝีเท้า
ไวศิษฎ์ไม่กล้าเดินออกมาโดยพลการ พวกเขาทำจริงแน่ ไม่มีใครไม่กลัวตาย
“เรียกภีมพลออกมา!” ไวศิษฎ์ปรากฏตัว “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเขา!”
เวลานี้ หน้าประตูเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่ามีรถจอดอยู่หลายคัน บอดี้การ์ดในชุดสูทรองเท้าหนังพุ่งเข้ามา และล้อมรอบกลุ่มคนของไวศิษฎ์ไว้เป็นวงกลม!
ตอนนี้จำนวนคนเท่ากันแล้ว แถมอีกฝ่ายมีปืน
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไวศิษฎ์ด้อยกว่า
นภาลัยวิ่งมาที่นี่อย่างไม่คิดชีวิต! เธอหอบหายใจแรง หน้าผากมีเหงื่อเล็กๆไหล ประตูของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่าอยู่ใกล้แค่ตาเห็น
เธอมองเห็นแลมโบกินี่กำลังขับวนไปที่สวน และเห็นในสวนมีรถจอดอยู่มากมาย
ไวศิษฎ์มองดูประตูรถที่เปิดออกมา มองดูภีมพลลงจากรถ
“สวัสดีคุณภีม” เหล่าบอดี้การ์ดทำความเคารพ
สองมือภีมพลสอดในกระเป๋า คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย และยืนตรงอยู่กลางแสงอาทิตย์ และใช้สายตาคมกริบเย็นชาจ้องไปยังไวศิษฎ์
ห่างจากปัญหาได้สองวันปัญหาก็ตามมาอีก
วันนั้นที่เจอกันในสายฝนครั้งหนึ่ง……ยังมีที่ญาณีเอารูปมาให้
ไวศิษฎ์เห็นเขา ก็ไม่คิดจะไว้หน้า “ฉันมาพาแชมป์กับขวัญข้าวไป ยังไงซะเจ็ดปีมานี้นายก็ไม่ได้ดูแลพวกเขา” ดวงตาดุดันสะท้อนความโกรธที่อดกลั้นอยู่ภายในดวงตา