โรแลนด์นั้นอยู่ที่เมืองเรดเมาน์เทนมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ทว่าเขาก็ยังไม่ได้พบเจอเข้ากับภารกิจใดๆเลย แต่ว่าเบทต้ากลับเจอมันได้อย่างรวดเร็ว
คิดไปคิดมามันก็พอเข้าใจได้ โรแลนด์นั้นไม่สามารถใช้ความสามารถทางภาษาได้ และภารกิจต่างๆจำเป็นต้องมีการสนทนา ไม่เหมือนกับเกมอื่นๆที่จะมีเครื่องหมายตกใจสีทองอยู่เหนือหัว NPC เพื่อบอกให้ผู้เล่นรับรู้ว่ามีเควส
แต่ว่าหมอนี่ไปเจอกับภารกิจได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนพูดน้อยมาก?
นอกจากนี้….เขาจะต้องรีบเรียนความสามารถทางภาษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“โอเค งั้นมาร่วมทีมกัน นายจะได้แชร์เควสให้ฉันได้”
พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นพวกไปไหนไปกันทั้งคู่ ไม่นานนักพวกเขาก็สร้างทีมด้วยเมนูจากระบบ และหลังจากนั้นเบทต้าก็แชร์ภารกิจให้แก่เขา
“ค้นหาหลานที่หายตัวไปของชายชรา”
ชื่อของภารกิจนั้นเป็นสีเขียว และตามด้วยคำว่า “ยอดเยี่ยม”
เมื่อสังเกตเห็นว่าโรแลนด์ดูสับสน เบทต้าเลยอธิบายว่า “ผมเคยได้รับภารกิจสีขาวมาก่อน แต่ว่าของรางวัลนั้นไม่ค่อยดีนัก ผมได้มาแค่ดาบเหล็กยาวธรรมดาๆอันหนึ่งแค่นั้น”
เบทต้านำดาบยาวออกมาจากกระเป๋ามิติและโบกมันไปมา “อันนี้แหละครับ”
“นี่นายได้รับเสื้อผ้ากับอาวุธพวกนี้จากภารกิจทั้งหมดเลยหรอ?” โรแลนด์ถามออกมาอย่างสงสัย
เบทต้าพยักหน้ารับและถามกลับว่า “ไม่ใช่ว่าพี่ก็ได้รับชุดมาจากภารกิจหรอ?”
โรแลนด์ส่ายหน้าออกมา “ไม่ล่ะ นี่ก็เป็นของขวัญจากชายแก่คนหนึ่งน่ะ”
เบทต้าปรบมือออกมาพร้อมพูดว่า “ดูเหมือนว่าความสนิทสนมก็มีผลภายในเกมนี้ด้วยสินะ”
ถึงแม้ว่าเบทต้าจะพึ่งจบจากมัธยม แต่เขาก็นับได้ว่าเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
โรแลนด์หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดออกไปว่า “ก็ใช่ แต่ฉันไม่แนะนำให้นายทำเหมือนกับว่า NPC เกมนี้เหมือน NPC ใน sandbox ที่พวกเราเคยเล่น พวกเขาค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว”
เบทต้าพยักหน้าและพูดอย่างสบายๆว่า “ผมรู้ครับ ปัญญาประดิษฐ์ของเพนกวินคอโปเรชั่นนั้นราวกับมีชีวิตจริงๆ”
“สำหรับฉันแล้วพวกเขาเหมือนกับเป็นมุนษย์จริงๆเลยหละ” โรแลนด์พูดออกมาพร้อมขมวดคิ้ว
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ” เบทต้าหัวเราะออกมา “พี่คิดมากไปแล้ว พี่โรแลนด์ เกมนี้ถูกควบคุมด้วย AI พวกเขาเป็นแค่กลุ่มข้อมูลเท่านั้นแหละ”
โรแลนด์ถอนหายใจออกมา “ในตอนมหาลัยฉันเรียนเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ระบบอัจฉริยะ หรือพูดง่ายๆก็คือฉันทำเกี่ยวกับ AI นั่นแหละ เท่าที่ฉันรู้ก็คือมันมีเงื่อนไขเยอะมากถึงจะสามารถสร้างโลกที่ใหญ่โตและสร้าง NPC ได้ราวกับมนุษย์ขนาดนี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีใครสามารถทำได้”
“แต่เกมนี้ก็ทำมันได้นิครับ” คำพูดของเขาก็ยังคงตรงประเด็นเหมือนเช่นเคย เบทต้ายักไหล่และพูดออกมา “นอกจากนี้…อัจฉริยะมักจะทำอะไรเหนือความคาดหมายเสมอ”
โรแลนด์พูดออกมาทั้งยิ้มอย่างฝืนๆว่า “คงมีแค่คำตอบนี้ละนะที่อธิบายได้”
“อ่าครับ แล้วพวกเราควรเริ่มเลยไหมครับพี่โรแลนด์?” เบทต้ามองมาทางเขาด้วยความคาดหวัง
พวกเขานั่งกันอยู่บริเวณหน้ากระท่อมของโรแลนด์ โรแลนด์ชี้ไปยังบริเวณเชิงเขา วันนี้เป็นวันที่ตลาดเปิด ดังนั้นผู้คงจำนวนมากจึงหลั่งไหลกันเข้ามาในเมืองเรดเมาน์เทน
บนถนนอัดแน่นไปด้วยพ่อค้าเร่และลูกค้ามากมาย
เสียงฝูงชนที่ดังมาจากด้านล่างราวกับเกิดการก่อจลาจล
“นายไม่อยากเข้าร่วมเทศกาลหน่อยหรอ?” โรแลนด์ถามออกมา เนื่องจากพบว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ “ตลาดแบบนี้น่าจะแปลกใหม่สำหรับนายใช่ไหม? รุ่นนายโตมากับช็อปปิ้งออนไลน์นี่”
เบทต้ายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ผมไม่สนใจหรอกครับ ผมแค่อยากเลเวลอัพ ,ท้าทายกับภารกิจที่ซับซ้อน และพบเจอสัตว์ประหลาดกับพื้นที่ใหม่ๆแค่นั้น”
ดูเหมือนว่าหมอนี่อยากผจญภัยสินะ?
โรแลนด์ยืนขึ้นและพูดว่า “งั้นก็ไปกันเถอะ”
พวกเขาออกจากเมืองเรดเมาน์เทนโดยผ่านทางสะพานที่วุ่นวาย จากภารกิจที่ได้รับมา ดูเหมือนเด็กนั่นจะป่าวประกาศว่าตัวเองจะเป็นทหารรับจ้างแล้วเดินทางไปรอบโลก จากนั้นเด็กนั่นก็ไปยังทิศตะวันตกพร้อมกับดาบ”
ตะวันตก….
โรแลนด์คลับคล้ายคลับคลาว่าฟอลเคิลเคยเล่าให้เขาฟังว่ามีฝูงโทรลล์ซ่อนตัวอยู่ในป่าห่างออกไปเพียงไม่กี่สิบกิโลเมตรจากทิศตะวันตก โทรลล์นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง และนอกจากนี้พวกมันยังมีฝีมือในการล่าอยู่บ้าง ดังนั้นพวกมันเลยไม่เคยถูกกำจัดมาก่อน
เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน โรแลนด์ก็พึมพำออกมาว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กโง่นั่นพยายามพิชิตโทรลล์หรอกนะ? เขาคงไม่บ้าขนาดนั้นใช่ไหม?”
เบทต้าได้ยินก็พูดออกมาว่า “มันเป็นแค่การตั้งค่าน่ะครับ ไม่จำเป็นต้องคิดถึงเหตุผลหรอก ยังไงมันก็เป็นเพียงแค่ภารกิจสำหรับเพิ่มเลเวลแค่นั้น”
ทว่าโรแลนด์ก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ดี
ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ โรแลนด์และเบทต้าก็พบเข้ากับโทรลล์ในช่วงเย็นหลังจากเดินหากันมาทั้งวัน
ที่มันค่อนข้างน่าขนลุกและเต็มไปด้วยกระดูกโทเทม
โทรลล์ผิวเขียวหลายสิบตัวต่างนั่งล้อมรอบกองไฟ ภายในหม้อหินที่ตั้งอยู่บนไฟนั้นดูเหมือนกำลังปรุงชิ้นส่วนของมนุษย์อยู่
มันมีโทรลล์อยู่ทั้งหมด 13 ตัว โดยมีเลเวลระหว่าง 1 และ 2 ไม่แปลกใจว่าทำไมพวกมันถึงเป็นภัยคุกคามสำหรับนักเดินทาง
โรแลนด์ที่หมอบอยู่ถามออกมาว่า “พวกเราควรวางแผนการต่อสู่ไหม?”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมเคยฆ่าพวกโทรลล์มาก่อน ระวังหลังให้ด้วยนะครับพี่โรแลนด์” เบทต้ายืนขึ้นและพุ่งเข้าจู่โจมทันที
ไม่ต่างจากที่เบทต้าบอกไว้ การสังหารโทรลล์นั้นง่ายดายสำหรับเขาเป็นอย่างมาก
เขาทั้งรวดเร็วและแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้ระหว่างการต่อสู้
เขาทำลายรังของโทรลล์ราวกับเสือหลุดเขาฝูงแกะ เพียงแค่สามนาทีโทรลล์ก็ล้มตายไปกว่าครึ่ง และอีกครึ่งที่เหลือก็ถูกสังหารด้วยบอลเพลิงนรกและแขนเวทย์ของโรแลนด์
เลือดกระจายไปทั่วพื้น
เบทต้าเช็ดเลือดออกจากหน้าของตัวเอง และด้วยความช่วยเหลือของระบบเขากะบเข้ากับเป้าหมายหลักของภารกิจซึ่งเป็นหัวกระโหลกอยู่บนโทเทมประหลาด
“นี่คือเป้าหมายของภารกิจของพวกเราสินะ” เบทต้ายิ้มออกมาและหยิบหัวกะโหลกออกจากโทเทม
“นายไม่คิดว่ามันน่าขยะแขยงหรอ?” โรแลนด์ถามออกมาพร้อมขมวดคิ้ว
เบทต้าที่กำลังเล่นกับหัวกะโหลกที่อยู่ในมือ โดยไม่ลำยากใจอะไรเลย ตอบกลับมาว่า “พวกมันเป็นเพียงแค่ข้อมูลนะครับ ใจเย็นๆครับ”
“เอาล่ะ พี่โรแลนด์กลับไปจบภารกิจกันเถอะครับ”
โรแลนด์มองโทเทมกระดูกที่อยู่โดยรอบ พวกมันล้วนแล้วแต่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนที่จะถูกกิน บางส่วนยังคงอยู่ในหม้อด้วยซ้ำ เมื่อคิดอยู่สักพักเขาก็พูดออกมาว่า “ทำไมนายไม่กลับไปก่อนละ? ฉันว่าจะฝังกระดูกพวกนี้สักหน่อย”
เบทต้ามองมาทางเขาอย่างประหลาดใจ “พี่โรแลนด์ พวกมันก็เป็นแค่ข้อมูลน่า พี่กังวลเกินไปแล้ว”
โรแลนด์หยุดสักครู่ก่อนพูดว่า “แค่คิดว่าฉันเป็นคนหัวแข็งก็แล้วกัน”
เบทต้าถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า “งั้นผมจะรอพี่ที่เมืองนะ”
หลังจากนั้นเขาก็กลับออกไปคนเดียว