เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 553 นภาลัยสอบถาม
นภาลัยเพิ่งกลับมาจากแผนกออกแบบ แล้วเข้าไปในลิฟต์ เธอลืมแม้กระทั่งกดลิฟต์
จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง เธอก็กลับมาได้สติด้วยความงุนงง และมองพนักงานของบริษัทคนหนึ่งเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณนภา” พนักงานคำนับด้วยความเคารพ
นภาลัยกลับมาได้สติ “สวัสดีค่ะ”มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย แต่ดวงตากลับไม่ยิ้ม
หากเป็นข่าวอื้อฉาวอื่น ๆ เช่น ภีมพลถูกถ่ายภาพขณะทานอาหารกับผู้หญิงข้างนอก เธอจะไม่เก็บมันมาใส่ใจเลย
ในฐานะผู้ชาย เป็นเรื่องปกติที่จะมีการสังสรรค์ และสำหรับคนดังอย่างเขาแล้ว สื่อก็ชอบนั่งเทียนเขียนข่าวเขามากที่สุด
แต่คราวนี้ต่างออกไป…มันอยู่ในห้องนอน อยู่บนเตียง
“ คุณนภา คุณต้องการไปที่ชั้นไหนคะ?”พนักงานหญิงมองสำรวจเธออย่างละเอียดและพบว่าเธอไม่ได้กดลิฟต์
นภาลัยกลับมาได้สติอีกครั้ง “อ้าว”เธอรีบเอื้อมมือไปกดหมายเลข 22 เธอจะกลับไปที่ห้องทำงาน
ขณะลิฟต์เริ่มเคลื่อนขึ้นไป พนักงานหญิงก็ออกไปเมื่อถึงชั้นที่ 19 และในลิฟต์จึงเหลือเธออยู่เพียงคนเดียวอีกครั้ง
นภาลัยถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอยืนพิงผนังลิฟต์อย่างอ่อนแรง ภาพเหล่านั้นแวบเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
เธอดูไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง จดจำทุกๆ รายละเอียดได้อย่างชัดเจน
ในห้องนอน พื้นที่ส่วนตัวขนาดนั้น……
ใบหน้าของเด็กสาวคนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอแลดูเยาว์วัยมากๆ
และตอนที่ภีมพลนั่งมองเด็กสาวอยู่บนขอบเตียงของเธอ ในดวงตาที่ลึกซึ้งของเขานั้นก็คงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนด้วย?
ความรักล้วนคือความเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น
ต่อให้คนจะใจกว้างสักแค่ไหนก็ตาม จู่ๆ มาเห็นภาพถ่ายแบบนี้ก็คงจะถูกกระตุ้นและรับไม่ได้อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
ติง ลิฟต์หยุดลงและประตูก็เปิดออก
นภาลัยก้าวออกไปด้านนอก
เดินไปไม่ได้กี่ก้าว เธอก็เจอวริศที่กำลังเดินมาทางเธอ
ส่วนวริศนั้น เขาเองก็เพิ่งเห็นข่าวเช่นกันและสับสนมึนงงไปหมด เขารู้สึกว่ามันเหลือจะเชื่อไปมาก
นี่จะกดดันฝ่ายประชาสัมพันธ์หรืออย่างไร?
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจัดงานแถลงข่าวถึงจะสามารถชี้แจงได้ เพราะไม่ว่าจะอธิบายอย่างเป็นทางการอย่างไร มันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี ก็ขึ้นอยู่กับท่าทีของคุณภีมในขณะที่เผชิญหน้ากับสื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้คนได้หรือเปล่า
วริศและนภาลัยเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดทั้งคู่ก็หยุดฝีเท้าลง โดยห่างกันประมาณหนึ่งเมตรได้
วริศสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดขาว สีหน้าก็ไม่ค่อยดี เขาจึงรู้ได้ว่าเธอก็เห็นข่าวแล้วเช่นกัน
“ผมไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไร” เมื่อเผชิญกับการสายตาของนภาลัย วริศจึงอธิบาย “เขาแค่ขอให้ผมจองตั๋วเครื่องบิน แล้วก็จากไปโดยที่ผมเองก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผล”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ธุระงาน ไม่ใช่การเดินทางไปทำงานต่างที่ ใช่ไหม?”น้ำเสียงของเธอสงบนิ่งแบบนี้ เพราะเธอต้องการความจริง
ทำให้วริศไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เขากำลังครุ่นคิดอย่างจริงจัง
ส่วนนภาลัยก็มองไปที่ริศ รอคำตอบของเขาโดยไม่กะพริบตา
วริศระแวดระวังมาก “ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ เนื่องจากมีธุรกิจบางเรื่องที่คุณภีมไม่จำเป็นต้องรายงานผม ผมสามารถบอกคุณได้แค่ว่า เรื่องการเดินทางไปแคนาดาครั้งนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ”
“คุณเคยเห็นเด็กสาวในรูปมาก่อนหรือเปล่า?”นภาลัยมองเข้าไปในดวงตาของเขา ไม่ยอมที่จะให้เขาโกหก
วริศส่ายหัว “ไม่เคยครับ อาจจะเคย แต่จำไม่ได้ ผมไม่รู้จักเธอ”
“คุณภีมไปแคนาดาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?” เธอยังคงมีเหตุมีผลอยู่มาก และต้องการจับอะไรบางอย่าง
วริศตอบตามความจริง “เมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ ผมไปกับคุณภีม แต่ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนไหนเลยครับ”
“ฉันเข้าใจแล้ว” เธอเอ่ยเสียงเรียบ “คุณไปทำธุระเถอะ” จากนั้นก็เดินไปที่ห้องทำงานของท่านรองประธาน
วริศหันไปมองแผ่นหลังนั้น “คุณรู้อะไรมาหรือเปล่าครับ?”
เธอไม่ตอบ และจากไปโดยไม่แม้จะหันกลับมามอง
วริศถอนสายตากลับและถอนหายใจเบา ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มันจะเงียบได้กี่วันเชียว?
ญาณีเพิ่งถอยออกไปจากโลกแห่งเสน่หาของเขา และคนที่เยาว์วัยกว่าก็มาอีกแล้ว? แถมยังเป็นหรือสาวยุโรปอีก?
วริศก้าวเดินไปข้างหน้า เขายกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา กลับมาแล้วอธิบายด้วยตัวเองแล้วกัน! อย่างไรก็จะกลับมาเร็วๆ นี้อยู่แล้ว!