เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 562 นี่เป็นการคบชู้ใช่หรือเปล่า？
“ทำไมคุณถึงไม่รับ？”นภาลัยเอ่ยเสียงนิ่ง จากไม่กี่วินาทีที่เขาลังเล เธอก็เดาได้ว่าเป็นใคร
ภีมพลไม่กินปูนร้อนท้อง เขารับสายอย่างเปิดเผยและยังเปิดสปีกเกอร์โฟนด้วย
“คุณจะมาแคนาดาหรือไม่มา？ คุณเห็นคำพูดของฉันเป็นแค่ลมปากอย่างนั้นเหรอ？”เสียงดื้อรั้นเกเรราวกับนกจาบของเด็กสาวก็ดังเข้ามา “แค่ขอให้เจอคุณ ทานดินเนอร์ด้วยกันสักมื้อ ฉันก็จะเอาสมุดบันทึกให้คุณ！เป็นยังไง？ข้อตกลงนี้คงไม่มากไปใช่ไหม？”
ไม่รอให้ภีมพลปริปาก นภาลัยก็ยันร่างของเธอขึ้นครึ่งหนึ่ง แล้วกล่าวกับเธอ “ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันไม่ต้องการสมุดบันทึกนั้นแล้ว”
“……” อีกฝ่ายอึ้งไปครู่หนึ่งอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้นนภาลัยก็วางสายอย่างใจเย็น รังสีนางเอกบดขยี้อีกฝ่ายจนแหลก
เธอเงยหน้ามองภีมพล จากนั้นก็ห่มผ้าเอนกายนอนต่อ
ภีมพลวางโทรศัพท์ลง เอมิลี่ก็ไม่ได้โทรเข้ามาอีก เขาประคองกอดนภาลัยเอาไว้ แต่เธอกลับไม่ตอบสนองราวกับว่าเธอได้หลับไปแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ ภีมพลเองก็รู้สึกผิดอย่างมาก ทำให้เธอเจ็บปวดและกดดันอย่างโดยที่ไม่รู้ตัว
เธอเพิ่งรับตำแหน่งในกรุ๊ปได้ไม่นาน และตนเองก็ควรจะให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งที่สุดแก่เธอ
เช้าวันรุ่งขึ้น
ในตอนที่ภีมพลตื่นขึ้น เขาก็พบว่าในอ้อมแขนของเขาไร้เงาของนายหญิงน้อย ความง่วงงุนของเขาหมดไปในทันที เขาเลิกผ้าห่มออก
ขณะลงไปข้างล่าง ก็เจอเด็กๆ เข้าพอดี
“อรุณสวัสดิ์ครับ ป่าปี๊！”
“อรุณสวัสดิ์ลูก”
แชมป์ถอนลมหายใจพลางส่ายหัว “ดูเหมือนว่าครั้งนี้คุณแม่จะโกรธเอาเรื่องนะ！”
ขวัญข้าวเองก็กะพริบตาพลางมองเขา “ยังไม่รีบตามไปอีก？”
“แม่ของลูกไปแล้วเหรอ？”ภีมพลสะดุ้งอึ้ง
แชมป์เอ่ยตอบ “รถเพิ่งขับออกไป ตอนนี้ยังมีเวลาตามทัน”
ภีมพลรีบร้อนลงไปข้างล่าง เขาไม่ได้ทานข้าวเช้าเสียด้วยซ้ำ และรีบเดินไปที่ลานบ้าน เปิดประตูรถลัมโบร์กีนีและขับออกไปด้วยตัวคนเดียว！
เงาร่างนั้นวิ่งเร็วปานจรวด พ่อบ้านปวิธและป้าโสนไม่มีเวลาแม้แต่จะได้เอ่ยทักทายด้วยซ้ำ
“อาหารเช้าพร้อมหรือยัง？”
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ต้นเสียง ก็เห็นแชมป์และขวัญข้าวปรากฏตัวอยู่ตรงบันได
ขวัญข้าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหน่อมแน้ม “ไม่เป็นไร พวกเขาไม่ทาน เดี๋ยวเราทานเอง！”
ภายในรถลัมโบร์กีนีที่ห่างออกไป ภีมพลต่อสายหาวริศ “ฮัลโหล ช่วยฉันจัดงานแถลงข่าวหน่อยสิ มีบางเรื่องที่ฉันต้องชี้แจง”
“รับทราบครับ” วริศไม่เคยเห็นเขากระตือรือร้นขนาดนี้มาก่อน แต่ก่อนเขามักปล่อยให้ข่าวลือแพ้ภัยตัวเองไป
ความจริงแล้วภีมพลนอนหลับไม่สนิทเลยตลอดทั้งคืน ไม่รู้กี่ยามที่เขาข่มตา ผลสุดท้ายก็ผล็อยหลับไปในตอนเช้า
มิฉะนั้นหากเธอลุกขึ้นจากที่นอน ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้
ภีมพลจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว พลางลูบคาง ครั้งนี้เขาได้รับบทเรียนราคาแพงแล้ว
อยู่ข้างนอกผู้ชายต้องป้องกันตัวเอง คำพูดนี้สมเหตุสมผลมากจริงๆ ผู้หญิงนี่ ช่างเจ้าเล่ห์นัก！
ในขณะที่รถลัมโบร์กีนีใกล้จะมาหยุดตรงหน้าประตูทีเอ็ม กรุ๊ป นักข่าวหลายสิบคนที่มาถึงในตอนเช้าตรู่ก็ล้อมรอบ！
สีหน้าของภีมพลเคร่งขรึม เขารีบเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว และรถก็ถูกคนล้อมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
เขาทำได้เพียงค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้า……
“คุณภีม！คุณช่วยอธิบายข่าวล่าสุดสักหน่อยได้ไหมคะ？ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ？”
“คุณภีม คุณไม่มีอะไรจะชี้แจงเหรอคะ？นี่เป็นการคบชู้หรือเปล่า？”
ด้วยเวลารวดเร็ว บอดี้การ์ดของบริษัทก็ออกปฏิบัติการ จาก10 กว่าคน เป็น20กว่าคน และ30กว่าคน……บอดี้การ์ดจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รีบออกมากั้นนักข่าวให้หลบออกไป เพื่อให้รถลัมโบร์กีนีสามารถขับเข้าไปในบริษัทได้อย่างง่ายดาย
ใบหน้าเย็นชาและภาคภูมิของภีมพลเปื้อนไปด้วยความอันตราย หลังจากลงจากรถ เขาก็เข้าไปในห้องโถงของบริษัทแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน
ในขณะนี้เอง นภาลัยนั่งอยู่ในห้องทำงานท่านรองประธาน ซึ่งเธอเองก็เพิ่งมาได้ไม่นาน
ขณะที่ภีมพลเดินผ่านประตู เขาไม่หยุดและตรงไปที่ห้องทำงานท่านประธาน
“คุณภีม นัดหมายแถลงข่าวเวลาเก้าโมงครับ” วริศบอกกับเขา “ผมจะไปกับคุณด้วยครับ”
ภีมพลยืนนิ่งอยู่หน้าหน้าต่างกระจกใบสูง เขามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาอ่านไม่ออก ในใจรู้สึกแย่ไปหมด！ยัยเอมิลี่ตัวร้าย！เขาจะเอาผิดเธอให้มีการลงโทษทางกฎหมายให้ได้！
