เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 564 ง้อให้ภรรยามีความสุข
“ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน” นภาลัยเอ่ยเตือนเสียงเบา เงยสายตาขึ้นมองพลางกล่าว “เชิญคุณภีมกลับไปห้องทำงานของตัวเองด้วยค่ะ”
สายตาของทั้งสองสบประสานกัน เมื่อเห็นสีหน้าท่าทีเย็นชาของเธอ ภีมพลก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไรดี
ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ แล้วหันหลังจากไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง
แต่เขากลับพบว่าเบญญากำลังจ้องมองมาที่เขาตาไม่กะพริบ และก็จ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่ภีมพลเดินผ่านข้างๆ กายเธอ เขาเดินช้าลงและหรี่ตามอง เคาะโต๊ะของเธอโดยไม่ได้กล่าวอะไร ซึ่งทำให้เบญญาตัวสั่นด้วยความตกใจ เมื่อเธอเงยสายตาขึ้นมองเขาก็จากไปแล้ว
เหมือนราวกับว่ากำลังเตือนเธอว่าอย่ารู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่นให้มากนัก!
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย?
เบญญารู้สึกว่าเธอถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ และไม่เข้าใจความหมายของการเคาะโต๊ะของภีมพลด้วย
ความจริงแล้วหลังจากที่ภีมพลได้อธิบายกับสื่อเสร็จเรียบร้อย นภาลัยก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอไม่โกรธเขาอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกอึดอัดในใจ ซึ่งไม่สามารถปล่อยมันไปได้ชั่วขณะหนึ่ง
เธอรักเขา จึงรู้สึกหึงหวง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป นภาลัยกล่าวกับเบญญา “เบญ เอาอันนี้ไปส่งที่ห้องถัดไป”
“ได้ค่ะ” เธอลุกขึ้น หยิบเอกสารแล้วจึงออกไป
เบญญาไม่ได้เคาะประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานท่านประธาน เธอวางเอกสารลงบนโต๊ะของวริศ จากนั้นก็เตรียมตัวจะจากไป
“หยุดก่อน”
ฝีเท้าของเด็กสาวชะงักลง ใจของเธอหดตัวลง
รู้ได้อย่างไรว่าเธอมา???
เธอสงบสติอารมณ์ลง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อสบกับสายตาที่เย็นชาและจริงจังของภีมพล เธอรีบกระแอมคอ ใบหน้าเจือรอยยิ้ม “คือว่า……คุณภีมเรียกฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?” ดังคำว่ามือที่ยื่นมาย่อมไม่ตบผู้ที่ส่งยิ้มให้
“เธอมานี่สิ” ภีมพลจ้องมองเธอ ริมฝีปากบางพลางเอ่ยเสียงเบา
เบญญาเก็บสีหน้า และก้าวเดินไปหาเขา “มีเรื่องอะไรเหรอคะ?!” จู่ๆ เสียงก็เปล่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน เธอไม่กลัวรังสีเย็นชาของเขาอีกต่อไป
ภีมพลขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอไม่รู้จักโน้มน้าวเลยหรือไง?ฉันเห็นว่าเธอเอาแต่รู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น อยากจะมีปัญหาเหรอ?เป็นเพื่อนสนิทภาษาอะไร?”
“ฉันเปล่านะคะ?”เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกกล่าวหาผิดๆ จึงรีบอธิบาย “คุณไม่เห็นท่าทีของนภาเหรอ ห้ามพูดเรื่องส่วนตัวในเวลาทำงาน ฉันพูดอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ โอเคไหม?ไม่งั้นเธอจะหักเงินเดือนฉัน”
ภีมพลเข้าใจแล้ว ที่แท้นายหญิงน้อยก็ปฏิบัติอย่างนี้กับทุกคนสินะ
เบญญาใช้สายตาสำรวจเขา และเอ่ยถามเสียงเบา “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมคะ?ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปล่ะ?”
ภีมพลไม่ได้กล่าวอะไร เบญญาก็หันหลังจากไปแล้ว
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ภีมพลก็กล่าวกับวริศ “ช่วยฉันสั่งดอกลิลลี่ช่อหนึ่งให้หน่อยสิ” นายหญิงน้อยชอบ
“ครับ” วริศคิดกับตัวเองว่าหลังจากคุณภีมผ่านครั้งนี้ไปแล้ว งูกัดครั้งเดียว กลัวเชือกไปสิบปี หลังจากนี้คงได้รักษาระยะห่างจากเพศตรงข้ามทุกคนแน่นอน
ใกล้เวลาอาหารกลางวัน
ดอกลิลลี่ก็ซื้อเรียบร้อยแล้ว
ภีมพลหอบดอกลิลลี่ที่เพิ่งแย้มบานเดินเข้าไปในห้องทำงานท่านรองประธาน “นายหญิงน้อย ไปทานอาหารด้วยกันเถอะ?”
“วันนี้ฉันนัดกับเบญไว้แล้ว” นภาลัยจัดโต๊ะ พลางกล่าวกับเขาอย่างสงบเย็น “มีเรื่องงานต้องคุยกันนิดหน่อยน่ะค่ะ”
ทันใดนั้นเอง เบญญาเองก็ยืนขึ้นเตรียมตัวจะออกไป “พาเขาได้ด้วยก็ได้ ฉันไม่รังเกียจ”
ภีมพลวางดอกลิลลี่ไว้บนโต๊ะของเธอแล้วเอ่ยว่า “ให้ผมไปด้วย พวกคุณก็คุยธุระของพวกคุณไป”
เบญญาหยิบเสื้อโค้ตมาใส่ เอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋าแล้วเดินตามนภาลัยออกไป
ภีมพลเดินตามเธอไปด้วย และทั้งสามคนก็เข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน
เขากดลิฟต์แล้วเอาแขนโอบไหล่เธอเอาไว้
นภาลัยไม่ได้ดิ้นรนสะบัดออก สีหน้าของเธอสงบนิ่งมาก แต่ว่าอารมณ์ของเธอนั้น……ปกติเป็นอย่างมาก!
เพราะภาพเหล่านั้นมักจะแวบเข้ามาในหัวของเธออยู่เสมอ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหึงหวงเมื่อมองภาพเหล่านั้น
“เอาล่ะๆ นายหญิงน้อย คุณก็ยกโทษให้เขาเถอะ!”ในที่สุดเบญญาก็กล่าวออกมาอย่างยุติธรรม “นี่มันก็ไม่ใช้การนอกใจแบบจริงๆ จังๆ ด้วย ครั้งต่อไปอย่าหาทำอีกล่ะ!”
ภีมพลหันมามองเธออย่างพูดไม่ออก อยากจะทุบหัวเธอให้แหลกจริงๆ!