เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 587 ความรู้สึกเหมือนขึ้นเรือโจรไปแล้ว
หน้าอกนุชวราหดตัวเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ผิดปกติ
สีหน้าญาณียิ้มผ่อนคลาย “เธอประหม่าอะไรล่ะ? เขาเป็นผู้ชายที่ฉันเคยรักสุดหัวใจโอเคไหม?”
ยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก เธอถอนหายใจเบาๆ “ตอนนี้ฉันก็เจอไม่ได้ นอกจากถามเธอเกี่ยวกับเขาในช่วงนี้ ก็ไม่รู้จะไปถามใครได้แล้ว”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ นุชวราก็สงสารเธอมาก
จึงผ่อนปรนความระมัดระวังโดยธรรมชาติ รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป
ญาณีสังเกตสีหน้าเธอ “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เธอทำอะไรเกิดขอบเขตความสามารถหรอก ฉันแค่อยากรู้ว่าช่วงนี้ภีมพลเขาเป็นยังไงบ้าง นี่มันตอบไม่ยากใช่เปล่า?”
“พี่ญาณี” นุชวรารู้สึกไม่สบายใจข้างใน รีบตอบว่า “ตั้งแต่ฉันมาทำงานก็ไม่เจอคุณภีมเลยค่ะ”
“หมายความว่าไง?” ญาณีตะลึงเล็กน้อย กำแก้วไว้แน่น “เขาไม่มาบริษัทเหรอ?”
“ไม่ได้มาค่ะ” นุชวราส่ายหน้า “เบญญานั่งทำงานที่โต๊ะเขาด้วยซ้ำ ฉันเลยเดาว่าคุณภีมไปทำงานนอกสถานที่หรือเปล่า? หรือไม่ก็……เขาทำงานอยู่ที่บ้าน? สรุปคือเขากับคุณนภาลัยไม่ได้มา”
ได้ยินคำพูดนี้ ญาณีก็ไม่เข้าใจเหลือเกิน
ทำไมเป็นแบบนี้?
ดื่มกาแฟในแก้วหมดแล้ว นุชวราก็ถามขึ้น “พี่ญาณี มีเรื่องอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มี ฉันต้องกลับบริษัทแล้วค่ะ”
“โอเค” ญาณีได้สติกลับมาอย่างตะลึง มุมปากเปื้อนยิ้มเล็กน้อยอีกครั้ง
จากนั้นนุชวราก็ยืนขึ้นเดินจากไป ญาณีก็ใจเหม่อลอย
ระหว่างทางกลับบริษัท นุชวรายิ่งคิดก็ยิ่งสับสนวุ่นวายใจ รู้สึกเหมือนขึ้นเรือโจรแล้วลงไม่ได้……เธอไม่กล้าคิดลึกจริงๆ
ยังไงพี่ญาณีก็เป็นคนในR-Alan กรุ๊ป
ข่าวออกมาแล้ว คอลเลคชั่นรักแท้ของR-Alan กรุ๊ป เหมือนแผนการที่ทีเอ็ม กรุ๊ปเคยสร้างก่อนหน้านี้เป๊ะเลย
เรื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ช่วยวริศกับคุณภีมจะไม่รู้ไหม?
เกี่ยวกับพี่ญาณี แต่เมื่อครู่นี้นุชวราก็ไม่กล้าถามเธอว่าทำไมถึงทำแบบนี้
วันนี้ตอนบ่าย
เบญญาปิดคอมพิวเตอร์แล้วหยิบกระเป๋าเดินไปที่ห้องประธาน
วริศยังจัดการเอกสารฉบับหนึ่งอยู่
“นายเลิกงานเมื่อไร?” เดินมาหยุดฝีเท้าตรงหน้าเขา
วริศตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ใกล้แล้ว”
เธอนั่งม้านั่งตัวยาวข้างๆ ถือโอกาสวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะทำงานเขา สังเกตใบหน้าเทพเจ้าของเขาอย่างกำเริบเสิบสาน แววตาเหมือนกำลังศึกษาพิจารณา
“เธอมองอะไร?” รู้สึกได้ถึงแสงที่หางตาเธอ วริศจึงถามขึ้นเรียบๆ
หญิงสาวยิ้ม “จริงๆ แล้วถ้านายเดบิวต์ล่ะก็ ใบหน้าแบบนี้เหลือเฟือเลย! จะต้องได้รับการยกย่องมากแน่ๆ”
วริศเจียดหาเวลาหันไปเหลือบมองเธอ “ดูละครจนติดแล้วสิ?”
“ฉันบอกนายเลยนะ ถ้าละครเรื่องนี้ไวศิษฎ์ไม่ได้แสดง นายก็แสดงผลลัพธ์แบบนี้ออกมาได้เหมือนกัน” เธอพูดอย่างมั่นใจ “ฉันเคยอ่านนิยายดั้งเดิม นายให้ความรู้สึกเป็นพระเอกเลย”
สำหรับพวกเรื่องละคร วริศไม่สนใจจริงๆ
เขาทำงานอย่างตั้งใจ ไม่พูดอีก
ส่วนเธอสวมหูฟังแล้ว เริ่มติดตามละคร……
เมื่อวริศทำงานเสร็จ ทั้งคู่ก็ลงลิฟต์ไปชั้นล่างพร้อมกัน
ภายในลิฟต์ วริศก็เหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์เธอ ไวศิษฎ์ถือไม้ด้วยสีหน้าอันธพาล กำลังชกต่อยเพื่อเขมินทราผู้เป็นนางเอก
เห็นท่าทางเบญญาทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม วริศก็ละสายตากลับมาเงียบๆ ไร้เดียงสา!
สองมือเขาล้วงกระเป๋า ด้วยออร่าเย็นยะเยือก
ติ๊ง ลิฟต์จอด
เบญเดินออกไปข้างนอก วริศเดินตามหลังเธอ
เมื่อเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ แดนออกมาจากที่ซ่อนได้ทันเวลา “นางฟ้าเบญ!”
การเรียกนี้ทำให้เธอตกใจสะดุ้งโหยง เกือบชนอ้อมอกเขา! เบญถอดหูฟังแล้วถอยหลังไม่กี่ก้าว “นายป่วยหรือไง?!”
“เธอมียาไหม?” แดนยิ้มระรื่น หอมดอกกุหลาบเดินไปข้างหน้า “ฉันรักเธอ ฉันจริงจังนะ! เป็นแฟนฉันเถอะ!”