เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 632 เกี่ยวข้องกับคุณไหม?
ไม่นานหลังจากนั้นญาณีก็ดึงสติกลับมา เป็นรองประธานมาตั้งหลายปี เหตุการณ์ไหนที่ยังไม่เคยเจอบ้าง?
เธอรู้ว่าในความไม่พอใจที่เหล่านักออกแบบมีต่อเธอ มันมีอคติเกี่ยวกับข่าวลือของเธอและคุณชัยเดชปนอยู่ในนั้น เพราะถึงยังไงข่าวมันก็เขียนออกมาได้ไม่น่าอ่านเท่าไหร่ แถมเรื่องที่ชัยเดชหย่าก็เป็นเรื่องจริงอีกด้วย
วัยรุ่นสมัยนี้มักจะเห็นดีเห็นงามกับบุคคลที่สามที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเสมอ
“บางเรื่องถึงจะไม่จำเป็น แต่ฉันก็ยังอยากจะอธิบาย” ญาณีเอ่ยพูด “ฉันกับคุณชัยเดชไม่ได้เป็นอะไรกัน พวกคุณอย่าเข้าใจผิด รออีกหน่อยทุกคนก็จะเห็นและตัดสินได้เอง”
“ตอนนี้เราจะไม่พูดเรื่องข่าวลือนั้นกับคุณ” มีคนเริ่มขมวดคิ้ว พร้อมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลนขฌดท “ว่าก็ว่าเถอะ เรื่องของพวกคุณไม่ได้มีผลอะไรกับเงินเดือนของพวกฉันหรอก”
“ใช่” อีกคนรับช่วงต่อ “เรื่องมาที่นี่คุณหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท แล้วทำไมคุณไม่พาผู้บริหารพวกนั้นมาที่นี่ด้วยล่ะ?”
“ใช่ๆ ก่อนที่จะมาควรถามความคิดเห็นของพวกฉันก่อน”
“ขอโทษ” ญาณียอมโอนอ่อน เพราะยังต้องการความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของทุกคนงานมันถึงจะเดินได้ “ขอโทษจริงๆที่ฉันไม่คำนึงถึงความรู้สึกของทุกคน ทั้งยังไม่ถามความคิดเห็นของพวกคุณก่อนด้วย”
“คุณญาณีญด เรื่องอะไรแบบนี้มันแสดงถึงการเคารพกันอย่างหนึ่งนะ” มีคนเอ่ยพูด แต่ว่าน้ำเสียงอ่อนลงมาก “ฝั่งนักออกแบบของทีเอ็ม กรุ๊ป พวกเขาประชุมกันจนได้ข้อสรุปที่ไปในทิศทางเดียวกันถึงได้ออกเดินทาง”
“ฉันขอโทษ” ญาณีโค้งขอโทษทุกคน เธอมีท่าทีสำนึกผิด “แต่ในเมื่อมาถึงนี่แล้ว ฉันก็หวังว่าพวกคุณจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ฉันเชื่อในสปิริตของพวกคุณ”
“เอาล่ะๆ ไปขนของได้แล้ว” นักออกแบบผู้ชายกระแนะกระแหน “มัวแต่พูดอะไรไร้สาระอยู่ได้”
จากนั้นทุกคนก็ขนกระเป๋าเดินทางเข้าไปในโฮมสเตย์อย่างยอมรับชะตากรรม
สภาพแวดล้อมของโฮมสเตย์ธรรมดามาก มันก็คือบ้านของชาวบ้านที่ถูกดัดแปลงมาเป็นโฮมสเตย์นั่นแหละ
แม้ว่าจะล้อมรอบไปด้วยภูเขาและลำธาร แต่ก็ไม่ได้น่าอยู่เหมือนบังกะโล ที่สร้างมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
ที่นี่อยู่ห่างจากบังกะโลประมาณสามกิโลเมตร สามารถเดินเท้าไปถึงได้
ที่ญาณีเลือกที่นี่ มันก็ดูจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยจริงๆนั่นแหละ
เธออยากให้ภีมพลไม่มีความสุขญท อยากให้สิ่งร้ายๆติดตัวเขาไปตลอด อยากช่วยR-Alan กรุ๊ป เอาชนะทีเอ็ม กรุ๊ป อยากทำให้ภีมพลเสียใจ!
แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่า ตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในR-Alan กรุ๊ป ไม่ต่างอะไรกับการเดินลงเหวลึก
อีกอย่างภีมพลก็ไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะทำอะไรบ้าง
กว่าญาณีจะได้เห็นข่าวการตายของนวิยาก็เป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว
เธอเห็น นักออกแบบคนอื่นๆก็เห็นเหมือนกัน ทุกคนต่างตกใจเป็นอย่างมาก
มีคนเอ่ยพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ตายแล้ว?”
“ก็แค่หย่า ทำไมต้องฆ่าตัวตายด้วย?” บางคนพูดขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ “ขาดผู้ชายแค่คนเดียวถึงขั้นอยู่ไม่ได้เลยเหรอ? ผู้ชายบนโลกนี้มีตั้งเยอะแยะ!”
“ผู้หญิงก็โง่เกิน เฮ้อ!”
“ความรักนี่มันยังไงกัน ถึงทำให้คนเราจะเป็นจะตายได้ขนาดนี้” มีคนทอดถอนหายใจออกมา “คนคนหนึ่งสมควรต้องมาตายแบบนี้เหรอ? น่าเศร้าที่ในความเป็นจริงฝ่ายหญิงยังรู้สึกแต่ผู้ชายกลับหมดใจ”
“ผู้ชายใจไม้ไส้ระกำบนโลกใบนี้ช่างมีเยอะจริงๆ”
ญาณีฟังเสียงของผู้คนรอบข้าง ตาก็จดจ้องที่ภาพศพที่ตำรวจงมขึ้นมาจากน้ำ ภายในอกเริ่มพวยพุ่งไปด้วยความรู้สึกเหมือนจะขาดใจ
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินกลับห้องโดยไม่บอกใคร
อีกด้าน ณ ห้องทำงานท่านประธานR-Alan กรุ๊ป
ชัยเดชยืนเอามือไขว้หลังอยู่ตรงหน้าต่าง ดวงตาที่มองออกไปข้างนอกคมกริบ เมื่อสักครู่เขาเพิ่งเห็นข่าว
ขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เขาดึงสติกลับมาแล้วกวาดสายตามองเบอร์โทรเข้าพร้อมกดรับสาย “ว่าไง คุณญาณี” ความคมกริบในดวงตาหดหายไป แววตาพลันทอประกายความอ่อนโยน เขาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยสรรพนามใหม่อย่างจงใจ
“การตายของภรรยาคุณใช่อุบัติเหตุไหม?” ญาณีมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ
ชัยเดชยิ้มออกมา เอ่ยพูดอย่างวกวนว่า “ตอนนี้ผมโสดนะ มีภรรยาที่ไหนกัน”
“ภรรยาเก่า” ญาณีเปลี่ยนคำพูด จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “การตายของเธอเกี่ยวข้องกับคุณไหม?”