เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 634 หึงเหรอ?
มันทำให้วริศนึกถึงใบหน้าของไวศิษฏ์ขึ้นมา
เขาก้าวถอยหลัง ปิดประตูลงเงียบๆ แล้วกลับมานอนลงบนเตียง จากนั้นก็ตะโกนไปทางประตูว่า “ผมหิวน้ำ!”
หญิงสาวใส่หูฟังนั่งขัดสมาธิดูซีรีส์อยู่บนโซฟา จากนั้นก็ได้ยินเสียงเขาแว่วๆ เธอจึงถอดหูฟังออก แล้วหันไปมองทางประตู “คุณได้เรียกฉันหรือเปล่า?”
“ก็ใช่ไง?” วริศเอ่ยขึ้น “ถ้าไม่ใช่ผมเรียกแล้วจะเป็นใคร?”
เบญญาลุกขึ้นยืน “มีอะไรหรือเปล่า?”
“ผมคอแห้ง อยากดื่มน้ำ!”
“ได้ๆ รอแป็บหนึ่ง” เธอวางโทรศัพท์ลง แล้วรีบลุกขึ้นไปเอาน้ำให้เขา
จากนั้นก็เปิดประตูเดินถือแก้วน้ำเข้ามา พร้อมกับเปิดไฟ “อ่ะ นี่น้ำ”
วริศดันตัวลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือไปรับแก้วน้ำจากมือเธอมาถือไว้ แล้วค่อยๆยกขึ้นดื่ม…..ในใจก็คิดว่า อีกเดี๋ยวยัยนี้ก็จะไปดูซีรีส์ต่อสินะ?
“ดึกขนาดนี้แล้วทำไมคุณยังไม่นอน?” เมื่อดื่มน้ำเสร็จวริศก็เงยหน้ามองเธอ “พรุ่งนี้คุณยังต้องตื่นเช้ามาทำอาหารให้ผมอีกนะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันตื่นทันอยู่แล้ว” หญิงสาวเอ่ยพูดยิ้มๆ “มีตอนใหม่ ฉันไล่ดูอีกแป็บก็จบแล้ว”
แววตาของวริศแฝงไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแสดงอาการออกไปยังไง
เบญญากะพริบตาปริบๆ “คุณอย่ามองฉันอย่างนี้สิ ฉัน….ฉันรู้ว่าคุณกำลังบาดเจ็บ แต่…ฉันดูหรือไม่ดูคุณก็บาดเจ็บไปแล้วนี่นา” เธอรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของเขา
จากนั้นเธอก็ยกมุมปากขึ้น “แล้วก็ ดินแดนถูกจับคุมขังแล้ว ถือว่าฉันเอาคืนแทนคุณแล้ว เท่ากับว่าหายกันแล้วหรือเปล่า?”
“หยุดดูได้แล้ว” วริศเอ่ยพูดกับเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “จนกว่าแผลของผมจะหายดี”
“…….” เธอหมดคำจะโต้แย้ง ตอนแรกว่าจะถามว่าทำไม สองเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกัน?
แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าเขาคือผู้บาดเจ็บ แถมยังบาดเจ็บเพราะเธออีก เบญญาจึงยอมโอนอ่อนแต่โดยดี “ก็ได้”
จากนั้นเธอก็หมุนตัวเดินออกไป วริศฮึดฮัด นี่ไม่คิดจะบอกฝันดีกันเลยเหรอ?
ในตอนที่เขากำลังจะเอนตัวนอนลง ก็เห็นเธอเดินถือโทรศัพท์เข้ามา “เอาไป!” เธอพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียงอย่างรู้งาน “ฝันดี”
“เช่นกัน” วริศมองเธอเดินออกไปจากห้อง
ไม่รู้ว่าทำไม เขาก็แค่ไม่อยากให้เธอหลงไวศิษฏ์มากเกินไป ภาพที่เธอยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้มให้หน้าจอโทรศัพท์มันบาดตาบาดใจเขาเป็นอย่างมาก
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น แสงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า
ญาณีเดินนำเหล่านักออกแบบไปที่น้ำตกลอซีรา โดยเดินเรียบไปตามโขดหิน จากนั้นก็เจอสะพานไม้ ข้างหนึ่งเป็นภูเขา อีกข้างเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก ซึ่งมันใสจนสามารถมองเห็นใต้น้ำ
ยังไม่ทันได้เห็นน้ำตก ก็ได้ยินเสียงมาแต่ไกล พอจะจินตนาการออกว่ามันจะสวยมากขนาดไหน
อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่มานาน เพิ่งมีโอกาสได้มาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก
เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางราวสองชั่วโมง แต่ยังดีที่ผ่านการพักผ่อนมาแล้วทั้งคืน ทุกคนจึงพอมีแรงและปรับอารมณ์ได้
เมื่อได้สูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอด และเดินเล่นไปตามภูเขาและลำธาร ความหงุดหงิดในใจก็ค่อยๆจางหายไป
โดยเฉพาะญาณี พอทุกคนอารมณ์ดีเธอก็ไม่ต้องมารู้สึกอึดอัดเพราะข่าวลือนั้นอีก
เมื่อมาถึงน้ำตก พวกเขาก็เดินข้ามก้อนหินก้อนใหญ่สูงชัน พร้อมจับราวเหล็กข้างๆไว้แน่น ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่บนจุดสูงสุด
หินรูปร่างมหึมาที่เกิดจากธรรมชาติ กลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆจากภูเขา ทว่าเดินมาได้ไม่ทันไรก็เห็นคนกำลังเล่นน้ำอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
เมื่อญาณีเพ่งมอง ก็พบว่าเป็นทีมนักออกแบบของทีเอ็ม กรุ๊ป อีกอย่างนภาลัยก็อยู่ตรงนั้นด้วย
“คุณนภา พวกญาณีมาล่ะ” มีคนเข้ามากระซิบนภาลัย
นภาลัยหันไป พร้อมกวาดสายตาเฉยชามองไปที่คนกลุ่มนั้น เมื่อสายตาสอดประสานกับญาณี อีกฝ่ายก็กระตุกยิ้ม พร้อมกับก้าวเดินมาทางเธอ
ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหน ความโกรธเกลียดที่ญาณีมีต่อเธอก็ไม่เคยลดหายไปตามกาลเวลาเลย
นภาลัยนิ่งเฉย พร้อมทอดมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณนายนภา” ญาณีเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน รอยยิ้มนั้นเคลือบแฝงไปด้วยความยั่วยุ