เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 654 หึง
“ขอบคุณครับ” วริศยื่นมือไปรับ “งั้นไม่รบกวนคุณแล้ว กลับไปฉันจะเปลี่ยนยาให้เธอตามกำหนด” ขณะที่พูด วริศก็ยัดขวดยาใส่มือหญิงสาว
อุ้มเธอขึ้นมาในท่าแนวนอน แล้วเดินตรงออกไป
กรินทร์มองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจ “ไม่สังเกตดูอีกคืนเหรอ? ที่นี่มีเตียงนะ! พวกเธอพักผ่อนกันได้!”
“ไม่ต้องหรอก คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าไม่เป็นไร?” วริศตอบโดยไม่หยุดฝีเท้า “ฉันจะเปลี่ยนยาให้เธอตามกำหนด! ไม่ต้องห่วง!”
“ขอบคุณนะคะ!” เบญญาตอบสนอง หันไปยิ้มเล็กน้อยกับเขา “คุณหมอกรินทร์ขอบคุณนะคะ!”
แต่วริศกลับเร่งฝีเท้า
“ไม่เป็นไรครับ” กรินทร์ถอดถุงมือ สีหน้าเขายังคงอ่อนโยน
ในลานบ้าน บอดี้การ์ดเปิดประตูรถ วริศอุ้มเบญญาขึ้นรถ ตัวเองก็เอียงตัวเข้าไปนั่ง
ขณะที่รถขับออกไป วริศถึงได้รู้สึกปลอดภัย ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้าอยู่ต่อไปเธออาจจะไปขอ line กรินทร์ก็ได้ ยังไงเสน่ห์ของกรินทร์ก็อยู่ที่นี่ แข็งแกร่งกว่าไวศิษฎ์ที่มีดีแค่ความหล่อเยอะเลย
และนิสัยบ้าผู้ชายของเบญญา วริศก็เข้าใจมันอย่างลึกซึ้งแล้ว
โดนงูกัดแล้วยังมีอารมณ์มองหนุ่มหล่อ วริศก็งงมากจริงๆ
รถขับไปที่หมู่บ้านฟ้าสาง
ไฟในรถเป็นสีเหลืองอบอุ่น เบญญานั่งข้างกายเขา ขาที่ได้รับบาดเจ็บวางอยู่บนตักเขา สายตาฉงนมองใบหน้าหล่อเหลานั้น “นายเป็นอะไร? ไม่มีความสุขเหรอ?”
“เปล่าอ่ะ” น้ำเสียงเขาสงบนิ่ง
“แต่ทำไมฉันรู้สึกว่านายไม่มีความสุขล่ะ?” เธอถามอย่างเป็นห่วง “งานเกิดปัญหาเหรอ?”
วริศยกมุมปาก “เปล่า”
“เปล่าก็ดี” เธอพยักหน้าอย่างวางใจ หวนนึกถึงท่าทางกรินทร์ตอนช่วยตนพันแผลด้วยใจจดจ่อแบบนี้ การเคลื่อนไหวก็อ่อนโยนมาก
มุมปากหญิงสาวเปื้อนยิ้มอ่อนโยนอย่างอดไม่ได้ “ที่แท้เขาก็หล่อขนาดนี้ ทั้งหน้าตาดีมีความสามารถ ยาที่รักษามะเร็งก็ศึกษาวิจัยโดยเขา สุดยอดเกินไปแล้ว”
วริศฟังอยู่ ไม่ได้พูดออกมา เป็นเทพที่สุดยอด และผู้คนเคารพเลื่อมใสนั่นแหละ
แต่เขาไม่อยากให้เบญญาไปเลื่อมใส
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ก็ได้ยินเธอถอนหายใจ “อุ๊ยตาย เมื่อกี้เดินเร็วไปหน่อย ยังไม่ทันได้ขอ line เลย! ความผิดนายนั่นแหละ! ที่รีบเดินขนาดนี้!”
วริศเอนหลังบนเก้าอี้ เขาเริ่มหลับตาพักผ่อนร่างกาย
สายตาพิลึกของเบญญามองหน้าเขา นี่เขาเป็นอะไรเนี่ย? ปีนน้ำตกจนเหนื่อยหรือไง?
เธอโดนงูกัด เขาเครียดเป็นพิเศษ
ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้ว เขาไม่ควรดีใจเหรอ?
ก็ได้ เห็นแก่ที่เขามาหาหมอเป็นเพื่อนเธอ เธอจะปิดปากอย่างเชื่อฟัง ให้เขานอนหลับไปก่อนแล้วกัน
ประมาณสิบนาทีต่อมา
ไมบัคสีขาวขับเข้าไปในหมู่บ้านฟ้าสาง จอดในลานจอดชั้นใต้ดิน บอดี้การ์ดลงจากรถมาเปิดประตูรถ “ผู้ช่วยวริศ ถึงแล้วครับ”
วริศลืมตา เขาลงจากรถก่อน “ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ งั้นผมไปก่อนนะ”
“อืม”
จากนั้นวริศก็ยื่นมือไปให้หญิงสาวในรถ “นั่งออกมาหน่อย ฉันจะอุ้มเธอขึ้นตึก” เสียงเขามีความอ่อนโยนน้อยลง
เธอลังเล “ทำแบบนี้มีคนเห็นเข้ามันจะไม่ดีไหม?”
“อึดอัดอะไร?” วริศถามเสียงเรียบ “ไม่ใช่ว่าวันนี้ไม่เคยอุ้มซะหน่อย คุณหมอกรินทร์บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าห้ามลงจากเตียง ต้องพักผ่อนร่างกาย เธอยังเดินได้เหรอ?”
ก็ได้ เบญญาไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เพราะแม่จะกลับมาแล้ว เธอจึงต้องรีบรักษาแผลให้หายดี
จึงยื่นสองมือออกไปหาเขา
วริศโน้มเอวลงไปอุ้มเธอออกมา สองมือเธอโอบคอเขา เมื่อสองใบหน้าใกล้ชิดกันมาก เธอแทบกลั้นลมหายใจ ดวงตาดุจเพชรนิลตะลึงพรึงเพริด ไม่ค่อยกล้ามองเขา