เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 709 เห็นความผิดปกติของนุชวรา
ญาณีตกใจ คำพูดของเขาแทงใจเธอ
เธอเหลือบมองเขา ชัยเดชยิ้มอย่างประจบสอพลอ ตั้งหน้าตั้งตารอให้เธอรับไวน์แก้ว จะได้ไม่เสียแรงที่คืนนี้เขาจ่ายไปเป็นล้าน
เพราะชอบวอดก้า และได้รับอิทธิพลจากภีมพล
ญาณีมองดูของเหลวสีอ่อนนี้อยู่ตรงหน้า และนึกถึงผู้ชายที่ราวกับเทพบุตรของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
สูดอากาศในเมืองเดียวกันกับเขา แต่ราวกับอยู่ห่างจากเขาแสนแปดพันไมล์
“ดื่มเถอะ” ชัยเดชพูด “ผมรับรองว่าคุณต้องชอบ ผมเชื่อในรสนิยมของคุณ”
ญาณีเป็นคนมีรสนิยมสูง เพราะเธอมีเงิน
รับแก้วไวน์มา เธอรู้สึกเสียใจ ครั้งก่อนที่ดื่มวอดก้าเธอก็อยู่กับภีมพล พวกเขาสองคนคุยกับลูกค้าด้วยกันสำเร็จ จึงดื่มฉลองด้วยกัน
ตอนนั้นมีแค่พวกเขาสองคน แต่ภีมพลมีธุระจึงขอตัวกลับไปก่อน
แสงพระจันทร์ในคืนนั้นช่างงดงาม ลมในคืนนั้นช่างอ่อนโยน
นั่นคืออดีตที่เธอไม่มีวันลืม และไม่มีวันกลับไปได้
หน้าประตูรอยัล NO.1 มีบอดี้การ์ดคุ้มกันอย่างแน่นหนา บอดี้การ์ดที่รูปร่างสูงใหญ่ยืนเรียงแถว
ลัมโบร์กินีรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นแล่นเข้ามาหยุดหน้าประตู มีพนักงานสองคนรีบเดินเข้ามาเปิดประตูรถ “สวัสดีครับประธานภีม” จากนั้นก็ทำความเคารพ
ภีมพลก้าวขายาวเดินลงมาจากรถ เสื้อเชิ้ตสีดำทำให้รูปร่างของเขาดูสมบูรณ์แบบ ภายใต้แสงยามค่ำคืน ท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน เขาทำให้ผู้คนรู้สึกเย็นยะเยือก
เดินเข้าไปใกล้ๆ บอดี้การ์ดที่ยืนเรียงแถวกันอยู่หน้าประตูก็ก้มตัวทำความเคารพ “สวัสดีครับประธานภีม!”
ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว สายลมที่เย็นยะเยือกพัดเข้ามา ภีมพลเดินเข้าไปในรอยัล NO.1ที่หรูหรา
“ประธานภีมเชิญทางนี้ครับ”
มีคนต้อนรับเขา ทักทายเขา และนำทางให้เขาตลอดทาง
อาคารทีเอ็ม กรุ๊ป
นุชวราและนภาลับขึ้นลิฟต์ด้วยกัน พวกเธอสองคนเลิกงานแล้ว
หลังจากทักทายกันเสร็จ นุชวรารู้สึกอึดอัดที่ยืนกับเธอ ที่จริงแล้วความอึดอัดนี้มาจากความไม่มั่นใจในตัวเองของเธอ
และนภาลัยก็เป็นคนถ่อมตัวและเข้ากับคนง่าย “แม่ของเธอหายดีรึยัง” เธอทำลายความเงียบในฐานะเพื่อน
นุชวราได้สติกลับมา “ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ ขอบคุณคุณนภาที่เป็นห่วงนะคะ”
พวกเธอสองคนสบตากัน นภาลัยถึงสังเกตเห็นว่าเธอใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม เธออดไม่ได้ที่จะมอง กระเป๋าที่นุชวราสะพายอยู่ราคาเป็นแสน นภาลัยแอบตกใจ
ทำไมจู่ๆเธอถึงมีเงินขนาดนี้
แต่นภาลัยไม่ได้ถาม เพราะเธอไม่มีเหตุผลที่จะถาม
มีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียว คือนุชวรามีเสี่ยเลี้ยง
นภาลัยคิดคำอธิบายอื่นไม่ออกจริงๆ ที่จริงแล้ว ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชีวิตของตัวเอง
มันเป็นเรื่องปกติของสังคมสมัยนี้
เดินออกจากห้องโถงของบริษัท นภาลัยขึ้นรถที่กันต์ธีเตรียมไว้ เมื่อรถขับออกไปจากบริษัท เธอเห็นนุชวราเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง
เธอไม่ขึ้นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายแล้ว
ในอนาคตอันไม่ไกล เธอคงจะซื้อรถหรูคันหนึ่งใช่ไหม ถ้าเสี่ยคนนั้นน่าเชื่อถือ
ตอนนี้วริศส่งเบญญากลับไปถึงบ้านแล้ว หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จเธอก็ขึ้นไปชั้นบน
วริศไม่ได้เข้าไปในบ้าน เขาจอดรถอยู่ข้างทาง
ในห้องรับแขกชั้นล่างที่เปิดไฟสว่างไสว
“เบญญาอารมณ์ไม่ดีเหรอ” คุณิตาสงสัย “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
“เครียดเรื่องงานรึเปล่า” ธามเมธีรินน้ำ “เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เครียดบ้างเป็นเรื่องปกติ อารมณ์บางอารมณ์ต้องจัดการด้วยตัวเอง”
“ทะเลาะกับวริศรึป่าว” คุณิตาพูด เธอเดาแบบนี้
ธามเมธีหันไปมองเธอ “เป็นห่วงเหรอ”
“…” เธอมองบนใส่เขา “ข้อมูลของวริศล่ะ คุณสืบได้รึยัง”
“อืม อยู่ในห้องหนังสือ”