มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 155 เสมอกัน?
“กะ แกถามฉัน?”
ผู้หญิงคนนี้ยังไม่รู้ตัว เดิมทีเธอ คิดจะให้มู่เซิ่งดูอาการให้
“ใช่ครับ คุณผู้หญิง คุณมีตรงไหนที่รู้สึกไม่สบายไหมครับ?พูดออกมาให้หมด”มู่เซิ่งหัวเราะแล้วพยักหน้า
“ฉัน รู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกค่ะ จะรู้สึกมีก้อนบางอย่างในขณะที่นอน”
หญิงสาวรูปร่างอ้วนท้วม ก้มหน้าบอกกล่าว
มู่เซิ่งพยักหน้า หลังจากที่มองไปที่หน้าอกของผู้หญิงคนนี้หลายครั้ง รู้ถึงอาการของเธอแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เขาก็เดินมาที่ตรงหน้าของผู้ป่วยคนถัดไป แล้วเอ่ยปากถามว่า“คุณปู่ครับ รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่าครับ?”
เกิดอะไรขึ้น?
ตกลงเขาจะทำอะไรกันแน่?
ลูกศิษย์พวกนั้นที่ได้เห็นฉากนี้ต่างมีสีหน้ามึนงง แม้แต่ฉินโสว่หรานเองยังทนมองดูต่อไปไม่ได้ เขาถามผู้ป่วยมากมายขนาดนั้นในคราวเดียว หรือว่าเขาอยากรักษาพวกเขาให้หายในทีเดียว?
พูดตามตรง ฉินโสว่หรานไปถามเองก็สามารถรักษาได้
ก็แค่จดจำอาการของพวกเขาให้แม่น หลังจากนั้นก็ไปหยิบยาเองไม่ใช่หรอ เพียงแต่วิธีแบบนี้ ต้องใช้การคำนวณระดับสูง สามารถรู้ปัญหาของผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ แต่ว่า การที่มู่เซิ่งทำแบบนี้ ทำให้ฉินโสว่หรานอดชื่นชมเขาไม่ได้
อย่างน้อย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ก็มีความรู้ความสามารถ
แต่การเคลื่อนไหวต่อมา กลับทำให้คิ้วของฉินโสว่หราน ขมวดเข้าหากันเป็นปม
หลังจากที่ถามผู้ป่วยภายในวอร์ดถึงอาการเจ็บป่วยเรียบร้อยแล้ว มู่เซิ่งก็ตรงเข้าไปที่ตู้ยาแล้วหยิบยามาสองกำมือ จากนั้นก็โยนเข้าไปในหม้อต้มยา และหยิบสมุนไพรมาอีกกำมือ วางไว้ในโกร่งบดยาแล้วเริ่มบดจนละเอียด
ทุกคนถึงกับมึนงง การกลั่นยาออกมา จำเป็นต้องใช้สมุนไพรเยอะขนาดนี้เลยหรอ?
“อาจารย์ ฉันดูออกแล้ว อาการป่วยของผู้ชายคนนี้เกิดจากไตบกพร่อง แต่นายกลับเอาหญ้าโคลเวอร์ญี่ปุ่น ใช้รักษาม้าม มันไม่เหมาะมั้ง?”หลิวเจี้ยนหัวคอยเอ่ยเตือนอยู่ข้างๆอย่างระมัดระวัง ถึงแม้เขาจะมีชื่อเสียงจากการฝังเข็ม แต่ในด้านการใช้ยา เขาก็มีความรู้อยู่บ้าง
มู่เซิ่งหัวเราะแล้วส่ายหัวไปมา พลางกล่าวว่า“แน่นอนว่าผมรู้ นี่คือการกลั่นยาร่วมกัน คุณปู่คนที่สาม เขามีอาการม้ามไม่ค่อยดี หญ้าโคลเวอร์ญี่ปุ่น หลังจากที่นำมาบดแล้ว จะเตรียมไว้ใช้กับคุณปู่ครับ”
หึ่ง!
เมื่อสิ้นเสียงของมู่เซิ่ง คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็เกิดเสียงตกตะลึงทันที
หมายความว่ายังไง?
ไอ้หมอนี่หมายความว่าไงกันแน่?
กลั่นด้วยกัน?หรือเขาไม่รู้กฎการกลั่นยา หม้อยาใบหนึ่งจะต้มได้แค่ยาหนึ่งเท่านั้น จะผสมปนกันไม่ได้ หรือหลักการแค่นี้เขาจะไม่รู้?
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทุกคนเห็นเพียงมู่เซิ่งได้เพิ่มสมุนไพรหลายตัวที่มีคุณสมบัติขัดแย้งกันลงในหม้อต้มยา
คราวนี้ พวกต่างพากันหัวเราะ
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของทุกคน หลิวเจี้ยนหัวก็ตระหนักได้ว่าเขาพูดอะไรลงไป จึงรีบอธิบายว่า“อาจารย์ ฉันมันเป็นแค่กบในกะลา วิธีการกลั่นยาแบบนี้ถึงแม้จะไม่มีใครเคยทำ แต่ว่า มันไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี……”
“ฮ่าๆๆ!”
ฉินหลินหัวเราะเสียงดังออกมาทันที แล้วกล่าวว่า“หมอเทวดาหลิว ยังไม่เคยมีใครทำ คุณคิดว่า มู่เซิ่งเขาจะทำได้งั้นหรอ?”
“เสี่ยวมู่เขาเป็นอาจารย์ฉัน ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา!”หลิวเจี้ยนหัวเถียงหลังชนฟ้าจนหน้าแดง
ภายในใจของเขารู้สึกละอายใจ ตนโง่จริงๆ เรื่องแบบนี้ ทำไมถึงพูดออกมาได้ มู่เซิ่งทำแบบนี้ จะต้องมีเหตุผลของเขาแน่นอน ถ้าพูดออกมา จะต้องทำให้อาจารย์ถูกเยาะเย้ยแน่
“ฮ่าๆ หมอเทวดาหลิว คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว”
“จริงด้วย ไม่สมกับชื่อฉายาหมอเทวดาเลย ไปนับถืออาจารย์บ้าๆที่คิดว่าตัวเองเก่งกาจแบบนี้ ผมว่า คุณรีบกลับไปถอดป้ายของตัวเองเถอะ หลังจากคุณเอากลับมาแล้ว คงจะทำลายได้ทันทีเลย”
“พูดจามีเหตุผล วิธีการกลั่นยาแบบนี้ มันได้หายไปจากโลกไปนานแล้ว ไอ้หมอนี่จะกลั่นยาออกมาได้ยังไง!”
ฉินหลินหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“ที่กลั่นออกมาคงไม่ใช่ยาด้วยซ้ำ แค่ทำการแสดงสิท่า?ไอ้เศษสวะ กล้าทำร้ายฉันที่วอร์ดผู้ป่วยอีก แกคิดว่า แกเป็นใครกันห้ะ”
ปึ้ง!
ในเวลานี้เอง หม้อยาที่อยู่ในมือของมู่เซิ่ง จู่ๆก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
ทุกคนรีบเดินเข้าไป ตามเสียงนั้นทันที เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงภายในหม้อยา
เห็นเพียงหลิวเจี้ยนหัวส่งเสียงตกใจ เขาเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
ภายในหม้อยา มียาสีต่างๆห้าเม็ดนอนแน่นิ่งอยู่ในนั้น ดูเหมือนไข่มุกกลมๆยังไงอย่างงั้น เมื่อเปิดฝาออกมา ก็มีกลิ่นอายของยา ค่อยๆล่องลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ
อะไรกัน!
เขากลั่นออกมาได้ยังไงหรอ?
ในขณะนี้ เมื่อมองไปที่ยาหลายตัวในเม็ดยาที่แตกต่างกันไป ทุกคนรู้สึกแค่ขนลุก
“กลัวอะไร ไม่แน่อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้”ฉินหลินพูดอย่างเสแสร้ง
มู่เซิ่งยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ด วางไว้ตรงหน้าของชายหนุ่ม พลางกล่าวว่า“กลืนลงไปซะ”
หญิงร่างท้วมมองไปที่มู่เซิ่งด้วยสายตาสงสัย แต่กลิ่นยาหอมเตะจมูก เธอกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก แล้วกลืนเม็ดยาลงคอไป
“เอาล่ะ คนต่อไป”
มู่เซิ่งเดินไปที่ตรงหน้าของชายหนุ่มคนนั้น
“นี่ จบดื้อๆแบบนี้เลยหรอ?ฉันยังไม่รู้สึกอะไรเลย?”หญิงร่างท้วมพูดด้วยสีหน้ามึนงง
“ไม่รู้สึกอะไรน่ะถูกแล้ว หรือว่า คุณอยากรู้สึกหน้าอกสั่นสะเทือน?”มู่เซิ่งพูดติดตลก
ผู้หญิงคนนั้นสะดุ้ง แล้วลูบไปที่หน้าอกอวบอิ่มของตัวเองเขาๆ เป็นไปตามไม่รู้สึกเจ็บแล้ว นี่มันน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ กินยาแค่เม็ดเดียว ก็หายแล้วหรอ?
หลังจากที่เห็นผลลัพธ์ของยา คนป่วยพวกนั้นก็พากันกลืนยาลงไป หลังจากนั้น สีหน้าของแต่ละคน ก็ค่อยๆเผยให้เห็นความตกใจ
“ผะ ผมหายแล้ว!”
“ฉันก็ด้วย นี่มันอัศจรรย์จริงๆ?ฉันรู้สึกปวดหัวมาตลอด นอนก็นอนไม่หลับ ตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงแล้ว”
“ผมก็ด้วย ตอนเข้าห้องน้ำผมรู้สึกเจ็บข้างล่างตลอด ตอนนี้มันไม่มีความรู้สึกแล้ว หมอเทวดา หมอเทวดา!”
ชายหนุ่มผอมสูงคนหนึ่งดูตื่นเต้นมาก โรคต่อมลูกหมากที่สร้างปัญหาให้เขามานาน หายไปอย่างรวดเร็ว!
เขารีบคุกเข่าต่อหน้าของมู่เซิ่ง แล้วตะโกนเรียกว่าหมอเทวดา ฝีมือแบบนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
“นี่……”
ลูกศิษย์ที่อยู่ด้านหลังของฉินหลิน เห็นฉากนี้ สีหน้าของพวกเขา ก็เหมือนคนถ่ายไม่ออก
ถ้าไม่ใช่เพราะคนไข้เหล่านี้มาจากคลินิกของตนเอง มีหลายคนที่พวกเขาไม่รู้จัก ทุกคนคงสงสัยแน่ว่า คนพวกนี้เป็นคนที่มู่เซิ่งจงใจหามาเป็นหน้าม้าแน่ๆ
ยาแค่เม็ดเดียวก็เห็นผลได้เลย?ความสามารถแบบนี้ มันเก่งกาจกว่าหมอเทวดาเสียอีก!
“เป็นยังไง ฉินโสว่หราน วิชาการกลั่นยาของผม เข้าตาของคุณบ้างรึเปล่า?”มู่เซิ่งมองไปที่ฉินโสว่หรานที่สายตาว่างเปล่า ถึงแม้จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วพูดอย่างติดตลก
“ทักษะทางการกลั่นยาของนาย ไม่เลวจริงๆ……”ฉินโสว่หรานพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
“คุณปู่ครับ เขาแค่รักษาคนป่วยให้หายเอง เรื่องแบบนี้ บอกไม่ได้หรอกครับว่าใครเก่งกว่ากัน”
“จริงด้วย อาจารย์ แบบนั้นเรียกว่ารักษาหรอ ยาหม้อเดียวกลั่นยาได้เยอะขนาดนั้น มันจะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยา การกระทำแบบนี้ ผมคิดว่า ความสามารถของเขาสู้อาจารย์ไม่ได้เลยครับ”
“จริงด้วยครับ ถึงอาจารย์ฉินจะรักษาคนป่วยแค่คนเดียว แต่อาจารย์ก็สามารถรักษาโรคได้ด้วยยา ยิ่งไปกว่านั้น โรคหมอนรองกระดูกของผู้ป่วยคนนั้น มันรักษายากกว่าไอ้หมอนั่นอีก ผมคิดว่า อย่างมากก็ได้แค่เสมอกัน”
มู่เซิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ขำขึ้นมา แล้วมองไปที่ฉินโสว่หราน จากนั้นก็ถามว่า“ฉินโสว่หราน คุณคิดว่าเสมอเหมือนกันใช่ไหม?”
ถ้าเขากลั่นยามาหลายสิบปี จริยธรรมของหมอก็ไม่มีปัญหา น่าจะดูออกว่า วิชาการใช้ยาของตนเอง มันอยู่เหนือกว่าเขามากๆ
สีหน้าของฉินโสว่หรานดุจสายน้ำ ในที่สุด เขาก็กัดฟันแล้วพูดออกมาไม่กี่คำ“นายชนะแล้ว ด้านทักษะการใช้ยา ฉันสู้นายไม่ได้……”