ในกระทู้นั้น โรแลนด์ระบุอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นอยู่เมืองไหน และตั้งเวลาไว้ว่าให้ดีที่สุดควรมาถึงได้ภายในสองวัน และระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการผู้รักษาที่อย่างน้อยสามารถใช้รักษาระดับล่างและล้างพิษได้ แน่นอนว่ายิ่งมีสกิลสนับสนุนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ใครมาก่อนถือว่าได้สิทธิ์ก่อน
และเมื่อเขาโพสต์กระทู้ไปนั้น ภายในเวลาน้อยกว่านาทีมันก็กลายเป็นกระทู้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
โรแลนด์พยายามกดรีเฟรชและพบว่ามีการตอบกลับจำนวนมากปรากฎขึ้น
“เชี่ยเอ้ย ฉันบอกได้แค่ว่านักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดโรแลนด์ได้ทำการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งแล้ว! สำหรับการพบดันเจี้ยนนั้นเท่าที่ฉันรู้ เขาน่าจะเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถปลดล็อคดันเจี้ยนภายในเกมได้”
“บางทีอาจจะไม่ได้ถูกเจอโดยเขาก็ได้ ควรจะบอกว่าเขาก็แค่คนที่มารับสมัครมากกว่า เพราะถึงยังไงก็ตามเขาก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงในบอร์ดแห่งนี้ มันจะง่ายกว่าถ้าให้เขาเป็นคนหาสมาชิก”
“ไม่มีใครสงสัยเลยเหรอว่าอีกสามคนในปาร์ตี้ของเขานั้นเป็นใคร?”
“ฉันผิวขาวและสวยมาก ชอบใส่ชุดโกธิคโลลิต้า และสามารถเรียกอาวุธขนาดใหญ่ออกมาได้ โปรดรับฉันเป็นเมียน้อยของคุณด้วย”
“ข้างบนนั่น ทำไมถึงเป็นพยายามเบี่ยงเข้าเรื่องอย่างว่าอีกแล้วล่ะ”
“เรื่องอย่างว่าอะไรกัน ฉันไม่รู้เรื่องนะ! (ยิ้มเยาะ)”
“โรแลนด์ถ้าหากดันเจี้ยนนั่นดรอปอุปกรณ์สายกายภาพดีๆละก็ ฉันประธานคนนี้จะเป็นคนรับซื้อมันไว้เอง นายบอกราคามาได้เลย”
“เชี่ย ขอทำความเคารพท่านประธาน”
“เชี่ย ขอทำความเคารพท่านประธาน”
“+1”
…
…
ทันใดนั้นมันก็มีเกือบๆสามร้อยคอมเม้นต์ที่ก็อปและโพสต์ตามกันมาเรื่อยๆ โรแลนด์คิดว่านี่น่าจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ทว่าในท้ายที่สุดก็มีใครบางคน พยายามหยุดกระบวนการโพสถ์เถื่อนของพวกเขา
“โรแลนด์ถ้าหากมีอุปกรณ์เวทย์ของนักเวทย์แสนสวยละก็ ฉันจะขอรับซื้อมันไว้เอง นายเองสามารถตั้งราคาได้ตามใจชอบเช่นกัน ถ้าหากนายต้องการฉันจะส่งโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ของฉันพร้อมกับสิทธิพิเศษไปให้”
โพสต์นี้นั้นเป็นของฟานลิ่วยี่ที่มาพร้อมกับชื่อบัญชีที่เป็นสีทอง
ถึงแม้ว่าประธานฮวงจะดังมากก็ตามที ทว่าฟานลิ่วยี่นั้นก็เป็นที่รู้จักมากกว่าทั้งเธอยังสวยอีกด้วย
ผู้หญิงสวยนั้นต่างมีสิทธิพิเศษของตัวเอง
หลังจากคอมเม้นต์นี้ถูกโพสต์ลงมา ความนิยมของกระทู้ก็พุ่งสูงขึ้นจนแทบจะระเบิดออก
อย่างแรกคือมีกลุ่มผู้เล่นจำนวนมากที่ต้องการลายเซ็นต์ และบางคนก็บอกไปว่าตัวเองชื่นชมคุณหญิงฟานลิ่วยี่ขนาดไหน ทว่าเพราะอะไรไม่รู้การหลังจากนั้นล้วนแล้วแต่เหมือนกันทั้งหมด
“ข้าอยากเข้าร่วมกองทหารม้าอย่างแท้จริง”
“ข้าอยากเข้าร่วมกองทหารม้าอย่างแท้จริง”
จากนั้นภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็มีคอมเม้นต์กว่าหมื่นครั้งแล้วในกระทู้นี้
ยิ่งไปกว่านั้นการคอมเม้นต์ซ้ำๆก็ยังคงดำเนินต่อไป
คนดังทั้งสองนี้รู้วิธีที่จะวิธีที่จะดึงดูดความสนใจจากโพสต์ได้ดีจริงๆ โรแลนด์เดาะลิ้วให้กับสิ่งนี้ ถ้าหากว่ามีใครสักคนได้เห็นการตอบกลับจากพวกคนดังจากในกระทู้พวกเขาละก็ บางทีพวกเขาอาจจะขึ้นสวรรค์ชั้นเก้าไปแล้วก็ได้
ทว่ากับโรแลนด์นั้นค่อนข้างใจเย็น เขานั้นไม่ได้ติดตามพวกดาราหรือคนจังและไม่ได้รู้สึกชื่นชอบวงการบันเทิงหรืออะไรเป็นพิเศษ จากมุมมองของเขา คนดังสองคนนั้นก็แค่มาเกาะกระแสเฉยๆ หากพวกเขาต้องการรับซื้ออุปกรณ์จริงๆละก็ พวกเขาคงเลือกจะทักข้อความส่วนตัวมาหาเขามากกว่าจะมาโพสต์ตรงๆแบบนี้
แน่นอนว่านี่ก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรนัก อย่างน้อยมันก็ช่วยให้คนเข้ามากระทู้ของเขามากขึ้น
จากนั้นเขาก็เปิดไปที่ระบบเบื้องหลังของกระทู้และตามที่คาดไว้เขาพบเข้ากับการแจ้งเตือนจากระบบจำนวนมาก
อย่างแรกที่เขามองไปยังการแจ้งเตือนจากระบบคือการแจ้งเตือนทิป ในกระทู้เปิดเผยความสามารถทางภาษานั้นเขาได้ทิปจากกระทู้นั้นก็เกินหมื่นหยวนมาเล็กน้อยแล้ว
มีคนประมาณทั้งหมดสองพันคนที่มอบทิปให้เขา…นั่นหมายความว่าค่าเฉลี่ยคือ 5 หยวนต่อคน
ถึงแม้ว่าเงินที่ได้จากทิปนั้นจะค่อนข้างเยอะ ทว่าจำนวนคนทีบริจาคให้เขานั้นก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นั่นหมายความว่าจำนวนของนักเวทย์นั้นกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โรแลนด์จำได้ว่าเมื่อเริ่มแรกนั้นมีคนเกือบหมื่นคนมอบทิปให้กับเขา ถึงแม้ว่าค่าเฉลี่ยของทิปต่อคนนั้จะประมาณแค่ 1.5 หยวนเท่านั้น
ปัญหาหลักๆของมันก็คงเพราะเวทย์นั้นเรียนรู้ยากเกินไป ถึงแม้ว่าโรแลนด์ผู้ซึ่งมีความสามารถลับ เขายังคงต้องอยู่ภายในหอคอยเวทย์เพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับเวทย์ที่พัฒนาแล้วเลย เขาไม่มีเวลาที่จะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกด้วยซ้ำ
สำหรับพวกผู้เล่นที่ไม่มีความสามารถลับและไม่ได้เรียนเกี่ยวกับคณิตชั้นสูงมาโดยตรง บางทีพวกเขาอาจจะเรียนรู้ได้ช้ากว่าความเร็วครึ่งหนึ่งในการเรียนรู้ของโรแลนด์ด้วยซ้ำ
เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้สึกท้อ
ในความเป็นจริงนั้น ยิ่งเป็นอาชีพที่น่าหวาดกลัวมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีเงื่อนไขเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าหากเป็นคนอื่นๆละก็ พวกเขาก็หวังว่าพวกเขานั้นจะเป็นนักเวทย์เพียงคนเดียวในโลกนี้
ทว่าโรแลนด์นั้นรู้ดีว่านักเวทย์เป็นอาชีพที่ต้องใช้เทคนิคระดับสูง และต้องการผู้คนจำนวนมากเพื่อพัฒนาและยกระดับไปให้ไกลขึ้น ด้วยการที่มีคนมาก มันก็จะยิ่งมีเวทย์ที่ได้รับการค้นคว้าเพิ่มมากขึ้น และด้วยการเปิดเผยข้อมูลและการทดลองของทุกๆคนนั้นจะยิ่งช่วยผลักดันให้นักเวทย์พัฒนาไปได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ในกระทู้ของพวกนักรบ มีการแนะนำกลยุทธ์ที่หลากหลายและประเภททั้งหมดของนักรบ ทั้งสายความเร็ว สายเสน่ห์ สายสมดุล และสายความฉลาดในการเล่นกายภาพ และอื่นๆ
ผลลัพท์พวกนี้ล้วนมาจากการทดลองจัดเรียงสถานะในรูปแบบต่างๆ และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มีแม้กระทั้งกลุ่มเรียนรู้เทคนิคดาบ
ในปัจจุบันนั้นนอกจากท่าดาบกองทัพแล้วนั้น เกี่ยวกับการเรียนรู้ในขั้นเริ่มต้นและ NPC ที่เป็นผู้ฝึกสอนเทคนิคดาบกองทัพระดับสูงต่างก็เปิดเผยออกมาแล้ว หลายคนนั้นต่างเริ่มที่จะเรียนรู้พวกมันได้แล้ว
มีแม้กระทั่งวิชาดาบที่แข็งแกร่งจากโลกจริงอย่าง เพลงดาบมังกรทยานอู๋ต๋าง , เพลงดาบเคลื่อนภูเขาไท่ผ่าผืนทราย และอื่นๆ
ยิ่งไปกว่านั้นอาวุธประเภทต่างๆนั้นก็ยังต่างกันอีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้จะมีเทคนิคแบบเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ของแต่ละคนนั้นหลากหลายเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพวกอาชีพรองของพวกนักรบอื่นๆอีก อาทิเช่น นักรบโล่ นักดาบเวทย์ ผู้บัญชาการสนามรบ หรือ เบอร์เซิร์กเกอร์…นี่เป็นอาชีพที่ถูกลิสต์ไว้ทั้งหมด จริงๆแล้วมันยังมีอีกกว่าหลายสิบชื่อ
สุดท้าย พวกเขาทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์พิเศษที่แตกต่างกัน…พรสวรรค์พิเศษที่แต่ละคนเลือกนั้นล้วนแล้วแต่แตกต่างกันทั้งหมด ผลลัพท์ก็คือวิธีการสู้ทีแตกต่างกันออกไป ในอาชีพเดียวกัน เพลงดาบแบบเดียวกัน หรือแม้กระทั่งอาวุธแบบเดียวกันก็ล้วนแล้วแต่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป
นี่มันราวกับดอกไม้นับร้อยที่ผลิบานเต็มไปหมด
พวกนักรบส่วนใหญ่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่ว่าพวกเขาค้นพบบางสิ่งที่น่าสนุกหรือแม้แต่เปิดเผยบางสิ่งออกมาได้ พวกเขาก็จะพิมพ์มันลงกระทู้อย่างกระตือรือร้นและรอจนกว่าผู้เล่นคนอื่นๆจะชมหรือยกยอพวกเขา ถ้าหากเขานั้นทำผิดหรือโดนเยาะเย้ย อย่างมากพวกเขาก็ทำเพียงแค่หุบปากของตัวเองลง และลืมเกี่ยวกับมัน หลังจากนั้นก็เล่นเกมอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง และไปล่าเหล่าสัตว์ประหลาดตัวน้อย
เมื่อนักรบนั้นหลากหลายเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมีประชากรมากที่สุดและเกือบจะเป็น 50% ของผู้เล่นทั้งหมด
ในขณะเดียวกันในบอร์ดของนักเวทย์นั้นมีเพียงแค่คนหรือสองคนที่เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาค้นพบและได้ทดลองมา
ในบรรดากระทู้ที่ปักหมุดทั้งหมดในเว็บบอร์ด กว่าครึ่งนั้นเป็นผลงานของโรแลนด์
ไม่ว่าใครก็คงสามารถจินตนาการได้ว่าประชากรของนักเวทย์นั้นลดลงมากเพียงใด
และที่น่าเศร้าไปมากกว่านั้นก็คือ ภายในกลุ่มของนักรบนั้น มีคนกลุ่มเล็กๆที่กลายเป็นชนชั้นยอดเลเวลห้าซึ่งสามารถเลือกอาชีพรองได้เรียบร้อยแล้ว
ในกลุ่มของพ่อมดนั้นก็มีบางคนที่ได้รับอาชีพรองเรียบร้อยแล้ว
ส่วนในด้านของนักเวทย์โรแลนด์คาดว่าตัวเขาน่าจะเป็นผู้เล่นที่มีเลเวลมากที่สุดคือเลเวลสี่ และผู้เล่นนักเวทย์ส่วนใหญ่นั้นยังคงเป็นเลเวลสองอยู่เท่านั้น
ภายในห้องสนทนาของนักเวทย์นั้นเขามองเห็นโพสต์ตัดท้ออยู่มากมาย เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่นักเวทย์นั้นไม่สามารถเล่นได้อย่างสบายๆสักคน
นักรบนั้นสามารถท่องเที่ยวไปได้ในทุกๆที่ ฆ่ามอนสเตอร์ โอบกอดผู้หญิง ดื่มไวน์ และมุ่งหน้าเข้าสู่ชีวิตที่หรูหรา และสามารถเพิ่มเลเวลได้ด้วยการทำตัวไร้สาระไปวันๆเท่านั้น
ในขณะที่นักเวทย์นั้นต้องมานั่งคำนวนและพัฒนารูปแบบเวทย์ในทุกๆวัน ต้องขังตัวเองอยู่ในที่แคบๆโดยไม่ได้เห็นแสงตะวัน
ทั้งสภาพอารมณ์และภาพลักษณ์ของพวกเขานั้นหม่นหมองลงเรื่อยๆทุกวัน
นักเวทย์หลายคนต่างพูดว่าพวกเขาไม่สามารถเรียนเวทย์ได้แม้จะใช้เวลาไปหลายวันแล้วก็ตาม พวกเขานั้นจึงเลือกที่จะลบบัญชีและย้ายไปเล่นอาชีพอื่น
โรแลนด์เองก็รู้สึกหมดกำลังใจเล็กน้อยเมื่อได้อ่านสิ่งนี้ เขาปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะขี่รถจักรยานสาธารณะไปยังสโมสรเหมียวเต๋าที่อยู่ในชนบท
อาหารเช้านั้นถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นเขามาถึง ซีฉาก็ได้ตักใส่ชามให้เขา
ถึงแม้ว่าหลังจากได้กินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆพร้อมกับซุปสมุนไพรที่มีรสชาติเยี่ยม อารมณ์ของโรแลนด์ก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก
ซีฉาซึ่งอยู่ด้านข้างเขาแอบมองมาทางเขาจากนั้นก็วางชามลงพร้อมกับตะเกียบจากนั้นเธอก็เดินออกไปและกลับมาพร้อมกับกล้วยหวีหนึ่ง เธอแบ่งให้แต่ละคนคนละลูกและพูดว่า “ก๋วยเตี๋ยวที่เป็นอาหารเช้าอย่างเดียวคงไม่พอ ควรเพิ่มเติมวิตามินเข้าไปด้วย”
โรแลนด์กินกล้วยเข้าไป อารมณ์ของเขาเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
อ่า…กล้วยผลไม้แห่งความสุข ด้วยสารอาหารบางอย่างที่อยู่ข้างในส่งผลให้คนมีความสุขขึ้นได้
หลังจากโยนเปลือกกล้วยทิ้งไป โรแลนด์ก็ยืนขึ้นพร้อมตรงไปที่โรงเก็บของเพื่อนำดาบเหมียวเต๋าไม้ออกมา จากนั้นเขาก็ไปยังสนามฝึกเพื่อหาฉีเฉาชู่
“นายแค่สอนเทคนิคดาบให้ฉันก็พอ” โรแลนด์พูดอย่างจริงจัง “ฉันอยากจะเรียนให้เร็วยิ่งขึ้น”
ซีฉาซางถือถังน้ำอยู่ เธอต้องการที่จะราดน้ำไปยังพื้นซีเมนต์เพื่อทำความสะอาด เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา เธอก็เกือบจะทำน้ำหกออกจากถัง
ฉีเฉาชู่มองไปที่น้องสาวคนเล็กของเขาจากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่พวกเรารับเงินนายมาแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงมีหน้าที่สอนนายอย่างถูกต้อง ยังไงก็ต้องเริ่มจากพื้นฐาน”