มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 315 เรือสำราญ
ขณะนั้นรถยนต์คันหนึ่งหยุดลงตรงหน้าทั้งสองคน จากนั้นประตูรถเปิดออก ผู้หญิงสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ สวมหมวกกันแดดเดินออกมาจากรถยนต์
การปรากฏตัวของเธอ ดึงดูดสายตาแทบทุกคนในที่นี้ รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ได้สัดส่วนมาก สีผิวที่เกือบจะเป็นผิวสีน้ำผึ้งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลูกครึ่ง เธอหยิบขนมออกมาจากรถหนึ่งห่อ แล้วก็เริ่มกินอย่างไม่สนใจใคร
มู่เซิ่งมองเพียงแวบเดียวก็ไม่มองอีก ผู้หญิงคนนี้น่าจะไปทางเดียวกันกับพวกเขา คงขึ้นเรือสำราญลำนี้เหมือนกัน ไม่ได้มีเรื่องอื่น
ที่ตามอยู่ด้านหลังตลอดเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น
“ผู้หญิงคนนี้สวยมาก”
“ใช่ อีกทั้งยังยืนอยู่ข้างหลังมู่เซิ่งด้วย พวกนายว่าเป็นผู้หญิงของเขาหรือเปล่า”
“ชู่ว เบาหน่อย ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ”
เสียงพูดคุยเบาๆ ของคนในที่นี้หยุดลงทันที ช่วงนี้ทั้งเกาะสองใจแทบจะรู้จักชื่อของมู่เซิ่งกันหมดแล้ว ดังนั้นหลังจากพวกเขารู้จักมู่เซิ่ง ก็พากันเว้นระยะห่างโดยไม่รู้ตัว
“สวยมาก” เหยาเผิงก็ลูบคางแล้วพูดเสียงเบาว่า “แต่เทียบกับพี่สะใภ้แล้ว ยังห่างชั้นอีกเยอะ”
ระหว่างพูด เขายังแอบยื่นหน้าไปข้างหูมู่เซิ่งแล้วพูดพึมพำว่า “ลูกพี่มู่ ก่อนเราออกจากบ้าน เจียงหว่านกำชับให้ผมดูแลคุณดีๆ แล้วยังเน้นเป็นพิเศษว่าอย่าให้คุณทำตัวเจ้าชู้ข้างนอก ดังนั้นเราปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปเถอะลูกพี่”
“แน่นอนว่า……ถ้าพี่สนใจจริงๆ ผมช่วยพี่ปิดบังพี่สะใภ้ให้ก็ได้”
“.…..”
มู่เซิ่งกลอกตามองบน ไม่ได้พูดอะไร ในสายตาของเขาไม่มีผู้หญิงคนไหนเทียบกับเจียงหว่านได้ ดังนั้นแม้มีคนสวยกว่าเจียงหว่าน เขาก็ไม่มีทางหวั่นไหวสักนิด
“พอแล้ว นายไม่ต้องมากังวลเรื่องฉันหรอก” มู่เซิ่งโบกมือไปมา เขาคิดไม่ถึงว่าเจียงหว่านจะพูดกำชับเหยาเผิงแบบนี้
เขาไม่รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งเจียงหว่านกับมู่เซิ่งอยู่ด้วยกันนาน เธอยิ่งรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากตัวมู่เซิ่ง แรงดึงดูดแบบนี้สำหรับผู้หญิงเรียกได้ว่าถึงแก่ชีวิตได้เลย แม้เจียงหว่านไม่กังวลว่ามู่เซิ่งจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น แต่เธอกังวลว่าผู้หญิงคนอื่นจะเป็นฝ่ายมาชอบมู่เซิ่ง
รอประมาณ 15 นาที ในที่สุดก็มีเรือสำราญขนาดใหญ่ค่อยๆ แล่นมาที่ท่าเรือ เรือสำราญลำนี้ตกแต่งหรูหรามาก ด้านบนยังหลอดไฟต่างๆ อยู่ด้วย จินตนาการได้เลยว่าในท้องทะเลยามค่ำคืน เรือสำราญที่ประดับประดาอย่างดงามลำนี้จะสะดุดตาขนาดไหน
ด้านล่างเรือสำราญมีคนยืนต่อแถวยาวเหยียด อีกไม่นานจะได้ขึ้นเรือแล้ว
“ลูกพี่ไปก่อนเลย” เหยาเผิงถอยมาด้านหลัง
เพราะสภาพอากาศทำให้วันนี้เรือสำราญมาที่ท่าเรือเพียงลำเดียว แต่เรือสำราญลำนี้ใหญ่มาก สามารถรองรับแถวยาวเหยียดได้หมด ที่บังเอิญคือสาวสวยที่สวมแว่นดำยืนอยู่หลังมู่เซิ่งขึ้นเรือสำราญลำนี้ด้วย
“ลูกพี่ เรือสำราญลำนี้มีชื่อว่าจางหมายเลข 7 เป็นเรือของจางฉี่”
หลังจากขึ้นมาบนเรือ เหยาเผิงเริ่มเล่าให้มู่เซิ่งฟังอย่างละเอียด
“เดิมทีจางฉี่เป็นโจรสลัด แต่ต่อมาเขากลับตัวเป็นคนดี แม้ไม่ทำเรื่องปล้นขโมย แต่ยังไงคนเราก็ต้องทำมาหากิน ดังนั้นบนเรือจึงมีกิจกรรมเดิมพันประมูล เพื่อหาเงินลำไพ่พิเศษ อีกทั้งราคาของบนเรือยังสูงจนไร้เหตุผล”
“จางฉี่คือพวกโจรสลัดที่ปล้นสินค้าของบริษัทเรา ดังนั้นผมจึงตั้งใจเลือกเรือสำราญลำนี้ รอให้โจรสลัดพวกนั้นปรากฏตัว ลูกพี่ออกโรงเอง ซัดคนพวกนั้นให้หนีหัวซุกหัวซุนไปเลย!”
“ประมูลของงั้นเหรอ สินค้าไม่ต่างกับงานประมูลหลงหางใช่ไหม” มู่เซิ่งถามขึ้น
“ต่างกันมาก……” เหยาเผิงส่ายหน้า จู่ๆ เขากดเสียงต่ำแล้วพูดว่า “โดยทั่วไปแล้วบริษัทหลงหางจะประมูลแหวน พวกทองและอัญมณีที่สามารถหมุนเวียนได้ แต่การขายบนเรือสำราญเป็นของแปลกอย่างแท้จริง”
“ของแปลกงั้นเหรอ” มู่เซิ่งเอ่ยขึ้น
“ใช่ อย่างเช่นพวกวิชาที่คนไม่เข้าใจ หรือพวกยาวิเศษ พวกสมุนไพรและสัตว์แปลกและหายาก” เหยาเผิงเอ่ยขึ้น
“รูปร่างสิ่งของพวกนี้แตกต่างกันออกไป การใช้งานก็พิเรนทร์มาก ว่ากันว่ามีคนโชคดีซื้อยาเม็ดหนึ่งได้ คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะยกระดับขึ้นจนกลายเป็นปรมาจารย์บู๊ แล้วก็มีคนตัวระเบิดตายหลังจากกินยาเข้าไป ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วของพวกนี้ต้องรู้จักเป็นอย่างดีแล้วค่อยซื้อ”
“ลูกพี่ ตอนนี้เราอยู่บนเรือก็ไม่มีอะไรทำ สู้เอาเวลาตอนนี้ไปดูกันดีกว่า ถึงไม่ซื้ออะไรก็ถือเป็นการฆ่าเวลา หาความสุขสักหน่อย”
“ก็ดีเหมือนกัน” มู่เซิ่งพยักหน้า
เขารู้ว่าอีกนานกว่าจะถอนสมอออกเรือ อีกทั้งหลังออกทะเลอันกว้างใหญ่ ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะถึงที่หมาย สู้ลงไปดูด้านล่างเรือลำนี้ดีกว่า ไม่แน่ถ้าโชคดีอาจซื้อของดีได้ก็ได้
เหยาเผิงพามู่เซิ่งเดินเข้ามาในเรือ
เรือสำราญลำนี้มีทั้งหมดห้าชั้น ชั้นแรกเป็นที่สำหรับพักผ่อน ส่วนชั้นสองเป็นห้องอาหาร ชั้นสามเป็นบาร์และห้องร้องคาราโอเกะ รวมไปถึงที่ให้ความบันเทิงอย่างโต๊ะสนุกเกอร์ ชั้นสี่ก็เป็นที่ให้ความบันเทิงเหมือนกัน ส่วนชั้นห้าเป็นสถานที่ประมูล
สี่ชั้นแรกแขกในเรือสามารถเข้าไปได้ แต่ชั้นห้าต้องมีการยืนยันตัวตนพิเศษถึงจะเข้าได้
เหยาเผิงเดินนำทางอยู่ด้านหน้า เรื่องพวกนี้เขาคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างมาก เขาพามู่เซิ่งเดินผ่านสองสามชั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นมาถึงหน้าประตู หลังแสดงป้ายคำสั่งก็เข้ามาได้อย่างง่ายดาย
มู่เซิ่งอดมองไม่ได้
“ลูกพี่ ผมเป็นลูกค้าเก่าของที่นี่ ก่อนหน้านี้ที่เจอแผนที่ที่มียาสมุนไพรซ่อนไว้ก็ได้มาจากที่นี่” เหยาเผิงพูดอธิบาย
หลังเดินเข้ามามู่เซิ่งตาเป็นประกาย จู่ๆ เขาเห็นคนคุ้นเคย ซึ่งก็คือสาวสวยสวมแว่นดำที่เจอข้างล่างเรือก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอที่นี่อีก
แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เจอเรื่องที่ทำให้ไม่สบอารมณ์ เธออยู่หน้าโต๊ะพนันด้วยสีหน้าหดหู่ มีชิปวางอยู่ฝั่งเธอกองใหญ่
“ลูกพี่ ลองดูหน่อยไหม” เหยาเผิงถามขึ้น
“ไม่ล่ะ” มู่เซิ่งส่ายหน้า
พูดเรื่องการพนัน ถึงเป็นเซียนพนันบนโลกนี้ก็สู้เขาไม่ได้ แต่มู่เซิ่งไม่ชอบเกมที่ทำให้คนสิ้นเนื้อประดาตัวเท่านั้นเอง
เหยาเผิงเข้าใจจึงไม่ได้อยู่ในบ่อนพนันนาน พามู่เซิ่งเดินเข้ามาในเขตประมูลที่มีของล้ำค่าต่างๆ นานา เมื่อมาถึงหน้าประตู ทั้งสองคนจ่ายเงินค่ามัดจำสามหมื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องที่ทำให้ของมีค่าเสียหาย หลังจ่ายเงินค่ามัดจำ ทุกคนก็เดินเข้ามาในประตู
เมื่อประตูเปิดออก แสงสีต่างๆ ส่องลงมาบนหน้ามู่เซิ่งทันที