มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง – บทที่ 383อยู่เข้าเรียน?

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่383อยู่เข้าเรียน?

พอพูดถึงเทควันโด ซูอีเข่อก็หมั่นเขี้ยวขึ้นมาทันที อดไม่ได้ทึ่จะพูดไปว่า “ไอ้สโมสรเทควันโดมันจะโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มันสูงเลิศยังไงก็เรื่องมัน ยังไงเราก็ไม่ไปควบคุมมันได้ แต่มันกลับมาบีบบังคับให้พวกเราไปเข้าร่วมทีมกับสโมสรเทควันโด บอกว่าถ้ามีพวกเราร่วมด้วย ก็จะมีแรงดึงดูดให้คนไปเข้าเทควันโดมากขึ้น”

พวกเธอก็ไม่ชอบขี้หน้าพวกสโมสรเทควันโดอยู่แล้ว ฉะนั้นกับการขอมาแบบนี้ ก็แน่นอนว่ามีแต่ปฏิเสธ

สรุปหลังจากนั้น สโมสรเทควันโดก็คอยตามรังควานพวกเธอ มีครั้งหนึ่งกำลังเล่นบอลกับกลุ่มเพื่อนในสนามวอลเล่บอล พวกกลุ่มคนของสโมสรเทควันโดก็บุกเข้ามา บอกว่าพวกมันจะใช้พื้นที่นี้มาฝึกซ้อม สั่งให้พวกเขาไสหัวออกไป

แล้วจะให้พวกเธอยอมได้ยังไง

อีกทั้งพวกเธอก็ผูกความเจ็บแค้นกับพวกสโมสรเทควันโดมานานแล้ว ฉะนั้นมาในครั้งนี้ทุกอย่างก็ระเบิดขึ้น คนทั้งสองฝ่ายเกิดปะทะกันขึ้น นักศึกษาชายหลายคนถูกพวกสโมสรเทควันโดอัดจนหน้าช้ำดำเขียว ซูอีเข่อนั้นเป็นคนเอาหน้าอยู่แล้ว อีกทั้งเธอก็รู้ว่าเพราะตัวเธอเองกับถงเสี่ยวเย่ไม่เห็นด้วยที่จะไปเข้าสโมสรเทควันโด จึงทำให้เพื่อน ๆ ต้องเจ็บตัว

ด้วยเหตุนี้ พวกเธอทั้งสองจึงประกาศว่าจะต้องเอาคืน และยังบอกว่าจะไปถล่มถึงที่โรงเรียนพวกมันให้ได้!

เรื่องนี้มีการคุยกันเซ็งแซ่ไปอย่างกว้างขวาง เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นนักเทควันโดสายดำที่มีพลังฝีมือแข็งแกร่งมาก ยังประกาศไว้ว่าไม่มีกลัวพวกเขา

ทำความเข้าใจในรายละเอียดแล้ว มู่เซิ่งผงกหัวไม่พูดอะไร ทำตัวให้สมกับเป็นนักสู้มืออาชีพ อย่างที่พวกเธอวางให้และเรียกเขามา

เขาก็พอรู้เรื่องเทควันโดอยู่บ้าง เป็นวิชาบู๊ที่ประเทศมูถือเป็นความภาคภูมิของเขา เห็นได้จากการแสดงในเวทีสื่อต่าง ๆ วิชาพลังฝีมือนี้ว่ากันไปตามคนทั่วไปจะโดดเด่นมาก แต่กับมู่เซิ่งนั้น มันก็แค่มวยเล่นโชว์ตามงานวัด

พลังฝีมือการต่อสู้ (กังฟู) เน้นเรื่องโหดเร็วแม่นยำ ไม่ใช่ประเภทเอาแต่กระโดดเตะกระดานโชว์

“พี่มู่ พวกมันข่มเหงกันมากไปแล้วนะ พี่ต้องช่วยไปถล่มถึงถิ่นมันเลยนะ!”

ซูอีเข่อชูกำปั้นที่ขาวเนียนพูดไป เธอเห็นสโมสรเทควันโดนี้อย่างขัดลูกตามานานแล้ว

“ช่วยพวกเราได้มั้ย?” ถงเสี่ยวเย่ก็มองมู่เซิ่งตาละห้อย

มองดูซูอีเข่อกับถงเสี่ยวเย่สองเด็กนักศึกษาสาวน้ำตาเริ่มเอ่อมาคลอเบ้า พวกเธอสู้อุตส่าห์พาเขาเองมาเดินชมมหาวิทยาลัยอยู่ครึ่งค่อนวัน มู่เซิ่งจะปฏิเสธตอนนี้ก็จะดูกระไรอยู่

“พวกเราไปที่สโมสรเทควันโดดูกันก่อน ไม่แน่ว่าจะมีวิธีแก้ปัญหากันได้ด้วยสันติวิธีนะ” มู่เซิ่งตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

ถึงแม้เรื่องนี้เขาสามารถแก้ได้อย่างสบาย ๆ แต่จะให้เขาไปรังแกพวกนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนรู้วิชาบู๊กันจริงจัง มู่เซิ่งรู้สึกว่าจะทำไม่ลง

“ก็ดี” หน้ายิ้มของซูอีเข่อต้องถูกซุกเก็บขึ้น แต่เธอก็ไม่สามารถฝืนขอ ได้แต่เดินตามหลังมู่เซิ่งไป

เธอยังคิดว่ามู่เซิ่งคงห่วงว่าเรื่องนี้จะถูกอาจารย์ผู้ปกครองเอาเรื่อง ก็ได้คอยพูดย้ำตามอยู่ข้างหลังว่า “พี่มู่ ถึงเวลาที่พี่มู่จะต้องเล่นแรงก็เอาเต็มที่เลยนะ ที่พวกเราไปสโมสรเทควันโดนี้เป็นการท้าประลองกันตามครรลองปฏิบัติ มีการวางหนังสือท้าประลองเป็นทางการ เพราะฉะนั้นถึงแม้พี่จะไปทำใครให้บาดเจ็บก็ไม่มีให้เป็นคดีความ”

มู่เซิ่งผงกหัว

ทั้งสามคนก็พากันมาถึงข้างนอกสโมสรเทควันโด สภาพสโมสรเทควันโดเวลานี้ ไม่เสียทีที่เป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัย ข้างในนั้นเห็นมีคนนั่งอยู่อย่างดูคึกคัก อย่างน้อยคงมีกว่าสองร้อยคน

บุคลากรหลักของสโมสรเทควันโดหลายสิบคน ต่างก็นั่งอยู่ตามจุดตำแหน่ง ลักษณะเตรียมพร้อมในการฝึกอบรม

“โอ้โห ซูอีเข่อ เธอเอาคนมาจริงเลยหรือนี่?เธอนี่นับว่าใจกล้าจริง ๆ นะ” ชายหนุ่มย้อมผมสีเขียว แต่งชุดเทควันโดพูดขึ้น

ข้างหลังตัวเขาตามมาด้วยลูกศิษย์ไม่น้อย ดูฟอร์มใหญ่เต็มที่

“ไอ้หัวเขียวอย่างแกไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะคุยกับระดับแม่มึงอย่างข้า ประธานพวกมึงอยู่ไหน?ให้มันไสหัวออกมา!” ซูอีเข่อพูดไปด้วยเสียงอันดัง แววตาดุดัน วางมาดแบบเจ้าแม่ในวงการ

“เฮอะ ๆ ประธานพวกเรากำลังเตรียมการสอนอยู่ ไม่มีเวลามาใส่ใจพวกแกหรอก” คนผมเขียวแสยะยิ้มพูด

“วางมาดคุยโวเป็นลมตด!ไอ้หัวเขียวเดนตาย ข้าจะบอกให้ วันนี้เป็นวันตายของเทควันโดของพวกแกนี้!” ซูอีเข่อพูดไปอย่างแค้นเคือง

ไอ้หนุ่มผมเขียวหัวเราะอย่างเห็นไม่เป็นเรื่อง “วันตายของสโมสรของข้า?ด้วยแกนี่นะ?”

“ยังมีเขานี่!” ซูอีเข่อตบไหล่มู่เซิ่ง

ไอ้หนุ่มผมเขียวมองไปที่มู่เซิ่ง สายตาเต็มไปด้วยท่าทีเหยียดหมิ่น “ซูอีเข่อเธอจะมาล้อเล่นกับข้าเหรอ?ให้เขามาท้าดวลกับประธานของพวกข้า?นี่เธอจะพาเขามาหาที่ตายหรือไง?”

“เรื่องพล่อย ๆ พูดให้มันน้อยหน่อย พวกแกไม่กล้าใช่มั้ย?” ซูอีเข่อพูดอย่างขี้เกียจรำคาญ

“อย่างที่ว่า ถ้าแกกลัวก็รีบยอมแพ้ซะ” ด้วยท่าทีขึงขังของซูอีเข่อ ถงเสี่ยวเย่ที่ยืนข้าง ๆ ก็พูดขึ้นบ้าง

“เอาเถอะเอาเถอะ ไอ้คนขนาดจะยืนสู้ลมยังไม่ไหวนี่ แค่ข้าเองก็อัดมันคว่ำลงกับพื้นได้แล้ว ไม่ต้องถึงประธานพวกเราหรอก ไอ้หนู แกนี่คงหวังล่อซูอีเข่อใช่มั้ยถึงได้ตามมานี่อ่ะ?” เจ้าผมเขียววางสีหน้าประชดประชัน ยื่นมือไปทำท่าจะตบหน้ามู่เซิ่งอย่างยังไม่รู้จักตาย

“หือ?” แววตามู่เซิ่งหนาววาบ กำลังเตรียมจะลงมือ

ขณะนั้นเอง ประธานสโมสรเทควันโดเดินเข้ามา

เขาหันไปพูดกับเจ้าผมเขียวว่า “ถานซิง แกมัวโอ้ ๆ เอ้ ๆ เสียเวลาอะไรกันอยู่นั่น?ข้าจะเริ่มการสอนแล้ว รีบขึ้นมา”

“อ๋อ ได้ครับท่านประธาน!” เจ้าผมเขียวรีบตอบรับ แล้วหันไปมองมู่เซิ่ง พูดเหยียด ๆ ไปว่า “ไม่มีธุระก็รีบไสหัวไปซะ ถ้าขืนกล้าอยู่ทำซ่าที่นี่ ข้าจะบอกพวกแกนะ เดี๋ยวพวกแกจะต้องตายอย่างอนาถต่อหน้าทุกคนที่นี่”

พูดจบ เจ้าผมเขียวก็กระโดดตรงจากข้างล่างขึ้นไปบนเวที

“พี่มู่ พวกเราทำยังไงกันดี?” ซูอีเข่อได้ยินคำข่มขู่ของเจ้าผมเขียวก็ให้รู้สึกประหม่า ถึงยังไงก็มีคนอยู่ในบริเวณมากมาย นักศึกษาทุกแผนกเกือบจะมากันหมด เกิดว่าถ้ามู่เซิ่งแพ้ต่อประธานลงมา นั่นก็ต้องขายหน้ากับคนทั้งมหาวิทยาลัยเลย

มู่เซิ่งแหงนหน้าขึ้น มองไปที่เจ้าผมเขียวที่มองมาที่เขาอย่างท้าทาย แสยะปากยิ้มขึ้นมาในทันใด

“ไม่เป็นไร พวกเราอยู่ฟังการสอนกัน”

……

สนามเทควันโดแห่งนี้กว้างใหญ่มาก คนอยู่ข้างในได้ถึงสองร้อยก็ยังไม่ดูอึดอัด

มู่เซิ่งกับถงเสี่ยวเย่และซูอีเข่อสามคน หาที่นั่งลงกัน

เจ้าผมเขียวก็ได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้ว เขาถือโทรโข่งทำการพูดแนะนำ “เทควันโดของสถาบันเรามีชื่อเสียงโด่งดังมาก ประธานของพวกเราอยู่ระดับสายดำ เคยเข้าแข่งขันเทควันโดทั่วประเทศ สายดำดั้งห้า พลังฝีมือแกร่งกล้ามาก สู้กับคนทั่วไปสักสิบคนยังสบาย ๆ”

ในขณะที่พูด สายตากวาดมองไปที่มู่เซิ่ง นัยน์ตาสาดส่องแววหนาวเยือกสุด ๆ

ไอ้สามตัวนี่ยังกล้าอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือนั่น?

ก็ดี เดี๋ยวเขาจะทำให้มู่เซิ่งต้องขายหน้าเต็มที่! ต่อหน้าคนทั่วทั้งมหาวิทยาลัย

“มู่เซิ่ง คุณต้องระวังตัวหน่อย ถึงเวลานั้นเขาต้องเจาะจงหาเรื่องคุณ ถ้าคุณเห็นว่าไม่ไหว ก็อย่าฝืนเป็นอันขาด” ซูอีเข่อเตือนอย่างระมัดระวัง

มู่เซิ่งผงกหัว แสดงการยอมรับในความหวังดี

ขณะเดียวกันนั้นตัวประธานก็ได้เดินออกมาจากข้างหลัง นำเหล่าบรรดานักเทควันโดทุกคน ยืนทำความเคารพกับทุกคน

หลังจากนั้น โดยการนำของประธาน ก็ได้ให้ทุกคนวอร์มร่างกาย ทว่าตัวประธานเองจะดูโดดเด่นในมาตรฐาน ทั้งถีบทั้งเตะ แสดงออกอย่างมีอัตลักษณ์

อย่างรวดเร็ว เวลาก็ได้ผ่านไปสิบกว่านาที

ประธานจี้เหว่ยเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “บทเรียนในวันนี้จบเพียงแค่นี้ ต่อจากนี้ไป ก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนทักษะทดลองต่อสู้กันและกัน”

  ……

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

Status: Ongoing
ผู้ชายที่แม้แต่ภรรยาตนก็ปกป้องไม่ได้ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?พอมู่เซิ่งเห็นภรรยาที่โดนรังแกเท่านั้นแหละ เขยแต่งเข้าที่โดนผู้คนเหยียดหยามมาโดยตลอด ตัดสินใจพลิกไพ่ใบสุดท้าย……

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท