เผยเชียนส่ายนิ้วและไล่เรียงทุกอย่างให้หวงซื่อปั๋วฟัง อีกฝ่ายอึ้งไปเมื่อได้ยินแบบนั้น
การต่อรองอัตราค่าจ้างแบบกลับตาลปัตรทำให้หวงซื่อปั๋วตะลึงงัน
สี่พันหยวนหรือ
นั่นมันสองเท่าจากที่คิดไว้เลยนะ
บอสเผยเป็นอะไรหรือเปล่า
หรือคนรวยเขาเป็นแบบนี้กัน
หวงซื่อปั๋วอ้าปากค้าง เขาเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบกลับ “ก…ก็ได้ครับ”
เผยเชียนยิ้ม “ไม่ต้องห่วง พนักงานใหม่ได้เงินเดือนต่ำเป็นปกติ ขอแค่คุณทำงานดี คุณก็มีโอกาสได้ขึ้นเงินเดือนทุกเดือน”
ขึ้นเงินเดือนหรือ!
หวงซื่อปั๋วคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน
“โอเค ถ้างั้นก็ตามนี้แหละ!” เผยเชียนยืนขึ้น “อย่าลืมมาทำงานวันมะรืน ยินดีต้อนรับสู่บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีครับ”
…
พนักงานต้อนรับพาหวงซื่อปั๋วกลับออกไป
เผยเชียนแสนสุขใจ เขาได้พนักงานสุดเหมาะสมมาอีกคนแล้ว!
เขามั่นใจตั้งแต่ตอนที่หวงซื่อปั๋วนั่งลงแล้ว ว่านี่แหละคือคนที่ตนต้องการ
คนที่ขยันแต่ไม่ค่อยฉลาด
นี่แหละพนักงานที่สมบูรณ์แบบ!
เงินเดือนสี่พันหยวนถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม ระบบไม่สามารถหาจุดตำหนิได้
ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิวที่สมัครเข้ามาสัมภาษณ์เมื่อครู่เป็นคนซึ่งไม่ตรงกับคุณสมบัติที่เผยเชียนกำหนดไว้สักนิด
หลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็เขียนโน้ตอธิบายความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ลงบนประวัติส่วนตัวของเหล่าผู้มาสัมภาษณ์
โน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหัวหน้าหลิวคือ “มีประสบการณ์เยอะแต่ความคิดล้าหลัง แนวคิดแบบดั้งเดิมของผู้สมัครขาดความคิดสร้างสรรค์ มองการสร้างเกมเหมือนงานอื่นทั่วไป ขาดใจรักเรื่องเกมและไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องการสร้างเกมใหม่ได้ ไม่เหมาะรับเข้าทำงาน”
ส่วนนี่คือโน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหวงซื่อปั๋ว “หน้าใหม่ที่คิดปฏิรูปวงการเกม มีใจรักเรื่องเกม กระตือรือร้นและขยันมาก เพื่อให้ตอบรับกับค่าใช้จ่ายเลยให้เงินเดือนเริ่มต้นที่สี่พันหยวน”
เผยเชียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากหลังจากเขียนอธิบายความคิดเห็นเสร็จ
ดูเหมือนว่าระบบจะไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย!
ดูจากทิศทางในตอนนี้ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลแล้ว!
…
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน วันศุกร์ก็มาถึงอีกครั้ง
เผยเชียนนอนแผ่อยู่บนโซฟาในห้องพักผ่อน รู้สึกแน่นท้องเพราะดื่มชาเยอะเกินไป แต่ฤทธิ์ชาก็ส่งผลดีเสียจนนอนกลางวันไม่ได้
เครื่องปรับอากาศเปิดที่อุณหภูมิแสนสบายขณะที่เผยเชียนกลิ้งไปมาในชุดสูทหลักหมื่น
ตอนใส่สูทใหม่ๆ เผยเชียนคอยบอกตัวเองว่าเขากำลังใส่เงินหมื่นอยู่บนตัว
แต่ตอนนี้เผยเชียนกลับมองมันไม่ต่างจากชุดธรรมดาทั่วไป
นั่นเพราะทุกครั้งที่เขาใส่สูทไปสักพัก ซินไห่ลู่ก็จะแวะไปรับสูทที่อพาร์ตเม้นต์ของเขาเพื่อส่งซัก ไม่ว่าสูทตัวนั้นเขาจะใส่หรือยังไม่ใส่ หรือจะใส่นานแค่ไหน พอซักเสร็จแต่ละตัวก็เหมือนกันหมด
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เขาจะใส่อย่างไรก็ได้ตามใจ!
ถ้าขาดก็แค่ซื้อใหม่
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองฟู่ฟ่ามาก
ตลอดช่วงที่ผ่านมา เขาไม่ได้กลับไปหอพักเลยและเริ่มคุ้นชินกับอพาร์ตเม้นต์ เผยเชียนนึกภาพตัวเองต้องอยู่อัดรวมกันเป็นปลากระป๋องกับชายห้าคนในหอพักแคบๆ ไม่ได้อีกต่อไป
รูมเมตคนอื่นๆ พอจะรู้ว่าช่วงนี้เขาทำงานหนักในธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนง่วนอยู่กับการปั่นงานเพราะเป็นเด็กปีหนึ่ง ตอนนี้พวกเขายังเต็มที่กับชีวิตในมหาวิทยาลัยและบรรดานักศึกษาสาวรอบตัวเลยไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก
อีกอย่าง เผยเชียนก็ไม่ได้ไปโอ้อวดอะไรให้ฟัง พวกเขาเลยไม่คิดว่าเผยเชียนจะทำอะไรได้สำเร็จ
ถึงอย่างไรในแต่ละปีจะมีเด็กสองสามคนที่จู่ๆ ก็ลาออกไปเริ่มธุรกิจของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังและกลับมาเรียนใหม่
การเริ่มต้นธุรกิจเป็นอะไรที่เสี่ยงมากแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าไม่น้อย ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะได้สัมผัสแต่ความเสี่ยงก็เถอะ
แม้แต่คนที่ทำงานมานานหลายปีและมีเส้นสายในวงการยังมีโอกาสเจ๊งได้ถ้าเริ่มประกอบธุรกิจ ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาจนๆ ที่ไม่มีอะไรเลย
เป็นเรื่องธรรมดาที่เผยเชียนไม่คิดอยากพิสูจน์ตัวเองกับเหล่ารูมเมต
เขากำลังเสวยสุขกับชีวิต!
จริงอยู่ที่ลงท้ายแล้วคนส่วนใหญ่ที่เริ่มประกอบธุรกิจจะเจ๊งกันหมด แต่ถ้าฉันอยากเจ๊งตั้งแต่เริ่มล่ะ
ถ้าเป้าหมายในการทำธุรกิจของฉันคือทำให้เจ๊งล่ะ
เป้าหมายแบบนี้ไม่ได้ทำให้สำเร็จได้ง่ายกว่าหรือ
เห็นไหมล่ะ! แค่เปลี่ยนแนวคิด ความจริงอันแสนโหดร้ายก็จะกลายเป็นสิ่งที่แสนสุขสม!
…
…
ตลอดทั้งสัปดาห์ เผยเชียนรับพนักงาน ‘สุดยอดเยี่ยม’ มาได้เพิ่มอีก
ในหมู่พนักงานที่ว่าก็มีเปาซวี่กับหวงซื่อปั๋ว
คำนวณเร็วๆ ดู ตำแหน่งว่างทั้งสามสิบตำแหน่งก็เริ่มมีคนมาเติมเต็มอย่างรวดเร็วกว่าที่เผยเชียนคิดไว้
ตอนแรกเขาวางแผนว่าจะค่อยๆ รับสมัครทั้งสามสิบตำแหน่งไปตลอดทั้งเดือน แต่กระบวนการทั้งหมดกลับเป็นไปอย่างราบรื่นมาก
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะบริษัทเกมในเมืองจิงโจวนั้นเลวร้ายมาก
แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ยิ่งบริษัทตั้งอยู่ในที่เล็กๆ ก็ยิ่งไม่ดี
เมืองอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว มีบริษัทเกมเกลื่อนไปหมด ถ้าพนักงานไม่พอใจงานก็สามารถลาออกไปทำที่อื่นได้
ทำให้เหล่าเจ้านายไม่กล้าโขกสับพนักงานมากจนเกินไป
แต่สำหรับเมืองเล็กๆ อย่างจิงโจวนั้นแตกต่างออกไป
บริษัทเกมมีไม่มาก อีกทั้งพวกเจ้านายน่าจะรู้จักกัน มีไปพบปะดื่มสังสรรค์กันบ่อยๆ
ต่อให้มีใครไม่พอใจงานปัจจุบันแล้วอยากลาออก พวกเขาก็ต้องคิดเรื่องการหางานใหม่ให้ดีๆ
ที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้สามารถหางานใหม่ได้แน่นอน ปัญหาอยู่ที่จะได้ตอนไหนแค่นั้น
ต่อให้หาไม่ได้ก็แค่ลดมาตรฐานและเงินเดือนที่ต้องการลง แค่นั้นก็สามารถหางานดีๆ ได้ในเวลาไม่นานแล้ว
แต่ที่จิงโจวไม่ใช่แบบนั้น คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนบริษัทได้กี่ครั้งกันเชียว
อีกอย่างพวกเจ้านายก็รู้จักกัน ถ้าใครคนหนึ่งไม่พอใจ คนอื่นๆ ก็อาจไม่อยากรับเข้าทำงานด้วยเหมือนกัน
พอเป็นแบบนี้ พวกเจ้านายส่วนใหญ่ก็โขกสับพนักงานจนเละ หวงซื่อปั๋วคือตัวอย่างที่ชัดเจน
ทำให้คนส่วนใหญ่ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ
เมื่อเห็นบริษัทใหม่รับสมัครพนักงาน ต่อให้บริษัทจะดูไว้ใจไม่ได้ พวกเขาก็พร้อมลองสมัคร
แต่ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะเผยเชียนตั้งคุณสมบัติไว้ต่ำด้วย
สุดท้ายภายในสัปดาห์เดียว เขาก็เหลือตำแหน่งว่างแค่หกตำแหน่งจากทั้งหมดสามสิบตำแหน่งที่เปิดรับ
เรื่องวันเริ่มงาน เผยเชียนไม่ได้เคร่งอะไรมาก
ถ้าหาคนได้ไม่ทันและไม่สามารถเริ่มงานได้ ระบบก็ไม่น่าจะว่าอะไรได้
แต่ถ้าจ้างคนมาได้เพียงพอแล้วแต่ยังไม่เริ่มงานก็จะถือว่าผิดกฎ
ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเริ่มงานเมื่อไหร่ดี เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องรับรองแขก
“เข้ามาได้”
คนที่เคาะประตูก่อนเข้าในตอนนี้ก็น่าจะมีแค่เลขาซินกับหม่าหยาง
แล้วก็เป็นหม่าหยางที่เปิดประตูเข้ามาจริงๆ
“มาๆ ดื่มชาสักหน่อย” เผยเชียนที่นอนอย่างสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟาผายมือให้หม่าหยางดื่มชา
หม่าหยางหยิบถ้วยชาเงินขึ้นจิบอย่างระมัดระวัง เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมแสนผ่อนคลายของชาและรสชาติหวานละมุนที่หลงเหลืออยู่ในปาก ถึงชายหนุ่มจะไม่ได้รู้เรื่องชามากนัก แต่แค่จิบเดียวก็รู้ได้ว่าเป็นของแพง
นี่คือรสชาติของเงินทอง
“พี่เชียน! พี่ทำงานเก่งเกินไปแล้ว! ไม่กี่วันก็จัดการทุกอย่างได้!”
“แล้วเรื่องจ้างคนเป็นไงบ้าง” หม่าหยางถามอย่างเป็นห่วง
…………………