ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 92 คำโกหกเล็กน้อย

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ครอบครัวของเผยเชียนอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ไม่ได้ไกลจากเมืองจิงโจวมากนัก

หลังจากลงจากรถที่เช่ามา เผยเชียนก็ตรวจดูเครื่องแต่งกายตัวเองว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า

พวกสูท เข็มขัดหนัง รองเท้าหนัง และของที่เขาใส่เป็นประจำอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์หมด ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย

ยิ่งนาฬิกา Rolex เขายิ่งเอากลับมาไม่ได้เด็ดขาด

ในกระเป๋าของเขามีแค่ของใช้ในชีวิประจำวัน

โน้ตบุ๊ก Alienware ราคาหนึ่งหมื่นกว่าหยวนก็เอากลับบ้านมาด้วยไม่ได้แน่นอน เผยเชียนจึงเอาโน้ตบุ๊กที่ใช้สมัยเข้าเรียนใหม่ๆ กลับมาด้วยแทน

ไม่ใช่ว่าเผยเชียนระมัดระวังตัวมากเกินไปหรอก ประเด็นคือพ่อแม่ของเขาสายตาแหลมคมมากต่างหาก

มีใครคิดว่าจะซ่อนบางอย่างไม่ให้พ่อแม่รู้ได้ด้วยเหรอ

คนที่คิดแบบนั้นต้องเด็กและอ่อนต่อโลกมากแน่ๆ

เผยเชียนยังไม่อยากเถียงกับตาแก่เผยว่า ‘เกมส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือเปล่า’ ถ้าอีกฝ่ายรู้เรื่องเข้า

หลังจากตรวจสอบการแต่งกายและข้าวของเสร็จ เผยเชียนก็พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เขาเดินตรงไปยังอพาร์ตเม้นต์ จากนั้นก็ไขกุญแจเปิดเข้าไปข้างใน กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูกในทันใด

“กลับมาแล้วเหรอลูก” แม่ของเผยเชียนที่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัวถามขึ้นหลังจากได้ยินเสียงเปิดประตู จากนั้นก็หันกลับไปทำอาหารต่อ

“กลับมาแล้วเหรอไอ้หนุ่ม มาๆ มาชิมใบชาที่ลุงแกเอามาฝากสิ” ตาแก่เผยกำลังจัดวางชุดชาบนโต๊ะ

ช่างเป็นภาพอันแสนคุ้นเคย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย เหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิด เผยเชียนสังเกตเห็นว่ารอบนี้พ่อแม่ของเขามีผมหงอกเยอะขึ้น

“เดี๋ยวผมเอากระเป๋าไปเก็บก่อน รองเท้าแตะผมล่ะ”

“แม่เก็บไว้ให้อยู่นะ ตาแก่ ไปเอารองเท้าในตู้ให้ลูกหน่อย! ฉันยุ่งอยู่” แม่ตะโกนออกมาจากห้องครัว

ตาแก่เผยรีบลุกจากโซฟา “ตู้ไหน”

“ในห้องลูก ลิ้นชักล่างสุด!”

เผยเชียนเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้าน จัดแจงเก็บกระเป๋า จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา

นุ่มจัง!

ถึงโซฟาที่บ้านจะไม่ได้แพงมาก แต่กลับนั่งสบายกว่าโซฟาตัวละหลายหมื่นหยวนในห้องรับแขกที่บริษัท! กลิ่นอาหารฝีมือแม่ก็หอมกว่าบุฟเฟต์ราคาหัวละร้อยกว่าหยวนที่ไปกินมาตอนงานเลี้ยงอีก!

ส่วนใบชาของที่บ้าน…

พรืด รสชาติห่วยแตกชะมัด!

เผยเชียนเกือบจะสำลักออกมาหลังจากจิบชาพิเศษที่ตาแก่เผยบอกว่าลุงเตรียมมาให้

ดื่มยากมาก!

เขาจิบชาดีๆ ที่ออฟฟิศทุกวัน ลิ้นก็เลยยกระดับขึ้นไปอีกขั้นทำให้ดื่มชาปกติทั่วไปไม่ค่อยได้

“เป็นไง รสไม่เลวเลยใช่มั้ยล่ะ” ตาแก่เผยจิบชาพร้อมส่งยิ้มให้

“อืม ก็ไม่แย่” เผยเชียนแอบดันถ้วยชาออกห่างตัว ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาโอกาสให้ตาแก่เผยได้ลองชาดีๆ ดูบ้าง จะเอาของบริษัทมาก็ไม่ได้เพราะเป็นทรัพย์สินของบริษัท มีไว้รับแขกเท่านั้น ห้ามเอามาใช้ส่วนตัว

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้ยากจนเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขาใช้ความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่มีอยู่หลายหมื่นหยวนซื้อชาดีๆ ให้ตาแก่เผยได้ ยิ่งเห็นสภาพบ้านของตัวเอง เผยเชียนก็ยิ่งอยากเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้ได้อีกเยอะๆ

ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์สองห้องนอน พื้นที่ประมาณร้อยตารางเมตร อพาร์ตเม้นต์หลังนี้เพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน พ่อแม่ของเขาจึงยังต้องผ่อนหนี้บ้านอยู่

ถึงแม่จะคอยปัดกวาดเช็ดถูทุกอย่างอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ทุกอย่างก็ค่อนข้างเก่า ครอบครัวของเขาจัดเป็นชนชั้นแรงงานทั่วไป ถึงจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่พ่อแม่ของเขาก็ต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด

เผยเชียนมองทีวีที่บ้าน

“พ่อ เราเปลี่ยนทีวีกันดีมั้ย เครื่องนี้มันเล็ก”

ตาแก่เผยหรี่ตามอง “ทำไมต้องเปลี่ยน ของยังดีอยู่เลย! อีกอย่างปกติแม่แกก็ไม่ได้ดูบ่อยอยู่แล้วด้วย”

“งั้นเครื่องซักผ้าล่ะ เปลี่ยนไปใช้แบบฝาหน้ามั้ย” เผยเชียนถามอีกรอบ

ตาแก่เผยส่ายหน้า “แบบฝาหน้าเหรอ แพงจะตายชัก อีกอย่างเครื่องนี้ยังดีอยู่เลย ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่ จะเอาเครื่องเก่าไปไว้ไหน”

“พื้นห้องน้ำเราไม่ได้เรียบ เครื่องซักผ้าสั่นทีไรนึกว่าตึกจะถล่ม น่ารำคาญออกพ่อ” เผยเชียนบอก “พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง ผมจะซื้อเครื่องกับฐานรองให้เลย ตอนใช้จะได้ไม่มีเสียง”

“ฐานรองเหรอ”

“เอาไว้ใช้ปรับความสูงของเครื่องซักผ้าน่ะพ่อ ถ้าเอาเครื่องซักผ้าตั้งบนพื้นเรียบๆ มันก็จะไม่สั่นแรงๆ อีก” เผยเชียนอธิบาย

“งั้นฉันว่าเราซื้อฐานรองก็ได้ แต่ไม่ต้องใช้เงินแกหรอก เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน มีอะไรแปลกๆ”

ตาแก่เผยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “ทำไมแกคิดจะซื้อเครื่องซักผ้าด้วยเงินตัวเอง ไปหาเงินมาจากไหน”

เผยเชียนกะเอาไว้แล้วว่าตาแก่เผยต้องถามแบบนี้จึงตอบออกไป “คืองี้พ่อ ผมไปเป็นนักแสดงให้ซีรีส์เล็กๆ เรื่องหนึ่ง ผู้กำกับให้ค่าแรงมาสามหมื่นหยวน”

“เท่าไหร่นะ สามหมื่นหยวนเหรอ!” ตาแก่เผยพ่นลมออกทางปากก่อนจะพูดต่อ “แกอย่ามาโกหก! อย่างแกเนี่ยนะไปแสดงซีรีส์ แถมได้ค่าแรงอีกสามหมื่น ฉันว่าแกต่างหากที่น่าจะเอาเงินสามหมื่นไปขอออกซีรีส์!”

“พ่อ ทำไมพูดงี้อ่ะ ลูกพ่อสมควรจะได้สามหมื่นหยวนสิ” เผยเชียนตอบกลับหน้าบึ้ง

“แกอย่ามาพูด ฉันไม่เชื่อแกหรอก!” ถึงตาแก่เผยจะหน้ายิ้มแย้มแต่ก็ยังปากแข็งอยู่ “เอาคลิปมาดูก่อน!”

“คลิปเหรอ ยังไม่ได้ปล่อยเลย ผมบอกป๊าก็เพราะอยากให้รู้ว่าตอนนี้หาเงินได้เองแล้ว ไม่ต้องส่งเงินมาให้แล้วก็ได้” เผยเชียนบอก

ตาแก่เผยส่ายหน้า “พวกฉันจะยังส่งเงินให้แกเหมือนเดิม หาเงินได้มันก็ดี แต่อย่าให้เรื่องเงินมากดดันตัวเองมาก เรื่องเรียนสำคัญที่สุด เข้าใจไหม”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ แม่ก็ตะโกนออกมาจากในห้องครัว “กินข้าว!”

เผยเชียนกับตาแก่เผยรีบไปล้างมือแล้วยกอาหารมาวางบนโต๊ะ

ปกติแล้วเผยเชียนไม่ค่อยดื่มบนโต๊ะอาหาร แต่วันนี้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เขากระดกไป๋จิ่ว[1]ไปสองแก้วแกล้มกับเก๋ากี้ แถมยังดื่มมากกว่าปกติด้วย

ยังไงบ้านก็คือที่ที่ดีที่สุด!

ตาแก่เผยดื่มหนักกว่าปกติเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มสอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้บอสเผยฟัง แถมยังโม้ให้แม่ของเผยเชียนฟังว่าลูกได้ถ่ายซีรีส์ด้วย ซึ่งน่าจะมาจากพันธุกรรมอันสุดยอดของเขาแน่ แม่กลอกตาใส่ก่อนจะพูดขึ้นว่าวันนี้ต้องมีใครสักคนได้ล้างจานให้แน่

กินข้าวเสร็จก็เกือบสามทุ่มแล้ว เผยเชียนอยากล้างจานให้ แต่ก็โดนตาแก่เผยไล่กลับเข้าห้อง อ้างว่าเดินทางมาเหนื่อย ไปพักผ่อนเถอะ

งานบ้านไว้ทำพรุ่งนี้ก็ไม่สาย

เผยเชียนไม่ได้เถียงอะไร จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องไปเล่นอินเทอร์เน็ต

เขามั่นใจว่าตัวเองไม่สามารถปิดเรื่องบริษัทกับพ่อแม่ไปได้ตลอด ไม่ช้าก็เร็ว ความต้องแตกแน่

ก่อนจะเป็นอย่างนั้น เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม

เผยเชียนมีความมั่งคั่งส่วนบุคคลอยู่ห้าหมื่นกว่าหยวน ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ให้ครอบครัวไม่ใช่เรื่องเกินกำลังอะไร แต่เขาต้องอธิบายให้ได้ว่าได้เงินมาจากไหน

ถ้าบอกว่าหาเงินได้จากเกม ตาแก่เผยได้เปิดศึกกับเขาแน่ เผยเชียนคิดเรื่องนี้แล้วตัดสินใจบอกตาแก่เผยให้รู้ว่ามีซีรีส์เป็นแหล่งรายได้ เขาอยากให้ตาแก่เผยรู้ว่าตอนนี้เขาสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองแล้ว ตาแก่จะได้ไม่ต้องมาคอยจี้ถามว่าเอาเงินมาจากไหน

หลังจากนั้นเผยเชียนจะค่อยๆ พยายามเปลี่ยนความคิดตาแก่…ให้เลิกมีอคติกับเกม เสร็จแล้วเขาค่อยบอกความจริงกับตาแก่ว่าตอนนี้มีบริษัทเกมเป็นของตัวเอง

หลังจากท่องเน็ตไปได้สักพัก เผยเชียนก็รู้สึกหนักตา เขาเดินไปล้างหน้าแล้วหลับไปตั้งแต่ยังไม่ดึกมาก

………………………………..

[1] เหล้าขาวของจีน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท