ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 102 เปิดให้บริการเงียบๆ

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

หม่าหยางเกาหัว “ระบบระบายอากาศเหรอ คืออะไรอ่ะพี่”

“ไปเสิร์ชในเชียนตู้” เผยเชียนไม่มีเวลามาอธิบายเรื่องแบบนี้ เขาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วกดดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเล

ระบบระบายอากาศเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ประมาณปี 2000 ยุโรปก็ตั้งข้อมูลจำเพาะของระบบขึ้นมาแล้ว ระบบที่ว่าค่อยๆ เริ่มใช้งานในครัวเรือนและในบริษัทต่างๆ ก่อนจะขยายไปใช้งานในวงกว้าง

ในประเทศจีน ระบบระบายอากาศและเครื่องฟอกอากาศเริ่มมีกระแสขึ้นมาหลังวิกฤติปัญหาหมอกควัน ผู้คนเริ่มรู้จักทั้งสองสิ่งนี้มากขึ้นในปี 2014

ระบบระบายอากาศในช่วงปีนี้ผลิตโดยบริษัทต่างประเทศ ราคาจึงแพงหูฉี่

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแย่อะไร กลับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ!

พอดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จ เผยเชียนก็ลองเล่นดู

คอมพิวเตอร์เครื่องนี้สเป็กสูงมาก เล่นเกมได้ลื่นไหลดีเยี่ยม!

เขาปรับการตั้งค่าทุกอย่างไปที่ระดับสูงสุดหลังจากเข้าเกม เพื่อจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!

คอมพิวเตอร์เครื่องนี้มีข้อดีมากมาย ไม่มีข้อเสียเลย

ถ้าเล่นเกมแพ้ขึ้นมา จะโทษว่าคอมพิวเตอร์ไม่ดีก็ไม่ได้!

พวกข้อแก้ตัวอย่างเมาส์กระตุก แป้นพิมพ์ไม่ตอบสนอง คอมพิวเตอร์ค้าง จอกะพริบ หรือหูฟังไม่ทำงาน…

เอามาใช้ไม่ได้เลยสักอย่าง

ถ้าเล่นเกมห่วยเองคงโทษคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่ได้ ต้องโทษฝีมือการเล่นอันกากแสนกากของตัวเอง!

สำหรับบางคนแล้ว นี่อาจเป็นข้อเสียก็ได้

เผยเชียนเล่นโหมด PvP และแพ้ราบคาบไปสองเกม

จากนั้นก็หนีไปเล่นโหมดไบโอเคมิเคิลอีกสองเกม ซึ่งก็แพ้ราบคาบเช่นเคย

เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นโหมดเนื้อเรื่อง

“คนหัวดีอย่างฉันเล่นเกมที่ต้องพึ่งความเร็วของการตอบสนองอย่างเดียวไม่ได้หรอก โหมดเนื้อเรื่องสิสนุกสุด”

เผยเชียนเล่นโหมดเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ในใจรู้สึกท่วมท้น

ฉันสร้างเกมนี้ขึ้นมาจริงๆ เหรอ

สงสัยจริงว่าหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ผ่านอะไรกันมาบ้าง

เผยเชียนเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ จนจางหยวนเดินถือค็อกเทลมาเสิร์ฟ

ขนาดแก้วไม่ได้ใหญ่ แต่ของเหลวข้างในส่องแสงเป็นประกาย ด้านล่างสุดสีแดงเข้ม ส่วนด้านบนเป็นสีแดงลูกแอปเปิ้ล ทั้งสองสีโปร่งใส ตรงกลางที่สองสีมาบรรจบเกิดการผสมกันของสี เห็นแล้วดูเท่ไม่หยอก

ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือช่างน่าพิศวงจริง!

หลังจากลองจิบดูก็พบว่ารสชาติก็พิเศษไม่แพ้กัน เป็นรสชาติที่ยากจะอธิบายแต่ก็ยากที่จะลืมได้

“แก้วนี้ชื่ออะไร” เผยเชียนถาม

จางหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “บอสเผยครับ นี่คือค็อกเทลแสงเหนือ ปกติจะเรืองแสงในที่มืด แต่สูตรนี้ปรับเล็กน้อยทำให้สีสันเป็นธรรมชาติมากขึ้น”

“ไม่เลวเลยนี่ ราคาเท่าไหร่เหรอ” เผยเชียนถาม

จางหยวนตอบ “แก้วละห้าสิบหยวนครับ”

เขากลัวว่าเผยเชียนจะคิดว่าราคาแพงไปเลยรีบอธิบายเพิ่ม “แก้วนี้ใส่กราปป้าเข้าไปด้วยครับ ขวดขนาดเจ็ดร้อยมิลลิลิตรก็สี่ร้อยหยวนแล้ว แก้วนี้ใส่ไปตั้งสามสิบมิลลิลิตร”

“มีแบบที่ถูกกว่านี้ด้วยครับ แต่จะไม่ผสมกราปป้า”

“อ๋อ” เผยเชียนพยักหน้าตอบ “แล้วแก้วถูกสุดในเมนูราคาเท่าไหร่”

จางหยวนนึกอยู่ครู่หนึ่ง “ถูกที่สุด…ยี่สิบห้าหยวนครับ เครื่องดื่มส่วนใหญ่ในบาร์ขายราคาประมาณนี้”

ไม่ได้ถือว่าถูกเลยในปี 2010

ราคาค็อกเทลหนึ่งแก้วก็เท่ากับค่าอาหารสองมื้อของนักศึกษาส่วนใหญ่แล้ว

อีกอย่างกลุ่มลูกค้าที่จะมาใช้งานร้านอินเทอร์เน็ตก็เป็นคนละกลุ่มกับที่จะมาเที่ยวบาร์

“บอสเผยคิดว่าไงครับ ราคาโอเคหรือเปล่า ถ้าคิดว่าแพงไป เราลดราคาลงได้นะครับ”

ลดเหรอ

หรือจะเพิ่ม

ถ้าลดราคาลงก็จะได้เงินจากการขายเครื่องดื่มต่อแก้วน้อยลง แต่ถ้าคนไปบอกต่อกันว่าเครื่องดื่มร้านนี้ราคาถูกแล้วคนแห่มากินจะทำอย่างไร

ไม่ใช่จะกลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้น้อยแต่คืนทุนได้ไวเหรอ

เขาลดราคาลงไม่ได้!

ถึงตอนนี้ราคาเครื่องดื่มที่ตั้งไว้จะไม่ได้ถูก แต่หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็คิดว่ายังเพิ่มราคาขึ้นไปอีกได้!

เผยเชียนตัดสินใจ “เพิ่มราคาแก้วละสิบหยวน ลูกค้าของเราเป็นลูกค้าระดับสูง ถ้าตั้งราคาไว้ต่ำเกินไปจะเหมือนไปดูถูกพวกเขา!”

“หา” จางหยวนอึ้งไป

“เอาตามนี้ เราจะเพิ่มราคาเครื่องดื่มทุกอย่างไปอีกสิบหยวน” เผยเชียนจิบค็อกเทลอย่างสุขใจพลางกลับไปสนใจเกมต่อ

เป็นเรื่องปกติที่จางหยวนจะไม่ถามอะไรเพิ่มแล้วหันกลับไปทำงานต่อ

เผยเชียนเล่นเกมต่อด้วยความพึงพอใจ

ไม่ใช่บรรยากาศที่ทำให้เขารู้สึกพอใจ แต่เป็นเพราะราคาต่างหาก!

ตามที่คำนวณดู เล่นเกมที่นี่สองชั่วโมงกับสั่งค็อกเทลหนึ่งแก้วจะเสียเงินรวมทั้งหมดแปดสิบหยวน

ราคานี้ไปเล่นร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้ทั้งสัปดาห์!

ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องหนีไปร้านอื่นที่ถูกกว่าทันที

เผยเชียนรู้ว่าร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงแบบนี้จะเป็นที่นิยมในอีกหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า

แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ขอแค่ตอนนี้ยังไม่เป็นที่นิยมก็พอ

อีกอย่างหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า ราคาค็อกเทลก็ไม่น่าจะอยู่ที่แก้วละหกสิบหยวน!

ต้องขาดทุนแน่! ต้องขาดทุนไปอีกสี่ถึงห้าปี

ยอดเยี่ยมจริงๆ!

เผยเชียนลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะกลับออกไป

ตอนนั้นเองหม่าหยางก็เดินเข้ามาถาม “พี่เชียน เราวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านวันมะรืน พี่ว่าเราควรจัดงานฉลองเปิดร้านหรือทำแคมเปญพิเศษมั้ย ผมคิดไว้ว่าสามวันแรกจะลดราคาชั่วโมงเล่นเกมกับเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่ง พี่ว่าให้ส่วนลดประมาณนี้พอมั้ย”

ลดราคาชั่วโมงเล่นเกมลงครึ่งหนึ่งเหรอ

ลดราคาเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่งด้วย

โนๆๆๆ ไม่ได้เด็ดขาด!

ขืนทำแบบนั้น ไม่นานร้านได้ดังเป็นพลุแตกแน่ เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง

เผยเชียนส่ายหน้ารัว “ไม่ได้ ไร้รสนิยม! ร้านเราเป็นร้านระดับสูง เข้าใจรึเปล่า

“เราจะเปิดให้บริการตามปกติ ไม่ใช้วิธีดึงดูดลูกค้าแบบนั้น เหล้าดีไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม ร้านเราบรรยากาศขั้นเทพแบบนี้ยังจะกลัวลูกค้าไม่เข้ากันอีกเหรอ

“ทำไมต้องลดราคากับทำอะไรใหญ่โตด้วย อย่าทำให้ร้านเราเป็นเหมือนตลาดสดสิ!”

“โอเคครับ ไม่ทำก็ได้…” หม่าหยางไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเท่าไหร่ แต่ก็รู้ดีว่าถ้าทำตามที่เผยเชียนพูดก็ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน

เผยเชียนเดินออกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูด้วยความพึงพอใจ เขาพร้อมสำหรับวันเปิดให้บริการของร้านนี้แล้ว

ถ้าได้เห็นว่าไม่มีลูกค้าเลยตอนเปิดให้บริการ เขาก็จะได้โล่งใจจริงๆ เสียที!

วันที่ 9 มีนาคม…

วันเปิดให้บริการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู!

ไม่มีแคมเปญเปิดตัว ไม่มีดอกไม้ ไม่มีประทัด ไม่มีป้าย ไม่มีอะไรทั้งนั้น!

ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ

หน้าร้านไม่มีตัวอักษรจีนอะไร มีแค่โลโก้ขนาดใหญ่ ร้านดูดีมีระดับจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยประกาศให้คนอื่นรู้ว่าด้านในมีอินเทอร์เน็ตให้บริการ

โชคยังดีที่ร้านเป็นตึกผนังกระจกสองชั้น ทำให้ช่วงกลางวันสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นโซนคาเฟ่และโซนสำหรับเล่นเกม

ถึงกระนั้นทุกอย่างก็เงียบเชียบเกินไป

จางหยวนรอแสดงฝีมือชงเหล้าอันน่าตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าดูอยู่ที่บาร์

รอไปได้ครึ่งวันก็เห็นแค่คนเดินผ่านหน้าร้าน อย่างมากก็มีแค่คนมองเข้ามาอย่างสงสัย แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาเลยสักคน

ลมหนาวด้านนอกร้านทำหน้าที่ไล่ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม

เผยเชียนนั่งจิบกาแฟดูร้านอันว่างเปล่าอยู่ที่โซนคาเฟ่ มุมปากค่อยๆ ผุดยิ้ม แต่เขาก็พยายามอดกลั้นไว้อย่างสุดกำลัง

หม่าหยางไม่ได้ใจเย็นเหมือนปกติ เขาเริ่มกระสับกระส่าย “พี่เชียน อย่างน้อยควรให้พวกเขาออกไปแจกใบปลิวดีไหม…”

‘พวกเขา’ ที่ว่าคือเหล่าผู้จัดการที่จ้างมา

จริงๆ ก็เป็นผู้จัดการแค่ชื่อ แต่หน้าที่ที่ต้องทำกว้างมาก พวกเขาต้องคอยบริการเสิร์ฟน้ำและชาให้ลูกค้า

ก่อนหน้านี้เผยเชียนปฏิเสธแผนโปรโมตวันเปิดร้านของหม่าหยางทิ้งหมด

เขาให้เหตุผลไปว่าต้องรู้จักอดทน!

ร้านเราดูดีอยู่แล้ว ถ้าเราปล่อยแคมเปญเปิดตัวหรือเสนอโปรโมชันเหมือนธุรกิจบังเทิงอื่นๆ ก็ไร้ความหมายสิ!

สุดท้ายวันเปิดร้านก็เงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครสนใจเลยสักคน

เผยเชียนจิบชาอย่างไม่ใส่ใจ “ทำไมต้องแจกใบปลิวด้วย ไม่เห็นจะมีระดับเลย เราต้องให้ลูกค้าบังเอิญเข้าร้านมาเองจะได้เซอร์ไพร์สกัน!”

“ให้ลูกค้าบังเอิญเข้ามาเองเหรอพี่…”

หม่าหยางรู้สึกว่าวิธีนี้ดูจะแปลกๆ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องเถียงอย่างไรดี

…………………………….

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท