ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 156 ความอับอายของเถิงต๋า!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

วันที่ 21 พฤษภาคม

เผยเชียนได้รายงานผลประกอบการจากเยว่จือโจว ฉางหยางเกมส์ยังคงขาดทุนอยู่ ไม่เห็นแววพลิกกลับมาทำกำไรได้

ในรายงาน เยว่จือโจวระบุว่าผู้เล่นในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังแจกแจงยอดซื้อไอเทมในเกมมาอย่างละเอียด เห็นได้ชัดว่าเขามองจุดนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ความสำเร็จของตนเอง จึงรายงานตัวเลขพวกนี้มาให้บอสเผยทราบ

แน่นอนว่าที่เกิดผลลัพธ์แบบนี้ขึ้นได้เป็นเพราะแนวทางจากบอสเผย

เผยเชียนไม่ได้สนใจรายละเอียดที่ว่ามาสักนิด ชายหนุ่มสนแค่ยอดรายได้รวม

อืม ไม่กระเตื้องขึ้นเลย!

เผยเชียนคิดเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จึงตอบกลับไป “ทำได้ดี รักษาสภาพนี้ไว้”

เยว่จือโจวกลับไปทำงานอย่างชื่นบาน

เผยเชียนพอใจกับสภาพปัจจุบันของฉางหยางเกมส์มาก ชื่อเสียงของบริษัทจะดีหรือแย่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่รายได้ไม่กระเตื้องขึ้นก็ถือเป็นที่น่าพอใจแล้ว

เยว่จือโจวคิดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของบอสเผย

แน่นอนว่าก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เผยเชียนกำลังทำอยู่กับสิ่งที่เยว่จือโจวคิดว่าบอสเผยกำลังทำอยู่นั้นเป็นหนังคนละม้วนกันเลย

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เผยเชียนหันมองแล้วพบว่าเป็นหวงซื่อปั๋ว

“หืม แปลกจริง”

ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันนาน ความหงุดหงิดใจที่เผยเชียนมีต่อหวงซื่อปั๋วนั้นจางหายไปได้สักพักแล้ว

พอมาคิดดูอีกที เฟยหวงสตูดิโอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังสักเท่าไหร่!

ถึงจะทำรายได้ได้สองล้านหยวน แต่พอแบ่งกำไรแล้ว ยอดจริงๆ ที่เถิงต๋าได้อยู่ที่สี่แสนหยวนกว่าๆ แถมเงินค่าแรงที่ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อให้มาก็ช่วยให้เผยเชียนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านได้

ดังนั้นเผยเชียนจึงหายโกรธไปนานแล้ว

หวงซื่อปั๋วเดินถือกระเช้าผลไม้เข้าห้องทำงาน “ผมผ่านมาแถวออฟฟิศพอดี เลยตั้งใจจะมาลาบอสเผยน่ะครับ”

“อ้าว มาลาเหรอ” เผยเชียนอึ้งไป “คุณจะไปไหน”

หวงซื่อปั๋วยิ้ม “เราบอกไปสักพักแล้วนี่ครับว่าเฟยหวงสตูดิโอจะเริ่มถ่ายทำสารคดี ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับผม รวมถึงพนักงานบางส่วนจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ พวกเราจะไปถ่ายทำกันที่นู่น ผมอาจจะต้องอยู่นั่นจนถึงเดือนหน้า

“ก็เลยตัดสินใจจะมาลาบอสก่อนเดินทางครับ”

ไปเซี่ยงไฮ้เหรอ

เผยเชียนพยักหน้า “อืม เซี่ยงไฮ้นี่ดีเลย”

เขารู้ดีว่าการไปเซี่ยงไฮ้ต้องเสียเงินก้อนโตแน่!

ถ้าไม่รวมคนตัดต่อ เฟยหวงสตูดิโอมีพนักงานประมาณห้าถึงหกคน ถ้าพนักงานกลุ่มนี้ไปเซี่ยงไฮ้กันหมด ราคาตั๋วรถไฟไปกลับ รวมถึงค่าที่พักและค่าต่างๆ คงไม่ใช่ถูกๆ

เผยเชียนไม่ได้ให้ทุนเฟยหวงสตูดิโอเพิ่มอีก ครั้งนี้รายจ่ายทั้งหมดจะใช้กำไรที่ได้จากซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยทุนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านหยวน และเงินส่วนนี้จะต้องแบ่งไปใช้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ด้วย

พวกเขาใช้กล้อง DSLR ตัวที่ใช้ถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ แต่การถ่ายสารคดีนั้นแตกต่างออกไป พวกเขาต้องใช้อุปกรณ์หลายๆ อย่างในการถ่ายทำสารคดี ไม่อย่างนั้นงานจะออกมาดูไม่มืออาชีพ

คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร จริงๆ แอบรู้สึกสนใจเสียด้วยซ้ำ

ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วว่าโปรเจ็กต์ใหม่ของหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจะทำเงินได้ แต่เขาก็อดถามคำถามขึ้นมาไม่ได้

ไม่ว่าจะมากหรือน้อย กำไรก็คือกำไร แต่จำนวนก็ยังแตกต่างกันมากอยู่ดี

ถ้าทำกำไรได้น้อย ก็ยังพอเอาโปรเจ็กต์อื่นมาถัวเฉลี่ยได้ แต่ถ้าทำกำไรได้มาก เขาก็จะเสียผลประโยชน์

“อืม ระวังตัวกันด้วยล่ะ” เผยเชียนทำทีเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากตอนที่ถามออกไป “พวกคุณจำเป็นต้องไปที่เซี่ยงไฮ้เพื่อถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยเหรอ”

หวงซื่อปั๋วยิ้มเจื่อนๆ “บอสเผย ผมบอกความจริงเลยแล้วกัน อย่าโกรธผมนะ โปรเจ็กต์นี้มีโอกาสทำให้เงินที่เราหามาอย่างยากลำบากหายวับไปจนหมดเลยครับ”

หา

เสียเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปจนหมดเหรอ

เผยเชียนดีดตัวนั่งหลังตรงทันที

พูดเรื่องนี้ขึ้นมาปุ๊บ หายเบื่อเลยอะ!

“เอ้า จิบชาก่อนสิ” เผยเชียนรีบรินชาใส่ถ้วยแล้วส่งให้หวงซื่อปั๋ว ท่าทีที่มีต่ออีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

หวงซื่อปั๋วไม่ได้สังเกตถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเผยเชียน เขารับชามาจิบแล้วอธิบายโปรเจ็กต์ล่าสุดของเฟยหวงสตูดิโอให้ฟังคร่าวๆ

“บอสเผยครับ คำพูดของบอสกินใจผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับผมมาก เราตัดสินใจว่าจะเลิกทำคลิปสั้นแล้วหันไปถ่ายทำสิ่งที่มีความหมายมากกว่านี้

“เราระดมความคิดกันยกใหญ่ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรขาดหายไป

“บางหัวข้อเป็นหัวข้อที่เราคิดว่าถนัด บางหัวข้อเราคิดว่าน่าจะทำกำไรได้ แต่ก็ไม่มีหัวข้อไหนที่ตรงใจเราสักหัวข้อ

“ในที่สุดเราก็เจอหัวข้อที่ตรงใจพวกเรา เราจะทำสารคดีเกี่ยวกับนักกีฬาอีสปอร์ตกันครับ!”

เผยเชียนรู้สึกสนใจมากๆ “สารคดีเกี่ยวกับนักกีฬาอีสปอร์ตเหรอ”

หวงซื่อปั๋วไม่ได้โกหก หัวข้อนี้น่าจะทำให้พวกเขาสูญเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปหมดจริงๆ!

ปีนี้ปีอะไร 2010!

นักกีฬาอีสปอร์ตยุคนี้เป็นพวกไร้บ้าน ต้องนอนข้างถนน ดื่มน้ำก๊อกข้างทาง กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ไม่เหมือนสิบปีให้หลังที่นักกีฬาพวกนี้ได้นั่งจิบไวน์ มีนางแบบสาวอยู่ข้างกาย ขับรถเฟอร์รารี่ ทำเงินได้หลักสิบล้านต่อปี

อุตสาหกรรมนี้ยังมีเงินทุนไหลเวียนไม่มากนัก เกมถูกมองว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ไม่ว่าจะเล่นจริงจังเป็นอาชีพหรือเล่นเอาสนุกเฉยๆ ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน ใครก็ตามที่เล่นเกมจะถูกมองว่ามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ไม่ควรทำ

ถ้าจะถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับผู้เล่นอีสปอร์ตก็พอทำได้ พอหาคนได้ แต่จะทำเงินได้ไหมก็เป็นอีกเรื่อง

ที่ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยทำเงินได้ก็เพราะเว็บอ้ายลี่เต่าบังเอิญกำลังหาคอนเทนต์พรีเมี่ยมไปลงเว็บอยู่พอดี พวกเขาเลยจับพลัดจับผลูได้เซ็นสัญญาที่ได้ส่วนแบ่งในอัตราพิเศษ

คลิปสั้นสามารถลงได้หลายตอน ทำให้ดึงคนเข้าเว็บได้เรื่อยๆ แถมอีกฝ่ายยังขอซื้อมาฉายเฉพาะที่เว็บของตัวเองแค่เว็บเดียว ด้วยชื่อเสียงของซีรีส์ที่สั่งสมมาทำให้สามารถต่อรองผลประโยชน์กับทางเว็บไซต์ได้

แต่สารคดีนั้นไม่เหมือนกัน

อย่างแรกคือ ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจ

อย่างที่สองคือ ไม่สามารถลงตอนใหม่ๆ ได้ ดึงคนเข้าเว็บได้ไม่ต่อเนื่อง เป็นเรื่องธรรมดาที่เว็บไซต์ให้บริการวิดีโอจะไม่สนใจขอซื้อลิขสิทธิ์เผยแพร่ อย่างมากก็อาจจะพอต่อรองขอผลประโยชน์ขั้นต่ำที่ยี่สิบถึงสามสิบหยวนต่อหนึ่งหมื่นวิวได้

อย่างที่สามคือ รับโฆษณาไม่ได้ หมายความว่าไม่สามารถขอสปอนเซอร์ได้

สารคดีเป็นสิ่งที่จริงจังมาก เพราะเป็นเรื่องจริงจึงเป็นงานที่มีความหมาย พวกเขาจะสัมภาษณ์นักกีฬาอีสปอร์ตครึ่งหนึ่งแล้วตัดเข้าโฆษณา “อยากชนะมั้ย นั่งเก้าอี้เอ๋าเฟิงสิ” ไม่ได้

พูดได้ว่าสารคดีส่วนใหญ่ทำกำไรไม่ได้เลย มีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำได้

อย่าง A Bite of China

ตอนที่เผยเชียนได้ยินว่าหวงซื่อปั๋วสนใจอยากทำสารคดี เขาก็นึกกังวลว่าจะทำสารคดีแบบ A Bite of China ขึ้นมาหรือเปล่า แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าไม่น่าเป็นแบบนั้นได้

ซึ่งก็สมเหตุสมผล ถึงจูเสี่ยวเช่อมีความสามารถมาก แต่เขาก็ไม่ได้เดินทางมาจากอนาคต

สร้างอะไรให้ดังเป็นพลุแตกได้ครั้งหนึ่งถือว่ามีความสามารถ

แต่ถ้าทำได้หลายครั้งคือโกง

พอคิดถึงจุดนี้เผยเชียนก็รู้สึกโล่งอก

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องแผนการถ่ายทำสารคดีของพวกเขาแล้ว ขอแค่ลงทุนไปมากแต่ได้ผลตอบแทนกลับมานิดเดียว เผยเชียนก็ถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีแล้ว

สีหน้าของเผยเชียนดูอบอุ่นขึ้น “เสียเงินที่หามาไปจนหมดเหรอ ไม่ใช่ปัญหา มีทุนจากผมสนับสนุน พวกคุณอยากทำอะไรก็ทำเลย!

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา จะมามัวนั่งกลัวไม่กล้าทำไม่ได้!”

หวงซื่อปั๋วจิบชา รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า “กะแล้วว่าบอสเผยต้องสนับสนุนเรา!

“ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย เรารู้ว่ารอบนี้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เลยตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟสีเขียวไปเซี่ยงไฮ้ เราจะพยายามประหยัดงบค่าที่พักกับค่าอาหารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้…”

หวงซื่อปั๋วยังพูดไม่ทันจบ เผยเชียนก็หน้าคร่ำเครียดขึ้นมา

“หมายความว่ายังไง”

หวงซื่อปั๋วนิ่งไป เขาแทบไม่เคยเห็นบอสเผยโกรธ จึงตอบออกไปอย่างตะกุกตะกัก “เปล่าครับ เราพยายามคุมค่าใช้จ่ายกันเฉยๆ”

เผยเชียนมองหวงซื่อปั๋วอย่างผิดหวัง “คุมค่าใช้จ่ายเหรอ หวงซื่อปั๋ว อย่าลืมตัวตนของคุณสิ!”

หวงซื่อปั๋วอึ้งไป ถ้วยชาในมือสั่น

แทบไม่เคยเห็นบอสเผยโมโหแบบนี้ นี่ฉันพูดอะไรผิดเหรอ

เผยเชียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของเถิงต๋า คุณและพนักงานทั้งหมดในเฟยหวงสตูดิโอคือพนักงานของเถิงต๋า! คุณวางแผนจะให้พวกเขาขึ้นรถไฟสีเขียว ให้พวกเขาประหยัดค่าที่พักกับค่าอาหาร ถ้าพวกเขาไปกินอะไรผิดสำแดงขึ้นมาจะทำยังไง

“ถึงพวกเขาจะสุขภาพแข็งแรง ท้องไส้รับอาหารพวกนั้นได้ไหว แต่ร่างกายพวกเขาน่าจะเหนื่อยจากการเดินทาง ถ้าไม่ได้กินดีอยู่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน กระทบไปถึงการถ่ายทำ ถ้าโปรเจ็กต์ไม่ราบรื่นแล้วงานออกมาแย่ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ”

หวงซื่อปั๋วรู้สึกได้ว่าตัวเองมือสั่น “ก็…ก็คงเป็นผม

“เปล่า ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่…” หวงซื่อปั๋วเข้าใจที่เผยเชียนจะสื่อ “บอสเผย ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมแค่พยายามจะลดค่าใช้จ่ายเฉยๆ ไม่ได้จะใช้งานพวกเขาเยี่ยงทาส ผมจะดูแลสุขภาพของพนักงานเป็นอย่างดี…”

เผยเชียนยังคงผิดหวังในตัวหวงซื่อปั๋ว “คุณคือความอับอายของเถิงต๋า! นี่คุณคิดอะไรอยู่เนี่ย”

หวงซื่อปั๋วพูดอะไรไม่ออก

เผยเชียนพูดต่ออย่างจริงจัง “ฟังผมนะ ขึ้นเครื่องบินแทน เวลาคือเงินเข้าใจมั้ย พอไปถึงก็ดูแลเรื่องอาหารกับที่พักตามมาตรฐานการเดินทางทั่วไป ถ้าไม่รู้ว่ามาตรฐานคืออะไรให้ไปถามเลขาซิน

“พอถึงเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ต้องลนหรือกังวลอะไร ถ้าถ่ายไม่เสร็จก็ขยายเวลาถ่ายทำออกไป ค่อยๆ ถ่าย ขอแค่เสร็จก่อนวันที่ 18 มิถุนาก็พอแล้ว

“ถ้าขยายเวลาถ่ายทำออกไป อย่างมากก็มีแค่ค่าที่พักที่เพิ่มขึ้น จะใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว ถ้าเงินไม่พอก็ค่อยขอผมเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย

“จำไว้ว่าเฟยหวงสตูดิโอมีเถิงต๋าหนุนหลังอยู่ ถ้าเจอปัญหาอะไรก็แค่บอก!”

หวงซื่อปั๋วรีบพยักหน้า “ได้ครับ บอสเผย ผมจะทำตามที่บอสบอก”

เผยเชียนพยักหน้า สีหน้าดูผ่อนคลายลง เขาพูดต่ออย่างจริงจัง “คุณเองก็เป็นพนักงานของเถิงต๋า อย่าให้ผมต้องมากังวลเรื่องเล็กน้อยแบบนี้

“นี่ถึงขนาดคิดจะขึ้นรถไฟสีเขียวไปเซี่ยงไฮ้เลยเหรอ เถิงต๋าไม่มีทางทนพนักงานที่น่าอับอายอย่างคุณ!”

หวงซื่อปั๋วหน้าแดง เขารู้สึกอับอายไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ “ครับ บอสเผยพูดถูก ต่อไปเฟยหวงสตูดิโอจะเดินตามเถิงต๋าทุกฝีเก้า เราจะทำทุกอย่างตามมาตรฐานของเถิงต๋า”

เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม ต้องแบบนั้น จำไว้ว่าถ้าเจอปัญหาอะไรให้แจ้งผมทันที!”

เขาเพิ่งจะรู้สึกพอใจหลังจากสั่งย้ำแบบนี้อยู่หลายรอบ

เจ้าหวงซื่อปั๋ว แกเพิ่งจะเจอโปรเจ็กต์สูญเงินมหาศาล กล้าดียังไงมาลดค่าใช้จ่าย!

ย้ำมาตั้งหลายรอบแต่ก็ยังตระหนี่กันอยู่เหมือนเดิม แกก็เคยเป็นพนักงานของเถิงต๋านี่!

เรื่องนี้ทำเผยเชียนเหนื่อยหน่ายสุดๆ

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท