ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 169 มีไส้ศึก!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

“คุณ…ต่อราคามาเหรอ” เผยเชียนถาม

เลขาซินยิ้ม “ดิฉันก็อยากทำอย่างนั้นนะคะบอสเผย แต่สุดท้ายดิฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ผู้จัดการจางก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเอง”

เผยเชียนรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

ก็น่าจะจริงแหละ ถึงเลขาซินจะเก่งแค่ไหนก็ไม่น่าจะขอลดราคาได้ขนาดนี้

เรื่องนี้ไม่น่าง่ายขนาดนั้น!

ผู้จัดการจางเป็นแค่ผู้จัดการตึก ไปได้รับอำนาจมาจากไหน ทำไมถึงลดค่าเช่ากับไม่เก็บค่ามัดจำได้

ถ้าราคามาตรฐานคือสี่หยวน ลดเหลือ 3.5 หยวนน่าจะพอรับได้ สามหยวนถือว่าใจดีมากแล้ว แต่นี่กลับลดให้เหลือ 1.5 หยวนต่อตารางเมตรเลยเหรอ

อย่ามาล้อกันเล่นนะ

พริบตาเดียวก็ประหยัดไปหลายแสนต่อเดือน ถ้าผู้จัดการจางมีอำนาจขนาดนี้ก็ไม่น่าจะได้เป็นแค่ผู้จัดการตึกสิ

ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ๆ!

ถ้าเป็นคนอื่นคงจะดีใจกับข้อเสนอนี้

แต่เผยเชียนไม่ดีใจเลย

ถ้าลดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นอะไรมาก เขายังพอหาทางจัดการได้ก่อนถึงวันปิดบัญชี แต่นี่ลดไปเยอะเลยทีเดียว ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ซ่อนเร้นอยู่!

ครั้งนี้ลดค่าเช่า ครั้งต่อไปจะลดอะไรให้อีก

อาจจะมีเรื่องเลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นก็ได้!

ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะหาคนร้าย ถ้ารู้ว่าศัตรูคือใครก็จะสามารถจัดการกับปัญหา เพื่อที่จะได้ตัดตัวแปรที่ไม่แน่นอนออกไปจากการคำนวณแผนขาดทุนรอบหน้า ไม่อย่างนั้นเขาอาจต้องทุกข์ระทมหนักถ้าก้าวพลาดไปแม้แต่ก้าวเดียว

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พาผมไปหาผู้จัดการจางที”

เลขาซินพยักหน้า “ได้ค่ะ ดิฉันก็คิดว่าบอสเผยควรไปพบผู้จัดการจาง”

เลขาซินเองก็น่าจะคิดว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ ควรจะตรวจสอบดู คนเก่งนี่คิดเหมือนกันจริงๆ!

เผยเชียนดีใจที่เธอคิดเหมือนกัน

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผู้ช่วยฝ่ายจัดการยื่นกระเช้าผลไม้ให้เลขาซิน

เผยเชียน “?”

เลขาซินอธิบาย “ผู้จัดการจางอุตส่าห์ใจดีช่วยลดราคาให้เราตั้งเยอะ ดิฉันคิดว่าบอสเผยควรจะไปขอบคุณผู้จัดการจางด้วยตัวเองเลยให้คนเตรียมกระเช้าผลไม้ไว้ค่ะ”

เผยเชียน “???”

นี่คิดว่าฉันอยากไปหาผู้จัดการจางเพราะเรื่องนี้เหรอ

ใครจะอยากไปขอบคุณกัน!

แต่เห็นเลขาซินถือกระเช้าผลไม้รอ เผยเชียนก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ลุกยืนขึ้น “ไปกันเถอะ”

ทั้งสองตรงไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการจาง

ประตูห้องเปิดแง้มไว้ ผู้จัดการจางกำลังง่วนอยู่กับงาน

เผยเชียนกำลังจะเคาะประตูเรียก แต่ผู้จัดการจางก็หันมาเห็นพอดีจึงรีบลุกยืนต้อนรับ “บอสเผย! ลมอะไรหอบมาครับเนี่ย เชิญเข้ามานั่งก่อนครับ!”

ชายหนุ่มผงะไปเล็กน้อย

มีเรื่องอะไรจริงๆ ด้วย!

ครั้งก่อนผู้จัดการจางไม่ได้มีท่าทีแบบนี้

ถึงตอนนั้นผู้จัดการจางจะสุภาพกับเขา แต่ก็ถือว่าเป็นมารยาทการให้บริการตามหน้าที่ กับบอสคนอื่นๆ ในตึก เขาก็วางตัวแบบนี้

แต่ครั้งนี้ผู้จัดการจางดูเคารพเผยเชียนมากกว่าเดิม เหมือนกำลังคุยกับคนที่มีตำแหน่งสูงกว่า

เผยเชียนนั่งลงด้วยความสงสัย

“ผู้จัดการจางช่วยลดค่าเช่าให้เถิงต๋าเยอะมาก บอสเผยเลยอยากมาแสดงความขอบคุณค่ะ” ซินไห่ลู่ยิ้มพร้อมกับวางกระเช้าผลไม้ไว้บนโต๊ะ

เผยเชียนฝืนยิ้มออกไป “อ้อ… ใช่ครับ”

ผู้จัดการจางรีบตอบกลับอย่างสุภาพ “โธ่ บอสเผยไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยครับ! แค่เถิงต๋ามาเช่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวก็เป็นเกียรติมากแล้ว การดูแลผู้เช่าคืองานของผม ผมรับกระเช้าไว้ไม่ได้หรอกครับ จริงๆ ผมควรจะเป็นฝ่ายไปหาบอสเผยเองมากกว่า”

เผยเชียน “…”

ทะแม่งๆ ชอบกล ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ!

เผยเชียนมั่นใจมากว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ชายหนุ่มตัดสินใจถามออกไปตรงๆ

“ผู้จัดการจางครับ เราคุยกันตรงๆ เลยดีกว่า ที่ลดราคาให้เหลือ 1.5 หยวนต่อตารางเมตร คุณไม่ได้เป็นคนตัดสินใจใช่ไหมครับ

“ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ อยากจะรู้ว่าจริงๆ ว่าใครเป็นคนช่วยเถิงต๋า เผื่อวันหนึ่งจะได้ตอบแทนบุญคุณได้”

น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจ

“เอ่อ เรื่องนี้…” ผู้จัดการจางลังเลเล็กน้อย

แน่นอนว่าผู้จัดการตัวจ้อยอย่างเขาไม่สามารถตัดสินใจลดราคาให้ได้ขนาดนี้ เขาต้องได้รับการอนุมัติจากเบื้องบน

บอสเผยไม่ใช่คนโง่ ผู้จัดการจางรู้ว่าถ้าตอบออกไปว่าไม่มี อีกฝ่ายคงไม่ปล่อยผ่านแน่

อีกอย่างบอสเผยไม่ได้จะมาโวยวายหรือสร้างปัญหาอะไร แค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนช่วยจะได้ตอบแทนบุญคุณได้ ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปิดบัง

แต่ปัญหาคือ ผู้จัดการจางเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งลงมา…

ผู้จัดการจางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ “ผมแค่ทำตามคำสั่งครับบอสเผย อย่าเค้นอะไรจากผมเลย จริงๆ ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนกัน นี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่า เรื่องที่ว่าใครเป็นคนสั่งมา…ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”

คำสั่งโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าเหรอ

ไม่ใช่แล้ว มีบางอย่างไม่ถูกต้องสุดๆ!

ทำไมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าถึงรู้จักบริษัทเถิงต๋าได้ หรือว่าจะเคยเล่นเกมของเถิงต๋า

คิดบ้าอะไรของแก เป็นไปไม่ได้หรอก!

ดูจากสีหน้าของผู้จัดการจางแล้ว เขาคงจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งลงมาจริงๆ เผยเชียนได้แต่ยอมจำนน พวกเขาคุยกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะกลับออกไป

ผู้จัดการจางย้ำอยู่หลายครั้งว่าถ้าบริษัทเถิงต๋าพบปัญหาอะไรในตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวให้รีบแจ้งทันทีเพื่อที่เขาจะได้ไม่ตกที่นั่งลำบาก

พอกลับถึงห้องทำงาน เผยเชียนก็นั่งลงเงียบๆ หน้าโน้ตบุ๊ก ก่อนจะพิมพ์ค้นหาในเว็บเชียนตู้เผื่อจะเจออะไร

บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู เฉินฮว่าคอร์เปอเรชันจึงลงทุนทำโปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์ด้วย ถึงจะไม่ได้ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งหรือสองของประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งด้านการเงินของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าสามารถขึ้นไปเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของประเทศได้

ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นหนึ่งในสินทรัพย์มากมายภายในเมืองจิงโจวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่า

ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าคือหลินโจว ลูกชายคนที่สองของหลินเจิงหนานประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน เขาเพิ่งจะเข้ามาควบคุมกิจการทั้งหมดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าและผลักดันให้บริษัทพัฒนาไปในทางที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น

“หลินโจวเหรอ”

เผยเชียนรู้สึกคุ้นชื่อ พอเปิดรูปหลินโจวดูก็รู้สึกคุ้นหน้าอีก

“บริษัทเราก็มีทายาทตระกูลร่ำรวย…รู้สึกจะแซ่หลินเหมือนกันนี่นา”

เผยเชียนใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

ล้อกันเล่นหรือเปล่า

เผยเชียนค้นหาชื่อหลินหวานในเว็บเชียนตู้ แต่ไม่เจออะไร

แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!

เผยเชียนจำหลินหวานได้จากตอนที่มาสัมภาษณ์เข้าทำงาน เลขาซินบอกว่าเธอใส่เสื้อผ้าราคาหลายหมื่นหยวน หลินหวานดูอ่อนหวานและใสซื่อ ไม่มีประสบการณ์การทำงาน ไม่ค่อยรู้จักโลกเท่าไหร่ ตอนนั้นเผยเชียนไม่ได้ติดขัดเรื่องรับพนักงานเพิ่มเลยตกลงรับเธอเข้าทำงาน

หลังจากนั้นหลินหวานก็ใช้เส้นสายที่ได้จากตอนทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอติดต่อกับเกมเมอร์ชั้นแนวหน้าในฝั่งเกม FPS มาช่วยสร้างกระแสระลอกแรกให้เกมฐานทัพกลางทะเล

แต่เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะคิดว่าถ้าต้องทำ ใครๆ ก็ติดต่อเกมเมอร์เหล่านี้ได้ เขาไม่ได้รู้สึกว่าหลินหวานเป็นคนพิเศษอะไรและมองว่าเธอเป็นแค่ทายาทตระกูลร่ำรวยคนหนึ่ง

ตั้งแต่นั้นหลินหวานได้รับผิดชอบแค่งานง่ายๆ ในบริษัท เธอตั้งใจทำงานมาก ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นอะไร และเนื่องจากไม่ได้ทำอะไรโดดเด่น เผยเชียนจึงไม่ได้สนใจเธอ

แต่ตอนนี้เขารู้ว่าตนเองได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์

ทายาทตระกูลร่ำรวยไม่ได้เหมือนกันหมด…

บางคนแค่รวยเฉยๆ แต่บางคนโทรกริ๊งเดียวก็ลดค่าเช่าให้เผยเชียนได้แล้วหลายแสน

เผยเชียนติดกับเข้าให้แล้ว

มีไส้ศึกอยู่ในบริษัท!

ไส้ศึกคนนี้ซ่อนตัวในบริษัทมานานหลายเดือนโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย!

ทำยังไงดี จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี

เผยเชียนคิดอยู่นานแต่ก็คิดอะไรไม่ออก

มันยากเกินไป!

“ใจเย็นๆ ที่คิดอะไรไม่ออกก็เพราะไม่รู้เรื่องเธอเลย

“ต้องรู้จักศัตรูถึงจะรบชนะ หลินหวานไม่น่าจะเข้ามาทำงานที่นี่โดยไม่มีเหตุผล

“ถ้ารู้ว่าเหตุผลคืออะไรก็น่าจะพอกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจกลับไปเสวยสุขบนกองเงินกองทองได้

“ถึงจะทำให้เธอออกจากบริษัทไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์…”

คิดได้ดังนั้น เผยเชียนก็ต่อสายหาโจวมู่หยันจากเทียนหัวสตูดิโอ

โจวมู่หยันจะต้องรู้อะไรแน่!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท