ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 170 หลินหวาน + ฉางหยางเกมส์ =

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

“บอสเผย มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ…”

เสียงโจวมู่หยันที่ดังผ่านโทรศัพท์ดูไม่มีชีวิตชีวา

ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งล่าสุดตอนปลายปีก่อนที่กว่างโจว ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก

เหตุผลหลักก็เพราะเกมฐานทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จแซงหน้าเกมกระสุนเพชฌฆาตไปไกล ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่เปราะบางอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก

เกมฐานทัพกลางทะเลได้ขึ้นเป็นเกม FPS ผลิตภายในประเทศอันดับหนึ่ง มีฐานผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลิกแข่งกับเกม FPS ภายในประเทศด้วยกันไปนานแล้วและหันไปแข่งกับเกม Counter Strike แทน

ส่วนเกมกระสุนเพชฌฆาต หลังจากทุ่มโฆษณาครั้งใหญ่ตอนปล่อยเกมก็เป็นที่นิยมน้อยลงเรื่อยๆ ถึงจะยังทำเงินและพอไปต่อได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผลประกอบการไม่ถึงเป้าที่โจวมู่หยันตั้งเอาไว้ในตอนแรก อีกทั้งยังโดนเกมฐานทัพกลางทะเลทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ

ทั้งสองเกมมีการออกแบบที่แตกต่างกันมาก ตอนเถิงต๋าไปดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอ โจวมู่หยันนำเสนอแนวคิดการออกแบบเกมกระสุนเพชฌฆาตอย่างภาคภูมิใจ

ตอนนั้นเขามั่นใจมาก

ส่วนเผยเชียนที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้าและยิ้มไปด้วยตลอด สายตาดูชื่นชมไม่น้อย

แต่โจวมู่หยันรู้แล้วว่าตอนนั้นบอสเผยแค่แสร้งทำ!

ตอนเปิดให้บริการเกมฐานทัพกลางทะเล โจวมู่หยันไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ความนิยมของเกมนั้นกลับพุ่งขึ้นไม่หยุดจนเขาเริ่มคิดว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล

พอสืบดูนิดหน่อยก็พบว่าเกมฐานทัพกลางทะเลแทบจะคลานตามเกมกระสุนเพชฌฆาตมา ตอนเถิงต๋าไปดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอ เกมฐานทัพกลางทะเลก็พัฒนาไปได้สักพักแล้ว!

โจวมู่หยันรู้สึกชาไปถึงหัวใจ

บอสเผยรู้อยู่แล้วว่าเกมกระสุนเพชฌฆาตมีปัญหาตรงไหน แต่ก็พยักหน้าให้ตลอด ทำเหมือนว่าไม่มีอะไร

แผนสูงจริงๆ!

ตั้งแต่นั้นมาเผยเชียนก็ไม่ได้ติดต่อโจวมู่หยันไป เพราะกลัวอีกฝ่ายจะคิดว่าตัวเองอยากอวดความสำเร็จ

โจวมู่หยันเองก็ไม่ได้ติดต่อเผยเชียนไป เพราะไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย

เป็นเหตุให้ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันเลย

ที่โจวมู่หยันยอมรับสาย…

ก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องให้เกียรติบอสเผย

นั่นก็เพราะตอนนี้แพลตฟอร์เกมทางการกำลังอวยเถิงต๋าอยู่ เนื่องจากอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โจวมู่หยันจึงไม่สามารถทำตัวไม่ดีกับบอสเผยได้

แต่ใจจริงเขาไม่ค่อยอยากคุยกับเผยเชียนเลย

เผยเชียนสัมผัสได้ว่าโจวมู่หยันยังคิดแค้นใจ เขากลัวว่าจะพูดอะไรไปกระทบจิตใจอีกฝ่าย จึงตัดสินใจเข้าเรื่องทันที

“บอสโจว ขอโทษที่โทรมารบกวนนะครับ พอดีมีเรื่องอยากถาม คุณรู้ไหมครับว่าหลินหวานเป็นใคร”

โจวมู่หยันอึ้งไปสักพัก

เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าหลินหวานเป็นใคร พอเธอเข้ามาทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอได้สองวัน ก็มีสายตรงจากประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน ถ้าจำไม่ผิด หลินหวานน่าจะเข้าไปทำงานที่เถิงต๋าได้หลายเดือนแล้ว

นี่บอสเผยยังไม่รู้อีกเหรอว่าหลินหวานเป็นใคร

ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย

โจวมู่หยันงงเล็กน้อยจึงถามกลับ “บอสเผยไม่รู้เหรอครับ”

เผยเชียนสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ

ถ้าโจวมู่หยันพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่าหลินหวานไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ด้วย!

เผยเชียนกระแอมกระไอเล็กน้อย “เอาตรงๆ เลยนะครับบอสโจว ตอนนี้ผมเจอปัญหานิดหน่อย ถ้าคุณช่วยผมได้จะเป็นพระคุณมากครับ!”

โจวมู่หยันรีบตอบ “อย่าพูดแบบนั้นสิครับบอสเผย คุณมีคำถามอะไรก็ถามได้เลยครับ ถ้าตอบได้ผมจะช่วยตอบ!”

เผยเชียนถาม “บอสโจวช่วยอธิบายเรื่องหลินหวานกับครอบครัวให้ฟังได้ไหมครับ แล้วก็เหตุผลที่เธอเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมเกม ขอแบบละเอียดนิดหนึ่งจะดีมากครับ”

โจวมู่หยันตกใจเล็กน้อย

บอสเผยไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ เหรอ แสดงว่าประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชันไม่ได้ติดต่อไปแน่เลย

มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

แต่โจวมู่หยันก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาบอกทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับหลินหวานให้เผยเชียนฟัง

หลินหวานเป็นลูกสาวคนสุดท้องของประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน มีพี่สาวหนึ่งคนกับพี่ชายสองคน เธอมีใจรักในอุตสาหกรรมเกมมาก วันหนึ่งก็บังเอิญไปเจอเทียนหัวสตูดิโอเข้าตอนหางาน

หลินเจิงหนานไม่สนับสนุนให้หลินหวานทำงานในอุตสาหกรรมเกม แต่เพราะหลินหวานเป็นคนหัวรั้นและหลินเจิงหนานก็ไม่อยากทำอะไรให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกสาว จึงติดต่อหาโจวมู่หยัน ขอให้ช่วยดับฝันในอุตสาหกรรมเกมของหลินหวานให้ เพื่อที่เธอจะได้กลับมาทำงานกับเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน

“ประมาณนี้ครับบอสเผย เรื่องอื่นนอกจากนี้ก็ไม่รู้แล้ว” โจวมู่หยันตอบอย่างจริงใจ “ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมคุณไม่ได้รับการติดต่อไป…ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “แล้วหลินหวานกับหลินโจว พี่ชายคนที่เป็นประธานบริษัทเฉินฮว่าอสังหาริมทรัพย์นี่สนิทกันดีไหมครับ”

โจวมู่หยันตอบ “เห็นว่าตึงๆ กับแค่พ่อนะครับ กับหลินโจวก็ดูจะสนิทกันดี”

หัวใจของเผยเชียนเย็นเฉียบ

ทุกอย่างลงล็อกหมด!

หลินหวานต้องขอให้หลินโจวผู้เป็นพี่ชายลดค่าเช่าให้เถิงต๋าแน่ๆ ไม่น่าจะมีคำอธิบายอื่นอีก

“แล้ว…บอสโจวครับ ผมควรทำยังไงให้หลินหวานออกจากอุตสาหกรรมเกมแล้วกลับไปทำงานกับครอบครัว” เผยเชียนถามตามตรง

โจวมู่หยันคิดสักพัก “เกรงว่าจะต้องทำให้เธอรู้สึกผิดหวังกับอุตสาหกรรมเกมสุดๆ น่ะสิครับ”

เผยเชียนเงียบไป

ยากเกินไปไหมนั่น

นั่นมันตรงกันข้ามกับที่เผยเชียนกำลังทำอยู่เลย!

เผยเชียนอยากผลาญเงินให้ได้เยอะๆ เลยให้สวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นอาจจะทำให้หลินหวานคิดว่าเถิงต๋าเป็นบริษัทที่ดี ไม่อยากลาออกไปไหน

จบเห่สิแบบนี้

ครั้งนี้ช่วยลดค่าเช่าให้ ใครจะไปรู้เล่าว่าครั้งหน้าทายาทตระกูลร่ำรวยคนนี้จะช่วยอะไรอีก

“ขอบคุณมากครับบอสโจว เดี๋ยวไว้ผมจัดศึกษาดูงานแล้วจะไปขอบคุณถึงกว่างโจวอีกรอบนะครับ”

เผยเชียนรู้สึกว่าบอสโจวตอบคำถามอย่างตั้งใจ ข้อมูลที่ได้มาเป็นประโยชน์มากๆ

โจวมู่หยันพูดอะไรไม่ออก

ยังจะมาอีกเหรอ

นี่จะมาขยี้ศพฉันต่อรึไง

“บอสเผย ขอถามอะไรได้ไหมครับ หลินหวานไปทำอะไรเกินกว่าเหตุที่เถิงต๋าหรือเปล่า…”

เผยเชียนเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้ยังไงดี

โจวมู่หยันอุตส่าห์บอกทุกอย่างหมดเปลือก เขาถามคำถามกลับมาแค่คำถามเดียว ถ้าเผยเชียนเลี่ยงไม่ตอบ ตอบปัดๆ หรือโกหกไปก็จะดูไม่เหมาะสม

เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “เธอ…ช่วยลดค่าเช่าจากสี่หยวนเหลือ 1.5 หยวนต่อตารางเมตรครับ”

โจวมู่หยัน “???”

หลังจากวางสาย เผยเชียนก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังรับมือกับอะไรที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เจอ

เขารีบเช็กสัญญาเช่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทันที พอพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าก็ค่อยหายใจได้ทั่วท้อง

ก็ยังดี

ทำเลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสามที่ห่างไกลผู้คนมากและทุกที่เป็นตึกเดี่ยว บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าชอบซื้อทำเลในย่านที่มีคนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ในย่านพักอาศัยหรูๆ หรือไม่ก็ตึกสำนักงาน

ทำเลของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจึงรอดพ้นสายตาเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน

เพราะถ้าลดค่าเช่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้อีก เผยเชียนได้กระอักเลือดแน่

ปัญหาที่ต้องจัดการในตอนนี้คือหลินหวาน

เขาจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เธอเหมือนระเบิดเวลา

จะใช้ไม้แข็งไล่เธอออกไปก็ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นคนอื่นคงจะสงสัย

ขนาดหลินเจิงหนาน พ่อของหลินหวานที่เป็นถึงประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชันยังไม่สามารถจัดการเธอได้ เผยเชียนเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเธอดี

ถ้าหลินหวานดื้อขึ้นมา เรื่องอาจจะแย่ไปกว่านี้

ทางออกเดียวที่โจวมู่หยันให้มาคือหาทางทำให้หลินหวานหมดความสนใจในอุตสาหกรรมเกม

ดูจากทัศนคติในการทำงานของหลินหวานที่เถิงต๋า เธอดูจะไม่ใช่พวกทายาทตระกูลรวยที่ไร้หัวคิด ไม่อย่างนั้นคงไม่ปิดบังตัวตนมาได้นานขนาดนี้โดยไม่มีใครรู้เรื่องเธอเลย

คนจำพวกนี้เป็นคนแน่วแน่ในเส้นทางที่ตัวเองตัดสินใจ

ความล้มเหลวจากปัจจัยภายนอกไม่น่าจะพอดับความมุ่งมั่นของเธอได้ รังแต่จะทำให้เธอฮึดสู้ใหม่อีกครั้ง

กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดๆ…

เผยเชียนคิดอยู่นาน ในที่สุดก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้าหัว

เหมือนว่า…ขยะที่ซื้อมาอย่างฉางหยางเกมส์น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้

จนถึงตอนนี้ฉางหยางเกมส์ยังคงรักษาสภาพก่อนเข้าซื้อกิจการเอาไว้ได้

นอกจากนี้ดูจากการดำเนินงานในปัจจุบันแล้ว น่าจะยังขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ

ถ้ามอบหมายให้หลินหวานรับผิดชอบโปรเจ็กต์ที่พังแน่ๆ พอเกมเจ๊ง เธอก็น่าจะเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเองและอุตสาหกรรมเกม

เมื่อเป็นแบบนั้น เผยเชียนก็จะสามารถผลาญเงินได้อย่างสุขใจ ส่วนหลินหวานก็จะกลับไปเสวยสุขกับมรดกของตัวเอง ถือเป็นเรื่องดีกับทั้งสองฝ่ายเลยนี่นา

เผยเชียนคิดว่านี่เป็นไอเดียที่ดี

เรื่องบางเรื่องก็สามารถวางแผนให้เหมือนเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจได้!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท