เผยเชียนไม่มั่นใจว่าร้านอื่นๆ ในละแวกจัดโปรโมชันเพื่อโจมตีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูหรือเปล่า เพราะเขาไม่มีหลักฐานชัดเจน
ไม่แน่ร้านพวกนั้นอาจจะบังเอิญจัดโปรโมชันขึ้นมาพร้อมๆ กันก็ได้
แถมเผยเชียนก็ยังไม่แน่ใจว่าบอสหลี่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไหม เพราะเขาก็ไม่มีหลักฐานเหมือนกัน
แต่ที่เขามั่นใจคือบอสหลี่ใช้ประโยชน์จากโอกาสครั้งนี้
เรื่องนี้ดูจะเป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
จะบอกว่าบอสหลี่ไม่ฉลาดก็ไม่ได้ เพราะแผนที่อีกฝ่ายใช้มีทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง
ในทางหนึ่ง บอสหลี่ไม่มีทางยอมรับตรงๆ ว่ากำลังโจมตีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอยู่ แต่เข้ามายื่นข้อเสนอให้ดูเหมือนว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่ายโดยพยายามไม่สร้างความเกลียดชัง นี่คือไม้อ่อน
ขณะเดียวกันบอสหลี่ก็กำลังบอกเผยเชียนเป็นนัยว่าถ้ายังดื้อด้านอยู่แบบนี้ เขาก็จะสู้ให้ตายกันไปข้าง โดยจะลดราคาทุกอย่างลงให้เผยเชียนเสียลูกค้าทั้งหมด เพื่อไม่ให้เจ็บหนักไปมากกว่านี้ สุดท้ายเผยเชียนก็ต้องยอมแพ้ นี่คือไม้แข็ง
ถ้าคนอื่นมาตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เมื่อถูกต้อนจนจนมุม พวกเขาก็ต้องยอมรับข้อเสนอ
แต่เผยเชียนไม่เหมือนคนอื่น
อุตส่าห์ทุ่มเงินเพื่อทำให้ฉันขาดทุนเลยเหรอ ขอบใจมากเว้ย!
ตอนแรกเผยเชียนตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอคิดดูอีกทีก็พบว่าตัวเองคิดไม่ถูก
บอสหลี่ชอบช่วยเหลือคนอื่นขนาดนี้ เผยเชียนควรจะร่วมมือด้วยสักหน่อย
ถ้าปฏิเสธไปตรงๆ อีกครั้ง ไม่ช้าบอสหลี่ก็อาจจะเลิกล้มความตั้งใจ เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงเจ้าของบริษัทลงทุน มีงานให้ทำล้นมือ คงไม่ว่างมาตามตื๊อร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
พอบอสหลี่เลิกสนใจเรื่องนี้ ร้านในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะหยุดทุ่มเงิน จากนั้นลูกค้าก็จะกลับมาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหมือนอย่างเคย
ทีนี้เผยเชียนก็จะขาดทุนมากมายไม่ได้อีก!
เขายิ้มเมื่อผุดคิดแผนการขึ้นได้ในหัว
“ไอ้หม่า แกคิดว่าบอสหลี่ทำแบบนี้เพื่อเราจริงๆ เหรอ แกคิดว่าเขาใจบุญขนาดนั้นเลย
“ลองคิดดูดีๆ ร้านอื่นๆ รอบๆ ร้านเราจัดโปรโมชันพร้อมกันหมด แกมั่นใจเหรอว่าเรื่องนี้ไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง”
เผยเชียนพูดให้หม่าหยางตาสว่าง
จริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าทำให้อีกฝ่ายตาสว่างจริงๆ หรอก หม่าหยางโดนหลอกง่าย ถ้ามีคนมาปั่นหัวเจ้านี่มากกว่าหนึ่งคน คนที่เข้ามาปั่นหัวหม่าหยางเป็นคนสุดท้ายจะได้เปรียบที่สุด
เผยเชียนปั่นต่อให้เรื่องฟังดูแย่กว่าเดิม เขาใส่สีตีไข่ให้การแบ่งขายหุ้นส่วนกิจการฟังดูอันตรายสุดๆ จนดึงสติหม่าหยางกลับมาได้ตามที่คิดไว้
“ฉิบหาย! บอสหลี่คิดร้ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!
“ผมจะปฏิเสธเขาเดี๋ยวนี้เลย!”
เผยเชียนพูดขึ้น “ไม่ต้องหรอก ถ้าเขาแค้นขึ้นมาแล้วเล่นเราอ่วมกว่านี้คงเป็นปัญหาแน่
“บอกเขาไปว่าฉันกำลังเครียดเรื่องที่ร้านขาดทุน ไม่อยากรับข้อเสนอแต่ก็ยังลังเลอยู่ ตอนนี้กำลังตัดสินใจ ถ้าร้านยังขาดทุนอยู่อย่างนี้ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้…”
หม่าหยางสับสน “พี่เชียน พี่อยากให้เราขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ เหรอ มันไม่ดีกับเราเลยนะ ผมว่าเราไม่น่าจะรับไหว”
เผยเชียนยิ้ม “ถ้าเราขาดทุน อีกฝ่ายก็ไม่น่าจะต่างกัน
“ร้านพวกนั้นก็กำลังขาดทุนเหมือนเรา อย่างมากก็แค่เจ๊งไปด้วยกันทั้งหมด มีอะไรให้ต้องกลัว
“อีกอย่างถ้าพวกนั้นยังทุ่มเงินต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจเรียกลูกค้ามาเพิ่มได้ คนที่อาศัยอยู่จุดอื่นในเมืองจิงโจวอาจจะเข้ามาลองใช้บริการ
“ในระยะยาวจะเป็นผลดีกับกิจการแถบนี้ เราก็จะไม่ขาดทุนอีก”
หม่าหยางถึงบางอ้อ “อย่างนี้นี่เอง! ผมเข้าใจแล้วพี่เชียน!”
“ดี ถ้างั้นก็ไปบอกบอสหลี่ตามที่ฉันบอก…”
เผยเชียนวางสายไป ก่อนจะผุดยิ้มขึ้น
บอสหลี่ คุณคงภูมิใจมากที่ล่อลวงหม่าหยางได้
แต่คุณคิดผิดแล้วละ เพราะใครๆ ก็หลอกเจ้านี่ได้หมดแหละ…
คุณมาโกหกเจ้านี่ ผมก็แค่โกหกทับให้มันกลับข้าง
เผยเชียนล่อลวงหม่าหยางด้วยเรื่องจริงปนเรื่องโกหก เรื่องที่ว่าจะช่วยให้กิจการในละแวกนี้ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
สภาพธุรกิจเกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง แค่หลายๆ ร้านจัดโปรโมชันพร้อมกันจะไปทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้ยังไง แค่คิดก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้
แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะโกหกหม่าหยาง
ขอแค่เขาล่อให้บอสหลี่ทุ่มเงินจัดโปรโมชันให้ร้านพวกนี้ต่อไป ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะขาดทุนไปได้เรื่อยๆ เผยเชียนจะทิ้งโอกาสงามๆ นี้ไปได้ยังไง
…
หลังจากวางสาย หม่าหยางก็นวดใบหน้าใหญ่ยาวเพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อม
แค่คิดว่าตัวเองโดนบอสหลี่หลอกก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาแล้ว
โชคดีที่พี่เชียนฉลาดเป็นกรด ไม่งั้นฉันคงพลาดท่าหลงเชื่อ!
ถึงหม่าหยางจะแสดงไม่เก่ง แต่พอนึกถึงแผนการทุบหม้อข้าวของบอสหลี่ก็ทำให้เขารู้สึกอยากแก้แค้น
เขาจะเปลี่ยนความแค้นที่มีเป็นทักษะการแสดง!
หม่าหยางเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมแสร้งทำหน้ายิ้ม
“บอสหลี่ ผมเพิ่งวางสายจากบอสเผย ได้คุยกันเรื่องนี้นิดหน่อยครับ
“บอสเผยกังวลเรื่องที่ร้านขาดทุนอยู่จริงๆ ครับ แต่บอสไม่อยากให้คนนอกเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทง่ายๆ บอสบอกว่าขอเวลาอีกหนึ่งเดือน ถ้าถึงตอนนั้นยังไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง”
หลี่สือพยักหน้าเบาๆ
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
จากการคำนวณของเขา บอสเผยเป็นคนหัวรั้น ถ้าลูกน้องไปพูดด้วยนิดหน่อยแล้วเปลี่ยนใจเขาได้คงจะแปลกน่าดู
หนึ่งเดือน…
เขาต้องเอาเงินไปละลายกับแผนนี้อีกหนึ่งเดือน เจ็บเหมือนกัน แต่ก็ยังพอจัดการได้
หลี่สือแสนปวดใจ แต่ไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้ เพราะเหมือนหม่าหยางจะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่ร้านต่างๆ ในแถบนี้พร้อมใจกันจัดโปรโมชันขึ้นมา
บอสเผยอาจจะมองออก แต่คงไม่ได้บอกหม่าหยางเรื่องนี้ เพราะเขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ บอสเผยน่าจะไม่อยากพูดอะไรออกไปโดยที่ไม่มีหลักฐาน
ขอแค่สุดท้ายหลี่สือสามารถซื้อกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาได้ จะใช้เงินไปมากเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ ยังไงก็สามารถหาคืนได้อยู่แล้ว
คิดได้อย่างนั้น หลี่สือก็ผุดยิ้ม
“ได้ครับ ผมไม่รีบอะไร บอสหม่าก็ไม่ต้องไปเร่งเร้าบอสเผยเหมือนกันนะครับ ค่อยๆ ตะล่อมไป เดี๋ยวบอสเผยก็เปลี่ยนใจ
“แต่…
“ผมกังวลเรื่องพวกคุณทั้งหมด พวกคุณอาจจะขาดทุนมหาศาลได้ในหนึ่งเดือน ถ้าเกิดเอาตัวรอดไม่ได้นานขนาดนั้นจะทำยังไง
“บอสหม่า ผมว่าสัปดาห์หน้าคุณต้องลองไปคุยดูอีกรอบ ไม่แน่บอสเผยอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
“โอเคครับ” หม่าหยางพยักหน้าแล้วหันไปทางบาร์เทนเดอร์ “เอามาร์การิต้ามาอีกแก้ว ผมเลี้ยงเองครับบอสหลี่!”
…
…
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
ช่วงนี้เผยเชียนไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิศเพราะยุ่งกับการสอบและร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู วันนี้เขาอารมณ์ดีเลยตัดสินใจแวะเข้ามา
วันปิดบัญชีใกล้เข้ามาถึงเรื่อยๆ เผยเชียนรู้สึกว่าการดูแลจัดการโปรเจ็กต์ต่างๆ พร้อมกันนั้นยากพอดู
โชคดีที่ DLC ของเกมในเครือเถิงต๋าปล่อยให้ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว นอกจากอัตราส่วนแบ่งที่แพลตฟอร์มเกมทางการปรับให้ใหม่ ก็ไม่มีรายรับอื่นที่ไม่ได้อยู่ในการคาดการณ์อีก เผยเชียนคิดว่าตรงนี้น่าจะวางใจได้แล้ว
ชายหนุ่มแสนสุขใจเมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาเดินไปเดินมาในห้องทำงานอย่างเบิกบานใจ
ในโซนทำงาน ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่กำลังกระซิบกระซาบคุยกัน
“ช่วงนี้บอสเผยไม่ค่อยเข้าออฟฟิศเลย หรือว่าบอสจะยุ่ง”
“ผมได้ยินมาว่าสถานการณ์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอสน่าจะต้องไปช่วยตรงนั้น”
“ดูจากสีหน้าบอสเผยแล้ว ผมว่าน่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
“ก็ไม่แน่ คุณก็รู้นิสัยบอสเผยนี่ บอสไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า ปัญหาอาจจะหนักมากก็ได้ บอสเผยแค่ไม่แสดงออกให้เรารู้เฉยๆ”
“ถ้างั้น…เราควรรายงานเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลให้บอสรู้ไหม หรือเราไม่ควรจะไปรบกวนบอส”
เปาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เทียบกับเรื่องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอะไรมาก รออีกสักสองสามวันค่อยรายงานก็ได้ครับ
“อีกอย่างบอสน่าจะรู้อยู่แล้วว่าราคาไอดีในแพลตฟอร์มซื้อขายจะพุ่งขึ้น ที่เกมมียอดเติมเงินกับยอดผู้เล่นเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องรายงานอะไรขนาดนั้น”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า “ก็จริง เดี๋ยวเรารอให้บอสว่างค่อยไปรายงานทีหลังก็ได้”