หลังจากนึกถึงเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดใจที่ผ่านมา เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียนและเดินหน้าต่อ
เผยเชียนต้องตั้งใจหาทางทำให้ตัวเองขาดทุนในรอบบัญชีนี้เพื่อที่จะได้รางวัล ‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’
ชายหนุ่มเติบโตขึ้นมากจากบทเรียนที่ผ่านมา
ครั้งนี้เขาได้บทเรียนแล้วและจะไม่ยอมผิดพลาดเรื่องเดิมอีก!
อย่างแรกคือ เขาจะฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการแปลงเงินมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลไม่ได้!
ก่อนหน้านี้เผยเชียนดูถูกรายได้หมื่นสองหมื่นหยวน เขาคิดว่าแค่ขาดทุนนิดหน่อยก็ได้มารวดเดียวหลายแสนแล้ว วิธีคิดแบบนี้ถือว่าผิดมหันต์
สองรอบบัญชีที่ผ่านมา เขาทำเงินได้แค่สามหมื่นกับสองหมื่นกว่าหยวน เฉลี่ยแล้วตกเดือนละหมื่นกว่าหยวน
น้อยจนน่าใจหาย!
เผยเชียนตัดสินคิดหาวิธีอื่นในการหารายได้
เขาได้เงินมาทันทีสามหมื่นกว่าหยวนตอนถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย แค่นี้ก็ไว้วางใจได้กว่าระบบแล้วไม่ใช่เหรอ
ชัดเจนว่าเขาจะหวังพึ่งแค่งานหลักไม่ได้ ต้องหางานอื่นเพิ่มด้วย
ส่วนจะทำอะไรได้บ้าง เผยเชียนยังไม่ได้คิดอย่างละเอียด แต่ก็พอจะมีไอเดียคร่าวๆ แล้ว
สรุปคือ ขอแค่ระบบอนุญาต เขาจะยอมใช้แรงงานเพื่อแลกกับค่าแรง แต่ก็จะไม่ทำอะไรเกินเลยไปไกลนัก
เขาต้องทดสอบระบบดูก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจะใช้แผนการนี้ได้
อย่างที่สอง เขาต้องรู้ให้ได้ว่าจะต้องทำยังไงถือจะขาดทุนได้อย่างถูกต้อง
ตอนนี้เผยเชียนพอจะรู้แล้วว่าระบบทำงานยังไง
ระบบมีข้อจำกัดเยอะมาก ทั้งห้ามผลิตสินค้าด้อยคุณภาพ ห้ามขายของคุณภาพต่ำในราคาแพงเกินควร ห้ามขายของคุณภาพสูงในราคาต่ำเกินไป ว่าง่ายๆ คือ สินค้าทุกชิ้นห้ามตั้งราคาสูงหรือต่ำเกินไป ต้องตั้งราคาที่เหมาะสม
ข้อจำกัดนี้ทำให้เผยเชียนไม่สามารถจงใจทำให้ตัวเองขาดทุนได้
ถ้าลงทุนน้อย ก็ขายสินค้าได้แค่ราคาต่ำๆ มีแค่คนที่มีเงินไม่มากที่จะสนใจ
ถ้าทุ่มทุนเยอะ ก็ต้องขายราคาแพงๆ พอเริ่มมีกระแส พวกมีเงินก็จะแห่มาซื้อ
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่สามารถทำอะไรที่ขัดต่อหลักศีลธรรม เพราะระบบไม่อนุญาตให้ทำ
แต่เผยเชียนค้นพบว่าระบบประเมินคุณภาพของสินค้าจากในแง่ของ ‘รายได้’ และ ‘ชื่อเสียง’
หมายความว่าเขาสามารถผลาญเงินสร้างชื่อให้บริษัทได้
ถ้าอยากทำเงินได้น้อยๆ ก็ต้องพยายามสร้างชื่อเอา
เขาค้นพบเรื่องนี้จากสารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อ!
ขอแค่ได้กระแสตอบรับอย่างกว้างขวาง ต่อให้สารคดีทำเงินไม่ได้ ระบบก็ไม่ว่าอะไร
แน่นอนว่าสารคดีเรื่องนั้นทำให้หลี่เจิงเหว่ยช่วยโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเล ส่งผลให้ยอดผู้เล่นเพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นข้อเสียเล็กๆ
แต่ข้อเสียนี้ก็เทียบไม่ได้เลยกับผลประโยชน์ที่ได้ การถ่ายสารคดียังถือเป็นไอเดียที่ดีอยู่
แถมไม่ใช่แค่สารคดีที่ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ เขาปรับใช้มันกับการสร้างเกมได้ด้วย
ถ้าทุ่มเงินก้อนโตสร้างเกมดีๆ ที่ทุกคนชมกันยกใหญ่แต่ทำกำไรไม่ได้เลยขึ้นมา…
แบบนั้นก็เยี่ยมยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนคิดว่าสิ่งนี้ควรจะเป็นเป้าหมายต่อไปของเถิงต๋า
รอบบัญชีก่อน บริษัทเถิงต๋าทำแค่ปล่อย DLC ใหม่ให้เกมทั้งหมดในเครือ ถ้าเถิงต๋าไม่สร้างเกมใหม่แล้วปล่อยทุกคนเอ้อระเหยไปวันๆ คงจะไม่ใช่เรื่องดี
โชคดีที่ถึงแม้ก่อนหน้านี้เผยเชียนจะสับสน แต่ตอนนี้เขาค้นพบหนทางใหม่แล้ว
ถ้าทำได้สำเร็จ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะผลาญเงินหลักล้าน!
ส่วนฉางหยางเกมส์…
ตอนนี้ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าแผนของเผยเชียนกำลังไปได้สวย เขายังไม่ต้องยุ่งอะไรกับฝั่งนั้นมากมาย
ถ้าในอนาคตเผยเชียนเจอขุมทรัพย์ที่บริหารงานขาดทุนอีก ก็สามารถซื้อต่อกิจการเพิ่มได้
นอกจากนั้นแล้ว เขายังอยากก้าวสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
โมหยูเดลิเวอรี่เป็นการทดลองที่ให้ผลค่อนข้างดี แต่ยังขาดทุนได้ไม่มากพอ
ส่วนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู…
ว่ากันตามตรง ที่ร้านสาขาหลักดังขึ้นมาได้เป็นเพราะเฉินเหล่ยทำอะไรเกินคาดคิด จนถึงตอนนี้เผยเชียนก็ยังยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้
แต่ก็มีแค่ร้านสาขาหลักเท่านั้นที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนสาขาอื่นๆ ยังขาดทุนอยู่นิดหน่อย
ดังนั้นการเปิดหน้าร้านจึงเป็นไอเดียที่น่าจะทำได้จริง มีปัญหาบ้างเล็กๆ น้อยๆ ในการบริหารจัดการและเผยเชียนแค่โชคไม่ดีเท่านั้น
เขายังยืดแนวทางนี้ต่อได้
นอกจากวางแผนเปิดภัตตาคารระดับสูงเพื่อผลาญเงินแล้ว เผยเชียนยังสนใจธุรกิจคลังจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์
ถ้าเขาขาดทุนได้เหมือนที่เว็บ JD Central ขาดทุนอยู่หลายปี เผยเชียนก็สามารถนอนหลับฝันหวานได้เลย
นอกจากนั้นแล้ว ธุรกิจนี้ยังใช้กำลังคนเป็นหลัก ถ้าเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานแต่ละคน เขาก็ยิ่งผลาญเงินได้เยอะขึ้น
…
เผยเชียนจัดระเบียบความคิดตัวเอง เขาคิดว่าการทำให้ตัวเองขาดทุนในรอบบัญชีนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร!
อยากแรกที่ต้องทำคือหางานเสริม!
เขารู้แล้วว่าตนเองไม่สามารถหวังพึ่งเงินจากระบบเพียงอย่างเดียวได้ ระบบไม่มีทางห้ามเขาอยู่แล้วถ้าเกิดไม่ทำอะไรเกินควรหรือทำเรื่องที่ขัดต่อกฎของระบบ
ส่วนจะหักค่าแรงจากเงินทุนระบบได้เท่าไหร่นั้น…
คงต้องถามระบบดู
เผยเชียนตั้งคำถามขึ้นในใจ “ถ้าฉันลงทุนเปิดบริษัทแล้วทำงานแลกค่าแรงเอง ฉันจะให้เงินตัวเองได้เท่าไหร่”
<ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำงานของเจ้าของระบบและจำนวนชั่วโมงการทำงาน>
เผยเชียน “…”
ฟังดูไม่ค่อยดีเลยแฮะ
ชายหนุ่ม…ไม่มีทักษะการทำงานอะไรเลย
ถึงเขาจะรู้สึกว่าการเป็นเจ้านายคนเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าต้องลงไปทำงานในตำแหน่งนั้นจริงๆ แล้ว เขาคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่
ก็เหมือนกับเผยเชียนลาออกจากตำแหน่งปัจจุบันแล้วไปสมัครงานใหม่ เงินค่าแรงสูงสุดที่เรียกจากระบบได้จะเป็นไปตามตำแหน่งใหม่ที่ได้
แถมเขายังต้องทำงานตามชั่วโมงทำงานปกติเพื่อที่จะได้รับเงินค่าแรง
เช่น ถ้าไปล้างจานในร้านอาหาร เผยเชียนก็น่าจะได้เงินอย่างมากสักสองสามพันหยวนต่อเดือน แลกกับการทำงานแปดชั่วโมงต่อวัน
“ไม่ได้สิ!
“ฉันไม่มีทักษะอะไรเลยถึงได้หวังพึ่งระบบนี่ไง!”
ชัดเจนว่าระบบไม่ได้สนใจเรื่องนี้
เผยเชียนครุ่นคิด เหมือนจะมีช่องโหว่บางอย่าง
งานทั่วไปมีการกำหนดรายละเอียดการทำงานไว้อย่างชัดเจน เช่น พนักงานล้างจาน พนักงานเสิร์ฟ และอื่นๆ อีกทั้งยังมีฐานเงินเดือนตายตัว
แต่ถ้าเป็นงานที่ค่อนข้างซับซ้อนและเป็นนามธรรมล่ะ
อย่าง…นักแสดง
นักแสดงภาพยนตร์กับนักแสดงในโรงละครได้ค่าแรงต่างกันลิบลับ ถึงนักแสดงสองคนจะอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน แต่ถ้าโดนจ้างไปถ่ายหนังคนละเรื่อง เงินที่ได้ก็แตกต่างกันมากอยู่ดี
ระบบคำนวณเรื่องนี้ยังไงนะ
หน้าจอระบบปรากฏขึ้น <ในตอนนี้เจ้าของระบบสามารถหาเงินได้มากสุดวันละหนึ่งพันห้าร้อยหยวน โดยเงินค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นตามทักษะการแสดง ชื่อเสียง และองค์ประกอบเชิงบวกอื่นๆ>
<ถ้าบริษัทที่ว่าจ้างเจ้าของระบบไม่มีความเกี่ยวข้องกับเงินทุนระบบและหากไม่มีประเด็นที่น่าสงสัย ทางระบบก็ไม่มีข้อห้ามใดๆ>
เผยเชียนงง
ระบบก็คำนวณให้ต่างกันด้วยเหรอ
แต่พอคิดดูดีๆ เผยเชียนก็เข้าใจ
ระบบตั้งกฎนี้ขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้เขาใช้ประโยชน์จากเงินทุนระบบเพื่อตนเอง
เช่น ถ้าเผยเชียนซื้อบริษัทภาพยนตร์แล้วจ่ายเงินหนึ่งล้านหยวนจ้างตัวเองถ่ายหนัง ระบบจะไม่อนุญาตให้ทำ เพราะถือเป็นการใช้เงินทุนระบบไปในทางมิชอบ
ถ้าจะใช้เงินตัวเองลงทุน เขาจ้างตัวเองได้มากสุดวันละหนึ่งพันห้าร้อยหยวน ตอนถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย เขาได้ค่าแรงตกวันหนึ่งพันหยวน เนื่องจากวงเงินไม่เกินที่กำหนด ระบบจึงไม่ได้ห้ามอะไร
ถ้าคำนวณตามนี้ ถ่ายงานเดือนละสิบวัน ก็หาเงินได้เดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน
ถือว่าเยอะทีเดียวถ้าวัดจากรายได้ที่เผยเชียนหาได้ตอนนี้ แต่…ก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรขนาดนั้น
ถ้ามีบริษัทอื่นมาจ้างเผยเชียนไปถ่ายงาน บริษัทที่มาจ้างจะให้เงินเยอะเท่าไหร่ระบบก็ไม่ได้สนใจ
เพราะไม่ได้ถือเป็นการใช้เงินทุนระบบไปในทางมิชอบ