บอสเผยแก้เนื้อหาเกมไปนิดหน่อยเหรอ
หลี่หย่าต๋าอึ้งไปเล็กน้อย
เท่าที่เธอรู้มา บอสเผยไม่ค่อยแก้เนื้อหาเกมเอง
ถ้าอยากแก้ตรงไหน บอสจะบอกลู่หมิงเหลียงโดยตรง เสร็จแล้วลู่หมิงเหลียงก็จะจัดการให้ตามที่ขอมา
ทำไมรอบนี้บอสเผยแก้ไขตัวเกมเองล่ะ
บอสไม่เชื่อใจฉันเหรอ
หลี่หย่าต๋าคิดอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจ ถ้าบอสเผยไม่เชื่อใจฉัน แล้วทำไมถึงให้ฉันมาเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบล่ะ
เธอเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยความงุนงง แล้วตรวจดูเนื้อหาเกมที่ถูกแก้ไข
เนื้อหาถูกเปลี่ยนไปไม่มาก ส่วนปรับแก้ก็เน้นที่อาวุธชิ้นหนึ่งเป็นหลัก
อาวุธที่ว่าคือไม้เท้าธรรมดาๆ ที่เอามาเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มเอฟเฟ็กต์แสงเข้าไป สิ่งที่เพิ่มมานอกจากนั้นก็มีภารกิจพิเศษและวิธีได้อาวุธอัปเกรดนี้
หลี่หย่าต๋าตรวจดูอาวุธที่ชื่อผู่ตู้
ดูจากค่าสถานะแล้ว อาวุธชิ้นนี้แข็งแกร่งมากในช่วงต้นเกม สามารถใช้จัดการศัตรูได้ง่ายๆ
แต่ความเร็วการโจมตียังเท่าเดิม และท่าการโจมตีก็ยังเป็นการกวาดไม้เท้าอย่างอุ้ยอ้ายเหมือนเดิม
แน่นอนว่าในขั้นตอนการออกแบบ อาวุธชิ้นนี้ก็เหมือนอาวุธถือสองมือชิ้นอื่นๆ คือมีท่ากระโดดโจมตีและจะโจมตีได้ไวขึ้นหลังจากกดท่าต่างๆ หมายความว่าถ้าผู้เล่นฝีมือดีได้อาวุธชิ้นนี้ไปก็จะทำให้การต่อสู้ในช่วงแรกของเกมง่ายขึ้นมาก
ขณะเดียวกัน อาวุธชิ้นนี้ก็มีข้อจำกัดร้ายแรงอยู่หนึ่งอย่าง ถ้าเอาไปใช้ในเนื้อเรื่องช่วงหลังฉากจบสังสารวัฏทั้งหก พลังโจมตีจะไม่ได้เหนือชั้นกว่าอาวุธชิ้นอื่นๆ แถมตอนเริ่มเล่นเกมครั้งที่สอง ความสามารถพิเศษที่ติดมากับอาวุธก็จะหายไปด้วย
หลี่หย่าต๋ารู้สึกสับสนเล็กน้อย
ทำไมบอสเผยถึงสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ
หรือบอสจะเล่นไม่ผ่าน เลยใส่ตัวช่วยเข้ามาให้ตัวเอง
อืม ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่
ถ้าบอสคิดว่าเกมยากเกินไปก็ลดระดับความยากได้เลยนี่ อีกอย่างบอสเป็นนักออกแบบเกม ไม่เห็นจำเป็นต้องเล่นเกมให้จบเลย
ดังนั้นเหตุผลนี้จึงตกไป ต้องเป็นเหตุผลอื่นสิ
หรือว่าการทำแบบนี้จะมีเหตุผลลึกซึ้งบางอย่างซ่อนอยู่
หลี่หย่าต๋าไตร่ตรองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ระดับความยากของตัวเกมในตอนนี้ถือว่าโหดสำหรับผู้เล่นทั่วไปมาก พวกมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกช่วงต้นเกมซัดผู้เล่นแค่สองครั้งก็ส่งไปเกิดใหม่ได้แล้ว หมายความว่าผู้เล่นจะต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้โดนโจมตีเลย
ถึงเล่นไปสักพักจะมีไอเทมช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต แต่ถ้าเทียบกับความเร็วในการเสียเลือดของผู้เล่นแล้ว ไอเทมพวกนี้ยังจัดว่าไม่ดีพอเท่าไหร่
สุดท้ายแล้วผู้เล่นก็ต้องมีฝีมือที่เก่งกาจมากพอ
ถ้าอย่างนั้นบอสเผยสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยผู้เล่นมือใหม่เหรอ อย่างน้อยถ้าได้อาวุธนี้ไป ผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ก็สามารถเล่นเกมไปจนถึงฉากจบฉากหนึ่งได้
หรือว่านี่คือสัญลักษณ์แสดงความเมตตาปรานีของบอสเผย
ก็เป็นไปได้
แล้วทำไม…ถึงซ่อนไว้ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
หลี่หย่าต๋าสังเกตเห็นว่าบอสเผยปรับลดค่าสถานะของพระคลั่งที่ดรอปอาวุธชิ้นนี้ลง ตอนนี้พระคลั่งอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกเสียอีก
พระคลั่งประจำอยู่ห่างตัวเมืองออกไป คนที่เล่นไปจนถึงจุดที่ว่านี้จะต้องผ่านความหฤโหดและฆ่ามอนสเตอร์ไปมากมาย จึงไม่เห็นจำเป็นต้องแวะฆ่าพระคลั่ง
ถึงจะบังเอิญโดนฆ่าตาย ก็ไม่น่าจะตายซ้ำตายซ้อนถึงหกครั้ง
เว้นเสียแต่ว่าจะตั้งใจตายเอง คิดไม่ออกเลยว่าคนแบบไหนกันจะยอมไปให้พระคลั่งฆ่าถึงหกครั้ง
อีกอย่างถ้าฆ่าพระคลั่งตามปกติก็จะได้ไม้เท้าธรรมดากับลูกประคำ ได้ทั้งสะสมอาวุธเพิ่มและได้ไอเทมช่วงต้นเกมที่แข็งแกร่งมาก รางวัลนี้น่าจะดึงดูดใจผู้เล่นได้มากกว่า
สรุปแล้วผู่ตู้นั้นซ่อนไว้ลึกลับซับซ้อนมาก ผู้เล่น 99.99% ไม่น่าจะหาเจอ!
ถ้าบอสเผยใส่เข้ามาเพราะปรานี ทำไมถึงต้องซ่อนไว้ในที่ที่หาเจอไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้
หลี่หย่าต๋าคิดหนัก
พี่เปาซวี่บอกเอาไว้ว่า สิ่งไร้เหตุผลย่อมมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่
สิ่งไร้เหตุผลในตอนนี้ก็คือเจ้าอาวุธชิ้นนี้!
“ทำไมต้องตายถึงหกครั้ง แล้วพอครั้งที่เจ็ดจู่ๆ พระคลั่งก็เกิดเป็นมิตรกับผู้เล่นขึ้นมาล่ะ
“จำนวนพวกนี้ซ่อนความหมายอะไรไว้นะ”
หลี่หย่าต๋าค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บเชียนตู้
ถึงจะเจอผลลัพธ์มากมายจนหลี่หย่าต๋าไม่รู้ว่าบอสเผยอ้างอิงอันไหน แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่าจำนวนที่ว่ามีความหมายอะไรซ่อนอยู่
แน่นอนว่าเรื่องพระพุทธศาสนาเชิงลึกนั้นเป็นเรื่องล้ำลึกเกินกว่าที่หลี่หย่าต๋าจะเข้าใจ เว็บเชียนตู้ก็ไม่มีข้อมูล ผู้เล่นทั่วไปเองก็ไม่น่าจะเข้าใจเหมือนกัน ความหมายเฉพาะบางอย่างต้องไม่ล้ำลึกมาก เพื่อที่ผู้เล่นทั่วไปจะได้เข้าใจได้
เลข ‘เจ็ด’ กับ ‘เก้า’ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสำคัญในพระพุทธศาสนา ตัวอย่างเช่น เลข ‘เก้า’ ใน ‘เก้าชั้นบัวของพระอมิตายุสะ’ นั้นบ่งบอกถึงความสำเร็จ
เลข ‘เจ็ด’ มีหลายความหมาย โดยสื่อถึงความสำเร็จเช่นกัน แต่บางคนมองว่าเลขนี้หมายถึงความสำเร็จเล็กน้อย
นอกจากการตีความเหล่านี้แล้ว ตอนที่พระพุทธเจ้าถือประสูติก็เดินได้เลยทันทีเจ็ดก้าว หกก้าวแรกคือสัญลักษณ์แทนสังสารวัฏทั้งหก ส่วนก้าวที่เจ็ดคือสัญลักษณ์แทนการตรัสรู้ ดังนั้น เลข ‘เจ็ด’ จึงสื่อถึงเรื่องการหลุดพ้นได้ด้วย
“ตายเจ็ดครั้งคือบรรลุผลเหรอ ไม่น่าจะใช่
“จริงๆ ผู้เล่นตายแค่หกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น… การตายทั้งหกครั้งก็สื่อถึงสังสารวัฏทั้งหก ส่วนครั้งที่เจ็ดคือการบรรลุผล
“มิน่าล่ะอาวุธนี้ถึงใช้ได้แค่ถึงฉากจบสังสารวัฏทั้งหก”
หลังจากวิเคราะห์ดูหลายๆ อย่าง หลี่หย่าต๋าก็สรุปได้ว่านี่น่าจะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด
การตายหกครั้งสื่อถึงสังสารวัฏทั้งหก ซึ่งก็หมายความว่าผู้เล่นได้เข้าสู่สังสารวัฏทั้งหกแล้ว พอเจอพระคลั่งรอบที่เจ็ดและได้รับผู่ตู้มาก็เท่ากับว่าได้บรรลุผล
นอกจากจะสามารถข้ามเส้นทางสู่ยมโลกไปเจอบอสแห่งสังสารวัฏทั้งหกได้ทันทีแล้ว อาวุธชิ้นนี้ยังสร้างขึ้นมาเพื่อล้มบอสตัวนี้โดยเฉพาะ
ผู้เล่นน่าจะมีการตอบสนองสองแบบเมื่อได้รับอาวุธชิ้นนี้
แบบแรกคือดีใจมากที่ได้ผู่ตู้มาและหวังพึ่งพลังโจมตีของอาวุธชิ้นนี้โค่นศัตรูลงง่ายๆ และเข้าสู่ฉากจบสังสารวัฏทั้งหก
แบบที่สองคือเลือกไม่ใช้ผู่ตู้และใช้ความสามารถของตัวเองมุ่งสู่ฉากจบแบบอื่นๆ
เพราะอย่างไรเกมก็ตั้งค่าไว้ว่าสังสารวัฏทั้งหกเป็นฉากจบปลอมที่ตัวเอกคิดว่าตัวเองหลุดพ้นจากโลกอันสิ้นหวังไปได้ แต่แท้จริงแล้วแค่กลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง
การใช้ผู่ตู้เพื่อไปถึงฉากจบนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนถูกดูแคลน
ถ้าใช้ผู่ตู้ก็เท่ากับผู้เล่นเลือกหนี ไม่ยอมเผชิญหน้าความท้าทาย คิดแต่จะหาทางเอาตัวรอด
การไม่ใช้ผู่ตู้และหยิบอาวุธธรรมดาไปเผชิญหน้ากับศัตรูสุดโหด และการต่อสู้แสนท้าทายจะทำให้เป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานได้อย่างแท้จริง!
คิดได้อย่างนั้นหลี่หย่าต๋าก็อยากจะเอ่ยชม
พอมาคิดดูดีๆ ตัวเกมตามเดิมก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี แค่ขาดความลึกซึ้งไปนิดหน่อย
เดิมพระคลั่งในซากวัดเป็นแค่ฉากรอง ผู้เล่นจะฆ่าพระคลั่งหรือไม่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่องช่วงหลัง
ฉากจบสังสารวัฏทั้งหกก็ไม่ได้แตกต่างจากฉากจบอื่นๆ เท่าไหร่
แต่พอบอสเผยปรับตัวเกม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด
การเพิ่มอาวุธสุดเทพอย่างผู่ตู้เข้ามาทำให้ผู้เล่นต้องคิดหนักกับสองตัวเลือก จะเลือกความสบายและหลอกตัวเองด้วยฉากจบปลอม หรือจะยอมเผชิญหน้ากับความลำบากและฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อค้นหาความจริงของโลกใบนี้
ผู้เล่นจะเข้าใจฉากจบแต่ละแบบในเกมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกอินและประทับใจกับตัวเกมมากขึ้น!