ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 240 ไม่มีคำอธิบาย

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

อีกฝ่ายกดรับสายแทบจะทันที หลินชั่นหรงคงไม่คาดคิดว่าบอสเผยจะโทรมาหา น้ำเสียงของเขาฟังดูกระสับกระส่าย “บอสเผย! มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ”

เผยเชียนตอบเสียงเรียบ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมแค่อยากถามว่าช่วงนี้มีลูกค้ามาที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเยอะมั้ย”

หลินชั่นหรงไม่ได้ตอบทันที เขารู้สึกอับอายมาก

อย่าถามเลยว่าเยอะไหม ถามว่ามีสักคนไหมน่าจะดีกว่า…

ตั้งแต่วันเปิดกิจการ ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ให้บริการแค่ตอนจัดงานเลี้ยงบริษัทเถิงต๋ากับตอนต้อนรับจางจู่ถิง นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีลูกค้าเลยสักคน

ซึ่งก็ไม่แปลก พวกเขาไม่ได้โฆษณาร้านให้เป็นที่รู้จัก จึงไม่มีลูกค้ามาที่ร้านเลย

พนักงานบางคนเล่าเรื่องครัวส่วนตัวหมิงหยุนให้เพื่อนฟัง แต่ร้านตั้งอยู่ไกลในโซนปลอดผู้คน พอไม่มีคนนำทางก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะหาร้านเจอ คนส่วนใหญ่ไม่อยากขับหาร้านเอง ส่วนพนักงานเถิงต๋าก็เพิ่งกินเลี้ยงที่นี่ไป จึงไม่มีใครอยากแวะมากินอีกรอบโดยควักเงินตัวเองจ่าย

ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาจึงไม่มีลูกค้าเลยสักคน

ถึงจะดูเหมือนทำงานได้ไม่ดี แต่พอคิดสักพัก หลินชั่นหรงก็ตัดสินใจบอกบอสเผยไปตรงๆ จะให้โกหกก็คงไม่เหมาะ

บอสเผยเป็นคนสายตาเฉียบแหลม ถ้าโกหกบอสไปต้องจบไม่สวยแน่

“ที่ผ่านมาไม่มีลูกค้าเลยสักคนครับบอสเผย ผมต้องไปทบทวนเรื่องนี้ดูอีกที่ เราน่าจะโปรโมตร้านได้ไม่ดีเท่าที่ควร เดี๋ยวผมจะไปเน้นเรื่องโปรโมตร้าน…” หลินชั่นหรงยอมรับผิด

พอเผยเชียนได้ยินที่อีกฝ่ายพูด เขาก็รีบขัดทันที “เปล่าๆๆ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

“คุณทำได้ดีแล้ว หน้าที่หลักของคุณคือเสิร์ฟอาหารและให้บริการที่ดีสุด คุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องโปรโมตร้านเลย

“ผมแค่จะโทรมาย้ำบางเรื่องกับคุณอีกรอบ

“เดี๋ยวจะมีลูกค้ามาใช้บริการครัวส่วนตัวหมิงหยุน คุณต้องแจ้งให้พนักงานให้ความสำคัญเรื่องพวกนี้

“หนึ่ง ห้ามให้ลูกค้าถ่ายรูป

“สอง ห้ามอธิบายอะไรเกินควร

“สาม ห้ามยกเว้นให้ใคร

“เข้าใจมั้ย”

หลินชั่นหรง “เอ่อ…”

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

เผยเชียนอธิบายเพิ่มเล็กน้อย ที่บอกว่า ‘ห้ามอธิบายอะไรเกินควร’ หมายถึงถ้ามีลูกค้าถามว่าทำไมวัตถุดิบถึงขาดเยอะจัง หรือทำไมทุกอย่างต้องสั่งจองล่วงหน้า

พนักงานควรตอบแค่ว่า “วัตถุดิบของเราล้ำค่ามาก ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ” ก็พอ ไม่ต้องสาธยายว่าล้ำค่ายังไง นำเข้าจากประเทศไหน

ลูกค้าอาจจะถามว่าทำไมอาหารถึงแพงกว่าที่อื่น

ถ้าถามมาแบบนั้น พนักงานก็ตอบแค่ว่า “เราใช้วัตถุดิบที่ดีกว่าและให้การบริการกับประสบการณ์การกินอาหารที่เหนือชั้นกว่า” ก็พอ ไม่ต้องสาธยายว่าวัตถุดิบดีกว่ายังไง หรือการให้บริการกับประสบการณ์ที่ได้แต่งต่างกันยังไง

สรุปแล้วคือไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ

ส่วนที่บอกว่า ‘ห้ามยกเว้นให้ใคร’ เผยเชียนหมายถึงตอนที่มีเจ้าของบริษัทอื่นมาใช้บริการ ถึงจะกระเป๋าหนาพร้อมจ่ายแค่ไหนก็ต้องจองล่วงหน้าเหมือนคนอื่นๆ และพนักงานก็ห้ามอธิบายอะไรให้พวกเขาฟังมากกว่าลูกค้าคนอื่นๆ

แน่นอนว่าเขาไม่ได้กำลังจะบอกให้พนักงานบริการลูกค้าแย่ๆ

พวกเขาต้องให้บริการลูกค้าตามมาตรฐานของร้าน แค่ไม่ต้องสาธยายเรื่องไม่จำเป็นก็เท่านั้น

“เข้าใจรึเปล่า” เผยเชียนถามอีกครั้ง

หลินชั่นหรงตอบ “เอ่อ…เข้าใจแล้วครับบอสเผย ผมจะทำตามที่บอสสั่งอย่างเคร่งครัด”

หลินชั่นหรงไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เผยเชียนพอใจมาก

เขาสั่งงานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และย้ำให้หลินชั่นหรงโทรหาเขาให้เร็วที่สุดถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็วางสายไป

ถึงหลินชั่นหรงจะไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม แต่เขาก็นิ่งคิดอยู่นานหลังจากวางสายแล้ว

บอสเผยตั้งใจจะทำอะไรกันนะ

หรือว่าจะเป็นกลยุทธ์ ‘ขายโดยไม่ต้องอธิบาย’

ถึงลูกค้าจะถามก็ห้ามอธิบายอะไรเยอะเกินไปเหรอ

อารมณ์แบบว่า ‘กินเสร็จแล้วก็ไป จะถามอะไรให้มากมาย’

แน่นอนว่าพวกเขาจะใช้ทัศนคติแบบนั้นไม่ได้ บอสเผยสั่งให้พนักงานบริการลูกค้าให้ได้มาตรฐาน แต่ให้ระวังอย่าตอบคำถามอะไรมากเกินความจำเป็น

แตกต่างจากสิ่งที่หลินชั่นหรงคุ้นเคย

เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

ผู้คนต้องสื่อสารกันเพื่อไม่ให้เข้าใจกันผิด ถ้าลูกค้าไม่พอใจอะไร พนักงานก็ต้องอธิบายอย่างเต็มที่ให้ลูกค้าเข้าใจเหตุผล ถ้าให้ยิ้มเฉยๆ ไม่พูดไม่จา ลูกค้าอาจจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่

แต่… บอสเผยก็สั่งมาอย่างชัดเจน มีถามย้ำด้วยว่าเข้าใจหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้สำคัญมาก

“ช่างเถอะ บอสเผยน่าจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ไม่ต้องคิดมากหรอก

“แค่ทำตามที่บอสบอกก็พอ

“เดี๋ยวนะ ทำไมบอสเผยถึงรู้ล่ะว่าเดี๋ยวจะมีลูกค้าเข้า

“อ๋อ บอสเผยน่าจะคิดหาวิธีโปรโมตร้านได้แล้ว มิน่าล่ะถึงบอกฉันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้”

ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของบอสเผยเท่าไหร่ แต่หลินชั่นหรงก็มั่นใจว่าบอสเผยกุมทุกอย่างไว้ในมือ เหมือนว่าบอสได้เตรียมการทุกอย่างไว้สำหรับอนาคตแล้ว

มีผู้นำดีนี่ยอดเยี่ยมไปเลย!

หลินชั่นหรงรู้สึกสบายใจ เขาพร้อมนำสิ่งที่บอสเผยสั่งมาไปบอกเหล่าพนักงาน

เผยเชียนกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ในตอนเย็น

เขาเก็บกล้องลงจากโต๊ะ จากนั้นก็ตัดต่อคลิปที่ถ่ายมาเล็กน้อยก่อนจะเอาลงเว็บ

ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจำนวนผู้ติดตามจะค่อยๆ ทยอยเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ผิดจากที่เผยเชียนคิดเอาไว้

แต่ยังไงก็ถือว่าเขาบรรลุเป้าหมาย!

ถึงหลินฉางจะยังจำเผยเชียนได้ ก็ไม่มาว่าเผยเชียนไม่ได้ว่าหลังจากได้เงินไปแล้วไม่ยอมทำอะไรเผยเชียนอ่านคอมเมนต์แล่นผ่านบนคลิปของตอนก่อน จากนั้นก็เริ่มวางแผนสำหรับอนาคต

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือเกมทั้งสองเกม

เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดพัฒนาเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ แม้แต่โฆษณาก็ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่งก็คืออีกสิบวันต่อจากนี้ พวกเขาน่าจะปล่อยโฆษณาเกมออกไปและเริ่มเปิดให้ทดสอบ

เกมกลับใจคือฟากฝั่งยังต้องพัฒนาอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน

เขาต้องจับตาดูครัวส่วนตัวหมิงหยุนด้วย จะยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกไม่ได้

ส่วนเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน นี่เฟิงโลจิสติกส์ เฟยหวงสตูดิโอ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลใจสำหรับเขาในตอนนี้ สองธุรกิจแรกยังขาดทุนอย่างสม่ำเสมอ ส่วนกิจการเฟยหวงสตูดิโอก็เป็นไปตามปกติไม่ว่าเขาจะเข้าไปยุ่งหรือเปล่า

โชคดีที่เขาขยายธุรกิจออกไปหลายอย่าง ตอนนี้ผลาญเงินได้เร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม

จุดบริการนี่เฟิงทุกสาขากำลังเดินไปถูกทาง โดยเฉพาะบริเวณที่เผยเชียนต้องแวะไปบ่อยๆ ตอนนี้พัสดุส่งตรงถึงหน้าบ้านแล้ว

แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ไม่อยากให้พนักงานมาส่งของถึงหน้าบ้าน คนกลุ่มนี้ยืนกรานจะไปรับพัสดุด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่เป็นไร จุดบริการนี่เฟิงให้บริการพื้นที่ขนาดเล็ก ลูกค้าสามารถโทรมาบอกให้ไม่ต้องไปส่งของที่บ้านได้ จากนั้นก็นัดเวลาเข้ามารับพัสดุด้วยตัวเอง

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตระหนักได้ว่าการขาดทุนรอบนี้ต้องพึ่งนี่เฟิงโลจิสติกส์

ถึงกิจการธุรกิจอื่นๆ จะดูราบรื่นดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบังเอิญมีเคราะห์ร้ายเข้ามาตอนไหน

ถ้าเขารักษาสภาพกิจการนี่เฟิงโลจิสติกส์ไว้ได้แบบนี้ ถึงจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับธุรกิจอื่นๆ เผยเชียนก็แค่ต้องเปิดจุดบริการนี่เฟิงและจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อคุมยอดกำไร

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท