คุรุการแพทย์ – บทที่ 4 รักษาสาวสวย

คุรุการแพทย์

บทที่ 4 รักษาสาวสวย

บทที่ 4 รักษาสาวสวย

“ตัวอักษรงั้นเหรอ?”

“หน้าว่างเปล่าแต่มีตัวอักษรซ่อนอยู่?!”

อย่างที่เห็น ฟางชิวมักจะมีความลับอยู่เสมอ ความลับที่ไม่มีใครรู้ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ที่สอนวิชายุทธ์ของเขาเองก็ไม่รู้มาก่อน…

เขาครอบครองพลังแห่งการสัมผัส! ด้วยพลังนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชายหนุ่มสัมผัสจะปรากฏภาพขึ้นมาในจิตใจของเขาทันที ฟางชิวนั้นค้นพบพลังวิเศษนี้ตั้งแต่ตัวเขายังเป็นเด็กประถม

ย้อนกลับไปสมัยก่อน ฟางชิวกับเพื่อนของเขากำลังเล่นลูกแก้ว จู่ ๆ ลูกแก้วของฟางชิวก็หายไป และเป็นเพราะเพื่อนร่วมชั้นของเขาหยิบลูกแก้วที่เหมือนกันออกมา ทำให้ทุกคนรวมทั้งตัวชายหนุ่มเองเข้าใจว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนขโมยไป

แต่แล้ว เมื่อนิ้วสัมผัสกับลูกแก้ว ฟางชิวก็ต้องผงะ เขาพบว่าตนสามารถสัมผัสถึงรอยขีดข่วนของมันได้อย่างชัดเจนแม้มันจะเป็นรอยที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ตาม

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง รอยขีดข่วนบนลูกแก้วที่หายไปก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตใจของเขา!

พอเปรียบเทียบลูกแก้วทั้งสอง เขาถึงได้มั่นใจว่าไอ้ลูกแก้วที่อยู่ในมือเพื่อนร่วมชั้นไม่ใช่ของเขาแน่นอน หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองมีพลังวิเศษ!

เสียดายอยู่หน่อย ๆ ที่เป็นความสามารถไร้ค่า อาจเอาไปอวดในรายการวาไรตี้ Super Brain ได้อยู่หรอก แต่ในชีวิตประจำวันแล้วช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี และเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนการใช้พลังนี้มาหลายปี เกือบจะลืมไปแล้วว่ามีพลังแบบนี้อยู่

ฟางชิวเพิ่งเห็นคำในหน้าหนังสือด้วยพลังนี้

“นี่เป็นสาเหตุที่ตาลุงบรรณารักษ์หน้าประตูแนะนำหนังสือเล่มนี้หรือเปล่านะ?”

ฟางชิวสงสัย

“มีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ใช่ไหม?”

ชายหนุ่มเปิดดูหนังสืออีกรอบหนึ่ง แต่คราวนี้กลับไม่มีร่องรอยของการขีดเขียนหรือตัวอักษรใด ๆ

แต่ฟางชิวก็รู้สึกได้ว่ามีตัวอักษรซุกซ่อนอยู่ในหนังสือ นั่นกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขาขึ้นมา

ฟางชิวนำหนังสือแพทย์แผนจีนโบราณและหน้ากระดาษไปที่ห้องรับรอง

ทันทีที่ชายหนุ่มนั่งลง เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะหยิบปากกา สมุดบันทึก และกระดาษขึ้นมา จากนั้นก็วางนิ้วกลางซ้ายไว้บนหน้ากระดาษ เตรียมเขียนสิ่งที่อยู่ในจิตใจของตัวเองลงบนสมุดด้วยมือขวา

เมื่อของทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ฟางชิวก็เริ่มหลับตา

นิ้วกลางของเขาค่อย ๆ เลื่อนไปเหนือกระดาษ เริ่มค้นหาคำศัพท์ในห้วงจิตใจ

และแล้ว คำศัพท์และอะไรอีกมากมายก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจ

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของศาสตร์การจัดโครงกระดูกก็คือ การสัมผัสกระดูก!”

“ในความเป็นจริงนั้น ทฤษฎีของการสัมผัสกระดูกนั้นจะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของผู้ใช้ ศาสตร์การจัดโครงกระดูกนั้นจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมสักเล็กน้อย และพรสวรรค์นั้นไม่สามารถที่จะสอนกันได้ แต่ทักษะความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นสามารถเรียนรู้ได้และต่อยอดได้ไกล…”

สองประโยคแรกทำให้ฟางชิวถึงกับช็อก

หนังสือแพทย์แผนจีนโบราณเกือบทั้งหมดส่วนมากยกย่องศาสตร์การจัดกระดูกและอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุด แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ หน้านี้กลับบอกว่า ศาสตร์การจัดกระดูกนั้นใช้เพียงความรู้เล็กน้อยเสียอย่างนั้น

‘มันจะไม่ง่ายเกินไปหน่อยเหรอ?’ ฟางชิวคิดในใจด้วยความไม่ไว้ใจ

ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่สนใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลับตาแล้วสำรวจคำอื่น ๆ ต่อไป

คิ้วของเขาเริ่มขมวดเป็นร่องลึกขึ้นและลึกขึ้น ขณะที่คำศัพท์มากมายล่องลอยเข้ามาในใจผ่านปลายนิ้วของเขา

แล้วฟางชิวก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเปิดหน้าต่อไปพบหัวข้อว่า ‘ทฤษฎีการจัดกระดูก’

ทฤษฎีนี้แบ่งทักษะการจัดกระดูกไว้สามขั้นด้วยกัน นั่นคือ ‘รับรู้’ ‘เข้าใจ’ และ ‘เชี่ยวชาญ’

ซึ่งความต่างของทั้งสามทักษะนี้ทำให้ชายหนุ่มต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจและสนใจ

ให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ขั้นแรก ‘รับรู้’ เราจำเป็นต้องรู้จักลักษณะของกระดูกมนุษย์ให้ดีที่สุดเพื่อที่จะสามารถบอกปัญหาของกระดูกจากรูปร่างได้ ซึ่งเฉพาะวิธีนี้เท่านั้นจะทำให้นำไปสู่การจัดกระดูกได้อย่างแม่นยำ

ส่วนขั้น ‘เข้าใจ’ จำเป็นจะต้องรู้จักกระดูกให้เหมือนกับการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ เพื่อที่จะสามารถเข้าใจลักษณะข้อต่อกระดูกได้อย่างถ่องแท้

ตามทฤษฎีที่ได้เห็นนี้ ฟางชิวผู้ได้รู้บางอย่างเกี่ยวกับการรักษาอาการบาดเจ็บ รู้สึกว่าตัวเองยังคงห่างไกลกับขั้นแรก เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงขั้นสองเลย ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าตนยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยสักนิด!

ในบทความยังกล่าวว่า ระดับสูงสุดของทฤษฎีการจัดกระดูกคือขั้น ‘เชี่ยวชาญ’

ถ้าหากความหมายของสองขั้นแรกยังอยู่ในระดับที่มันสมองของฟางชิวสามารถเข้าใจได้สักนิด เช่นนั้นขั้นสุดท้ายที่ถูกเรียกว่า ‘เชี่ยวชาญ’ ก็จัดเป็นศาสตร์ที่ลึกล้ำและยังห่างไกลเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะเข้าใจได้

ทฤษฎีนี้ยังกล่าวอีกว่า เพียงแค่สัมผัสก็สามารถหักหรือต่อกระดูกคืนได้เหมือนใหม่! นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับขั้น ‘เชี่ยวชาญ’

น่ากลัวมาก!

และสิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นก็คือ ในตำรานี้ยังสอนเรื่องของการฝึกฝนเพื่อบรรลุความ ‘เชี่ยวชาญ’ ในระดับที่ว่าสามารถทำได้โดยสัญชาตญาณ! หรือที่เรียกว่า ‘ขอบเขตจิตสำนึก’ ที่แท้จริง!!

ทว่าวิธีการฝึกฝนขั้น ‘รับรู้’ และ ‘เข้าใจ’ นั้น ราวกับว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าให้ผู้เขียนอธิบายถึงมันเท่าไรนัก

ฟางชิวไม่รู้ว่าผู้เขียนบทความในตำรานี้เป็นเพียงคนบ้าคนหนึ่ง หรือปรมาจารย์มากฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้กันแน่

ตามที่ได้เขียนในหน้าตำรานี้ ผู้ที่สำเร็จบรรลุ ‘ขอบเขตจิตสำนึกที่แท้จริง’ นั้นช่างน่าเหลือเชื่อราวกับพระเจ้า!

แม้แต่คนที่มีพลังยุทธ์ก็คงตกใจกับเนื้อหาในตำรานี้

เมื่ออ่านจบหน้าหนึ่งแล้ว ฟางชิวก็พลิกหน้ากระดาษไปอีกหน้าหนึ่ง และใช้นิ้วกลางซ้ายแตะกระดาษ

รูปกระดาษมากมายปรากฏขึ้นมาในห้วงจิตใจ มีรายละเอียดแน่นขนัดมากกว่าภาพวาดทางกายวิภาคที่มีอยู่ในปัจจุบันซะอีก!

มีทั้งภาพกระดูกของมนุษย์ เอ็น กล้ามเนื้อ ตามด้วยภาพการรักษากระดูกที่บาดเจ็บ ภาพเหล่านั้นเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ราวกับมีใครสักคนกำลังสอนเขาอยู่ในตอนนี้!

สิบนาทีต่อมา ภาพสุดท้ายก็ปรากฏขึ้น

ฟางชิวค่อย ๆ ลืมตา และยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงสามนาที ชายหนุ่มก็ตั้งสติได้…

“สุดยอด!”

เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ไว้ในหน้าเดียว มันช่วยให้ทักษะด้านศาสตร์การจัดกระดูกของชายหนุ่มพัฒนาขึ้นไปถึงขั้น ‘รับรู้’ ได้

เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้เขียนถึงได้ดูถูกสองขั้นแรก ถ้าฟางชิวสามารถช่วยให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกจากเพียงแค่การสัมผัสเบา ๆ ชายหนุ่มก็คงไม่จำเป็นต้องสนใจสองขั้นแรกเช่นกัน!

“โลกใบนี้มีเรื่องลึกลับมากมายกว่าที่ฉันรู้!”

“อย่างเช่นคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ไม่เห็นจะเคยได้ยินว่ามีคนแบบนี้มาก่อน!”

ฟางชิวถอนหายใจ

เขาส่ายศีรษะพลางเตรียมตัวอ่านเนื้อหาที่เหลือต่อไป

แต่ทันใดนั้น ฟางชิวก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในห้องสมุด

เขาสังเกตเห็นว่าห้องรับรองของห้องสมุดนั้นเต็มแล้ว ฟางชิวหมกมุ่นอยู่กับเนื้อหาของตำรา จนไม่ทันรู้ว่ามีคนเข้ามามากมายขนาดนี้

“ทำไมจู่ ๆ ถึงมีแต่คนเข้ามาในห้องสมุด แล้วจ้องฉันทำไม?”

“มองแบบไม่เป็นมิตรอีก?”

“เกิดอะไรขึ้น?”

ฟางชิวมองไปรอบ ๆ ด้วยความข้องใจ หลังเห็นดวงตากลมโตคู่หนึ่งจ้องมาที่เขาจากโต๊ะตรงข้าม ชายหนุ่มก็ผงะ…

คนที่นั่งตรงข้ามเป็นสาวสวยนักศึกษาใหม่ของสาขาฝังเข็มและการนวดของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง เจียงเหมี่ยวอวี๋

เหล่านักศึกษาชายต่างพากันยกเธอให้เป็นเทพธิดาสุดเพอร์เฟกต์ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง

ฟางชิวเคยเจอเธอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นระหว่างการฝึกซ้อมทหาร แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว

ชายหนุ่มรู้แล้วว่าทำไมหลายคนในห้องสมุดถึงได้พากันจ้องเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเช่นนี้

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจู่ ๆ แต่ละคนถึงพากันแห่มายังห้องสมุดแห่งนี้ ที่แท้เพราะอยากจะเห็นหน้าเจียงเหมี่ยวอวี๋ เทพธิดาของพวกเขานี่เอง! เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอิจฉาฟางชิวที่นั่งใกล้ชิดกับเทพธิดาแสนสวยคนนี้

ฟางชิวได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ เขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเป็นคนที่โชคดีขนาดนี้…

ชายหนุ่มมองไปที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ เธอมองกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นจับเข็ม แทงไปยังจุดฝังเข็มที่มือซ้าย

มันเป็นหนึ่งในไม่กี่จุดฝังเข็มที่ฟางชิวรู้จัก

มันคือ จุดชวีฉือ*[1]

ตามที่หนังสือแพทย์แผนจีนโบราณระบุไว้ จุดนี้ใช้รักษาอาการปวดหรือการเป็นอัมพาตที่แขนได้ เช่นเดียวกับอาการอัมพาตของร่างกายส่วนบน

เหมือนกับว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋พยายามฝังเข็มให้ตัวเอง เธอแทงเข็มลงอย่างรวดเร็วลงบนผิว แม่นยำตรงจุดอย่างยิ่ง…

จากนั้น หญิงสาวก็เริ่มหมุนเข็ม

ฟางชิวเริ่มจำได้ถึงข่าวลือที่ว่า ครอบครัวของเจียงเหมี่ยวอวี๋เป็นครอบครัวหมอฝังเข็ม

จากภาพที่เขาเห็นในตอนนี้ยิ่งเป็นตัวยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะว่านักศึกษาน้องใหม่ที่มีประสบการณ์เพียงแค่การฝึกทหารภาคสนามและยังไม่ได้เข้าเรียนหลักสูตรใด ๆ คงไม่มีทางมีทักษะฝังเข็มแบบนี้เป็นแน่

ไม่นานการหมุนเข็มครั้งแรกก็เสร็จสิ้น แต่เจียงเหมี่ยวอวี๋กลับขมวดคิ้วน้อย ๆ

ฟางชิวรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่หญิงสาวทำอยู่เมื่อครู่นี้เหมือนจะไม่เหมาะสำหรับเธอ

เมื่อเขาเบือนสายตาไปยังแขนซ้ายที่ขาวผ่องและอ่อนนุ่มของเธอแล้วก็ต้องตะลึง

ในฐานะที่ตัวเขามีความเชี่ยวชาญถึงขั้น ‘รับรู้’ แล้ว เขาจึงสามารถมองเห็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ได้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่า เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่พยายามแทงเข็มลงไปในแขนของตัวเองไม่ใช่การลองใช้เข็ม

เธอกำลังพยายามรักษาตัวเอง

ถ้าใช้กับแขนที่เกิดจากการอุดตันของพลังชีวิตและเลือด การฝังเข็มในจุดชวีฉือจะมีประสิทธิภาพมาก แต่ไม่ใช่กับแขนของเธอ

หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย ฟางชิวก็บอกเธอว่า “เธอทำผิดแล้ว”

มือของเจียงเหมี่ยวอวี๋ที่ตั้งท่าจะหมุนเข็มอีกครั้งหยุดชะงัก เธอมองมาที่ฟางชิวด้วยความประหลาดใจระคนสับสน

“แขนเธอเพิ่งบาดเจ็บมา ข้อมือและข้อต่อของเลยคลาดเคลื่อน เอ็นคงตึงนิด ๆ ด้วย ฝังเข็มจุดชวีฉือไม่มีประโยชน์กับอาการบาดเจ็บของกระดูกท่อนนี้หรอก สิ่งที่เธอต้องทำคือการจัดกระดูกต่างหาก”

ทันทีที่ชายหนุ่มอธิบายจบ ดวงตาของเจียงเหมี่ยวอวี๋ถึงกับเป็นประกาย

แขนของเธอบาดเจ็บจริง ๆ เพราะเธอเพิ่งยกของหนักและทำความสะอาดหอพักของตัวเองเมื่อเช้านี้ หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่าชายหนุ่มตรงข้ามผู้สวมชุดเครื่องแบบฝึกทหารภาคสนามอยู่จะสามารถมองเห็นอาการของเธอได้อย่างรวดเร็ว

‘ดูเหมือนว่าที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีคนเก่ง ๆ ที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนอยู่มากนะ!’

หญิงสาวคิดในใจ

ในขณะนั้น อาการเจ็บที่แขนซ้ายของเธอก็แสดงอาการอีกครั้ง ทำเอาเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย

ฟางชิวเสนอ “ฉันช่วยเธอได้นะถ้าเธอต้องการ”

น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมั่นใจ จางเหมี่ยวอวี๋จึงมองฟางชิวตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างระมัดระวัง

บรรดาหนุ่ม ๆ ส่วนมากเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวมักจะมีท่าทีเขินอายและไม่กล้าพูดคุยกับเธอ ไม่ก็กระเสือกกระสนทำทุกทางที่จะโชว์ความแน่และความเท่ของตัวเองให้ดู นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเหมี่ยวอวี๋พบผู้ชายที่สามารถรู้ถึงอาการบาดเจ็บของเธอ และยังเสนอตัวช่วยรักษาเธออีกด้วย!

หญิงสาวเกิดความสงสัย ‘นี่เป็นวิธีจีบรูปแบบใหม่เหรอ?’

แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่จริงใจของฟางชิวแล้ว เจียงเหมี่ยวอวี๋จึงรู้ว่าเขาต้องการจะช่วยเธอจริง ๆ

“รบกวนนายแล้ว” เธอตอบกลับเขาพลางยิ้มน้อย ๆ

เจียงเหมี่ยวอวี๋ยื่นแขนซ้ายข้างที่บาดเจ็บของตัวเองด้วยแววตาคาดหวัง

รอยยิ้มที่เปี่ยมเสน่ห์ของเธอทำให้หัวใจฟางชิวสั่นไหว

แต่ในเวลาต่อมา ฟางชิวก็สวมบทบาทหมอพร้อมกับสีหน้าเคร่งขรึม

ฟางชิวใช้มือซ้ายจับแขนซ้ายของเธอ จากนั้นใช้มือขวาประกบอีกทีอย่างอ่อนโยน เสร็จแล้วชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นพูดออกมาว่า “น่ารักจัง”

เจียงเหมี่ยวอวี๋ถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟางชิวพูด เธอกำลังรอให้เขาจัดกระดูกรักษาให้เธออยู่ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบกลับเธอแบบนี้

“ขอบคุณ…?”

มีแสงวาบอยู่ในดวงตาของฟางชิว จากนั้นเขาก็หมุนแขนซ้ายของเจียงเหมี่ยวอวี๋อย่างแรงไปพร้อม ๆ กัน ครั้งแรกตามตามเข็มนาฬิกา ครั้งต่อมาหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบสนอง มือของเขาก็กลับมาตำแหน่งเดิมแล้ว…

ฟางชิวคลายแขนของเธอลงแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้โอเคแล้วล่ะ”

[1] จุดชวีฉือ เป็นจุดบนเส้นลมปราณมือหยางหมิงลำไส้ใหญ่ จะอยู่บริเวณปุ่มหัวไหล่

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท