บทที่ 10 การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ!
บทที่ 10 การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ!
ไฟดับ!
ในเวลานี้เอง หมู่ผู้ชมล้วนพากันโกรธเกรี้ยว
“เฮ้ย! นี่มันปาร์ตี้รับน้องใหม่นะโว้ย!”
“แถมยังเป็นเวลาที่เทพธิดาเจียงเหมี่ยวอวี๋ของพวกเราจะทำการแสดงอีกต่างหาก!”
“แต่ไฟดันมาดับซะได้!”
ผู้ชมต่างพากันเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงโวยวายออกมาด้วยความไม่พอใจเป็นการระบายความโกรธ
“โถ่เอ๊ย! ทำไมไฟต้องมาดับในเวลานี้ด้วย ไม่เห็นอกเห็นใจกันเลยเหรอ?!”
“เทพธิดาของฉันเพิ่งจะได้แสดงร้องเพลง ไฟดับได้ถูกเวลาจริง ๆ!”
ผู้ชมคนหนึ่งโวยวายกึ่งประชดประชัน
“สำนักงานการไฟฟ้ากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่? ทำให้ไฟดับในคืนปาร์ตี้รับน้องใหม่และวันไหว้พระจันทร์แบบนี้ ไม่กลัวคนจะโกรธเลยเหรอ?!”
“เอาไฟฟ้าของพวกเราคืนมา! จะเอาไฟฟ้า อยากได้ยินเจียงเหมี่ยวอวี๋ร้องเพลง!”
เสียงประท้วงของผู้ชมที่ต่างพากันผิดหวังที่จะได้เห็นเทพธิดาเจียงของพวกเขาร้องเพลงเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ…
เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องด่าทออย่างรุนแรง อธิการบดีที่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชมก็แปลกใจเช่นกัน เขาขมวดคิ้วพร้อมกับถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ ๆ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมไฟถึงดับกัน?”
เจ้าหน้าที่ในงานรีบตอบทันที “ขณะนี้เรายังไม่รู้รายละเอียด แต่ชุมชนบริเวณใกล้เคียงก็ไฟดับเช่นกัน เดี๋ยวผมจะตรวจสอบรายละเอียดทันทีครับ!”
พูดเสร็จ เจ้าหน้าที่ผู้ชายก็รีบออกไป
หลังจากเจ้าหน้าที่ไปแล้ว อธิการบดีของมหาวิทยาลัยก็ลุกขึ้นยืน เขารู้สึกว่าจำเป็นจะต้องยืนขึ้นและปรามเหล่านักศึกษาให้สงบลง ไม่อย่างนั้นหากเกิดอะไรขึ้นมา ก็ไม่พ้นตัวเขาที่ต้องรับผิดชอบ
ในเวลานี้เอง เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็พูดขึ้นบนเวที
“ได้โปรดเงียบหน่อยค่ะ!”
ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวหญิงสาวเองที่เป็นคนพูด แต่เมื่อเทียบกับเสียงร้องโวยวายของผู้ชมข้างล่างแล้ว เสียงของเธอดูราวกับก้อนหินที่ถูกโยนลงทะเล ก่อคลื่นกระเพื่อมในน้ำไม่ได้แต่อย่างใด
“ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ!”
เจียงเหมี่ยวอวี๋ตะโกนออกมาสามครั้งติดต่อกัน แต่ก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด
ตอนนี้หญิงสาวเริ่มกังวลแล้ว
เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็มีเสียงที่กึกก้องราวกับฟ้าร้องดังขึ้นเหนือสนามกีฬา
“เจียงเหมี่ยวอวี๋ขอร้องให้ทุกคนเงียบ!”
เสียงที่ดังขึ้นมานั้นกลบเสียงโวยวายทั้งหมดทันที
มันคือเสียงของฟางชิวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ฟางชิวก็ไม่ปล่อยให้ทุก ๆ คนรู้ว่าคนที่พูดคือเขา เพราะว่าเขาได้เปลี่ยนเสียงของตัวเองแล้วปล่อยให้ดังขึ้นไปทั่วบริเวณ
ทุกคนที่กำลังโวยวายอยู่ได้ยินว่าเทพธิดาเจียงเหมี่ยวอวี๋ต้องการให้เงียบก็ต่างพากันเงียบทันที จากนั้นก็ต่างทอดสายตามองไปยังเรือนร่างอันงดงามของเจียงเหมี่ยวอวี๋ที่เปล่งปลั่งท่ามกลางแสงจันทร์ในคืนปาร์ตี้รับน้องใหม่และวันไหว้พระจันทร์
อธิการบดีถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วนั่งลง อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาบ้าง
“พอทุกคนเงียบแล้ว เหมือนอยู่บนโลกที่งดงามขึ้นมาเลย!”
“ขอบคุณค่ะทุกคน!”
เจียงเหมี่ยวอวี๋คำนับเล็กน้อยแล้วพยายามพูดออกมาให้ดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ “บทเพลงที่ฉันกำลังจะร้องนี้คือ ‘Hélène’ (เฮเลน) เวอร์ชันของ ไช่ชุนเจีย แต่ฉันอยากรู้ว่ามีใครในงานนี้คุ้นเคยและสามารถเล่นเครื่องดนตรีเพลงนี้ไหมคะ? ถ้าหากว่ามี… คุณสามารถร่วมแสดงกับฉันเพื่อให้ฉันสามารถร้องเพลงนี้ได้ไหม?”
ไม่มีใครสักคนตอบมาเลย
แจ่มแจ้งว่าไม่มีใครในงานนี้เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะมีใครสามารถเล่นเพลงนี้ได้
ส่วนหลี่ชิงสือนั้นเล่นกีตาร์ได้ ชายหนุ่มมั่นใจว่าเขาสามารถร่วมแสดงกับเธอบนเวทีได้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเพลงนี้เลย
“อืม… ถ้างั้นฉันร้องเพลงนี้แบบที่ไม่มีดนตรีบรรเลงละกัน”
ตอนที่เจียงเหมี่ยวอวี๋พูดจบ จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากกลุ่มผู้ชม
“ฟางชิว!”
ฟางชิวถึงกับชะงักงันเมื่อได้ยิน
สายตาของผู้คนเป็นประกายขึ้นทันที
“จริงด้วย!”
“ฟางชิว!”
“การแสดงล่าสุดที่เพิ่งแสดงไปโคตรเจ๋ง ถ้าเล่นเพลงนี้กับเทพธิดาเจียงเหมี่ยวอวี๋ของพวกเราได้ คงเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบเลย!”
“ฟางชิว! ฟางชิว!”
ฝูงชนต่างพากันร้องตะโกนเชียร์
ทุกคนหันมองไปยังแถวที่นักศึกษาห้องสามกำลังนั่งอยู่
นักศึกษาทุกคนกำลังจ้องมองไปยังบริเวณนั้น ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องสามก็พากันมองที่ฟางชิว
ฟางชิวมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง
ชายหนุ่มไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงพากันเสนอชื่อเขาให้ร่วมการแสดงกับเจียงเหมี่ยวอวี๋
เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่ยืนอยู่บนเวทีมองไปยังฟางชิวด้วยสายตาคาดหวัง เธอถามขึ้น “ฟางชิว นายเล่นเพลง ‘Hélène’ ได้ไหม?”
นอกเวทีนั้น หลี่ชิงสือก็มองไปยังบริเวณที่นั่งของห้องสามด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เขาได้แต่หวังว่าฟางชิวจะไม่รู้จักเพลงนี้!
“ขืนหมอนั่นรู้ เทพธิดาของฉันจะยิ่งเทใจให้มันแน่!”
แต่สิ่งที่หลี่ชิงสือหวังนั้นก็ไม่เป็นผล เพราะฟางชิวพยักหน้าแล้วตอบมาว่า “เล่นได้”
แม้ว่าเสียงพูดของฟางชิวจะไม่ดังนัก แต่หมู่ผู้ชมทั้งหมดรอบพื้นที่กลับได้ยินอย่างชัดเจน
“ถ้าอย่างนั้น นายจะเล่นเพลงนี้ให้ฉันร้องได้ไหม?” เจียงเหมี่ยวอวี๋ถามอีกครั้ง
ซุนฮ่าวและโจวเสี่ยวเทียนมองข้ามไหล่ของพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อจ้องไปยังฟางชิวด้วยดวงตาคมกริบเป็นการกดดัน ราวกับต้องการจะบอกว่า ถ้าเอ็งปฏิเสธเทพธิดาของพวกเรา เอ็งตายแน่!
ขณะที่ทุก ๆ คนต่างพากันจ้องมองฟางชิวอย่างตั้งใจ ฟางชิวก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วก้าวเดินออกไปด้วยความประหม่า
“เป็นเกียรติมากครับ”
แปะ ๆๆๆ!
เมื่อเห็นฟางชิวเดินขึ้นไปบนเวที ผู้ชมต่างพากันปรบมือกันอย่างกระตือรือร้น
ยกเว้นก็แต่หลี่ชิงสือ หัวใจของชายหนุ่มเต้นรัวเร็วด้วยความรู้สึกแย่เกินบรรยาย ความรู้สึกช้ำใจแผ่ซ่านไปทั่วเนื้อตัว
หลิวเฟยเฟยรู้สึกมีความสุขมากเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“ดีแล้วเจ้าหนู”
“ดูเหมือนว่าคืนนี้จะเป็นคืนเจิดจรัสของเธอนะ!”
เมื่อเดินมาถึงขอบเวที ฟางชิวก็กระโดดขึ้นไปบนเวทีที่สูงถึงเมตรครึ่งทันที
บริเวณโดยรอบนั้นมืดสนิท มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นการเคลื่อนไหวของฟางชิว เขาปรากฏตัวบนเวทีอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพากันสงสัยว่าเขาทำได้อย่างไร?
เจียงเหมี่ยวอวี๋เห็นความว่องไวนั้นอย่างชัดเจน เธอจึงอดไม่ได้ที่จะชะงักตกใจกับความสามารถของอีกฝ่าย
“ขอบคุณนะฟางชิว”
เธอก้มหัวลงนิด ๆ เป็นการขอบคุณหลังจากที่หายตะลึง
“ด้วยความยินดี”
ฟางชิวก็ก้มหัวลงตอบ
“การบรรเลงประกอบเพลงขึ้นอยู่กับนายแล้วนะ” เจียงเหมี่ยวอวี๋ขอบคุณฟางชิวด้วยความจริงใจ ดวงตาคู่สวยของเธอยังคงจ้องเขาไม่วางตา
แสงจันทร์พร่าวพราวไล้แสงลงมา ขับเน้นให้ทั้งสองมองเห็นหน้าของกันและกันชัดเจน
“ไม่มีปัญหา”
ฟางชิวถามอีกฝ่าย “พวกเราจะเริ่มเลยไหม?”
“เริ่มเลย!”
เจียงเหมี่ยวอวี๋หันหน้าไปทางผู้ชมแล้วประกาศ “เอาล่ะค่ะทุกคน มาเพลิดเพลินกับเพลง ‘Hélène’ เล่นโดยคุณฟางชิวและมีฉันเป็นผู้ขับร้องเพลง เสียงอาจจะเบาไปหน่อย ต้องขออภัยทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ”
“โอเค!!” เหล่าผู้ชมไม่ถือสาแต่อย่างใด และต่างพากันตอบกลับเทพธิดาของพวกเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เจียงเหมี่ยวอวี๋ส่งยิ้มให้ผู้ชม จากนั้นก็พยักหน้าให้กับฟางชิว
ฟางชิวเห็นเข้าใจว่าเป็นสัญญาณให้เริ่มได้ เขาจึงประสานมือของตัวเองก่อนจะจรดปากลงไป
ท่ามกลางแสงจันทร์สีขาว คนสองคนยืนอยู่บนเวทีด้วยกันราวกับภาพนิ่งที่สวยงาม
บทเพลงที่ไพเราะค่อย ๆ ดังออกมาจากนิ้วของฟางชิว ประสานไปกับเสียงขับร้องที่ไพเราะของเจียงเหมี่ยวอวี๋ที่นำพาทุกคนไปสู่โลกมหัศจรรย์
“…เฮเลน …นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน…”
“…ความคิดอันลึกซึ้งกระจายอยู่ทั่วดวงจันทร์…”
แม้เธอจะร้องเพลงเพียงสองท่อน แต่ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างก็พากันตกตะลึง
“เสียงเพราะอะไรอย่างนี้!”
“เทพธิดาเจียงร้องเพลงเพราะมาก!”
“ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนักร้องมืออาชีพเลย!”
“เสียงเธอกับเสียงฟลูตมือของฟางชิวเข้ากันมาก!”
“ทั้งคู่สร้างความงามที่เหนือจริงขึ้นมาล่ะ!”
“การแสดงของทั้งคู่เพอร์เฟกต์!”
หลังจากที่ส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้กับคนทั้งสองที่อยู่บนเวที เหล่าผู้ชมก็เริ่มพากันเงียบ
นักศึกษาบางคนหยิบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนขึ้นมาแล้วเปิดไฟจากหน้าจอ จากนั้นก็ยกขึ้นแล้วโบกไปมาในอากาศตามเสียงเพลง
หลังจากนั้นบรรดานักศึกษาคนอื่น ๆ ก็เริ่มทำแบบเดียวกัน
ในเวลาต่อมา ทั้งสนามกีฬาที่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานก็เต็มไปด้วยแสงไฟ
ให้ความรู้สึกเหมือนกับฝูงหิ่งห้อยที่กำลังบินอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
ฟางชิวรู้สึกประหลาดใจว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋สามารถร้องเพลงได้ไพเราะขนาดนี้ได้อย่างไร เสียงที่ไพเราะไร้ที่ติของเธอทำให้บทเพลงนี้น่าสนใจและถ่ายทอดความอบอุ่นออกมาอย่างดี
บทเพลงบรรเลงยังคงดำเนินต่อไป
“…เฮเลน อยู่ข้างเธอเสมอ…”
“…มองดูใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเธอ …แล้วจูบริมฝีปากของเธอ…”
“…ถ้าความรักคือชิงช้า…”
“…เธอก็คือแกนของฉัน…”
ตอนที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ร้องเพลง ผู้ชมทุกคนก็ยิ้มออกมาอย่างไม่ได้นัดหมาย
พวกเขากำลังจินตนาการถึงผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนชิงช้าที่แกว่งเบา ๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่พวกเขาตกหลุมรักในโรงเรียนมัธยม ช่วงเวลาที่ยังอยู่ในวัยใส…
“…ฉันเพียงต้องการอยู่กับเธอ …และเธอคือจุดเริ่มต้นของฉัน…”
“…เฮเลนคือวันวาน…”
“…ฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินคำขอโทษที่เธอพูดกับฉัน…”
“…เฮเลนเป็นดั่งตัวกระจายสัญญาณ…”
“…เพียงแค่จับ ภาพในอดีตและความทรงจำพลันพรั่งพรู…”
“…ไม่มีเธอ ฉันจะอยู่ต่ออย่างไร?”
“…สิ่งเหล่านั้นจะคงอยู่ตลอดไป ที่เธอพูดกับฉัน…”
ความรักในวัยรุ่นมักจะเปราะบาง คู่รักที่เคยสัญญาว่าจะรักกันตลอดไปล้วนจบลงด้วยความเสียใจ…
ทุก ๆ คนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเพราะความรักที่จางหายไปของพวกเขา
ความขมขื่นผุดขึ้นในใจของพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว วัยรุ่นคนไหนบ้างที่ไม่มีความหวังและความฝัน?
แล้วในฝันของใครกันที่ไม่มีคนที่พวกเขารัก
“…เฮเลน ให้ฉันยึดมั่นในความรักเถิด…”
“…แม้ว่าฉันเคยมีมันมาก่อน..”
“…แต่บางทีการพลัดพรากอาจเป็นหนทางที่จะช่วยเยียวยาเธอ!”
“ความรักนี้จะยังคงอยู่ในใจ…”
“…มีบางสิ่งที่ไม่ต้องจำกัดเวลา…”
ทุกคนต่างพากันคิดเช่นกัน “แน่นอน!”
“…บางทีการจากลาอาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ดีกว่า… ฉันเคยได้รักเธอแล้ว… เพียงพอแล้วสำหรับฉัน…”
“…ฉันจะประทับความรักไว้ในหัวใจและเก็บมันไว้ตลอดไป ไม่มีวันเลือนหาย และฉันจะเก็บมันจนกว่าเวลาจะหมดไป…”
“…ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้…”
“…เธอจะอยู่ในใจฉันตลอดไป…”
หลังจากร้องท่อนนี้ เจียงเหมี่ยวอวี๋ที่กำลังอยู่ในสายตาของผู้ชมทุกคน ก็ผายมือไปที่ฟางชิว
ฟางชิวชะงักงันสักพัก เริ่มเครียดขึ้นมานิดหน่อย
‘เธอต้องการอะไรกัน?’
‘อยากให้ฉันร้องเพลงกับเธอใช่ไหม?’
‘เธอไม่ได้ให้ฉันขึ้นมาแค่บรรเลงดนตรีให้เธอหรอกเหรอ?’
‘ทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจให้ฉันร้องท่อนคอรัสกัน?’
แต่ไม่มีเวลามากพอให้ฟางชิวคิดอีกแล้ว เขาเริ่มร้องเพลงออกมา
“…เฮเลน… คือตัวกระจายสัญญาณ”
“…เพียงแค่จับ ภาพในอดีตและความทรงจำ…”
“…ไม่มีเธอ ฉันจะอยู่ต่ออย่างไร?”
“…สิ่งเหล่านั้นจะคงอยู่ตลอดไป ที่เธอพูดกับฉัน…”
อึ้ง!!!
บรรดาผู้ชมต่างพากันช็อกตาตั้ง
เสียงของเขาจับหัวใจทุกคน!
สิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่สุดก็คือการร้องเพลงของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋เลย
เสียงของเจียงเหมี่ยวอวี๋ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงกำลังพึมพำกับตัวเองในฝันหวานของตน ในขณะที่เสียงของฟางชิวนั้นเหมือนกับแม่เหล็กที่กำลังพูดกับลม
ทักษะการเป่าฟลูตมือของเขาก็ว่าน่าทึ่งมากแล้ว ตอนนี้ยังได้รู้ว่าความสามารถด้านการร้องเพลงของเขายังมหัศจรรย์มากอีกด้วย ทุกคนจะสู้กับเขาได้อย่างไร?!
มาถึงจุดนี้ หลิวเฟยเฟยก็ไม่รู้แล้วว่าจะคิดอย่างไรกับฟางชิว
เด็กคนนี้ซ่อนพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศเอาไว้
ถ้าเธอรู้แต่แรกว่าฟางชิวสามารถร้องเพลงได้ เธอน่าจะกรอกชื่อให้เขาแสดงโชว์ทั้งสองอย่างนี้!
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของหลี่ชิงสือถึงกับบิดเบี้ยวทันที
ฟางชิวนั้นฉลาดและมีพรสวรรค์มากกว่าที่เขาคิดไว้มาก เรื่องนี้กดดันชายหนุ่มไม่น้อย
เจียงเหมี่ยวอวี๋กะพริบตาคู่สวยหลายครั้ง แล้วมองไปที่ฟางชิวซึ่งกำลังร้องเพลงอยู่ เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะมีความสามารถด้านการร้องเพลงด้วย
ในความเป็นจริงแล้ว เธอเพียงแค่อยากให้ฟางชิวโชว์เดี่ยวฟลูตมือเท่านั้น แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะเข้าใจความหมายของสัญญาณมือของเธอผิด กลายเป็นร้องเพลงขึ้นมาแทนเธอซะอย่างนั้น
แต่… เสียงร้องของเขาเพราะกว่าคนอื่นจริง ๆ
“…เฮเลน ให้ฉันยึดมั่นในความรักเถิด…”
“…แม้ว่าฉันเคยมีมันมาก่อน…”
ถึงแม้ว่าจะไม่มีดนตรีบรรเลงตอนจังหวะที่เขาร้อง มันก็ยังคงไพเราะมาก
สาว ๆ ที่อยู่ด้านล่างเวทีในหมู่ผู้ชมเริ่มมองฟางชิวด้วยดวงตาเป็นประกาย
ในขณะเดียวกัน หนุ่ม ๆ ทุกคนต่างอยากจะไปอยู่แทนที่ฟางชิวตรงนั้น…
ชายหนุ่มคนนี้เก่งและเท่เกินไปแล้ว!!!!