คุรุการแพทย์ – บทที่ 31 ถ้าวันนี้ยังรักษาไม่ได้ก็คอยดูได้เลย!

คุรุการแพทย์

บทที่ 31 ถ้าวันนี้ยังรักษาไม่ได้ก็คอยดูได้เลย!

บทที่ 31 ถ้าวันนี้ยังรักษาไม่ได้ก็คอยดูได้เลย!

“คิดว่าผมพูดเล่นหรือไง ฟางชิวเก่งมากเลยนะครับ”

เสิ่นชุนไม่สนใจคำขู่ของโหยวเซิง คนไข้วัยกลางคนเลย

“เด็กคนนี้น่ะรึ?”

โหยวเซิงหันไปมองฟางชิวด้วยคิ้วขมวดแน่น

เก่งมากเลยหรือ?

ถึงจะดูหล่อเหลา แต่ก็ไม่ได้ดูเก่งขนาดนั้นสักนิด!

“คุณจะออกไปก็ได้ถ้าไม่เชื่อผม!”

เสิ่นชุนกล่าวด้วยความรำคาญ

แม้ฟางชิวเข้ามาแผนกนี้จะเป็นเรื่องดี แต่เขาไม่คิดว่าผู้อำนวยการจะให้บททดสอบเช่นนี้เลย

ตอนนี้เขาอยากให้โหยวเซิงออกไปให้พ้น หากคนไข้ออกไปแล้ว การประเมินก็จะได้ยุติ ผู้อำนวยการจะได้ให้ทดสอบเคสคนไข้คนอื่นแทน

นี่เป็นวิธีเดียวที่จะเก็บฟางชิวไว้

โหยวเซิงมองไปที่เสิ่นชุน เห็นชัดว่าหมอที่กำลังจะรักษาตนกำลังใจร้อน พอมองไปที่ฟางชิว ชายคนนี้กลับรักษามาดสงบนิ่งเอาไว้

เขาควรให้ชายคนนี้รักษาหรือ?

“ก็ได้! ถ้าวันนี้ยังรักษาไม่ได้ก็คอยดูได้เลย!”

ในที่สุด โหยวเซิงก็กัดฟันยอมแล้วบ่นหยาบ ๆ ออกมา

พูดเสร็จเขาก็นอนลงบนเตียงโดยไม่รอให้ใครเชิญ

“เอาเลย!”

เสิ่นชุนมองไปที่ฟางชิว ชายหนุ่มจึงพยักหน้าแล้วเดินเข้าไป

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นปวดหลัง เจ้าตัวเชื่อว่าเป็นปัญหากระดูก แสดงว่าได้ตรวจอวัยวะภายในและส่วนอื่น ๆ ไปแล้ว

หากมีปัญหากับกระดูก ย่อมต้องเป็นกระดูกสันหลัง

ฟางชิวเดินไปใกล้หน้าต่าง วางมือขวาบนกระดูกอกเป็นอย่างแรก

“ไอ้หนู ทำได้หรือเปล่า ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าทำ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายโดนดีแน่!”

โหยวเซิงเบือนศีรษะ จ้องไปที่ฟางชิวแล้วขู่ออกมา

โหยวเซิงไม่กังวลว่าหนุ่มคนนี้จะวินิจฉัยไม่ได้ แต่กังวลว่าจะทำอย่างไรหากตัวเองคิดผิดต่างหาก

ถิ่นนี้เขาเป็นใหญ่ ร่างกายของเขามีค่าใหญ่หลวงนัก

“ได้โปรดทิ้งตัวตนและเงินของคุณไป ตอนนี้คุณเป็นแค่คนไข้ ต่อหน้าผม คุณก็เป็นเหมือนคนไข้คนอื่น ๆ!”

ฟางชิวกล่าวอย่างเย็นชา “ในฐานะหมอ ถ้าผมไม่แน่ใจ ผมก็จะไม่รักษา”

คำพูดที่ทรงพลังเหล่านี้ทำให้เสิ่นชุน และผู้อำนวยการซูมู่ตงกังวลขึ้นมาทันที

‘ดี!’

‘แค่ประโยคนี้ก็เพียงพอให้น่ายลฝีมือแล้ว!’

ซูมู่ตงคิดในใจ

โดยเฉพาะประโยคที่ว่า ‘คุณเป็นแค่คนไข้ ต่อหน้าผม คุณก็เป็นเหมือนคนไข้คนอื่น’

ประโยคนี้มีเหตุมีผล ไม่แข็งไม่อ่อนเกินไป

คงมีแพทย์น้อยมากในโรงพยาบาลที่สามารถพูดคำที่มีความหมายแฝงเช่นนี้ได้!

อันที่จริงซูมู่ตงมาที่นี่อย่างรีบร้อนเพราะเขารู้สึกไม่ดีกับบททดสอบที่เขาให้ฟางชิว เพราะถึงอย่างไรคนไข้รายนี้ก็ร่ำรวยและมีอิทธิพลมาก เขาไม่รู้ว่าฟางชิวได้ตระหนักหรือไม่ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร กลัวว่าฟางชิวจะทำให้เรื่องไปกันใหญ่ เขาถึงต้องรีบเข้ามาห้าม

แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ เขาก็ตัดสินใจไม่หยุดฟางชิวแล้วพร้อมรอดูแทน

เฉาเจ๋อที่อยู่ใกล้ ๆ ยังคงเหยียดหยามฟางชิวอยู่

ประโยคเมื่อครู่ฟังดูดี ใครจะพูดก็พูดได้ จะรักษาได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง!

“ฮึ!”

โหยวเซิงพ่นลมอย่างเย็นชา สายตาจ้องไปที่ฟางชิว จากนั้นจึงหันศีรษะออกไปแล้วรอการรักษาอย่างเงียบ ๆ

ฟางชิวผ่อนคลายลง พลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าเมื่อแสงวาบผ่านดวงตา อารมณ์ก็เปลี่ยนไปทันที

ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายและใจให้กับการจับกระดูก

เขาหลับตาลง นิ้วมือขวาค่อย ๆ เลื่อนลงไปตามกระดูกสันหลังของโหยวเซิง

ความรู้สึกแม่นยำเริ่มต้นขึ้น

ทันใดนั้น ภาพเลือนรางก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตใจ

ลักษณะของกระดูกสันหลังทุกส่วนปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่กระดูกสันหลังส่วนอกชิ้นแรกไปจนถึงกระดูกสันหลังส่วนเอวชิ้นที่ห้า

กระดูกสันหลังจากอกถึงเอวมีทั้งหมดสิบเจ็ดชิ้น

หลังจากสัมผัสแล้ว ฟางชิวก็ลองอีกรอบจากบนลงล่าง

ครั้งที่สองนี้เขาไม่จำเป็นต้องแตะต้องเลย แต่เขาต้องการเวลาที่ต่างกันเวลาสัมผัสกระดูกสันหลังแต่ละส่วน

ทั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบดูว่ากระดูกเหล่านี้มีปัญหาหรือไม่

หลังจากสัมผัสครั้งที่สอง ในที่สุดฟางชิวก็เสร็จสิ้นการเปรียบเทียบ จากนั้นเขาจึงลืมตาขึ้น

ชายหนุ่มเผยแววตาแปลกใจ

กระดูกสันหลังไม่ได้มีปัญหา

หากไม่มีปัญหากับกระดูกสันหลังส่วนหน้าก็จะเหลือเพียงด้านข้างเท่านั้น

ฟางชิววางมือทั้งสองข้างบนกระดูกสันหลัง เริ่มเลื่อนมือไปตามกระดูกสันหลังส่วนอกส่วนแรก

ทุกคนรอบ ๆ ต่างมองฟางชิวอย่างนึกฉงน

เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นการตรวจเช่นนี้

โดยทั่วไปแล้ว กระดูกจะถูกตรวจโดยใช้สัมผัสของนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง ทว่าพวกเขาไม่เคยเห็นจังหวะที่ราบรื่นเช่นนี้มาก่อน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ เสิ่นชุนเข้าพบอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาแล้วทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถบอกได้เลยว่าฟางชิวใช้วิธีใด

เสิ่นชุนทำได้เพียงยืนอยู่ด้านข้าง จ้องมองฟางชิวอย่างสงสัย

เฉาเจ๋อยังคงวิจารณ์เกี่ยวกับวิธีของฟางชิว

วิธีนี้เป็นของพวกมือสมัครเล่นชัด ๆ!

ไม่มีฝีมือเลยจริง ๆ

อายุแค่นี้จะทำได้อย่างไร!

คงหลอกอาจารย์เสิ่นสิท่า

ซูมู่ตงเองที่มองดูอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นวิธีการของฟางชิวแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว

ตอนฟางชิวเลื่อนมือไปตำแหน่งตรงกลาง ฟางชิวกลับหยุดชะงัก

เขาเห็นฟางชิวหลับตาลงแล้วเลื่อนมือต่อ

การกระทำนี้ทำให้ทุกคนเบิกตาโพลง

เสิ่นชุนเท่านั้นที่รู้ว่าการหยุดชั่วคราวของฟางชิวเมื่อกี้นั้นคือจุดที่โหยวเซิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมาตลอดทั้งวัน

ไม่มีใครบอกฟางชิวมาก่อนเลยว่าโหยวเซิงเจ็บตรงไหน

ฟางชิวเห็นอะไรบางอย่างจริง ๆ หรือ?

เสิ่นชุนเริ่มสนใจในตัวชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นมา อีกทั้งยังใคร่รู้และตื่นเต้นไปด้วย

เขาไม่ได้รู้สึกอับอายที่ฟางชิวพบจุดที่โหยวเซิงเจ็บปวด คนเก่งกว่าย่อมเป็นครู ที่ว่าฟางชิวเก่งกว่าเขานั้นคงเป็นเรื่องจริง

ขนาดเฉาเจ๋อที่พอจะรู้อาการของโหยวเซิงเล็กน้อยยังต้องตกใจ

บ้าน่า เด็กคนนี้รู้อย่างนั้นเหรอ?

เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

ฟางชิววางมือบนกระดูกสันหลังส่วนเอวชิ้นที่ห้าพลางลืมตาขึ้น จากนั้นวางมือทั้งสองข้างบนกระดูกสันหลังส่วนอกชิ้นแรก

เสร็จแล้วเขาก็หลับตา เลื่อนมือลงมาสัมผัสกระดูกอีกครั้ง

เขารู้สาเหตุแล้ว คราวนี้ทำเพื่อยืนยันอีกครั้ง

สิบวินาทีผ่านไป ฟางชิวก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้ม

“เป็นอย่างไร?”

หลังเห็นฟางชิวชะงักมือแล้วลืมตาขึ้น เสิ่นชุนก็รีบถาม

ทุกคนในห้องต่างจ้องไปที่ฟางชิวอย่างสงสัย

ผู้คุ้มกันทั้งสี่ที่อยู่หน้าประตูด้วยเช่นกัน

พวกเขาตามเจ้านายมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังหาสาเหตุไม่พบ

พอมีชายหนุ่มโผล่มารักษาเช่นนี้ก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้

ฟางชิว “ตรงนี้เจ็บไหม?”

“ใช่! ฉันเจ็บตรงนี้แหละ”

โหยวเซิงตอบเสียงอู้อี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นชุนแล้วถามว่า “คุณบอกเขาหรือเปล่า”

เสิ่นชุนนึกไม่ออกว่าใครจะบอกฟางชิวเรื่องอาการของโหยวเซิง

“ผมไม่ได้บอก! ไม่มีใครบอกเขาทั้งนั้น!”

เสิ่นชุนกล่าว

ประโยคนี้ทำให้ทั้งห้องเงียบลงในทันใด

วินาทีถัดมา ทุกคนก็มองฟางชิวด้วยความตกใจ

ไม่มีใครบอกฟางชิวเรื่องอาการของโหยวเซิง แต่เขากลับบอกได้ว่าโหยวเซิงปวดตรงไหน

นั่นหมายความว่า?

แสดงว่าชายหนุ่มรู้อาการเจ็บและรู้สาเหตุแล้ว!

ที่สำคัญคือ หมอเสิ่นชุนผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ไม่พบแม้แต่ในฟิล์มซีทีสแกน ขนาดโหยวเซิงไปตรวจโรงพยาบาลใหญ่ ๆ มายังหาไม่พบ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้กลับตรวจพบแล้ว!

แถมยังเป็นน้องใหม่อีกด้วย!

งานนี้ช็อกกันทุกคน!

ไม่จริง!

เป็นไปไม่ได้!

เฉาเจ๋อชักจะอารมณ์เสียซะแล้ว

อายุแค่นี้จะเก่งขนาดนี้ไม่ได้ อาจารย์เสิ่นยังไม่รู้ ฟางชิวจะรู้ได้อย่างไร โกหกแน่ ๆ!

แน่นอนว่าเฉาเจ๋อไม่ต้องการให้คนที่อายุน้อยกว่ามาอยู่ในแผนกกระดูกและข้อของตน ฟางชิวเป็นเพียงผู้ช่วยแพทย์ไม่ทันไรก็ได้รักษาคนไข้แล้ว

เขาจะทนให้ฟางชิวหยิ่งผยองลำพองตนได้อย่างไร!

“เธอรู้หรือ งั้นรักษาฉันได้ไหม” จู่ ๆ โหยวเซิงก็หันกลับมามองฟางชิวด้วยความประหลาดใจ

โหยวเซิงทนโรคนี้ไม่ไหวจริง ๆ

เขาปวดหลังทั้งคืน จนไม่อาจนอนหลับได้ลง

ตอนนี้มีคนสามารถรักษาเขาได้แล้ว เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร !

ได้ยินเสียงของโหยวเซิงแล้ว ทุกคนก็จ้องไปที่ฟางชิว รอคอยคำตอบของเขาอย่างใจจดจ่อ

“ได้ครับ!” ฟางชิวพยักหน้า

เพียงคำพูดไม่กี่คำก็ทำคนฟังสับสนกันไปหมด

หมอตั้งกี่คนที่ไม่รู้วิธีรักษา การมือแพทย์ตั้งกี่อย่างที่ไม่อาจตรวจได้ ชายหนุ่มคนนี้กลับพูดได้ว่ารักษาได้ซะอย่างนั้น

“รักษาได้จริงหรือ”

เสิ่นชุนถามอย่างตื่นเต้น

ผู้อำนวยการจ้องไปที่ฟางชิวรอคำตอบเช่นกัน

“รักษาได้ครับ”

ฟางชิวเอ่ยเสียงดังอีกครั้ง

คำพูดนี้ทำให้เฉาเจ๋อรู้สึกหนักอก ไม่อาจพูดอะไรได้ครู่ใหญ่

บอกอาจารย์ตนเองว่ารักษาได้ ทั้ง ๆ ที่อาจารย์ตัวเองบอกว่ารักษาไม่ได้เนี่ยนะ

“งั้นก็รักษาฉันเดี๋ยวนี้!”

โหยวเซิงรีบตะโกน กล้ามเนื้อเกร็งทั่วกาย เผยความร้อนใจอย่างยิ่ง

ฟางชิวเอื้อมมือออกไป ชี้ไปที่ตำแหน่งที่โหยวเซิงปวด แล้วก็พบว่ากล้ามเนื้อตรงนั้นแข็งมาก

“หายใจออกแล้วผ่อนคลายด้วยครับ!”

ฟางชิวกล่าว

สำหรับคนเป็นหมอแล้ว การจัดกระดูกนั้นต้องทำให้คนไข้ผ่อนคลายเสียก่อน

ถึงจะพูดแบบนี้ แท้จริงแล้วฟางชิวแค่เบี่ยงเบนความสนใจของโหยวเซิงต่างหาก

โหยวเซิงได้ยินฟางชิวพูดก็ถอนหายใจออกมาระลอกใหญ่

“เดี๋ยว…”

ซูมู่ตงตะโกนออกมา

แต่ก่อนที่เขาจะตะโกนเสร็จ นัยน์ตาของฟางชิวก็วาวปลาบ พร้อมกับนิ้วที่กระแทกลงไปอย่างแรง

เสียง ‘กริ๊ก’ ดังขึ้น

ทุกคนได้ยินเสียงนี้ชัดเจน

เสียงนี้ดังราวกับตำแหน่งอะไรสักอย่างเคลื่อน

ฟางชิวผละมือออก มองไปที่ซูมู่ตงอย่างเคลือบแคลง เมื่อครู่เหมือนเขาจะได้ยินซูมู่ตงกล่าวบางอย่าง

ซูมู่ตงยิ้มแห้ง ๆ ออกมา “ฉันแค่อยากจะถามถึงอาการ”

เขาต้องการหยุดการรักษาของฟางชิว แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเร็วขนาดนี้ ก่อนที่เขาจะพูดจบ อีกฝ่ายก็เริ่มรักษาแล้ว

เมื่อกี้เขาได้ยินฟางชิวบอกว่ารักษาได้ แต่ก็ยังไม่เชื่อ เพราะซูมู่ตงไม่ใช่คนที่เชื่อใครไปทั่ว ด้วยคนเป็นหมอนั้นต้องรับผิดชอบดูแลคนไข้และดูแลทั้งโรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงอยากถามคนไข้ก่อน

ถ้าบอกว่ารักษาได้ก็ต้องบอกโรคได้

ถ้าโรคนี้ไม่น่ากังวลนัก ก็ให้หนุ่มคนนี้รักษา ถ้าไม่ก็ต้องหยุดเอาไว้

ไม่คิดเลยว่าก่อนที่เขาจะพูดจบ อีกฝ่ายก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว มันเลยสายเกินไปแล้วที่จะหยุดฟางชิวไว้

เสิ่นชุนมองไปที่ฟางชิวอย่างสงสัย อยากรู้สาเหตุของอาการเจ็บปวดเช่นกัน

“กระดูกสันหลังส่วนที่เก้านูนไปทางซ้าย”

ฟางชิวกล่าว

ทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ เฉาเจ๋อก็ขัดจังหวะเขาทันทีแล้วพูดเสียงดังว่า “เป็นไปไม่ได้ ถ้าแค่จับแล้วรู้ว่ากระดูกสันหลังคด ทำไมในซีทีสแกนถึงไม่เห็น กระดูกสันหลังจะคดได้อย่างไร”

แม้ว่าเฉาเจ๋อจะขัดจังหวะอย่างไร้มารยาท แต่ก็ถือว่าเป็นการถามเพราะความสงสัย

ฟางชิวส่ายหัว “กระดูกสันหลังคดเพียงเล็กน้อยก็จริง แต่เพราะกดทับลงบนเส้นประสาท จึงมักตรวจหาอาการไม่พบ คนไข้จะปวดเป็นปกติ ผมตรวจเจอเพราะประสบการณ์ที่สะสมมา”

ฟางชิวไม่สามารถพูดได้ว่าตนเองคลำเจอจัง ๆ

ดังนั้นตี๊ต่างว่าตนเองมีประสบการณ์ไปก่อนก็แล้วกัน

แพทย์แผนจีนล้วนต้องการ ‘ประสบการณ์’ กันทั้งนั้น

บางครั้งประสบการณ์ก็แม่นยำกว่าเครื่องมือ

“ถ้าเป็นกระดูกสันหลังคดจริง กระดูกส่วนนั้นก็ต้องเล็กมากถึงตรวจไม่เจอ เธอจัดให้เข้าที่ในนิ้วเดียวได้อย่างไร?”

เสิ่นชุนถามด้วยความสงสัย

ฟางชิวตอบด้วยรอยยิ้ม “นิ้วผมแรงเยอะมากครับ”

จะเยอะอะไรขนาดนั้น!

เขาใช้กำลังภายในล้วน ๆ

ชายหนุ่มออกแรงไปที่นิ้วในช่วงเวลาสั้น ๆ จึงสามารถจัดตำแหน่งกระดูกได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากเขาแล้วคงไม่มีใครทำได้ด้วยนิ้วเดียวหรอก

“แล้วตอนนี้ฉันหายหรือยัง”

โหยวเซิงถามแทรกขึ้น

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน