บทที่ 37 กลายเป็นโพสต์สุดฮอตของมหาวิทยาลัย
บทที่ 37 กลายเป็นโพสต์สุดฮอตของมหาวิทยาลัย
เมื่อได้ยินอธิการบดีกล่าวชม คนอื่น ๆ รอบตัวก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย เลขาธิการคณะกรรมการสมาคมเยาวชนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
เพราะอธิการบดีไม่เคยแสดงความคิดเห็นในการแสดงอื่นเลย ระหว่างดูผู้แสดงความสามารถในพิธีเปิดครั้งก่อน เขาทำเพียงยิ้มและพยักหน้าให้
ปีนี้ถือเป็นประวัติการณ์เลยก็ว่าได้
หมายความว่าอย่างไรกัน?
หัวหน้าคณะกรรมการไม่คาดคิดว่าภายใต้การดูแลของเขาจะทำให้พิธีเปิดนี้ประสบความสำเร็จ! หมายความว่านี่เป็นความสำเร็จของฟางชิวเลย!
อธิการบดีคิดอะไรอยู่ในตอนนี้กันนะ?
ตอนได้ยินเพลงนี้ อธิการบดีก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ตอนที่เขายังเป็นหนุ่มนั้น เป็นคนใจร้อน ทั้งยังดื่มหนักสำมะเลเทเมาไปกับผองเพื่อนพี่น้อง แต่ตอนนี้ผมของเขากลายเป็นสีเทาแล้ว จากที่เคยเอาแต่เมามาย ตอนนี้เขากลับต้องจัดการดูแลกับสิ่งต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยแทน
สิ่งที่ทำให้เขาหนักใจไม่ใช่การทำงานเพื่ออนาคตของนักศึกษาและมหาวิทยาลัย แต่เป็นพวกงานราษฎร์งานหลวงและการเข้าสังคมต่างหาก
อธิการบดีรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง หวนนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าเป็นเวลานานแล้ว สงสัยว่าตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม จู่ ๆ เขาก็อยากจะโทรหาเพื่อน ชวนไปพูดคุยและดื่มด้วยกันอีกครั้ง!
หนุ่มสาวทั้งหลาย จงอย่าละทิ้งอะไรธรรมดาเหล่านี้ จงใช้ชีวิตตามใจตัวคุณเอง สักวันเดียวก็ยังดี!
อธิการบดีรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ได้ฟังเพลงนี้ น้องใหม่ที่อยู่ตรงกลางเวทีนั้นได้ร้องเพลงที่ทำให้หัวใจของเขาได้รู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เป็นเพลงที่ดี! เป็นเพลงดีจริง ๆ!
“ม้าห้าขนสีทอง ฮี่ จะออกไปดื่มสุรากัน! จะต้องเป็นสุรา! จะต้องเป็นสุรา! จงขายความเศร้านิรันดร์ของเจ้า!”
มาถึงท่อนสุดท้ายของบทเพลงแล้ว
เพลงที่น่าตกใจนี้มีการตีความที่สมบูรณ์แบบมาก ทุกคนที่เคยเป็นห่วงฟางชิวเลยวางใจลงได้ ฟางชิวไม่ได้ทำให้พวกเขาผิดหวัง ทั้งยังเกินความคาดหมายโดยสิ้นเชิง!
การแสดงนั้นสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ!
แต่หลี่ชิงสือผู้รอคอยอย่างใจจดใจจ่อให้ฟางชิวพลาดพลั้ง กลับทำได้แค่แอบอิจฉาเท่านั้น เขาไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับการแสดงนี้ได้เลย
จะให้บอกว่าแสดงไม่ได้ดีหรืองู ๆ ปลา ๆ อย่างนั้นหรือ?
เขารู้สึกละอายใจที่จะพูดแบบนี้ เขาต้องยอมรับว่าการแสดงนั้นสมบูรณ์แบบมาก เรียกว่ายอดเยี่ยมที่สุดในพิธีเปิดทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ทำไมฟางชิวถึงเก่งขนาดนี้?
ทำไมกัน?
ฟางชิวนับเวลาในใจอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเริ่มร้องเพลงท่อนสุดท้ายที่เป็นเนื้อหาเดียวกับท่อนก่อนหน้า
“ม้าห้าสีขนสีทอง ฮี่ จะออกไปดื่มสุรากัน! จะต้องเป็นสุรา! จะต้องเป็นสุรา! จงขายความเศร้านิรันดร์ของเจ้า!”
พอเขาร้องเพลงท่อนสุดท้าย “จงขายความเศร้านิรันดร์ของเจ้า!” ฟางชิวก็หมดแรง ถอนหายใจออกมาสุดปอด
อาจารย์ผู้ดูแลการแสดงกดหยุดจับเวลาในโทรศัพท์ พอก้มหน้าลงมองเวลาก็พบว่าฟางชิวทำเวลาห้านาทีสามสิบวินาทีพอดี! ไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่วินาทีเดียว! ควบคุมเวลาเป๊ะมาก!
ยอดเยี่ยม
ตั้งแต่ต้นจนจบ การแสดงพูดได้สองคำคือ โครตสมบูรณ์แบบ!
เสียงปรบมือดังลั่น!
ไชโย!!!
“ฟางชิว!”
“ฟางชิว!”
“ฟางชิว!”
…
บรรยากาศเต็มไปด้วยความหนักแน่น ร้อนแรง นักศึกษาร้องเพลงด้วยความหลงใหลต่อไปด้วยความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในใจไม่รู้จบ
เสียงปรบมือนี้ฟางชิวสมควรได้รับแล้ว!
แม้แต่หัวหน้าคณะกรรมการบนเวทีก็ปรบมืออย่างปรีดา มันไม่ใช่เสียงปรบมือตามมารยาทอีกต่อไป แต่มันเป็นเสียงปรบมือที่แท้จริง
ตัวแทนศิษย์เก่าหลายคนรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่า ได้มาฟังบทเพลงนี้ในพิธีเปิดของมหาวิทยาลัยแบบนี้คุ้มจริง ๆ!
ตรงทางลงเวที เจ้าหน้าที่และผู้แสดงทุกคนต่างรอปรบมือให้ฟางชิวอย่างจริงใจ มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่ากว่าจะมีการแสดงครั้งนี้ยากลำบากอย่างไร! และมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่าฟางชิวกดดันมากแค่ไหน!
ฟางชิวกลับเลือกที่จะสู้กับแรงกดดัน รับคำร้องขอ เผชิญกับช่วงเวลาวิกฤต ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีที่ทุกคนกำลังเฝ้าดูอยู่!
ต่อหน้าต่อตาทุกคน อย่าได้ขลาดกลัว
เพลงนี้ทำให้ทุกคนช็อก! เสียงปรบมือนี้คุ้มค่าแล้วจริง ๆ
ฟางชิวโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง จนเสียงปรบมือกับเสียงเชียร์ของทุกคนค่อย ๆ เบาบางลง เขาถึงรู้ว่าแผ่นหลังตนเปียกโชกมากแค่ไหน…
“วิเศษมาก งานเทศกาลไหว้พระจันทร์สร้างชื่อเสียงให้เจ้าห้า พอถึงงานพิธีเปิดก็ดังไปทั่วมหาวิทยาลัย” ซุนฮ่าวปรบมือพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ลู่วิ่งในการแข่งนี้มันจะวิ่งนำเร็วไปหน่อยแล้ว!”
“จากนี้ไปฉันเป็นแฟนตัวยงของเจ้าห้า ใครกล้าพูดจาดูหมิ่นเจ้าห้าเจอฉันแน่!” โจวเสี่ยวเทียนพูดอย่างตื่นเต้น แล้วหันมองไปที่ซุนฮ่าวและจูเปิ่นเจิ้งด้วยสายตาที่เฉียบคม
ซุนฮ่าวและจูเปิ่นเจิ้งรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา อะไรกันเนี่ย นี่พวกเขาจะต้องกลายเป็นแฟนคลับไร้สมองของเจ้าห้าจริง ๆ หรือ?
จะโดนตกเร็วเกินไปแล้ว!
“ผู้หญิงกับเจ้าห้า ใครสำคัญกว่า?” จูเปิ่นเจิ้งไตร่ตรองแล้วถามออกมา
“สำคัญทั้งคู่!” โจวเสี่ยวเทียนตอบทันที
“นายว่าการศึกษาสำคัญกว่าผู้หญิงและเจ้าห้าไหม?” ซุนฮ่าวรีบยิงคำถามแบบไม่รีรอ
“เอ่อ…” โจวเสี่ยวเทียนสับสน แต่สุดท้ายเขาก็ตอบออกมาว่า “แน่นอนว่าการศึกษาสำคัญที่สุด!”
จูเปิ่นเจิ้ง “…” คิดว่าโชคดีที่สมองของโจวเสี่ยวเทียนยังดีอยู่
ขณะที่ฟางชิวกำลังเดินไปที่ห้องพักของเหล่านักแสดง ทุกคนก็ต่างปรบมือให้เขาอย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกคนมองฟางชิวด้วยสายตาชื่นชมและสรรเสริญราวกับว่ากำลังดูชัยชนะของวีรบุรุษ
ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจมาก!
ชื่นชม!
พวกเขาขอชื่นชมจริง ๆ!
หลิวเฟยเฟยยื่นมือไปตบบ่าฟางชิวอย่างยินดี พลางกล่าวชมเชยว่า “ทำได้ดีมาก!” ฟางชิวยิ้มตอบ และโค้งคำนับให้ทุกคนอย่างสุภาพเพื่อขอบคุณ
พอเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋กำลังมองมา ฟางชิวอมยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน การแสดงของเขาจบลงแล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว
พิธีเปิดยังคงดำเนินต่อไป ฟางชิวกลับไปที่ที่นั่งของเขา โดยได้รับการต้อนรับเป็นเสียงเชียร์และเสียงปรบมือจากทุกคนอีกครั้ง
รูมเมตทั้งสามคนต่างพากันยกนิ้วให้ฟางชิว ฟางชิวยิ้มรับ หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ยิ่งรอบ ๆ เสียงดังมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีสมาธิมากขึ้นเท่านั้น
การอ่านหนังสือในสภาพแวดดล้อมเช่นนี้ก็คือการฝึกบ่มเพาะ
เฉินชงที่อยู่ไม่ไกลเหลือบมองฟางชิวที่กำลังอ่านหนังสือด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาเผยความตกตะลึงเล็กน้อย
แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!
ช่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนและมีความตั้งใจแน่วแน่!
เทียบเขาไม่ได้เลย! แม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดาก็ตาม
เฉินชงถอนหายใจ เขาไม่สามารถอ่านหนังสือในสถานที่ที่มีเสียงดังหนวกหูเช่นนี้ได้ เสียงดังมากแบบนี้ เขาเลือกที่จะนิ่งและเริ่มฝึกความนิ่งแทน
เนื่องจากพิธีเปิดมีการแสดงของฟางชิวขึ้นอย่างกะทันหัน พิธีเปิดจึงน่าสนใจมากขึ้น การแสดงลำดับต่อไปจึงมีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม
ยังไม่จบแค่นี้ เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยได้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเนื่องจากพิธีเปิดเป็นเรื่องของน้องใหม่ปีหนึ่งมาโดยตลอด พวกปีสอง ปีสาม ปีสี่ และปีห้าจึงไม่ได้สนใจนัก
แต่ปีนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป หัวข้อข่าวในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยต่างก็เต็มไปด้วยเรื่องพิธีเปิด!
นักศึกษารุ่นพี่จึงล้วนแต่ตกตะลึงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมถึงมีแต่เรื่องพิธีเปิด? นักศึกษาพวกนี้ตามน้ำกันง่ายเกินไปหรือเปล่า?
เว็บบอร์ดนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับน้องปีหนึ่งเท่านั้นสักหน่อย!
ด้วยความสงสัยบวกกับความไม่พอใจ พวกเขาจึงคลิกเข้าไปดูบนโพสต์สุดฮอต [เพลงในพิธีเปิดปลุกเร้าหัวใจของทุกคน!!!] ระหว่างที่คลิก พวกเขาก็อดดูถูกชื่อโพสต์ไม่ได้
นี่มันอะไรกันวะเนี่ย?
หรือเจียงเหมี่ยวอวี๋ร้องเพลงอีกแล้ว?
ได้ยินว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋ สาวสวยน้องใหม่ได้ขึ้นแสดงอีกด้วย แต่ดูชื่อโพสต์แล้วก็ไม่ได้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยเท่าไรนัก
ยังมีคนอื่นอีก
หลังจากที่คลิกเข้าไป พวกเขาเห็นวิดีโอโพสต์ไว้จึงเลื่อนลงมาอ่านความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว ถ้ารีวิวไม่ดีก็จะได้ไม่ดูเป็นการประหยัดเวลา ในที่สุดพวกเขาก็พบว่าทุกความคิดเห็นบนเว็บบอร์ดล้วนกล่าวชื่นชมแค่บุคคลหนึ่งแค่คนเดียว!
[ไพเราะมาก!]
[ร้องเพลงได้ทรงพลังมากจริง ๆ ฟังแล้วเลือดในกายมันร้อน!]
[ให้ตายเถอะ คนที่ร้องเพลงของหลี่ไป๋ได้ต้องเป็นคนที่มีพลังเสียงมากอย่างแน่นอน ตอนที่ฟังเพลงนี้ ภาพในหัวเป็นภาพที่หลี่ไป๋กำลังร้องเพลงเชิญดื่มสุราเลยล่ะ]
[จิตวิญญาณของนักปราญ์คืออะไร ความภาคภูมิใจคืออะไร การแสดงนี้ให้คำตอบแล้ว!]
ความคิดเห็นเหล่านี้ทำให้คนที่มาดูภายหลังเกิดอาการชะงัก ในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยไม่เคยให้คะแนนเพลงสูงเท่านี้มาก่อนเลย
หรือว่าท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีไปแล้ว?
ยิ่งอ่านลึกลงไป การสรรเสริญก็ยังคงดำเนินต่อไป
[ฉันฟังสามครั้งแล้ว ยิ่งฟังยิ่งเพราะ! ฉันจะฟังอีกสามรอบ…]
[สุดยอดมาก! มือกีตาร์ร้องเพลงเสียงสูงได้ แค่คนเดียวก็ทำให้ทุกคนอึ้ง ฉันสงสัยอะ ทุกคนเห็นปฏิกิริยาของนักศึกษารอบ ๆ ไหม เป็นใบ้กันไปหมดแล้ว!]
[เพราะมาก เพราะจนหูของฉันตั้งท้องได้ แต่วิดีโอไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ อยากรู้จังว่าคนนี้หน้าตาเป็นยังไง ไม่ได้อยากได้แค่เสียงดีอย่างเดียว!]
เมื่อดูวิดีโอกันแล้ว ทุกคนก็อยากรู้อยากเห็น และต่างก็โหลดหน้าเพจขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงคลิกที่วิดีโอและตั้งใจฟังเพลงต่อไป
พวกเขาต้องการดูว่าเพลงอะไรที่ได้รับเรตติ้งสูงได้ขนาดนี้ วินาทีแรกที่ฟังพวกเขาก็ขอคุกเข่า ความคิดเห็นนับไม่ถ้วนที่เห็นมาก่อนหน้านี้ผุดขึ้นในใจของพวกเขาทันทีทันใด
คำชมของทุกคนไม่ใช่เรื่องโกหก! ผู้ชายในวิดีโอร้องได้ไพเราะ การแสดงก็น่าเกรงขามมาก!
พวกเขาตั้งใจฟังอยู่สามรอบ จากนั้นก็พิมพ์ความคิดเห็นลงไปในช่องแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่
[เวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเพลงเชิญดื่มสุราเท่าที่ฉันเคยฟังมา!!!]
หลังจากที่เผยแพร่ไป ก็มีคนแสดงความคิดเห็นแล้วสองร้อยห้าสิบหกคน ก่อนหน้านี้มีแค่ร้อยกว่าคนเท่านั้น มันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงเวลาสั้น ๆ!
วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ ทุกคนก็ไปเที่ยวสนุกกัน หรือไม่ก็ไม่มีเวลาเล่นอินเทอร์เน็ต แม้ว่าพวกเขาจะออนไลน์ แต่พวกเขาจะไม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่จำนวนความคิดเห็นที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปนี้ กำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ทุกคนต่างก็สงสัยว่าเพลงนี้ใครเป็นคนร้อง พวกเขาจึงค้นดูความคิดเห็นด้วยความสงสัย เผื่อจะมีใครคิดแบบเดียวกัน
[ท่านเทพองค์ใดก็ได้ ช่วยบอกได้ไหมว่าใครร้องเพลงอยู่? วิดีโอมัวเกินไปอะ]
[นักร้องชื่อฟางชิว ฉันอยู่ในเหตุการณ์ พวกนายไม่รู้หรอกว่าบรรยากาศครึกครื้นขนาดไหน คนฟังคล้อยตามเสียงเพลงไปตาม ๆ กัน!]
[ฟางชิว… เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนมาก่อนเลย]
[ขอแชร์เกร็ดความรู้ให้กับความคิดเห็นด้านบนหน่อยนะ ฟางชิว เป็นคนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสามในหมู่นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของเว็บบอร์ดไง เขาได้ลำดับรองจากเจียงเหมี่ยวอวี๋และชายลึกลับ ฟางชิวดังอยู่นะเรื่องร้องเพลงน่ะ ร้องคู่กับเจียงเหมี่ยวอวี๋ได้ดีมาก! ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เขาสามารถร้องเพลงด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังและหนักแน่นมาก จนทำเอาทุกคนอึ้งจริง ๆ!]
[ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ของความเห็นข้างบนมาก ปีหนึ่งเต็มไปด้วยคนที่มีพรสวรรค์! เจียงเหมี่ยวอวี๋ ฟางชิว ชายลึกลับ ฉันเดาได้แล้วว่าหลังจากนี้มหา’ ลัยเราจะน่าตื่นเต้นขนาดไหน! ในฐานะรุ่นพี่ ฉันรู้สึกว่าฉันควรถอนตัวจากเวทีได้แล้ว น้ำตาจะไหล…]
[ความเห็นบนไม่น่าจะเคยได้อยู่บนเวทีนะ!]
[ใจร้ายอะ แรงเกินไปแล้ว อย่าว่าความคิดเห็นคนอื่นนะ ไม่เคยได้ยินเหรอว่า จะตีคนอย่าตีที่หน้า อย่าฉีกหน้าใคร แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ห้ามพูดออกมา]
[ความคิดเห็นข้างล่าง แถวที่สอง ฉันอยากดวลกับนาย!]
…
คนที่อ่านโพสต์นี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับสิ่งที่เห็น นอกเรื่องกันไปใหญ่แล้ว
อย่าอ่านต่อเลย ฟังเพลงต่อดีกว่า!
คนที่อยากรู้อยากเห็นเข้าไปดูโพสต์ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับฟางชิว
โพสต์บทเพลงอันงดงามอย่างเป็นธรรมชาติได้มาถึงแล้ว การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบในการแสดงการร้องเพลง ‘Hélène!’ ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการโหวตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ถึงความนิยมของฟางชิวจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันก็แค่ชั่วคราวหากเทียบกับชายลึกลับและเจียงเหมี่ยวอวี๋