บทที่ 44 ไลฟ์สดตบหน้า!
บทที่ 44 ไลฟ์สดตบหน้า!
“เจ้าห้า ฉันขอถามนายอีกคำถามหนึ่ง นายเล่นเครื่องดนตรีพวกนั้นเป็นจริง ๆ หรือเปล่า” โจวเสี่ยวเทียนไม่สามารถควบคุมความอยากรู้ของเขาได้เลยถามออกมาอีกครั้ง จูเปิ่นเจิ้งและซุนฮ่าวต่างเองก็จ้องมองไปที่ฟางชิว
พวกเขาอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่สิ้นสุด
“ไม่จริงหรอก ฉันไม่ใช่พระเจ้า ฉันจะเล่นเครื่องดนตรีทุกชนิดได้ยังไง” ฟางชิวตอบ
อะไรนะ?
ไม่เป็น?
ทั้งสามคนตะลึงงัน
ตอนนั้นทำไมนายถึง…
“แล้วนายกล้าให้หลี่ชิงสือเลือกเครื่องดนตรีตามใจชอบได้ยังไง” จูเปิ่นเจิ้งถามอย่างรวดเร็ว
“อืม! อืม!” ซุนฮ่าวและโจวเสี่ยวเทียนพยักหน้าอย่างสงสัยเกี่ยวกับการกระทำนี้
“มันเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยา” ฟางชิวยิ้มแล้วอธิบายต่อ “ฉันกำลังกดดันเขา ถ้าเขาเลือกชิ้นที่ฉันเล่นเป็นก็ไม่มีปัญหา อย่างซอเอ้อร์หูน่ะฉันเล่นเป็น”
“แล้วถ้าเขาเลือกเครื่องดนตรีที่นายเล่นไม่เป็นล่ะ” จูเปิ่นเจิ้งรีบถามทันที
“ฉันก็จะให้เขาเลือกจนกว่าจะฉันเจออันที่เล่นเป็น อันไหนเล่นได้ก็เล่น อันไหนเล่นไม่ได้ก็ข้ามแค่นั้นเอง หลี่ชิงสือจะกล้ามาว่าอะไร ยังไงซะฉันก็ไม่มีทางแพ้” ฟางชิวตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ
ได้ยินแบบนี้แล้วจูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าวและโจวเสี่ยวเทียนก็พากันมองหน้ากัน
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ฟางชิวจะสามารถคำนวณสถานการณ์ได้ในตอนที่ทุกอย่างตึงเครียดขนาดนั้น
ทุกอย่างอยู่ในแผนการแล้ว
“เจ้าห้า วางกับดักเก่งว่ะ เพิ่งรู้ว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์นะเนี่ย!” ซุนฮ่าวถอนหายใจ มองฟางชิวหัวจรดเท้าราวกับว่าเขาไม่รู้จักฟางชิว
“ด้วยความยินดี” ฟางชิวโค้งคำนับแล้วกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ
“เจ้าห้า แล้วสรุปเล่นเครื่องดนตรีชิ้นไหนไม่ได้? แผนของนายมีช่องโหว่นะ ถ้าหลี่ชิงสือไร้ยางอายขึ้นมาจริง ๆ แล้วรอให้นายเล่นเครื่องดนตรีทั้งหมดล่ะ” ซุนห่าวเอื้อมมือไปจับไหล่ของฟางชิวแล้วเอ่ยถาม
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฟางชิวก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วกล่าวว่า “ลองเดาดูสิ”
อันที่จริงเหตุผลที่ฟางชิวได้เรียนรู้เครื่องดนตรีมากมายก็เพราะความจำเป็นในการฝึกศิลปะการต่อสู้
ไม่ใช่ว่าอาจารย์ต้องการปลูกฝังให้เขาเป็นสุภาพบุรุษที่เจียมเนื้อเจียมตัว เชี่ยวชาญในการเล่นเปียโน หมากรุก เขียนตัวอักษรและการวาดภาพหรอก แต่ต้องการใช้เครื่องดนตรีพวกนี้ฝึกสมาธิของเขาต่างหาก
สติสัมปชัญญะนั้นสลายไปได้อย่างง่ายดาย
ถ้าสติกระจัดกระจายก็จะรวมพลังปราณยาก ถ้ารวมพลังปราณไม่ได้ก็ผ่านวิถีของผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้
พอเขาเชี่ยวชาญเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง เขาก็จะเปลี่ยนไปฝึกเล่นอย่างอื่นทันที โดยเรียนรู้ทุกอย่างจากศูนย์ใหม่ ทุกกระบวนการเรียนรู้คือกระบวนการพัฒนาสมาธิของเขา
นอกจากฝึกเล่นเครื่องดนตรีก็ยังมีการฝึกอย่างอื่นอีก
ชายชราไม่ปล่อยให้เขาพัก เพราะความพากเพียรในขีดจำกัดเท่านั้นที่เราจะสามารถปลุกศักยภาพในร่างกายและทะลุทะลวงมันได้
แม้ตอนแรกจะยากหน่อย แต่ฟางชิวก็เรียนรู้เรื่องเครื่องดนตรีได้ไว
เขาไม่เคยรู้สึกว่าเขามีความสามารถพิเศษในการเล่นเครื่องดนตรีเลย
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างหนักแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าเขาอุตสาหะแค่ไหนในตอนนั้น
แต่ถ้าไม่ใช่เพราะความอุตสาหะ เขาอาจจะไม่สามารถไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ตอนอายุครบสิบห้าปีหรอก
ตอนพวกเขาเดินกลับหอพัก เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ถูกกล่าวถึงไปทั่ว
“ประธานนักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนถูกน้องใหม่ตบหน้า!”
ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งวิทยาเขต รวมถึงในเว็บบอร์ดด้วย
ข่าวนี้มาแรงแซงทางโค้งจริง ๆ
ทุกคนรู้ว่าใครเป็นประธานนักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีน แน่นอนว่าคือหลี่ชิงสือผู้รอบรู้และมีความสามารถมากมาย
แต่คนที่โดดเด่นเช่นนี้ก็ยังถูกน้องใหม่ตบหน้า
สิ่งนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้ขอบเขตของพวกนักศึกษาอย่างยิ่ง
น้องใหม่คนนี้ต้องเก่งขนาดไหนกัน?
เขาตบหน้าของหลี่ชิงสือวิธีไหน?
คนที่ได้เห็นข่าวนี้รีบเข้าไปที่เว็บบอร์ดเพื่อดูเนื้อหาทั้งหมดทันที
แม้ว่าจะมีไลฟ์สดอยู่ แต่กล้องก็อยู่ไกลจากฟางชิวกับหลี่ชิงสือมาก เสียงรอบ ๆ บริเวณดังกลบไปหมด ผู้คนจึงไล่อ่านความคิดเห็นเพื่อให้เข้าใจเรื่องราวให้มากขึ้น
ในเว็บบอร์ด โพสต์ที่มาแรงในตอนนี้คือ [ฟางชิว VS หลี่ชิงสือ แฉหลี่ชิงสือ ตบหน้าประธานนักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีน]
ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นชื่อของฟางชิว
[ไม่แปลกใจเลย!]
[บอกเลยว่าคนที่ตบหน้าหลี่ชิงสือได้มีแค่ฟางชิว คนที่ฉายแสงในพิธีเปิดเมื่อวานนี้ไง!]
[กี่ครั้งแล้วที่ชื่อฟางชิวลุกเป็นไฟในเว็บบอร์ดสัปดาห์นี้?]
[ครั้งที่สามหรือสี่แล้ว?]
[เพิ่งเปิดเรียนสัปดาห์แรกเอง โอ้โหเว้ย ร้ายมาก!]
[ฟางชิวเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนใช่ไหม?]
[ไปมีเรื่องข้องใจกับประธานนักศึกษาได้ยังไง?]
[ไม่กลัวมีปัญหาในอนาคตเลยเหรอ?]
คำถามพรั่งพรูลงช่องคอมเมนต์
เห็นได้ชัดว่าโพสต์ถูกปล่อยจากโทรศัพท์มือถือและการไลฟ์สด แต่การไลฟ์สดได้สิ้นสุดลงแล้ว ชื่อของเจ้าของโพสต์ได้รับการอัปเดตเมื่อตอนสิบโมงครึ่ง
เจ้าของไลฟ์สดทำการอัปเดตโพสต์ตั้งแต่สิบโมงเช้า
[ข่าวด่วน! ข่าวด่วน! ฟางชิวปรากฏตัวที่สนามกีฬา หลี่ชิงสือบังคับข่มขู่ให้ร้องเพลงแข่งกัน ความท้าทายนี้แข็งแกร่งมาก…]
อัปเดตครั้งที่สอง
[ฟางชิวตกลงแล้ว ฉันจะวิ่งไปดู ฟางชิวหล่อจังอะ]
อัปเดตครั้งที่สาม
[หลี่ชิงสือร้องเพลง ‘ฉันต้องการเธอ’ ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง เดาซิว่าใคร?]
อัปเดตครั้งที่สี่
[หลี่ชิงสือร้องเพลงดีมาก ฉันท้องแล้ว!]
อัปเดตครั้งที่ห้า
[ฟางชิวร้องเพลง ‘ฉันต้องการเธอ’ เหมือนกันเลยทุกคน ข่มหลี่ชิงสือกลับชัด ๆ!]
…
มีความคิดเห็นไม่มากนัก เห็นได้ชัดว่าโพสต์นี้ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเท่าไรในตอนแรก
[เจ้าของไลฟ์รีบอัปเดตได้ไหม!]
[มีเรื่องน่าเผือกแบบนี้ทำไมฉันถึงไม่อยู่ที่มหาวิทยาลัยนะ คิดผิดจริง ๆ! เจ้าของไลฟ์อัปเดตให้ไวหน่อย! ฟางชิวร้องเพลงเป็นยังไงบ้าง ฉันอยากฟังด้วย]
[ทางนี้นั่งแทะเมล็ดแตงรอจนม้านั่งหักแล้ว!]
[ฉันเชียร์ฟางชิว! แต่สองคนนี้ก็ดูยังไง ๆ อยู่นะ!]
…
อัปเดตครั้งที่หก
[ก่อนร้องเพลงฟางชิวพูดถึงหลู่เซียงซาน ที่เคยกล่าวไว้ว่า ‘ข้าไม่ได้เป็นคนอธิบายหลักทั้งหกประการ แต่หลักทั้งหกประการเป็นผู้อธิบายตัวข้าต่างหาก’ มีใครเคยได้ยินประโยคนี้บ้าง ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แล้วฟางชิวก็พูดต่อว่า ‘ฉันไม่ได้กำลังร้องเพลง แต่เพลงกำลังบอกเล่าเรื่องราวของฉัน!’]
หลังจากนั้นการอัปเดตครั้งที่เจ็ดก็ตามมา
[ฟางชิวกำลังร้องเพลง!]
ไม่มีการอัปเดตไปพักหนึ่ง
หนึ่งนาทีผ่านไป
สองนาทีผ่านไป
เป็นเวลากว่าห้านาทีที่ไม่มีการอัปเดต
ป่านนี้หม้อในครัวคงไหม้ไปแล้ว
[เจ้าของไลฟ์อยู่ที่ไหน รีบมาอัปเดตหน่อยเถอะ ฟางชิวร้องเพลงเป็นยังไง ฉันแชร์ข่าวที่มีไปหมดแล้ว ยังไงก็รีบมาข่าวหน่อย!]
[เจ้าของไลฟ์ท้อง เสียชีวิตไปแล้วด้วยภาวะคลอดยาก]
[เจ้าของไลฟ์ตายแล้ว ใช้อะไรเผากระดาษเงินกระดาษทองไปได้บ้าง]
…
คนที่กำลังอ่านโพสต์ตอนนี้สามารถจินตนาการได้ว่าคนที่นั่งรอการอัปเดตนั้นร้อนใจเพียงใด
การที่ได้เห็นความทุกข์ของทุกคนนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ เจ้าของไลฟ์ไม่ต้องรีบอัปเดตข่าวหรอก
ในนาทีที่หก เจ้าของไลฟ์ได้อัปเดตในที่สุด
[โทษที ฟางชิวร้องดีมาก ไม่ใช่สิ! แค่นี้บอกไม่ได้หรอกว่าจริง ๆ เพราะขนาดไหน ฉันอธิบายความรู้สึกในร้องเพลงของฟางชิวไม่ได้จริง ๆ บอกได้แค่ว่าอยากฟังสักร้อยรอบ!]
ทุกคนอ่านแล้วได้แต่นั่งอึ้ง
อะไรนะ!
ร้องดีจนเจ้าของไลฟ์ต้องชมเลยหรือ
เสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้ฟังฟางชิวร้องเพลงที่สนามกีฬา ขอโทษด้วยนะ!
[ฟางชิวพูดเสียงดังว่า หลี่ชิงสือควรแสดงให้เห็นว่าเขาเก่งทักษะอะไรบ้าง แล้วฟางชิวก็จะสยบมันให้หมดเลย! ฟางชิวกับหลี่ชิงสือเคยมีปัญหากันมาแน่ ๆ ไม่น่าแปลกใจที่ตั้งแต่ฟางชิวเดินมา หลี่ชิงสือก็เริ่มท้าแข่ง]
[รูมเมตทั้งสามคนของฟางชิวชี้ไปที่หลี่ชิงสือ บอกว่าหลี่ชิงสือลอบกัดฟางชิว! ดูสิว่าสามคนนี้ภักดีกับฟางชิวขนาดไหน!]
[รูมเมตของฟางชิวเล่าแผนสกปรกของหลี่ชิงสือให้ฟัง ครั้งแรกก็คือตอนหลี่ชิงสือแย่งตำแหน่งร้องเพลงคู่เจียงเหมี่ยวอวี๋ไป ความจริงฟางชิวกับเจียงเหมี่ยวอวี๋ต้องร้องเพลงด้วยกัน ครั้งที่สองหลี่ชิงสือแอบเอาขยะมาไว้ในหอพักแล้ววิพากษ์วิจารณ์พวกเรา ครั้งที่สาม ข่มขู่ให้ฟางชิวแข่งร้องเพลงด้วย เฮ้ย! ต้องโกรธแค้นกันขนาดไหนอ่ะแบบนี้!]
[แน่นอนว่าหลี่ชิงสือไม่ยอมรับ!]
อ่านอย่างนี้แล้วทุกคนก็เข้าใจทุกอย่างทันที
ขอชื่นชมความละเอียดอ่อนของเจ้าของไลฟ์ที่เน้นคำว่า ‘ไม่ยอมรับ’
ฟางชิวแสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมยังเป็นสิ่งที่น่าเกรงขาม ส่วนกิเลสนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
ทุกคนต่างเห็นใจฟางชิว ใครบ้างจะกล้าท้าประธานสภานักศึกษาของมหาวิทยาลัยถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ น่ะ?
[หลี่ชิงสือเสนอให้แข่งเล่นเครื่องดนตรี ฟางชิวเห็นด้วย]
[หลี่ชิงสือเป่าขลุ่ยเซียวเล่นเพลง เสียงหัวเราะของท้องทะเล]
[เพราะมาก!]
…
เจ้าของไลฟ์อัปเดตข่าวเรื่อย ๆ
[พอหลี่ชิงสือเล่นจบ ฟางชิวก็บอกให้หลี่ชิงสือเชิญเลือกเครื่องดนตรีจากแถวนั้นให้เขาได้เลย มีขลุ่ยเซียว กีตาร์ ขลุ่ย กู่เจิง ผีผา ซอเอ้อร์หู ไวโอลิน และเชลโล ฟางชิวจะกลายเป็นเซียนไปแล้วเหรอ ทุกคนต่างพากันอึ้งกับประโยคนี้ทั้งนั้น!]
ทุกคนอ้าปากค้าง
ไม่มีใครคิดว่าเรื่องราวจะพัฒนามาถึงจุดนี้
อาจหาญมาก!
พวกเขาไม่เชื่อว่าฟางชิวจะเล่นเครื่องดนตรีเป็นมากมายขนาดนี้
[หลี่ชิงสือเลือกซอเอ้อร์หู]
ทันทีที่เห็นข้อความนี้ ทุกคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับฟางชิว
[ฟางชิวหยิบซอเอ้อร์หูขึ้นมาจริง ๆ เขาเล่นเพลง ‘ม้าศึก’ ตระการตามากบอกเลย เสียงกีบม้าและเสียงม้าร้องใช้ซอเอ้อร์หูทำได้หมดเลย สุดยอด! สุดยอดไปเลยเว้ย!]
ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นว่าฟางชิวเล่นซอเอ้อร์หูเป็นจริง ๆ!
ดูเล่นเก่งมากเลยด้วย
[ฟางชิวเล่นจบ ผู้ชมก็ต่างพากันปรบมือ หน้าของหลี่ชิงสือน่าเกลียดไปเลยอะ]
[จู่ ๆ ฟางชิวก็ลากขาตั้งไมโครโฟนไปยังที่เต็นท์ชมรมศิลปะพื้นบ้าน บ้าจริง! เดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น ฟางชิวหยิบขลุ่ยเซียวขึ้นมาเป่าเพลง ‘เสียงหัวเราะของท้องทะเล’ ที่หลี่ชิงสือเพิ่งเล่นไป!]
[แล้วเขาก็หยิบผีผาขึ้นมาเล่นเพลง ‘เสียงหัวเราะของท้องทะเล’ อีก!]
[มันยังไม่จบ! ฟางชิวไปหยิบกู่เจิงขึ้นมา และเล่นเพลง ‘เสียงหัวเราะของท้องทะเล’ อีกรอบ นี่คือจังหวะที่จะฆ่าหลี่ชิงสือให้ตาย!]
[เจ้าของไลฟ์ไม่มีแรงแล้ว! ฟางชิวหยิบขลุ่ยขึ้นมา ทำนองเหมือนกับข้างบนเลย! อ๊า อ๊า อ๊า~ ไม่อยากจะเชื่อสายตาแล้ว ในโลกนี้จะมีคนทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร! ใจฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันกำลังจะตาย ทุกคนอย่าลืมบอกให้ฟางชิวช่วยล้างแค้นให้ฉันด้วย~]
ถึงเจ้าของไลฟ์จะเล่นใหญ่ได้น่ารักแค่ไหน คนที่อ่านโพสต์กลับไม่รู้สึกว่าอยากจะหัวเราะเลยสักนิด
ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เจ้าของไลฟ์อธิบาย
เป็นไปได้ไงเนี่ย
ฟางชิวเล่นเป็นหมดได้ไง?
[นอกจากกีตาร์กับฟลุตที่เคยเห็นว่าเล่นได้แล้ว ยังเล่นซอเอ้อร์หูเป็นอีก เล่นได้หมดจริง ๆ อะ!]
[จริงหรือหลอก?]
[เจ้าของไลฟ์ไม่ได้โกหกใช่ไหม?]
[แต่มันก็ดูไม่ใช่เรื่องโกหกนะ]
พวกเขาไม่อยากเชื่อว่าฟางชิวเล่นเครื่องดนตรีเป็นทั้งหมด เทียบกับคนปกติแล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน
[ฟางชิวหยิบไวโอลินขึ้นมา ถามหลี่ชิงสือจะแข่งต่อไหม หลี่ชิงสือไม่ตอบ ฟางชิวเลยขู่ว่าอย่ามาลอบกัดอีก มีปัญหาให้มามาเผชิญหน้ากันตรง ๆ ถ้ามีความสามารถมากพออะนะ! แล้วฟางชิวก็จากไปพร้อมกับรูมเมต]
[ฟางชิวหยุดที่เต็นท์การขอบริจาคให้โม่อี้ฉี นักศึกษาที่ป่วยเป็นมะเร็งของพวกเรา เหมือนฟางชิวจะต้องการบริจาคเงินนะ]
[หลี่ชิงสือรีบเดินเข้าไปหาแล้วทุกคน!]