คุรุการแพทย์ – บทที่ 48 สงสัยใคร่รู้!

คุรุการแพทย์

บทที่ 48 สงสัยใคร่รู้!

บทที่ 48 สงสัยใคร่รู้!

“ฉันบอกแล้วบอกว่าหมอเสี่ยวฟางอารมณ์ดี ไม่เพียงแต่อัธยาศัยดี แต่ทักษะทางการแพทย์ของเขาก็ดีมากด้วย!” เหล่าเจี่ยหันศีรษะไปทางหลี่เจี้ยนจวินและกล่าวอย่างมีชัย

หลี่เจี้ยนจวินพยักหน้า ยังแอบสงสัยเล็กน้อย เขายอมรับว่าตกใจตอนเห็นฟางชิวในครั้งแรก

มีหมอยังหนุ่มแบบนี้ได้อย่างไร?

แม้ว่าก่อนที่เขาจะมา เหล่าเจี่ยจะเคยบอกไปแล้วว่าควรทำใจเอาไว้ล่วงหน้าเพราะหมออายุน้อยมาก

แต่ไม่คิดว่าจะหนุ่มขนาดนี้!

ดูยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

จะเชื่อถือได้จริงหรือ?

ตอนนี้เขาสงสัยจริง ๆ ว่า เหล่าเจี่ยกำลังหลอกเอาเงินจากพี่น้องหรือเปล่า!

นางพยาบาลที่ขวางพวกเขาไว้ที่จุดรอคิวก็ตกตะลึงเมื่อเห็นฟางชิวเช่นกัน

นี่… คือหมอฟางเหรอ?

เด็กเกินไปไหมเนี่ย!!!

คนที่ดูอ่อนกว่าเธอตั้งหลายปีกลายเป็นหมอ?

และทางโรงพยาบาลก็คัดเลือกมาเป็นกรณีพิเศษ?

เธอรีบดึงเฉาเจ๋อออกไปด้านข้างแล้วกระซิบด้วยความตกใจว่า “พี่เฉา คนที่อยู่ข้างในเป็นหมอจริง ๆ เหรอ ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กฝึกงานเหรอ?”

“เป็นหมอจริง ๆ” เฉาเจ๋อเห็นปฏิกิริยาของคนที่เจอฟางชิวแล้วก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา

จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าโลกนี้มันแปลกใช่ไหมล่ะ?

ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน!

“อาจารย์ของหมอเสิ่นชุนที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคัดเลือกมาเป็นกรณีพิเศษน่ะ”

“อ่า…” นางพยาบาลตกใจมากจนพูดไม่ได้ครู่หนึ่ง เหมือนว่าประโยคที่ได้ยินมันจะไม่แปลก แต่เธอก็ยังคิดว่ามันแปลกอยู่ดี

ผ่านไปครู่ใหญ่ นางพยาบาลถึงพูดออกมาประโยคหนึ่ง “แต่เขาดูยังไม่โตเลยนะคะ?”

“ปีนี้อายุสิบเจ็ด เป็นนักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยของพวกเรา”

หา?!

อายุสิบเจ็ด?

ทั้งยังเป็นนักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยด้วย?

นางพยาบาลได้แต่อึ้ง

เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้!

ทุกอย่างในโลกนี้มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?

“เขาทำได้จริงเหรอ ทักษะทางการแพทย์ของเขาสูงจริง ๆ เหรอ เป็นไปไม่ได้ เขายังไม่เป็นผู้ใหญ่เลย ทักษะทางการแพทย์ของเขาจะสูงขนาดนั้นเลยเหรอคะ” นางพยาบาลถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เฉาเจ๋อตอบเพียงประโยคเดียวว่า “เพราะว่าเขารักษาคนไข้ที่รักษายากที่สุดในแผนกของเราอย่างโหยวเซิงหายน่ะสิ”

“คนไข้โหยวซิงไม่ได้ป่วยมะ…” นางพยาบาลเถียงได้แค่ครึ่งประโยคก็เถียงต่อไม่ได้

เมื่อถูกปิดปากด้วยคำตอบแบบนั้น นางพยาบาลจึงมองหน้าเฉาเจ๋อด้วยความตกใจ ไม่อาจพูดอะไรต่ออีก

ไม่ใช่ว่าโหยวเซิงไม่ได้ป่วย แต่ทุกคนไม่รู้ต่างหาก แต่หนุ่มน้อยคนนี้กลับพบสาเหตุของโรคแล้วรักษาหายอะนะ

เฉาเจ๋อเข้าใจสิ่งที่พยาบาลกำลังคิดอยู่ เขาจึงพูดด้วยความมั่นใจว่า “เขาสามารถรักษาคนไข้หาย อายุและทักษะทางการแพทย์ในบางครั้งก็สวนทางกัน!”

“ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนไข้เก่าจะแนะนำคนไข้รายใหม่ให้กลับมารักษากับหมอคนเดิม” เฉาเจ๋อพูดจบก็ลุกขึ้นไปทำงานของตัวเองต่อ

พยาบาลยืนอยู่ที่เดิมคนเดียวเป็นเวลานาน เธอรู้สึกว่านี่มันหนักหนาเกินกว่าจะไม่หยุดคิดได้เลยยังตกใจอยู่

โหยวเซิงคนนี้โด่งดังไปทั้งแผนก ใคร ๆ ก็คิดว่าเขามีปัญหากับสมอง เพราะเขาบอกว่าตัวเองป่วยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ป่วย

อาจารย์เสิ่นชุนก็คิดแบบเดียวกัน

หมอฟางตรวจโรคของโหยวเซิงจนเจอสาเหตุได้จริง ๆ หรือ?

เป็นไปได้ไหมว่าหมอฟางจะเก่งกว่าของหมอเสิ่นชุน?

เมื่อนึกถึงอายุและสถานะนักศึกษาของฟางชิวอีกครั้งแล้ว เธอก็รู้สึกว่าโลกนี้แปลกมาก หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมารู้สึกตัว เธอยังคงเหลือบมองห้องตรวจของฟางชิวอย่างประหลาดใจ สุดท้ายก็ยอมผละไปทักทายคนไข้รายอื่นต่อ

ในห้องตรวจ

ฟางชิวบอกให้เหล่าเจี่ยกับหลี่เจี้ยนจวินนั่งลง

แต่เหล่าเจี่ยไม่ได้นั่งลง เขาบอกจะไปรอกับกลุ่มเพื่อนข้างนอกเพื่อป้องกันไม่ให้โดนหมอคนอื่นหลอกไปรักษา!

หลังจากพูดจบเขาก็จากไป เหลือเพียงหลี่เจี้ยนจวินกับฟางชิวสองคน

ฟางชิวไม่สนใจว่าหลี่เจี้ยนจวินสงสัยความสามารถของตัวเองหรือไม่ สิ่งที่เขาสนใจคือเขาสามารถรักษาอาการป่วยของคนไข้ได้ดีหรือไม่

“ช่วยเล่าอาการของคุณให้ฟังหน่อยครับ?” ฟางชิวถามพลางหยิบปากกามาเขียนบันทึกการรักษา

“ฉันปวดหลังและกระดูกส่วนคอเป็นประจำ มันมีปัญหามานานแล้ว ฉันขับรถแท็กซี่มาเป็นเวลานาน เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานหนักน่ะ” หลี่เจี้ยนจวินตอบ

ฟางชิวพยักหน้า หลังจากถามว่าปวดตรงไหนแล้ว เขาก็ให้อีกฝ่ายไปนอนบนเตียง

ฟางชิววางมือบนกระดูกสันหลังทั้งหมดเพื่อตรวจอาการ แล้วก็จริงอย่างที่คนไข้พูด กระดูกสันหลังส่วนเอวและส่วนคอของคนไข้ตึง

กระดูกสันหลังส่วนอกก็มีปัญหาเช่นกัน

อนิจจา มันเป็นท่านั่งที่ทำร้ายผู้คนจริง ๆ!

ฟางชิวลอบถอนหายใจอย่างเงียบงัน

เขาสามารถจินตนาการถึงท่านั่งของคนขับแท็กซี่ที่ขับทั้งวันได้

งอหลังและยื่นคอไปข้างหน้า

ยังดีที่นั่งงอหลัง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ส่วนโค้งของกระดูกสันหลังของมนุษย์ก็ถูกออกแบบให้งอไปข้างหลัง

แต่กระดูกสันหลังส่วนเอวและกระดูกสันหลังส่วนคอถูกออกแบบให้ยื่นไปข้างหน้า

และท่านั่งของผู้ขับขี่ก็มักจะงอตัวไปข้างหลัง

ถึงแม้จะนั่งท่านี้แล้วรู้สึกสบายในตอนแรกก็ตาม แต่นี่ก็เป็นท่านั่งที่ละเมิดสภาวะปกติของร่างกายมนุษย์อย่างร้ายแรง ในระยะยาวจะมีปัญหากับกระดูกสันหลังส่วนเอวและกระดูกสันหลังส่วนคอ และจะทำให้เกิดอาการปวดเนื่องจากการกดทับของเส้นประสาท

“หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนที่สาม สี่ และห้า กระดูกสันหลังส่วนเอวก็ทับเส้นประสาท…” ฟางชิวอธิบายสาเหตุของโรคกับหลี่เจี้ยนจวินสั้น ๆ

หลี่เจี้ยนจวินตกใจ เพราะไม่คิดว่าอาการของตนจะรุนแรงขนาดนี้

แต่แล้วกลับสงสัยว่า หมอหนุ่มคนนี้คงไม่ได้ตั้งใจจะพูดเพื่อหลอกเอาเงินของเขาไปหรอกใช่ไหม?

“เอ่อ หมอครับ ร้ายแรงขนาดนี้ มันต้องใช้เงินเยอะใช่ไหม” หลี่เจี้ยนจวินถาม

เขาได้กำหนดค่ารักษาขั้นต่ำสุดเอาไว้ในใจตัวเองแล้ว ถ้ามากกว่าสามร้อยหยวน เขาจะลุกจากเตียงแล้วเดินออกไปทันที!

ส่วนเหล่าเจี่ยนั้น เขาจะต้องกลับไปด่าแน่นอน ข้อหาหลอกพามาเสียเงิน!

“ไม่มากครับ แค่เงินที่คุณลงทะเบียนไปก็พอ” ฟางชิวนับนิ้วของเขาในขณะที่ตอบ

แค่นั้นมันจะพอหรือ!

หลี่เจี้ยนจวินตกตะลึง

เขารู้สึกพ่ายแพ้เมื่อได้ยินว่าจ่ายค่ารักษาไม่แพง ค่าลงทะเบียนแค่สิบแปดหยวนจะเพียงพอได้อย่างไร

ตอนนี้ค่ารักษาในโรงพยาบาลถูกมากขนาดนี้เลยหรือ?

แต่ก่อน การมาหาหมอแต่ละทีหมดไปไม่ต่ำกว่าพันแปดร้อยหยวน จะมีที่ไหนถูกกว่านี้อีก?

เกิดอะไรขึ้น?

ก่อนที่เขาจะเข้าใจ เขาก็ได้ยินฟางชิวพูดว่า “พลิกตัวกลับอีกด้านด้วยครับ”

หลี่เจี้ยนจวินตอบโดยไม่รู้ตัวว่า “โอ้” แล้วพลิกตัวไปอีกด้านอย่างว่าง่าย

จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม “หมอเสี่ยวฟาง เธอพูดผิดหรือเปล่าเมื่อกี้ จริง ๆ แล้วการเสียค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเสียแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ค่าลงทะเบียนก็คือค่าลงทะเบียนนะ!”

ฟางชิวนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งคล้องคอของหลี่เจี้ยนจวิน แล้วดึงคางด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เพื่อดันไปข้างหน้า

เขาปล่อยให้คนไข้หัวห้อยอยู่กลางอากาศ

ในเวลานี้ นิ้วของฟางชิวก็ติดอยู่กับตำแหน่งของกระดูกสันหลังส่วนคอ

เขาใช้สัมผัสสัมบูรณ์!

ครู่เดียวนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงภาพกระดูกสันหลังส่วนคอ

“ค่าลงทะเบียนรวมค่าวินิจฉัยแล้ว ส่วนค่ารักษากับค่าตรวจอื่น ๆ นั้นผมไม่ต้องการ” ฟางชิวพูดจบ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย

กล้ามเนื้อในมือเขาเริ่มตึง ครึ่งหลวมครึ่งแน่น พร้อมรักษาได้ทุกเมื่อ

“แต่ไม่มีทางที่จะถูกแบบนั้นหรอก…”

หลี่เจี้ยนจวินยังพูดไม่จบ ฟางชิวก็เคลื่อนไหวทันที

ฟางชิวสัมผัสคอของหลี่เจี้ยนจวิน นิ้วเคลื่อนไปที่ตำแหน่งกระดูกคอที่มีปัญหา จากนั้นชายหนุ่มก็ดึงกระดูกสันหลังส่วนคอขึ้นแล้วดันกลับเข้าที่

เสียง ‘คลิก’ ดังขึ้น

เป็นเสียงกระดูกสันหลังส่วนคอเข้าที่

แต่นี่เป็นเพียงกระดูกคอส่วนที่ห้าเท่านั้น

กระดูกส่วนที่สามและสี่ยังไม่เข้าที่

ไม่ถึงอึดใจ ข้อต่อนิ้วของฟางชิวก็เคลื่อนมาแตะที่กระดูกคอส่วนที่สี่ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

เสียง ‘คลิก’ ดังขึ้นอีกครั้ง

เข้าที่แล้ว!

เหลือกระดูกส่วนที่สาม

คลิก!

กระดูกเข้าที่เรียบร้อย!

ฟางชิวถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากทั้งหมดนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น

คอเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมนุษย์

เมื่อถูกคนอื่นสัมผัสที่คอ ผู้คนจะป้องกันตนเองโดยไม่รู้ตัว

ยากมากที่กระดูกสันหลังส่วนคอที่คัดตึงเพราะกล้ามเนื้อจะกลับเข้าที่ง่าย ๆ

ดังนั้นฟางชิวจึงเคลื่อนไหวเร็วมากในตอนดันกลับที่ และเขาไม่ได้ให้โอกาสหลี่เจี้ยนจวินโต้ตอบเลย

กระดูกเข้าที่แล้ว เพราะเขาทำได้ดีล้วน ๆ!

ฟางชิวรักษาเสร็จแล้ว หลี่เจี้ยนจวินยังคงแสดงท่าทีตะลึงงัน ไม่ตอบสนองอะไรออกมา

เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?

“ลุกจากเตียงแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ได้เลยครับ” ฟางชิวดึงเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่บนพื้นแล้วส่งสัญญาณให้หลี่เจี้ยนจวินนั่งลงบนนั้น

ในที่สุด หลี่เจี้ยนจวินก็ได้สติ เขาขยับคออย่างรวดเร็วขณะลุกขึ้นจากเตียง

เขามองฟางชิวด้วยความประหลาดใจและพูดอย่างดีใจว่า “ฉันรู้สึกสบายขึ้นเยอะเลย ตาก็มองชัดขึ้นด้วย!”

ฟางชิวยิ้ม และพยักหน้าให้หลี่เจี้ยนจวินนั่งลง

“เดี๋ยวค่อยดีใจก็ได้ครับ กระดูกสันหลังส่วนเอวของคุณยังไม่ได้รับการรักษา”

“ได้!” หลี่เจี้ยนจวินพยักหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วนั่งลงอย่างเชื่อฟังทันที

ความสงสัยในตัวฟางชิวที่มีถูกโยนเข้าไปในกลีบเมฆหมดแล้ว

ตอนนี้หลี่เจี้ยนจวินรู้สึกเชื่อใจและมั่นใจในตัวฟางชิวมาก

เขามองหาร้านนวดแก้ปวดคอมาหลายปีแล้ว แต่มันก็หายปวดเพียงชั่วคราวเท่านั้น จะเหมือนเสียงคลิกที่ดังสามครั้งได้อย่างไร ฟางชิวช่วยให้เขาสบายตัวมากกว่าอีก

รู้สึกเหมือนไม่มีคอด้วยซ้ำ!

หมอเสี่ยวฟางเก่งจริง ๆ เก่งอย่างที่เหล่าเจี่ยพูดไว้ไม่มีผิด!

เหล่าเจี่ย พี่ชายคนนี้มีคุณธรรมเพียงพอ ไม่ได้โกหกพี่น้องของเขาจริง ๆ

หลังจากที่หลี่เจี้ยนจวินนั่งลง ฟางชิวก็ได้สอดแขนผ่านใต้รักแร้และโอบไว้ที่แผ่นอก

หลี่เจี้ยนจวินตัวลอยจากเก้าอี้เล็กน้อย

“ผ่อนคลายและจินตนาการว่าตัวเองกำลังเมาอยู่ในแอ่งน้ำก็ได้ครับ” ฟางชิวกล่าว

ได้ยินแล้ว หลี่เจี้ยนจวินก็ผ่อนคลายลงทันที

แน่นอนว่ามันเหมือนกับว่าเขากำลังเมา

ร่างกายเขาผ่อนคลายมาก

ฟางชิวมุ่งความสนใจไปที่หมอนรองกระดูกสันหลังของหลี่เจี้ยนจวิน

เขารู้สึกถึงพลังชี่และเลือดลม

ฟางชิวมีความเข้าใจในพลังชี่และเลือดลมไม่น้อย

ความรู้สึกที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังชี่และเลือดลมนั้น มันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ทำได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว ประหนึ่งเห็นถังขยะด้วยตาแล้วส่งคำสั่งในใจให้ขยะลงถัง แล้วขยะก็ลงไปในถังจริง ๆ

เขาเข้าใจถ่องแท้ไปถึงกระดูกทุกข้อต่อ ไม่จำเป็นต้องคำนวณใด ๆ

พลังของเขาทำให้เขาเข้าใจทุกอย่างชัดเจน

แม่นยำโดยไม่ต้องคาดเดา

แต่แค่คิดว่าจะโยนขยะลงถังอย่างไร ต้องใช้แรงเท่าใด ก็ยากที่จะโยนเข้าแล้ว

ในตอนนั้น การตัดสินของฟางชิวถูกรบกวนด้วยความคิดและอารมณ์บางอย่าง สภาพจิตใจและพลังปราณของเขาเกิดความสับสน จากนั้นพลังปราณของเขาจึงปั่นปวน ไม่สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ

ถ้าต้องการจะควบคุมทุกอย่างได้ เขาต้องมีสติ ผ่อนคลายจิตใจและมีใจที่จะกล้าออกไปโดยไม่ต้องกลัวที่จะแพ้ แม้ว่าจะขาดความมั่นใจในตนเองก็ตาม

เขาต้องใช้เวลาฝึกฝนนานมากกว่าจะควบคุมทุกอย่างได้

และนี่คือรางวัลสำหรับฟางชิว

ฟางชิวผ่านอุปสรรคนี้ไปแล้ว

เขาไม่จำเป็นต้องคำนวณว่าเขาต้องใช้แรงมากแค่ไหนในการจัดกระดูกให้เข้าที่ ชายหนุ่มแค่ต้องหาว่าตำแหน่งปกติของกระดูกอยู่ตรงไหน จากนั้นก็เริ่มจัดกระดูกในตำแหน่งนั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับร่างกายของเขาเอง

ฟางชิวเขย่าร่างกายของหลี่เจี้ยนจวินอย่างช้า ๆ ต่อมากล้ามเนื้อของหลี่เจี้ยนจวินก็ผ่อนคลายลง ปรากฏแสงวาบผ่านในดวงตาให้เห็น

เสียง ‘แกร๊ก’ ดังขึ้น

อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหายไปทันที

ใบหน้าของฟางชิวที่จริงจังหายไป เขาเผยรอยยิ้มจาง ๆ วางตัวหลี่เจี้ยนจวินลงแล้วกล่าวว่า

“ไม่เป็นไรแล้วครับ”

หลี่เจี้ยนจวินยืนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วลองโค้งเอวไปมา

ความเจ็บปวดที่เคยปวดหายไปจริง ๆ!

หลี่เจี้ยนจวินจับมือฟางชิว แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณ! ขอบคุณหมอฟางมาก ฉันป่วยมาหลายปีแล้ว ไม่เคยได้รับการรักษาที่ถูกต้องเลย วันนี้หมอรักษาฉันหายแล้ว ขอบคุณมาก! ”

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท