บทที่ 55 ฉันจะเอาชนะให้ได้!
บทที่ 55 ฉันจะเอาชนะให้ได้!
ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกคน ฟางชิวก็วางลูกบอลลง แล้วเดินถอยหลังไปสองสามก้าว
เห็นท่าทางเตรียมวิ่งเตะบอลแบบนี้ทุกคนก็แอบคิดว่า ฟางชิวคงจะตั้งใจคืนบอลโดยไม่ด่าอะไรสักคำ
ทว่ามุมปากของฟางชิวก็ยกยิ้มขึ้นมา
ก่อนจะออกวิ่งไปเตะลูกบอลอย่างรวดเร็ว
ลูกฟุตบอลพุ่งออกไปอย่างแรง ประหนึ่งเป็นลูกกระสุนปืนใหญ่
เร็วมาก!
ทุกคนตกใจกับพลังเตะของฟางชิว
ฟางชิวเตะแรงมาก เพราะสามารถได้ยินเสียงตอนที่ลูกบอลพุ่งออกไปได้เลย
สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ลูกบอลพุ่งตรงไปที่ใบหน้าของเกาเฟย!
ความเร็วนั้นยากเกินที่จะหลีกเลี่ยง!
‘ปัง’ ลูกบอลอัดใส่หน้าเกาเฟยอย่างจัง!
แรงกระแทกมหาศาลทำให้เกาเฟยลอยขึ้นไปในอากาศแล้วล้มโครมลง แผ่นหลังของเขากระแทกกับพื้นอย่างจัง
คนในสนามบาสเกตบอลและสนามฟุตบอลต่างเงียบกริบ
ราวกับว่าเวลาได้หยุดนิ่งเอาไว้
บาสเกตบอลร่วงจากมือของเพื่อนร่วมชั้น
‘ตึง’ ‘ตึง’ ‘ตึง’
ลูกบาสยังคงเด้งกระทบพื้นต่อไป
แต่แล้ว คนทั้งสนามบาสเกตบอลและสนามฟุตบอลทั้งหมดก็ได้สติกลับมา ทุกคนต่างสูดหายใจเข้าลึก ๆ
พวกเขามองไปที่เกาเฟยที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็หันมองไปที่ฟางชิว
นี่ยังเป็นเท้าของคนอยู่หรือเปล่า?
ทำไมมีพลังมากขนาดนี้!
แรงเตะลูกบอลทำให้คนลอยขึ้นไปในอากาศได้ด้วยหรือ?
และความเร็วนั้นก็เร็วมาก จนคนที่เล่นฟุตบอลได้ดีก็ยังหลบเลี่ยงไม่ทัน
เท้าฟางชิวจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
“ขอโทษที ฉันเตะผิดเหมือนกับที่นายเตะผิดมาสามรอบนั่นแหละ” ฟางชิวเอ่ยยิ้ม ๆ
ตู้ม!
ทันใดนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ว่า…
การเตะนี้คือการแก้แค้น!
เป็นการแก้แค้นที่ยุติธรรมมากด้วย!
พวกเขารู้สึกมานานแล้วว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่เพียงแต่คนในสนามบาสเกตบอลเท่านั้น แต่ผู้คนในสนามฟุตบอลก็รู้สึกได้ว่าฟางชิวก็มีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนกัน
พอได้รับลูกบอลก็เตะไปทันที
ถ้าไม่เก่ง เตะแบบนี้ไม่ได้หรอก!
เรื่องชักวุ่นวายแล้ว!
ประเด็นก็คือ นักฟุตบอลเตะบอล ไม่ได้ทำให้ใครเจ็บหนัก แต่นักบาสเตะบอลทำให้นักบอลเจ็บจนล้ม!
แถมฟางชิวยังเตะให้คนกระเด็นได้!
อะไรกันครับเนี่ย?
“แม่มันเถอะ! ฉันจะฆ่าแก!” จู่ ๆ เกาเฟยก็ลุกขึ้นจากพื้น เช็ดเลือดที่จมูก ตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะรีบวิ่งหาฟางชิวด้วยความโกรธ
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนแถวนั้นตกใจ
ผู้คนในสนามฟุตบอลรีบเข้าไปห้ามเกาเฟยที่กำลังเสียสติอยู่ตรงทางเข้าสนามบาสเกตบอล
“ใจเย็น ๆ เกาเฟย ใจเย็น ๆ!” เพื่อนของเกาเฟยรีบตะโกนห้าม
“ใจเย็นอะไรล่ะ! วันนี้จะต้องอัดมันให้ได้!” เกาเฟยคำราม พยายามสลัดตัวหนี แต่ฝูงชนก็ยังจับเขาไว้แน่น
ในใจชายหนุ่มรู้สึกแย่ป่นปี้
หายใจแทบไม่ออก จะบ้าตายให้ได้!
เขากะจะสั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้เด็กหน้าเหม็นคนหนึ่งด้วยลูกเตะสามลูกนั่น แต่ไม่คิดว่าจะโดนอาจารย์แทน
แล้วอาจารย์ก็ไปทำเรื่องรายงานพฤติกรรมเขาแล้วด้วย
เพราะฉะนั้นนี่ยังไม่พอหรอก!
ฟางชิวกล้าเตะบอลอัดหน้าเขาในที่สาธารณะ แถมยังเตะอัดเขาจนตัวลอย!
ทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าทุกคน!
ความเกลียดชังนี้ เขาจึงต้องการเอาชนะให้ได้!
ทว่าตอนนี้รอบตัวฟางชิวก็มีคนเดินมาล้อมไว้ ทั้งหมดมาจากห้องสาม โดยเฉพาะจูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าว และโจวเสี่ยวเทียน
เมื่อเห็นแล้วฟางชิวก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มมองไปที่เกาเฟย สายตาเยาะเย้ยถากถาง “นายตั้งใจเตะบอลใส่ฉันสามครั้ง นายคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยเหรอไง?”
“ลูกเตะเมื่อกี้นี้ถือว่าฉันจ่ายคืนให้แล้ว ทำตามมารยาทยังไงล่ะ!”
“ไม่อย่างนั้นนายก็ลุกไม่ขึ้นหรอก!” นี่เป็นแค่การเตะธรรมดา ๆ หากใช้พลังปราณภายในด้วย เกรงว่าหัวของเกาเฟยจะย้อมไปด้วยเลือด!
“แม่มันเถอะ! แกมันบ้า! ฉันเตะใส่แกอะไรกัน มีแต่แกที่เตะใส่ฉันก่อน!” เกาเฟยดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าอุปสรรคของผู้คนรอบตัวเขาได้ เขาจึงทำได้เพียงจ้องไปที่ฟางชิว ตะคอกกลับไปด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมแทน
“นายนั่นแหละที่เตะฉันก่อน รนหาที่เองช่วยไม่ได้!” ฟางชิวตอบยิ้ม ๆ
เป็นคำพูดที่ถูกที่ถูกเวลายิ่งนัก
นักบอลแถวนั้นจึงพากันมึนงงกันครู่หนึ่ง
รนหาที่เองช่วยไม่ได้งั้นเรอะ
ไอ้เด็กคนนี้บ้าเกินไปหรือเปล่า?
เกาเฟยได้รับการกล่าวขานว่ามีพื้นฐานกังฟูจากสมาคมกีฬา ใครเล่าจะกล้ามีเรื่องกับเขา
ถ้าพวกเขาไม่หยุดเกาเฟยไว้ ฟางชิวคงถูกอัดเละแล้ว
ไม่รู้จริง ๆ หรือว่าเหนือฟ้ามันสูงแค่ไหนน่ะ!
พวกผู้ชายในห้องสามคิดว่าคำพูดของฟางชิวอาจหาญยิ่งนัก
หยิ่งผยองมาก!
“ฮ่า!!!”
เกาเฟยเป็นบ้าอีกแล้ว
เขาเคยโดนคนดูถูกเหยียดหยามแต่ก็ไม่เคยโดนต่อหน้าผู้คนในที่สาธารณะอย่างนี้!
“อย่าห้ามฉัน วันนี้ฉันต้องตีมันให้ตาย! ปล่อยฉันออกไป!!!”
เกาเฟยดิ้นหนีพวกที่รั้งตัวเขาไว้อย่างบ้าคลั่ง
แต่เมื่อทุกคนมองไปที่ฟางชิว ก็พบว่าเขายังคงสงบนิ่ง
คนในสนามฟุตบอลไม่มีอำนาจที่จะพูดอะไร พวกเขามองหน้ากัน ต้องการปล่อยตัวเกาเฟยให้ไปสั่งสอนบทเรียนกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ในเวลานั้นเอง เฉินชงก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้า แล้วออกมายืนอยู่ข้างฟางชิวเพื่อปกป้องเช่นกัน
“จะสู้กันเหรอ? พวกนายเข้ามาพร้อมกันได้เลย!” เฉินชงกล่าวเบา ๆ
ทุกคนตะลึงกับประโยคที่ได้ยิน
แล้วตานี่ใครอีก!
บ้าไปแล้วเหรอ?
นักบอลพูดอะไรไม่ได้ นึกในใจว่าห้องนี้มันบ้ากันไปหมดแล้ว?
จะบ้าตามไปอีกคนเหรอ
“เฉินชงเคยต่อสู้กับชายลึกลับมาก่อน” ในเวลานี้ คนที่อยู่แถวนั้นก็กระซิบกระซาบบอกกันเบา ๆ
สายตาของนักบอลทุกคนที่มองเฉินชงเปลี่ยนไปทันที
อะไรนะ! นี่ก็เทพเรอะ!
หลังจากนั้นก็มีเสียงกระซิบกระซาบว่าเฉินชงถูกชายลึกลับอัด แต่ก็เอาชนะคนของสมาคมศิลปะการต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
เรียกได้ว่าพลังนั้นแข็งแกร่งจนยากที่จะหยั่งรู้ได้
แม้ว่าพวกเขาจะลงมือพร้อมกัน ก็ไม่มั่นใจว่าจะล้มคนตรงหน้าได้ไหม
เกาเฟยได้ยินอย่างนั้น ความโกรธในดวงตาของเขาก็จางหายไปอย่างมาก เพราะหากเฉินชงยังยืนขวางอยู่ตรงหน้า เขาคงทำอะไรกับฟางชิวไม่ได้เลย
แต่เขาขู่ออกไปแล้ว ถ้าจะถอนตอนนี้คงเสียหน้าเป็นแน่แท้ เขาจะไม่ถอยหลังเด็ดขาด!
“พวกเธอกำลังทำอะไรอยู่?” ในขณะนั้นเอง อาจารย์พละและชายชราผมหงอกในชุดกีฬาก็เดินมาพอดี
“แยกย้ายกันไปให้หมด!” อาจารย์พละพูดอย่างโกรธเคือง
เหตุการณ์ตรงหน้าเกือบทำให้ใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แล้วไหมล่ะ
นี่มันยกพวกตีกันชัด ๆ!
สู้กันเป็นกลุ่มไม่ได้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะนับว่าเป็นอุบัติเหตุจากการสอน เขาต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน อาจารย์พละก็ขมวดคิ้ว ถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น บอกฉันมา!”
มีคนบอกอาจารย์ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากฟังจบ อาจารย์พละทั้งสองคนก็มองไปที่ฟางชิวอย่างแปลกใจ
เด็กคนนี้เตะคนจนกระเด็นด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว?
ดูไม่ออกเลย!
ชายชราในชุดกีฬามองขาของฟางชิวแล้วส่ายหัวอย่างผิดหวัง
ดูไม่แข็งแรงพอ คงหวังให้เขาลงเล่นในกรีฑาไม่ได้
นึกว่าจะพบต้นกล้าดี ๆ แล้วซะอีก!
“เอาล่ะ ฉันรู้เรื่องแล้ว ปล่อยฉันจัดการเอง อาจารย์หม่า พานักเรียนของคุณออกไปก่อน ผมจะอบรมนักเรียนของผมเอง”
อาจารย์พละพูดกับชายมีอายุข้างกาย
เหตุการณ์นี้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างเกาเฟยกับฟางชิว คงจะมีเรื่องราวที่พวกเขาไม่รู้อีกมาก
น่าสงสารที่อาจารย์พละโดนลูกบอลอัดหน้าถึงสองครั้งโดยไม่มีเหตุผล
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอบรมเกาเฟย
อาจารย์หม่าพยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนที่จะพูดอย่างโกรธเคืองกับเกาเฟยและนักเรียนของตนว่า “ตามฉันมา!”
กลุ่มนักบอลปล่อยตัวเกาเฟยแล้วเดินไปที่สนามฟุตบอลทันที
เกาเฟยหันมามองฟางชิวอย่างเย็นชา เขาขยับปากแบบไม่มีเสียงเพื่อจดบันทึกแค้นนี้ จากนั้นก็เดินกลับไปด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม
ฟางชิวรู้ว่าภาษาปากนั้นหมายถึงอะไร
“ระหว่างพวกเรามันยังไม่จบ!”
ทว่าฟางชิวนั้นคนจริงยิ่งกว่าใคร
“ถุย!” เขาแสร้งทำเป็นถุยน้ำลายลงพื้น
เกาเฟยเห็นแล้วหน้าเปลี่ยนทันที ชายหนุ่มโมโหจนแทบคลั่งอีกครั้ง แต่หลังจากมองไปที่อาจารย์ทั้งสองคนแล้ว เกาเฟยก็ระงับความโกรธของตนเอาไว้ เขาชี้คาดโทษไปที่ฟางชิวแล้วเดินจากไป
“ไม่มีอะไรแล้ว ไปฝึกต่อกันได้แล้ว”
ทันทีที่กลุ่มคนจากไป อาจารย์พลศึกษาก็ชี้ไปที่ฟางชิว “นักศึกษาคนนั้น มานี่สิ”
เขาเรียกฟางชิวมาคนเดียวแล้วเริ่มสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น
อาจารย์พละอธิบายว่า เป็นปกติที่จะมีความขัดแย้งกันเล็กน้อยระหว่างเพื่อนร่วมชั้น แต่พยายามอย่าทะเลาะกันจะดีที่สุด จากนั้นก็ถามฟางชิวว่า มีความขัดแย้งอะไรกับเกาเฟย
ฟางชิวตอบไปว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเกาเฟย
อาจารย์พละเกิดความงงงวย เป็นครั้งแรกที่เจอกันก็ลงมือหนักขนาดนี้เลยหรือ
เขาคิดว่าฟางชิวไม่ได้พูดความจริง
ฟางชิวยิ้มอย่างขมขื่น กล่าวย้ำว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอเกาเฟยจริง ๆ
อาจารย์พละทำได้เพียงขอให้ฟางชิวกลับไปฝึกต่อ ตราบใดที่เรื่องราวมันไม่ได้เกิดขึ้นในคลาสเรียนของเขาก็ไม่เป็นไร
ฟางชิวเดินไปหาเฉินชงข้างสนามบาสเกตบอลแล้วพูดว่า “เมื่อกี้นี้ขอบคุณมาก!”
“ไม่เป็นไร แค่เห็นว่าตอนนั้นนายมั่นใจว่าจะชนะ ฉันก็เลยก้าวขาออกไป” เฉินชงมองไปที่ฟางชิวแล้วกล่าวออกมา
นี่คือผู้ชายที่เขาไม่เคยมองออก
เฉินชงสามารถมองทะลุตัวตนทุกคนในชั้นเรียนได้ แต่สำหรับฟางชิวที่เต็มไปด้วยความลึกลับแล้ว เขามองไม่ออกเลย
“ไม่มีสักหน่อย” ฟางชิวยิ้มพลางส่ายหัวเบา ๆ
“คราวหน้าระวังตัวด้วยล่ะ” เฉินชงมองลึกไปที่ดวงตาฟางชิว
“คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก” ฟางชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม ถ้ามีเรื่องให้มาหาฉันได้” เฉินชงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ขอบคุณนะ” ฟางชิวกล่าวอย่างจริงใจ
ในอีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่เกาเฟยถูกตำหนิติเตียน เขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าหลี่ชิงสือหายตัวไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
เมื่อนึกย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าหลี่ชิงสือจะไม่อยู่ที่นั่นตอนที่เขากำลังจะไปเอาเรื่องฟางชิว
“ไอ้เด็กคนนี้ ถ้าไม่เกิดเรื่องก็จะอยู่เฉยไม่ได้ใช่ไหม เพราะแก ฉันเลยต้องแบกหน้าเหี่ยว ๆ ออกมาจัดการ!”
แต่ยิ่งเกาเฟยคิดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้มากเท่าไร ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาหลี่ชิงสือ
“ชิงสือ นายหนีไปอยู่ที่ไหนแล้ว ฉันอุตส่าห์เปิดให้ก่อนแล้ว แต่นายก็ยังแอบหนีไปก่อนอีก แบบนี้ขี้โกงไปหน่อยเหรอ!”
หลังจากโทรติด เกาเฟยก็คำรามอย่างโมโห
“พี่เฟย จู่ ๆ ฉันก็มีสายโทรด่วนเข้ามา ฉันเลยต้องไปรับโทรศัพท์ที่ด้านข้าง ด้านนู้นเป็นยังไงบ้าง กลับไปแล้วฉันจะเลี้ยงข้าวนายนะ!”
“ฉันจะทำอะไรได้อีก ขาดทุนหมดแล้ว แถมยังถูกอาจารย์สั่งห้ามไปมีเรื่องอีก ศักดิ์ศรีของฉันคงจะกู้คืนไม่ได้เร็ว ๆ นี้หรอก!”เกาเฟยบ่นเสียงขมขื่น
“เพื่อไม่ให้เสียศักดิ์ศรี ฉันจะไปสมทบด้วย ลุงเขยของฉันโทรมาเมื่อกี้นี้ ฉันเลยออกไปรับสาย ฉันพบวิธีที่จะจัดการฟางชิวแล้ว ฮ่า ๆ!” เสียงของหลี่ชิงสือทางโทรศัพท์นั้นฟังดูโหดเหี้ยมมาก
“วิธีอะไร” เมื่อเกาเฟยได้ยินคำพูดนั้น เขาก็ลืมพฤติกรรมที่ไม่ชอบธรรมของหลี่ชิงสือไปทันที
ตอนนี้ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเกาเฟยมากที่สุดก็คือการกำจัดฟางชิว!
ถึงแม้เกาเฟยจะดูออกว่าหลี่ชิงสือกำลังหยิบมีดให้เขาฆ่าคน แต่ชายหนุ่มก็ไม่สามารถทิ้งศักดิ์ศรีลงได้ ต่อให้ต้องถือมีดก็ยอม
ตอนนี้เป็นเรื่องของเขากับฟางชิว สำหรับหลี่ชิงสือ อย่างไรซะมันก็ต้องได้รับการเอาคืน ไม่ช้าก็เร็ว!
“มหาวิทยาลัยของพวกเราจะจัดประกวดความรู้สำหรับน้องใหม่ในเดือนหน้า มหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งของภาคกลางจะมาที่มหาวิทยาลัยของเรา เดาสิว่ามีใครอยู่ในรายชื่อตัวแทนของมหาวิทยาลัยในตอนนี้”
“ใคร? ฟางชิวเรอะ?” เกาเฟยรู้ทันทีที่ฟังจบ เขาถามด้วยความตื่นเต้น
“ใช่แล้ว รายชื่ออยู่ในมือฉันแล้ว ฉันจะขอให้ลุงเขยขีดฆ่าชื่อของฟางชิว พอเริ่มการแข่งขัน พวกเราจะบอกมันว่ามันถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ดูสิว่ามันจะทำยังไง?”
“ฮ่า ๆๆ” เกาเฟยหัวเราะอย่างมีความสุข “พวกเรามีวิธีทำร้ายความรู้สึกมันแล้ว ฮ่า ๆๆ ตอนที่จะบอกมันประโยคนั้น อย่าลืมเรียกฉันไปด้วยล่ะ”
“ได้ ฉันจะเรียกนายแน่นอน!”