คุรุการแพทย์ – บทที่ 60 เธอทำเสร็จแล้วเหรอ!!

คุรุการแพทย์

บทที่ 60 เธอทำเสร็จแล้วเหรอ?!!

บทที่ 60 เธอทำเสร็จแล้วเหรอ?!!

ฟางชิวรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นอาจารย์เฉียวมู่รอเขาอยู่ที่หน้าประตู และยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องไปทำแบบทดสอบอีกครั้ง

แต่เขาก็ยังตอบตกลงที่จะไปที่สำนักงานคณบดี หลังจากที่เรียนวิชาที่สองเสร็จ

เฉียวมู่ไม่ได้บอกเหตุผลให้ฟางชิวรู้ เขาไม่ต้องการให้นักศึกษาธรรมดามีส่วนร่วมในเรื่องราวบาดหมางระหว่างคณบดีกับรองคณบดี

เพราะสิ่งเดียวที่นักศึกษาควรทำตอนนี้คือการตั้งใจเรียน!

เฉียวมู่กลับไปที่สำนักงานของคณบดีแล้วรายงานให้คณบดีทราบว่าฟางชิวกำลังเรียนอยู่

คณบดีพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นเขาก็มองไปทางจางซินหมิงที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปเอาแบบทดสอบ

จางซินหมิงหยิบแบบทดสอบออกมาพร้อมกับรอยยิ้มแล้วเอ่ยว่า “นี่เป็นแบบทดสอบในรอบแรกของการแข่งขันความรู้แพทย์แผนจีนเมื่อปีก่อน เพราะพวกคุณบอกว่าฟางชิวเก่งมาก งั้นก็ให้เขาทำแบบทดสอบชุดนี้เป็นไง”

แบทดสอบการแข่งขันของปีที่แล้ว?

ใบหน้าของเฉียวมู่กับฉีไคเหวินถึงกับเหยเกอยู่ครู่หนึ่ง

พวกเขาจำได้ดีว่าคำถามในการแข่งขันของปีที่แล้วเรียกได้ว่าเป็นคำถามมรณะของการแข่งขันแห่งปีเลยก็ว่าได้!

เพราะเป็นคำถามที่ไม่ยุติธรรมกับผู้แข่งมาก!

ในปีนั้น นักศึกษาทั้งหมดแปดสิบเอ็ดคนจากเก้ามหาวิทยาลัย แต่ได้คะแนนดีที่สุดแค่หกสิบห้าคะแนนเท่านั้น

แย่สุดคือสิบห้าคะแนน ซึ่งมันต่ำจนน่ากลัว!

เห็นชัดเจนแจ่มแจ้งว่าแบบทดสอบนี้ยากและไม่ยุติธรรมเพียงใด!

ไม่น่าแปลกใจเลยที่จางซินหมิงจะยอมเห็นด้วยง่าย ๆ เพราะกำลังรอให้พวกเขาติดกับนี่เอง

ในตอนแรก จางซินหมิงไม่เคยพูดถึงแบบทดสอบชุดนี้มาก่อนเลย เดาได้ว่าเขาต้องการระบายความแค้นส่วนตัว พอรู้ว่าฟางชิวกำลังเรียนอยู่ก็เลยรีบไปหยิบแบบทดสอบชุดนี้มาทันที

ร้ายกาจ!

จางซินหมิงมองทั้งสองคนอย่างเยาะเย้ย อีกทั้งยังรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก

ต้องการที่จะสู้กับเขาหรือ?

ยังอ่อนหัดนัก!

เขาไม่เชื่อว่าผู้ชายที่ชื่อฟางชิวจะสามารถตอบคำถามแบบทดสอบชุดนี้ได้

ยิ่งฟางล้มเหลวมากเท่าไรก็จะร่วงหล่นลงพื้นมากขึ้นเท่านั้น

จางซินหมิงไม่เชื่อถือคะแนนที่สมบูรณ์แบบบนกระดาษทดสอบของฟางชิวเลย

ไม่มีนักศึกษาที่เก่งขนาดนั้นอยู่หรอก

เขารู้สึกว่านักศึกษาคนนี้ต้องเส้นสายส่วนตัวในการขอเข้าไปอยู่รายชื่อแน่ ๆ บางทีฟางชิวอาจจะมีพื้นฐานดี แต่ก็ไม่มีทางรู้หมดทุกอย่างหรอก หลังทดสอบเสร็จ เขาจะกลับไปให้กำลังใจหลี่ชิงสือ อย่างไรซะหลานชายของเขาก็เอาชนะฟางชิวได้แน่นอน

“เป็นยังไงล่ะ พอได้ใช่ไหม?” จางซินหมิงถามทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

“รองคณบดีจางครับ แบบทดสอบนี้ยากเกินไป ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นเด็กอัจฉริยะก็เถอะ เขาจะทำได้ยังไง” เฉียวมู่ตอบพลางส่งยิ้มพิลึก ๆ มาให้

“พวกคุณเอาแต่พูดว่าเด็กคนนั้นมีความสามารถ แล้วคนที่มีความสามารถจริง ๆ จะมากลัวอะไรกับแบบทดสอบที่ยากแค่นี้?” จางซินหมิงพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย

จากนั้นเขาก็มองไปที่ฉีไคเหวิน

“เอาอย่างนั้นก็ได้ รอให้ฟางชิวมาก่อน” ฉีไคเหวินบอกอย่างใจเย็น แต่ในใจของเขานั้นไม่สงบเลย

การต่อสู้รอบนี้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์นี้เท่านั้น คนอื่นไม่สนใจหรอกว่าแบบทดสอบนี้จะยากสักแค่ไหน

ถ้าฟางชิวถูกคัดชื่อออก ครั้งนี้ฉีไคเหวินจะแพ้ให้กับรองคณบดี

ฉีไคเหวินทำได้เพียงภาวนาขอให้ฟางชิวมีความสามารถจริง ๆ ตามที่เฉียวมู่กล่าว

เวลา 11:40 น. ฟางชิวก็ออกจากชั้นเรียน เขาส่งกระเป๋าให้รูมเมตและขอให้พวกเขาเอากลับไปที่หอพักด้วย จากนั้นตนก็ไปตึกคณบดีของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนคนเดียว

เมื่อมาถึงห้องทำงานของคณบดี ฟางชิวก็เคาะประตูสามครั้ง

“เข้ามา!” เสียงอนุญาตจากข้างในดังลอดออกมา

ฟางชิวเปิดประตูเข้าไป แล้วเห็นว่ามีคนทั้งหมดสามคนนั่งอยู่ในห้องนั้น

ฟางชิวรู้จักแค่เฉียวมู่เท่านั้น

“คณบดีฉี รองคณบดีจาง นี่คือฟางชิวครับ”

เฉียวมู่ลุกขึ้นยืนและเอ่ยแนะนำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แนะนำให้ฟางชิวรู้จักกับคนในห้อง “นี่คือคณบดีฉีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนของพวกเรา แล้วนั่นคือรองคณบดีจาง”

“สวัสดีครับ ท่านคณบดีและท่านรองคณบดี” ฟางชิวโค้งคำนับและคำนับ

ฉีไคเหวินกับจางซินหมิงจ้องมองนักศึกษาที่พวกเขาเคยได้ยินแต่ชื่ออย่างสนใจ โดยเริ่มมองตั้งแต่ฟางชิวเปิดประตูเข้ามา

พวกเขาดูทุกอย่าง แม้แต่การพูดทักทาย แล้วก็เห็นสี่คำที่บ่งบอกถึงนิสัยของนักศึกษาคนนี้

ไม่มีการนอบน้อม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า มีความหยิ่งยโสนั่นเอง!

ไม่เลว!

ฉีไคเหวินแอบพูดในใจ ส่วนจางซินหมิงแอบคิดว่า

นี่เป็นนักศึกษาที่เก่งกว่าหลานชายของเขาอย่างนั้นหรือ? ได้ยินว่าหลี่ชิงสือก็ถูกชายคนนี้ทำให้ขายหน้านี่?

จางซินหมิงมองไปที่ฟางชิวอีกครั้ง

ฉันจะดูซิว่าเธอจะหนีจากเงื้อมมือของฉันได้อย่างไรในวันนี้!

“ในเมื่อคนก็อยู่ที่นี่แล้ว พวกเรามาทำแบบทดสอบกันเถอะ” จางซินหมิงหยิบกระดาษออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะกาแฟข้างโซฟา

ฟางชิวเหลือบมองจางซินหมิง สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังของรองคณบดีที่มีต่อตนอย่างชัดเจน

ชายหนุ่มสับสนมาก เขาไม่เคยทำให้รองคณบดีโกรธเคืองสักหน่อย

จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เฉียวมู่หวังจะสอบถามถึงเรื่องราวต่าง ๆ แต่เฉียวมู่แค่พยักหน้าให้แล้วยื่นปากกามาก็เท่านั้น

ฟางชิวจึงหยิบปากกาขึ้นมาก่อนจะไปนั่งบนโซฟาพร้อมที่จะทำแบบทดสอบ

“มีเวลาหนึ่งชั่วโมง” จางซินหมิงกล่าว

ฟางชิวพยักหน้าแล้วเริ่มทำแบบทดสอบอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมวันนี้ต้องทำแบบทดสอบอีก แต่ทั้งสามคนในสำนักงานดูจริงจังมาก มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้แน่นอน

แต่แค่ทำแบบทดสอบ ก็ช่วยตรวจสอบระดับความรู้ในตัวได้

ฟางชิวรีบเขียนจนเกิดเป็นเสียงดังแกร่ก ๆ คลอไปทั้งห้อง

เวลาผ่านไป สายตาของคนสามคนในสำนักงานก็ยังคงจ้องมองไปที่ฟางชิวจากมุมห้อง

หนึ่งนาที

สองนาที

ห้านาที

สิบนาทีผ่านไป

นักศึกษาที่ชื่อฟางชิวไม่คิดหยุดเขียนสักหน่อยเหรอ?

สิ่งนี้ทำให้ทั้งสามคนประหลาดใจ โดยเฉพาะจางซินหมิง

เขารู้ถึงความยากของแบบทดสอบชุดนี้ ฟางชิวทำแบบทดสอบอย่างรวดเร็วและไม่หยุดพักได้อย่างไร?

จางซินหมิงต้องการเห็นคำตอบ แต่กลัวฉีไคเหวินจะบอกว่าเขาจงใจแทรกแซงการทดสอบ ดังนั้นจึงทำได้เพียงมองอย่างสงสัยเท่านั้น

ความเชื่อมั่นในใจของฉีไคเหวินเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ความประหลาดใจก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

นักศึกษาคนนี้ดีพอที่เขาจะเอามาสู้กับฉีไคเหวินในครั้งนี้ไหมนะ?

ถ้าเป็นอย่างนี้ มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนก็ถือได้ว่าสามารถสรรหาผู้มีความสามารถอย่างแท้จริง!

ในตอนแรก เฉียวมู่ยังกังวลว่าฟางชิวจะเอาชนะคำถามของแบบทดสอบปีศาจชุดนี้ไม่ได้ แต่พอได้เห็นฟางชิวทำแบบทดสอบโดยไม่หยุดพักเหมือนตอนทำแบบทดสอบในห้องเรียนแล้ว เฉียวมู่จึงค่อย ๆ คลายความกังวลใจไป

ฟางชิวพลิกกระดาษทดสอบและทำข้อสอบต่อไป ในช่วงเวลาที่กระดาษกำลังพลิก ทั้งสามคนก็เห็นคำตอบที่หนาแน่นบนกระดาษ

ดวงตาของฉีไคเหวินและเฉียวมู่เปล่งประกายตื่นเต้น ส่วนจางซินหมิงยังคงยิ้มต่อไป ทว่าดวงตาดูมืดมนเล็กน้อย

สิบห้านาที

ยี่สิบนาที

สามสิบนาที

สี่สิบนาทีผ่านไป

ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาทีก่อนครบหนึ่งชั่วโมงตามที่จางซินหมิงกำหนด ฟางชิวยังคงเขียนคำตอบตั้งแต่ต้นจนจบและไม่มีการหยุดพัก ดูเหมือนว่าทุกคำถามไม่จำเป็นต้องใช้เวลาคิดเลย

ชายหนุ่มเขียนทันทีที่เห็นเลยก็ว่าได้ พอทำข้อหนึ่งเสร็จแล้วก็ทำข้อต่อไปทันที

ไม่ปวดมือบ้างเลยเรอะ!

จางซินหมิงแอบสูดอากาศเข้าปอด ภายในหัวใจของเขาเริ่มก่อลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น

พอครบสี่สิบห้านาที ฟางชิวก็หยุดเขียน พฤติกรรมนี้ทำให้ดวงตาของจางซินหมิงสว่างวาบขึ้นทันที

สุดท้ายก็ทำต่อไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ?

แต่ฟางชิวกลับวางปากกาลงแล้วหยิบกระดาษทดสอบขึ้นมา เขาลุกยืนขึ้น มองไปที่ทั้งสามคนแล้วพูดว่า “เสร็จแล้วครับ”

คุณพระ!!

ทั้งสามคนตกใจ

เสร็จแล้ว?

นี่ใช่แบบทดสอบปีศาจหรือเปล่า?

ทำเสร็จแล้ว?

ภายในสี่สิบห้านาที???

ไม่มีใครทำแบบทดสอบนี้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่ทุกคนจะเขียนคำตอบจนถึงวินาทีสุดท้ายของการส่งกระดาษทดสอบ

แต่ฟางชิวกล้าบอกว่าทำเสร็จแล้ว

“ฟางชิว เธอทำเสร็จแล้วเหรอ” เฉียวมู่ถามด้วยความตกใจ

ฟางชิวพยักหน้า

“เป็นไปไม่ได้!” จางซินหมิงหาเสียงของตัวเองไม่เจอไปชั่วขณะ

เขาทำเสร็จได้อย่างไร?

ในฐานะอาจารย์ เขาอาจจะทำยังไม่เสร็จภายในสี่สิบนาทีด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนแค่สองคลาส!

ฉีไคเหวินเดินไปหยิบกระดาษทดสอบจากมือของฟางชิวแล้วพลิกอ่านอย่างรวดเร็ว

แล้วเขาก็พบว่าฟางชิวทำเสร็จแล้วจริง ๆ!

ฉีไคเหวินเงยหน้ามองหน้าฟางชิวอย่างประหลาดใจ ฟางชิวใช้เวลาแค่สี่สิบนาทีในการทำแบบทดสอบของการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยเมื่อสองปีที่แล้วได้อย่างไร

เขากวาดสายตาอ่านคร่าว ๆ

คำถามข้อบน ๆ ไม่ได้เขียนตอบมั่ว ๆ และคำถามบางข้อก็ตอบได้ดีมาก

มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงผลิตคนเก่งออกมาได้จริง ๆ หรือ?

“รองคณบดีจาง คุณต้องการตรวจคำตอบเลยไหม หรือว่าจะให้ฟางชิวเช็กกระดาษทดสอบอีกครั้งก่อน?” ฉีไคเหวินยิ้มพร้อมกับส่งกระดาษทดสอบให้จางซินหมิง

จางซินหมิงรับกระดาษทดสอบมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาไม่ได้ถามฟางชิวว่าต้องการตรวจอีกรอบใหม่ด้วยซ้ำ

“ในเมื่อเขาบอกว่าทำเสร็จแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเช็กหรอก”

จางซินหมิงหยิบกระดาษเฉลยออกจากกระเป๋าตัวเอง แล้วเริ่มอ่านคำถามทีละข้อ

คำถามแรกถูกต้อง

อืม ก็แค่คำถามแบบปรนัย มันก็จะง่ายแบบนี้แหละ อีกทั้งยังเดาได้ง่ายด้วย

คำถามที่สองถูกต้อง

เขาตอบถูกอีกแล้ว!

คำถามที่สามถูกต้อง

ดวงดีจริง ๆ นะเอ็ง!

คำถามที่สี่ถูกต้อง

โชคดีอะไรขนาดนั้น!

คำถามที่ห้าก็ถูกต้องเช่นกัน

จนถึงคำถามที่สิบ จางซินหมิงก็เงียบไป

มีคำถามแบบปรนัยสิบคำถามติดต่อกัน

ดูเหมือนว่าฟางชิวคนนี้ยังมีพื้นฐานอยู่บ้าง เพราะฉีไคเหวินไม่น่าจะใช่คนที่ดันใครขึ้นมาปุปปัป

นี่ถือว่าเป็นคำถามที่ง่ายที่สุด เมื่อสองปีที่แล้วมีนักศึกษาแปดสิบเอ็ดคนทำแบบทดสอบนี้ ส่วนใหญ่คนตอบคำถามผิดเพียงข้อเดียวในสิบข้อแรก ส่วนคำถามอื่น ๆ ตอบถูกต้องทั้งหมด

จะเห็นได้ว่าคำถามทั้งสิบข้อนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ!

ฟางชิวตอบคำถามทั้งสิบข้อได้ถูกต้อง และได้รับคะแนนไปแค่ห้าคะแนนเท่านั้น!

จางซินหมิงอ่านคำตอบไปเรื่อย ๆ

คำถามที่สิบเอ็ด

ถูกต้อง

คำถามที่สิบสอง

ถูกต้อง

คำถามที่สิบสาม

ถูกต้อง

จางซินหมิงเอาแต่จ้องคำถามข้อที่ยี่สิบ

ตอบคำถามถูกต้องทั้งหมดเลย!

เขาทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ

จางซินหมิงจำได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อสองปีก่อน มีนักศึกษาแค่สี่สิบคนเท่านั้นที่ตอบคำถามถูกสิบข้อ จากทั้งหมดยี่สิบข้อ

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ฟางชิวเรียนมาจนถึงระดับที่ทำแบบทดสอบของสองปีที่แล้วได้ นี่ทำให้เขายอมรับได้ยาก

นักศึกษามากกว่าแปดสิบคนที่ทำข้อสอบนี้ได้เตรียมตัวมาตลอดทั้งเดือน พวกเขาทบทวนความรู้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาไม่ดีสักเท่าไร

เด็กคนนี้เรียนมานานแค่ไหนแล้ว?

หนึ่งสัปดาห์กับอีกครึ่งวัน!

แถมยังเข้าร่วมการฝึกทหารด้วย ใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์เท่านั้น

เรียนมาถึงขั้นนี้แล้วหรือ?

ใช้เวลาเตรียมตัวในช่วงวันหยุดฤดูร้อนหรือเปล่า?

จางซินหมิงอดคิดไม่ได้ แต่เขาก็ปฏิเสธความคิดนั้นทันที

นักศึกษาที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีหรือจะไม่เอาแต่เล่นสนุก การเรียนก็เหมือนแมลงปอที่กำลังกินน้ำ ค่อย ๆ กินทีละนิด ถ้าอัดความรู้เข้าไปในหัวเยอะ ๆ สุดท้ายแล้วก็จำได้ไม่หมดอยู่ดี

แค่เดาเท่านั้น!

ฟางชิวแค่เดาถูกเท่านั้นแหละ!

จางซินหมิงมั่นใจในความคิดตัวเองมาก เขาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง

มาถึงคำถามที่ตอบได้มากกว่าหนึ่งคำตอบ

ความยากมากกว่าคำถามปรนัยสองเท่า

เขาจำได้ว่ามีเพียงสิบห้าคนเท่านั้น ที่ตอบคำถามแบบที่ตอบได้มากกว่าหนึ่งคำตอบถูกต้องทั้งหมดยี่สิบข้อ

ข้อแรก

ถูกต้อง

ก็แค่ดวงดีเท่านั้นแหละ!

ข้อที่สองถูกต้องอีกแล้ว

หรือว่าเรากำลังทำตัวเองขายหน้า?

ฉีไคเหวินคิด

ข้อที่สาม

เขาตอบผิด!

ฮ่า ๆๆๆ…

สุดท้ายก็ตอบผิด!

โชคดีของแกหมดลงแล้ว!!!

จางซินหมิงมีความสุขมาก ใบหน้าของเขาฉายแววความเบิกบานออกมา

ฟางชิวสังเกตเห็นการแสดงออกของจางซินหมิง ขณะคิดในใจว่าคำถามข้อนั้นเป็นคำถามที่เขาตั้งใจตอบผิดเอง

ชายหนุ่มมั่นใจ ว่าเขาจะต้องเคยทำให้จางซินหมิงไม่พอใจแน่นอน

ไม่เช่นนั้นจางซินหมิงจะรู้สึกยินดีกับคำถามที่เขาตอบผิดได้อย่างไร

คำถามนั้นเป็นจุดบอดของเขาจริง ๆ เพราะเขาไม่ได้อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้องของคำถามมาก่อนเลย และไม่แปลกที่เขาจะตอบผิด

ฉีไคเหวินกับเฉียวมู่ต่างก็ตกตะลึง

พวกเขาไม่ได้อ่านแบบทดสอบเลยไม่รู้ว่าฟางชิวตอบคำถามแบบทดสอบอย่างไร พอพวกเขาเห็นจางซินหมิงมีความสุขมากก็คิดว่าคำตอบของฟางชิวนั้นอาจจะผิด

จางซินหมิงเพิกเฉยต่อทั้งสามคนที่อยู่ในห้อง และยังคงตรวจคำตอบต่อไป

เอาล่ะ คำถามที่สี่

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน