คุรุการแพทย์ – บทที่ 68 เบิกเงินเดือนล่วงหน้า!

คุรุการแพทย์

บทที่ 68 เบิกเงินเดือนล่วงหน้า!

บทที่ 68 เบิกเงินเดือนล่วงหน้า!

“อะไรนะ?!”

ในสำนักงานคณบดีคณะแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ฉีไคเหวินอุทานด้วยความตกใจ

“มหาวิทยาลัยทั้งแปดนี่ลงมือเร็วไปแล้ว!”

“เพิ่งผ่านไปไม่นาน แต่พวกเขาก็ได้เริ่มโครงการฝึกงานกับอาจารย์เหมือนกันแล้ว!”

นอกจากจะตกใจแล้ว เหงื่อของฉีไคเหวินก็ยังแตกพลั่ก

โชคดีที่เขาเริ่มดำเนินโครงการฝึกงานก่อนที่จะถึงวันแข่งขันความรู้ของนักศึกษาใหม่

ไม่อย่างนั้น พอข่าวรั่วไหลไปแบบนี้แล้ว มหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งคงจะก้าวนำพวกเขาไปก้าวหนึ่งแน่ ๆ

ถึงตอนนั้น พวกเขาคงทำได้แค่ทำชุดแต่งงานให้คนอื่นจริง ๆ และก็เป็นการยากที่จะไปพูดว่ามหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งลอกเลียนแบบพวกเขา!

จางซิงหมินช่วยเขาเอาไว้จริงๆ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉีไคเหวินก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้

ในการประชุมครั้งก่อน เพียงเพื่อจะพัฒนาโครงการฝึกงานนี้ให้ดีขึ้น จางซิงหมินก็เสนอให้เร่งเรื่องดำเนินโครงการให้เร็วขึ้น จึงกล่าวได้ว่าจางซิงหมินไม่ได้ลากเขาไปลงหลุมด้วยกัน แต่เป็นการช่วยเหลือกันเสียมากกว่า

ดังนั้นมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเป็นผู้บุกเบิกโครงการฝึกงานกับอาจารย์นี้เป็นแห่งแรก!

นั่นจึงทำให้ตำแหน่งของฉีไคเหวินยังคงมั่นคง!

แล้วเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งดี ๆ อย่างนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

ในอีกด้านหนึ่ง

จางซิงหมินกำลังถอนหายใจในขณะที่แหงนมองท้องฟ้า เขาเริ่มรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปขึ้นมา

เขาดันหลวมตัวไปช่วยฉีไคเหวินได้อย่างไร!

เมื่อมีข่าวแพร่ออกไป ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยและวิทยาเขตทั้งหลายก็รู้ว่าการฝึกงานนี้ถูกเสนอโดยนักศึกษา และรู้ว่าโครงการนี้ก็ถูกฉีไคเหวินผลักดันอย่างเต็มที่

ส่วนชื่อของจางซินหมิงนั้น จะมีสักกี่คนที่จำได้?

ผิดพลาด!

นี่เป็นผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุด!

ฉีไคเหวิน ไอ้บ้าเอ๊ย!

จางซิงหมินขบคิดอย่างโมโห

ขณะเดียวกันในบ่ายวันนั้น มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนทั่วประเทศจีนก็ได้รู้ข่าวว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้นำโครงการฝึกงานกับอาจารย์มาใช้

ทันทีที่มีข่าวแพร่ออกมา มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนทั่วประเทศต่างก็กลัวว่าจะถูกมหาวิทยาลัยอื่นโค่นล้ม

ทว่ามหาวิทยาลัยเหล่านั้นยังไม่รีบร้อนที่จะเริ่มโครงการฝึกงาน แต่เริ่มสังเกตการณ์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อดูว่ามหาวิทยาลัยทั้งเก้าแห่งที่นำโดยมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะเริ่มโครงการฝึกงานอย่างไร

เวลาที่คนอื่นปลูกต้นไม้ พวกเขาก็แค่รอเก็บผลก็เพียงพอแล้ว!

ถ้าปลูกได้ดี พวกเขาก็จะไปเก็บผล

แต่ถ้าปลูกได้ไม่ดี พวกเขาก็ทำเป็นเหมือนว่าไม่เคยได้ยิน

“เจ้าห้า สุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดวันชาติ นายมีแผนจะไปไหนไหม” หลังจากที่ซุนฮ่าวดูข้อมูลการฝึกงานต่าง ๆ ในเว็บบอร์ดเสร็จ เขาก็เอ่ยถามฟางชิว

เนื่องจากตอนบ่ายไม่มีเรียน พวกเขาทั้งสี่คนก็เลยกลับมาอยู่หอพักกัน

วันชาติ?

ฟางชิวเงยหน้าขึ้นแล้วนับวันเวลา แล้วก็พบว่ามันใกล้จะถึงวันชาติแล้วจริง ๆ

วันอาทิตย์นี้เป็นวันที่หนึ่งตุลาคม ซึ่งจะตรงกับวันชาติทุกปี ปกติแล้วจะหยุดยาวทั้งสัปดาห์

“ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไร” ฟางชิวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวปฏิเสธ

“ถ้ายังไม่ได้คิด งั้นไปเที่ยวกับพวกเรา เป็นไง?” ซุนฮ่าวถามพร้อมกับหัวเราะไปด้วย

ทันใดนั้นฟางชิวก็คิดขึ้นได้ว่า แย่แล้วสิ!

สุดสัปดาห์ตรงกับวันชาติพอดี เมื่อเป็นวันหยุด เขาก็ไปทำงานไม่ได้น่ะสิ

ถ้าไปทำงานไม่ได้ แล้วทางโรงพยาบาลจะจ่ายเงินเดือนล่วงหน้าได้อย่างไร?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางชิวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และกดโทรหาเสิ่นชุนทันที เพื่อสอบถามว่าเขาจะขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้ไหม

แต่สุดท้าย เขาก็โทรหาเสิ่นชุนไม่ติด

“หรือว่าเขาจะกำลังตรวจโรคอยู่”

เมื่อคิดได้แบบนั้น หัวใจของฟางชิวก็เต้นแรง จากนั้นชายหนุ่มจึงรีบวิ่งออกจากหอพักทันที เพื่อตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาล

รูมเมตทั้งสามคนต่างพากันงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

จู่ ๆ เจ้าห้า มันเป็นบ้าอะไรของมัน?

ไม่เคยจะเห็นว่าเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา!

ณ โรงพยาบาลแห่งแรกในเครือ

ฟางชิวพบว่าในแผนกกระดูกและข้อเต็มไปด้วยคนไข้ แล้วเสิ่นชุนก็กำลังตรวจโรคอยู่จริง ๆ

เขาไม่ได้ตรงเข้าไปหาเสิ่นชุนทันที แต่รอให้อีกฝ่ายตรวจโรคให้เสร็จก่อน

“หมอเสิ่น” ฟางชิวทักทายด้วยรอยยิ้ม

“เธอมาได้ยังไง” เมื่อเห็นฟางชิวเดินเข้ามาหา เสิ่นชุนก็พูดต่อ “ฉันกำลังจะไปหาเธออยู่แล้วเชียว ไอ้เจ้าเด็กคนนี้นี่ น่าสนใจจริง ๆ เลย! ไอเดียดี ๆ อย่างเช่นการฝึกงานกับอาจารย์เธอก็ยังคิดออกมาได้! คนธรรมดาทั่วไปคิดไม่ออกหรอกนะ”

ฟางชิวยิ้มรับคำชมอย่างสุภาพ

อะไรนะ!

เฉาเจ๋อที่ยืนอยู่ด้านข้างก็หันไปมองฟางชิวด้วยความตกใจ

ฟางชิวเป็นคนเสนอไอเดียการฝึกงานกับอาจารย์นี้ให้มหาวิทยาลัยอย่างนั้นหรือ?

งั้นก็แสดงว่าข่าวซุบซิบที่พูดถึงกันในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยจะเป็นเรื่องจริงน่ะสิ!

และนักศึกษาใหม่คนนั้นก็คือฟางชิว!

เขาไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ ทักษะในการจัดกระดูกก็น่าทึ่ง แล้วยังจะคิดไอเดียเจ๋งๆ แบบนี้ออกมาได้อีกหรือ?

เฉาเจ๋อจ้องมองฟางชิวอยู่นาน

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาจนสุดปอด

เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าตัวเองดูถูกเด็กคนนี้มาตลอด แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาประเมินเด็กคนนี้ต่ำเกินไป!

“แต่ว่า…” เสิ่นชุนถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “ถึงจะเป็นไอเดียที่ดี แต่ถ้าเริ่มการฝึกงานเมื่อไหร่ฉันคงจะยุ่งน่าดู นี่ไม่เท่ากับว่าเธอหางานให้ฉันทำเหรอ ทำไมไม่ดูก่อนล่ะว่าฉันมีคนไข้กี่คน!”

“ในอนาคตฉันต้องทำงานไปเลี้ยงลูกไปด้วย ฉันคงจะคิดถึงเวลาพักผ่อนไม่ได้แล้ว”

นั่นสิ!

จริงด้วย!

ความคิดนี้เป็นเพียงความเห็นแก่ตัว!

เฉาเจ๋อพึมพำอย่างเมามันอยู่ข้าง ๆ เขา

เขาเองก็คิดว่า ถึงแม้โครงการฝึกงานมันจะออกมาดี แต่มันก็อาจจะไม่ดีต่อตัวเขาสักเท่าไร

เพราะเขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เสิ่นชุน

เขาจะไม่จำเป็นต้องไปหาอาจารย์ที่จะฝึกงานด้วยเหมือนกับนักศึกษาคนอื่น และด้วยความเก่งกาจของอาจารย์เสิ่นชุน คงจะทำให้มีนักศึกษามาร่วมฝึกงานด้วยเป็นจำนวนมากแน่นอน ในตอนนั้นอาจารย์ก็จะมีลูกศิษย์เพิ่มขึ้น แล้วเขาอาจจะถูกแทนที่ได้อย่างง่ายดาย

บอกได้คำเดียวว่า ซวยแล้ว!

“ว่าแต่ เธอมาทำอะไรที่นี่” เสิ่นชุนถามด้วยความสงสัย

“คือ…” ฟางชิวถามเบา ๆ ว่า “ผมแค่สงสัยว่า ผมจะขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนได้ไหม”

“อะไรนะ เงินไม่พอใช้เหรอ?” เสิ่นชุนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำถามนั้น

ฟางชิวพยักหน้าเป็นคำตอบ

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เธอเงินไม่พอใช้ใช่ไหม เอาของฉันไปใช้ก่อน” เสิ่นชุนพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ถ้าเงินเดือนออกแล้ว เธอค่อยเอามาคืนฉัน”

“ไม่เป็นไรครับ” ฟางชิวส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมรับเงินของคุณไม่ได้ เพราะผมยังมีเงินเดือนอยู่ ผมไม่จำเป็นต้องยืมเงินใคร ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมก็เท่านั้นเอง”

“ไม่เอาจริง ๆ เหรอ?” เสิ่นชุนถามอีกครั้ง

ฟางชิวส่ายหน้า

มีหลักการมาก!

คนเป็นอาจารย์หมอยิ้ม และไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นอีก เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ถ้างั้น ฉันจะช่วยหาทางเบิกเงินเดือนล่วงหน้าให้เธอเอง แต่เธอต้องมาทำงานในวันหยุดของวันชาตินะ”

แล้วเสิ่นชุนก็อธิบายต่อไปอีกว่า

“ฉันจะช่วยให้เธอได้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ” ฟางชิวขอบคุณอย่างจริงใจ “ขอบคุณครับ”

“เกรงใจเกินไปแล้ว”

เสิ่นชุนยิ้มและโบกมือ จากนั้นก็มอบเอกสารรับรองให้ฟางชิว ก่อนจะโทรหาคณบดีแล้วเล่าเรื่องราวให้อีกฝ่ายฟัง หลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็บอกให้ฟางชิวไปที่แผนกการเงินเพื่อขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้เลย

เมื่อเห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว ฟางชิวก็ไม่รบกวนเสิ่นชุนอีก เขาลุกขึ้นยืนแล้วเตรียมจะจากไป

“อย่าลืมมาทำงานให้ตรงเวลาล่ะ!” เสิ่นชุนยิ้มและเอ่ยเตือน

ฟางชิวคลี่ยิ้ม ก่อนที่จะพยักหน้ารับ

หลังจากออกจากแผนกกระดูกและข้อแล้ว เขาก็ไปที่แผนกการเงินพร้อมกับใบรับรองและรับเงินเดือนล่วงหน้ามา

ด้วยเงินพันหยวนนี้ ฟางชิวสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้นานถึงสองอาทิตย์

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มยังต้องหาวิธีทำเงินเพิ่ม เพราะตอนนี้เขาขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาแล้ว และเขาจะได้รับเงินเดือนอีกครั้งในอีกหนึ่งเดือนครึ่ง

หนึ่งพันหยวนสำหรับการใช้ชีวิตหนึ่งเดือนครึ่ง?

นั่นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เว้นแต่เขาจะกินขนมปังนึ่งทุกวัน

แต่มันก็ยังไม่พอ เพราะเขายังมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนอีก!

“เฮ้อ!”

ฟางชิวถอนหายใจออกมาอย่างแรงแล้วส่ายหัวอย่างจนปัญญา จากนั้นเขาก็เดินออกจากโรงพยาบาลด้วยอารมณ์เศร้าหมอง

เพราะเขาต้องเดินกลับไปยังมหาวิทยาลัย

ชายหนุ่มเพิ่งจะเดินไปในพื้นที่เปิดโล่งของโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย ทันใดนั้นก็มีคนราว ๆ แปดคนวิ่งเข้ามาล้อมฟางชิวตัวด้วยเจตนาร้าย

หืม?

ดวงตาของฟางชิวหรี่ลง เขามองไปที่คนกลุ่มนั้นด้วยสายตาเย็นชา และเหมือนว่าพวกเขาจะยังเป็นนักศึกษาอยู่

“นายคือฟางชิว?” ชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้นมาระหว่างที่กวาดสายตามองฟางชิวตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายรอบ

“ไม่ใช่” ฟางชิวปฏิเสธด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ไม่ใช่?” คนที่ถามชะงักกึก จากนั้นเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเพื่อหารูปถ่าย ก่อนที่จะมองฟางชิวสลับกับรูปถ่ายเป็นเวลานาน ทันใดนั้น เขาก็แสดงความโกรธออกมาทันที “เด็กดีต้องไม่โกหก! แค่นี้ก็รู้แล้วว่าแกไม่ใช่เด็กดี!”

“มานี่ ตามพวกพี่มาเดี๋ยวนี้เลย!”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ฟางชิวก็เอียงหัวเล็กน้อย เขาเหลือบมองคนกลุ่มนั้นพร้อมกับถามด้วยรอยยิ้มว่า “จะไปไหน?”

“ทำไมถามเยอะจังวะ ไปถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เอง ให้ไว! หรืออยากให้พวกพี่ลงมือเอง” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าเริ่มข่มขู่

เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้น พวกเขาก็ขยับเข้าไปล้อมตัวฟางชิวมากขึ้น

“ไม่จำเป็น ไปกันเถอะ” ฟางชิวบอกปัด รอยยิ้มยังไม่หายไปจากหน้าของเขา

คนกลุ่มนั้นมองฟางชิวด้วยความประหลาดใจ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงนิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องใจเย็น ๆ และอีกแค่ครู่เดียว พวกเขาก็จะทำให้ฟางชิวคนนี้ร้องไม่ออก!

พื้นที่เปิดโล่งแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยและมีคนพลุกพล่านมากเกินไป จึงต้องย้ายสถานที่

ฟางชิวเดินตามคนกลุ่มนั้นไป

เขาคลี่ยิ้มเล็กน้อย

คนกลุ่มนี้ดูแปลก ๆ

เมื่อเดินออกจากพื้นที่ของโรงพยาบาลแล้วเลี้ยวเข้าไปในตรอกหนึ่ง ความผิดปกติก็บังเกิดขึ้นทันใด

“อั๊ก!” ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าฟางชิวด้วยท่าทางก้าวร้าว จู่ ๆ ขาของเขาก็อ่อนลงและล้มลงต่อหน้าทุกคน ประหนึ่งหมากำลังกินอึ

ทำให้ทุกคนในกลุ่มนั้นเงียบไปทันที

ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะ ‘คิก’ ดังขึ้นมาเบา ๆ ทั้งที่คนหัวเราะพยายามจะกลั้นขำสุดความสามารถแล้ว

“นี่เป็นท่านอนใหม่ของนายสินะ”

“ฝึกมาตั้งหลายปี แถมแก่ขนาดนี้แล้ว เดินยังไงให้ล้ม”

“คนกำลังล้ม ห้ามหัวเราะเยาะ… ฮ่า ๆๆ”

คนกลุ่มนั้นพูดล้อเลียนกันอย่างสนุกสนาน

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าจึงลุกขึ้นจากพื้นด้วยความเขินอาย เขาตบฝุ่นบนตัวแล้วตะโกนใส่คนทั้งกลุ่มว่า “ขำอะไรกัน ฉันล้มไม่ได้เหรอไง?”

“ได้ นายล้มได้ แต่ฉันไม่เคยเห็นท่าล้มแบบนี้มาก่อนเลย!”

“ใช่! ฉันก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน!”

“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว คราวหน้าถ้าพวกแกล้มต่อหน้าฉัน ฉันจะหัวเราะเยาะพวกแกให้ตายเลย!”

ชายหนุ่มพูดอย่างขมขื่นแล้วโบกมือให้ทุกคนเริ่มเดินต่อ “เดินต่อได้แล้ว!”

คนกลุ่มนั้นยังคงเดินกันต่อไป

ไม่กี่วินาทีต่อมา

“ฟู่…” จู่ ๆ ก็มีลมพัดมาพร้อมกับหอบเอาเม็ดทรายมาด้วย

“แม่งเอ๊ย!” จู่ ๆ เสียงสบถก็ดังขึ้น

ทันใดนั้น คนในกลุ่มที่โดนทรายกระเด็นเข้าตาก็ย่อตัวลงขยี้ตา

“เกิดอะไรขึ้น?” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ารีบหยุดเดินแล้วหันไปถาม

คนที่นั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นไม่ได้เงยหน้า เขาขยี้ตาพลางโบกมือ “ไม่เป็นไร แค่ลมพัดทรายเข้าตาเฉย ๆ” พูดเสร็จแล้วก็ลุกยืนขึ้น

ทุกคนเห็นอย่างนั้นก็อยากจะหัวเราะ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าหัวเราะออกมา

เพราะทุกคนเห็นว่าดวงตาของคนพูดแดงฉาน

คนที่เป็นหัวหน้าจึงพูดไปว่า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไปต่อกันเถอะ” พอเขาพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปรอบ ๆ พอคิดว่าไม่มีคนอื่นอยู่ที่นี่ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

คนทั้งกลุ่มออกเดินกันต่อ

ฟางชิวมองเข้าไปในตรอกด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

ตรอกนี้ยาวมาก ประมาณห้าสิบหรือหกสิบเมตรได้ ตรงท้ายตรอกมีหัวมุมอยู่

นั่นเพียงพอที่จะบดบังทัศนวิสัยของคนโดยรอบแล้ว

ที่นี่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการอัดคน!

ฟางชิวยกยิ้ม

เดินไปได้ไม่กี่เมตร ความผิดปกติก็เกิดขึ้นอีกครั้ง!

“โอ๊ย!” พอมีเสียงร้องดังขึ้น ทุกคนในกลุ่มจึงตกใจขึ้นมาทันที

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าหันหลังกลับมามองต้นตอของเสียงอย่างรวดเร็ว

แล้วหัวหน้ากลุ่มก็เห็นว่ามีลูกน้องคนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างหลังฟางชิว กำลังจับขาตัวเองด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บ

“มีอะไรอีกล่ะ” หัวหน้ากลุ่มถามอย่างเป็นกังวล

ตรอกนี้มีความผิดปกติจริง ๆ

“ฉันเป็นตะคริวที่ขา นายไปก่อนเลย ไม่ต้องรอฉัน” ลูกน้องคนนั้นรีบเอาเท้าพิงกำแพงและเหยียดขาอย่างแรงเพื่อยับยั้งตะคริวที่กำลังลุกลาม

“ฉันนึกว่าแกอยากจะเข้าห้องน้ำซะอีก!” แล้วหัวหน้าหนุ่มก็ตะโกนออกมาอีกว่า “เร็วเข้า!”

ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงของตกจากที่สูงดังขึ้นมา

ชายหนุ่มผมสั้นที่อยู่ใกล้ ๆ คนหนึ่งโยนบุหรี่ที่สูบเสร็จแล้วลงพื้น เขาไอสองครั้งสามครั้งก่อนที่จะถุยน้ำลายทิ้ง

และมันก็บังเอิญมาก เพราะน้ำลายของชายหนุ่มผมสั้นถูกลมพัดลอยไปที่ใบหน้าของหัวหน้ากลุ่ม

แปะ!

การถ่มน้ำลายนั้นไม่ผิด ถ้ามันไม่กระเด็นไปตกใส่หน้าคนอื่นอะนะ!

ทุกคนในกลุ่มต่างตกตะลึง แม้แต่คนถ่มน้ำลายก็ยังช็อก

คนที่ตะคริวกินขาก็ลืมไปเลยว่าขากำลังเจ็บอยู่

อยู่ไกลกันตั้งเป็นเมตร แต่น้ำลายก็ยังสามารถกระเด็นไปตกใส่หน้าคนอื่นได้

คนที่ถุยน้ำลายคนนี้ จิ๊จิ๊!

ไม่ธรรมดาจริง ๆ!

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน