คุรุการแพทย์ – บทที่ 81 คนไข้มานั่งรอแล้ว

คุรุการแพทย์

บทที่ 81 คนไข้มานั่งรอแล้ว

บทที่ 81 คนไข้มานั่งรอแล้ว

“ต้องเป็นปรมาจารย์แน่นอน!” ชายหนุ่มอีกคนพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่งั้นจะมองไม่เห็นแม้แต่เงาอย่างนี้เหรอ!”

“ไม่เคยได้ยินว่าที่เจียงจิงจะมีปรมาจารย์ด้วย มิน่าอีกห้าวันข้างหน้าถึงมีงานประมูล แต่ดูแล้วน่าจะเป็นงานประมูลเล็ก ๆ ถ้าเชิญปรมาจารย์มาร่วมงานได้ สงสัยจะมีของดีในงานแน่ ๆ”

“เพราะมีปรมาจารย์อยู่ที่นี่ ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้” ชายหนุ่มคนแรกพยักหน้า แล้วครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “ที่จริงแล้วฉันไม่อยากไปร่วมงานนั้นเลย แต่ตอนนี้คงพลาดไม่ได้แล้ว”

“เอาเถอะ ในเมื่อมาแล้ว ก็ไปเปิดหูเปิดตากันดีกว่า” ชายหนุ่มอีกคนพยักหน้าพร้อมกับเสนอความคิดเห็นออกมา

ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น ทั้งสองคนก็มองไปรอบ ๆ เพื่อพยายามหาร่างของปรมาจารย์ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของมนุษย์คนไหนเลย

ไม่ไกลจากจุดที่ชายหนุ่มสองคนยืนอยู่ หลังต้นไม้ใหญ่ริมถนนปรากฏร่างฟางชิวกำลังยืนมองชายหนุ่มทั้งสองคนพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย

งานประมูลสินค้าในห้าวัน?

ไม่เลวนี่!

เขาแอบกังวลอยู่ว่าจะไม่มีที่ให้ขายขุมทรัพย์สมุนไพร

ในแง่ของความแข็งแกร่งนั้น ฟางชิวถือว่าแข็งแกร่งมาก แต่เขายังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับวรยุทธ์เท่าไรนัก ชายหนุ่มจึงไม่คิดเก็บสมุนไพรไว้กับตัวแล้วเอาไปขายแทน

อย่างไรก็ตาม ฟางชิวมีเวลาไม่มาก เขาจะต้องไปที่ภูเขาไท่ซานทันทีหลังตรวจโรคเสร็จ ทำให้เหลือเวลาแค่สามวันเท่านั้น และยังต้องค้นหาสมุนไพรให้เจอภายในสามวัน มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถเข้าร่วมงานประมูลสินค้าได้

มีเวลาน้อยจริง ๆ!

ฟางชิวถอนหายใจเบา ๆ

ความจริงตอนที่ผ่านมาที่นี่ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงพลังของคนสองคนนี้ เขาจึงจงใจเปิดเผยร่องรอยเพื่อให้ทั้งสองคนสังเกตเห็น

ประการแรก เนื่องจากแถวนี้เป็นถิ่นอาศัย และผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นล้วนแต่คนรวย ฟางชิวจึงคิดว่าสองคนนี้อาจเป็นโจรชุดดำ การเปิดเผยตัวเลยจะทำให้จัดการได้ง่ายกว่า

แต่ไม่คาดคิดว่าสองคนนี้จะลูกหลานตระกูลเศรษฐี

ยิ่งกว่านั้นก็คือ ฟางชิวบังเอิญได้ยินข่าวดีจากปากเหล่าทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง

ด้วยงานประมูลนี้ ไม่ต้องกังวลเลยว่าขุมทรัพย์สมุนไพรจะขายที่ไหน ส่วนปัญหาเดียวในตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าเขาจะหาขุมทรัพย์สมุนไพรเจอไหม!

ฟางชิวไม่ได้ยืนฟังต่อ แต่เขาเลือกที่จะเดินจากไปเงียบ ๆ โดยที่เหล่าทายาทเศรษฐีรุ่นสองที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

แม้ว่าฟางชิวจะยังไม่รู้ว่างานประมูลจัดที่ไหน แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องรู้เลย เพราะสามารถตามหาสถานที่จัดงานได้จากปากทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองพวกนี้อย่างไรล่ะ

ในอีกห้าคืนข้างหน้า ฟางชิวจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง!

วันถัดมาเป็นวันเสาร์และเนื่องจากเป็นวันหยุดวันชาติ มหาวิทยาลัยจึงดูร้างมาก

แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของฟางชิว เขายังคงตื่นแต่เช้าเพื่อไปออกกำลังกาย จากนั้นก็อ่านหนังสือและดูเหรียญทองแดง

คัมภีร์เน่ยจิงถูกเขาพลิกอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เวลาหมดลงไปอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็ถึงวันอาทิตย์

หลังจากตื่นแต่เช้าเพื่อมาออกกำลังกาย อ่านหนังสือ และกินอาหารกลางวันแล้ว ฟางชิวก็ตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

ในตอนนี้ ห้องโถงลงทะเบียนของโรงพยาบาลในเครือแห่งแรกก็เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก

และมันน่าแปลกที่อีกด้านหนึ่งของห้องโถง มีคนกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ ทุกคนมีบัตรคิวในมือ แต่ก็ไม่มีใครขึ้นไปหาหมอที่ชั้นบนเลย ทุกคนเอาแต่มองไปที่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ

เมื่อเห็นคนเหล่านี้ พยาบาลที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ในห้องโถงต่างก็รู้สึกอธิบายไม่ถูก แต่พวกเธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

“ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ”

“ไม่ต้องรีบน่า หมอเสี่ยวฟางต้องมาทำงานในตอนบ่าย เขาน่าจะใกล้มาถึงแล้วล่ะ”

“หมอเสี่ยวฟางคนนั้นเก่งอย่างที่นายพูดจริง ๆ เหรอ?”

“แน่นอน!” คนกลุ่มนั้นกระซิบกระซาบคุยกันเบา ๆ

แม้ว่าพวกเขาจะใช้เสียงดังกันจนชิน แต่ที่นี่เป็นที่สาธารณะ พวกเขาทุกคนจึงกระซิบคุยกันแทนเพราะเป็นมารยาททางสังคม

ทันใดนั้น ร่างของชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องโถง

“มาแล้ว!” ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงรีบลุกขึ้นยืนแล้วทักทายฟางชิวพร้อมกับรอยยิ้ม

เมื่อมีคนแรก ก็ต้องมีคนที่สอง คนไข้กลุ่มใหญ่ที่นั่งรอมานานต่างก็ลุกขึ้นทีละคนสองคน

ภาพนี้ได้ดึงดูดความสนใจของคนไข้รายอื่นที่เข้าคิวลงทะเบียนในห้องโถง พวกเขาจ้องมองด้วยความสงสัย

เกิดอะไรขึ้น?

ทำไมทุกคนถึงยืนขึ้นกันล่ะ?

ต้อนรับท่านผู้นำหรือ?

“หมอเสี่ยวฟาง ในที่สุดเธอก็มา!” ชายวัยกลางคนรีบเดินเข้าไปหาฟางชิว เป็นเหตุให้คนถูกเรียกต้องหยุดเดิน เมื่อฟางชิวหันไปมองดูกลุ่มคนที่กำลังยืนอยู่ เขาก็พบว่ามีหลี่เจี้ยนจวินอยู่ด้วย

ครั้งล่าสุด เหล่าเจี่ยก็ได้แนะนำหลี่เจี้ยนจวินที่ทำอาชีพขับแท็กซี่ให้มารักษากับเขา

“สวัสดีครับ!” ฟางชิวกล่าวขอโทษจากใจจริง “ผมขอโทษนะครับ ทุกคนคงรอมานานแล้ว ผมเริ่มงานในตอนบ่าย ผมถึงเพิ่งมา”

“ไม่เป็นไร ๆ มาก็ดีแล้ว! นึกว่าเธอจะไม่มาทำงานแล้วซะอีก คิดไม่ถึงว่าวันหยุดอย่างนี้เธอยังมาทำงาน ไม่ต้องพูดแล้ว เธอรักษาให้ฉันจนหาย รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย หมอเสี่ยวฟางร้ายกาจจริง ๆ!” หลี่เจี้ยนจวินที่ขับแท็กซี่พูดเยินยอพร้อมกับยกนิ้วให้ฟางชิว

ฟางชิวยิ้มรับอย่างสุภาพ

หลี่เจี้ยนจวินหันหน้ากลับไป และชี้ไปที่กลุ่มคนจำนวนมาก ก่อนจะบอกฟางชิวว่า “คนที่ฉันพามาเคยขับแท็กซี่มาก่อน ทุกคนได้โรคจากการทำงานไม่มากก็น้อย เพราะทุกคนได้ยินว่าผลการรักษาของฉันออกมาดี พวกเขาก็เลยอยากจะมารักษากับเธอ ครั้งนี้ก็ขอรบกวนด้วยนะหมอเสี่ยวฟาง”

“ด้วยความยินดีครับ” ฟางชิวมองดูคนที่ยังไม่เลิกสงสัยในตัวเขากับคนที่พกความหวังมาอย่างเต็มเปี่ยมทั้งหลายแล้วพูดออกมาว่า “ยังไงผมเป็นหมอ หน้าที่ของผมคือการรักษาโรคอยู่แล้ว”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลี่เจี้ยนจวินก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “หมอเสี่ยวฟาง ไปด้วยกันเถอะ พวกเราจะขึ้นไปข้างบนพร้อมกับเธอ”

“ทุกคนไปกัน!” แล้วกลุ่มของหลี่เจี้ยนจวินก็เดินตามฟางชิวไปที่ลิฟต์ทันที

เพราะมีคนจำนวนมากเดินตามหลังฟางชิว เขาเลยกลายเป็นท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที

นี่เป็นภาพที่อลังการมาก คนไข้ทุกคนในห้องโถงต่างงุนงงกับภาพตรงหน้าเป็นแถบ

“เขาเป็นใครกัน?”

“คนที่เดินนำหน้าเป็นหมอใช่ไหม”

“มีคนมารักษากับเขาเยอะขนาดนี้เลย?”

“อะไรนะ ฉันไม่เคยเจอหมอหนุ่มขนาดนี้มาก่อนเลย นี่มันโฆษณาเกินจริงไปหรือเปล่าเนี่ย”

“ใช่ อายุยังน้อยแบบนี้ จะเอาความรู้อะไรมารักษาคนล่ะ”

“ฉันเห็นคนพวกนั้นรอที่นี่มานานแล้วนะ เขาคงไม่ได้ตั้งใจให้คนพวกนั้นรอหรอกมั้ง?”

“ดูแล้วน่าจะตั้งใจจริง ๆ แหละ หมอหนุ่มคนนั้นมาช้ามาก ทำไมต้องให้พวกเขารอนานขนาดนั้นด้วย?”

“หมอหนุ่มคนนั้นมีเก่งมากเลยเหรอ?”

คนไข้ที่ไม่รู้ความจริงจับกลุ่มคุยกันด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นและได้ยิน

จากมุมมองของพวกเขา ภาพนี้มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ

ไม่ใช่แค่คนไข้เหล่านี้เท่านั้น แม้แต่กลุ่มคนไข้ที่หลี่เจี้ยนจวินพามาก็ยังตกตะลึงเมื่อเจอฟางชิวตัวเป็น ๆ

เพราะเห็นแก่หน้าของหลี่เจี้ยนจวิน พวกเขาจึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย และได้แต่เดินตามเข้าไปในลิฟต์อีกตัว ในจังหวะนั้นทุกคนก็สบตากัน แล้วพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“เมื่อกี้นี้เป็นหมอเสี่ยวฟางเหรอ เขายังเด็กอยู่เลย เขาจะรักษาได้รึเปล่า?”

“ใช่ อายุยังน้อยอยู่เลย รักษาให้หายได้เหรอ?”

“เหล่าหลี่คงจะไม่ได้โม้ใช่ไหม ให้พวกเรามาตรวจโรคกับหมอที่เด็กขนาดนี้ได้ไง”

“ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมค่าตรวจโรคถึงถูก…”

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย

พวกเขาอยากหันหลังแล้วกลับไป แต่ถ้าทำแบบนั้น พวกเขาก็เกรงว่าจะเป็นการหักหน้าหลี่เจี้ยนจวิน อีกอย่างหนึ่ง พวกเขาก็ได้จ่ายเงินไปแล้วด้วย จะกลับตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว และพวกเขาเชื่อไม่ลงจริง ๆ ว่าเด็กน้อยอย่างนั้นจะตวรจโรคให้พวกเขาได้

พวกเขาหันไปมองหน้ากันและกัน ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะลองให้ฟางชิวตรวจดู

แน่นอนว่า ฟางชิวไม่รู้หรอกว่าทุกคนปรามาสเขาในใจ ไม่ว่าคนไข้จะคิดอย่างไร สิ่งที่เขาต้องทำคือการรักษาคนไข้ และต้องรักษาให้หายด้วย

ส่วนข่าวลือพวกนั้น ถึงเขาได้ยินเขาก็ไม่แคร์หรอก

คนกลุ่มนั้นขึ้นลิฟต์สองตัวไปที่แผนกกระดูกและข้อที่ชั้นเจ็ด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ห้องตรวจด้วยท่าทางจริงจัง

เพราะมีคนหมู่มากอย่างนี้ แพทย์และพยาบาลทุกคนบนทางเดินจึงมองหน้ากันด้วยความสงสัย โดยเฉพาะพวกพยาบาลที่รู้จักฟางชิว

และในขณะนั้นเอง เฉาเจ๋อที่เพิ่งเดินออกจากห้องตรวจของเสิ่นชุนก็ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าฟางชิวกำลังเดินนำคนไข้จำนวนมากเข้ามา

ที่ผ่านมาฟางชิวได้ทำให้เขาตกใจมามากแล้ว

ฟางชิวยังไม่ได้เริ่มงานเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมีคนมากมายตามเขามาขนาดนี้ แบบนี้จะไม่ให้เขาสงสัยและแปลกใจได้อย่างไร?

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกล่ะ?” เฉาเจ๋อดึงพยาบาลคนหนึ่งมาถามอย่างเร่งรีบ

“คนไข้กลุ่มนี้เป็นคนขับรถแท็กซี่มั้งคะ น่าจะมารักษากับหมอเสี่ยวฟาง ข้อมูลการลงทะเบียนก็ลงแล้ว แต่ไม่มีใครขึ้นมาเลย ได้ยินว่ารออยู่ที่ห้องโถงครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เพราะรอหมอเสี่ยวฟางมาทำงาน” พยาบาลตอบ น้ำเสียงแกมความประหลาดใจไว้หลายส่วน

“เป็นคนไข้หมดนี่เลยเหรอ?!” เฉาเจ๋อตกตะลึง

แม่งเอ๊ย!

นี่ฟางชิวอยากจะทำลายกฎธรรมชาติหรืออย่างไรเนี่ย!

ครั้งแรกที่ตรวจโรค คนไข้รายเก่าก็พาคนไข้รายใหม่มาให้ถึงที่

ตรวจโรคครั้งที่สอง ก็ให้คนไข้รออีก!

เขาหมดคำจะพูดแล้ว

ระหว่างทางที่เต็มไปด้วยความตกใจของแพทย์และพยาบาล ฟางชิวที่ถูกรายล้อมด้วยคนไข้

พอถึงห้องตรวจ ฟางชิวก็ให้คนไข้ทั้งหมดรอด้านนนอก

ฟางชิวเดินเข้าไปในห้องตรวจเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นออกมาบอกแผนกประชาสัมพันธ์ให้เรียกคนไข้ได้เลย

พยาบาลมาที่โต๊ะประชาสัมพันธ์แล้วเริ่มขานชื่อคนไข้

“หม่าเฉียง!” ชายคนหนึ่งได้ยินแล้วก็ลุกยืนขึ้น กระนั้นเขาก็เอาแต่ยืนถือบัตรคิวด้วยสีหน้าลังเล

“เข้าไปให้ไวเลย” หลี่เจี้ยนจวินเร่งเร้าทันที

“หมอเสี่ยวฟางเด็กเกินไป เขาจะรักษาให้หายขาดได้จริงเหรอ?” หม่าเฉียงยังคงไม่อยากเชื่อในความสามารถของฟางชิว

ทุกคนต่างหันมามองหลี่เจี้ยนจวินอย่างสงสัย เมื่อเห็นสายตาของทุกคน หลี่เจี้ยนจวินก็รีบร้อนขึ้นมาทันที

“ฉันจะโกหกพวกนายทำไม ทักษะทางการแพทย์ของหมอเสี่ยวฟางยอดเยี่ยมจริง ๆ เข้าไปข้างในแล้วนายก็รู้เองแหละ!”

หม่าเฉียงลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูดออกมา “ก็ได้”

สิ้นเสียง พยาบาลก็พาหม่าเฉียงเข้าไปในห้องตรวจทันที

หม่าเฉียงมีความรู้สึกเหมือนกับคำพูดที่ว่า เมื่อชายผู้แข็งแกร่งจากไปแล้ว เขาจะไม่มีวันได้กลับมาอีก

คนที่ตามหลังเขามาคือหลี่เจี้ยนจวินที่ไม่รู้จะยกอะไรขึ้นมาเพื่อพูดปลอบใจเพื่อนดี

ทุกคนก็รอกันอย่างเงียบ ๆ เพื่อเตรียมพร้อมดูว่าผลการรักษาของคนแรกจะเป็นอย่างไร

หากไม่ได้ผล พวกเขาจะเดินออกไปทันทีแล้วเลิกติดต่อกับหลี่เจี้ยนจวินตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!

พวกเขานึกว่าต้องใช้เวลาในการรักษานานซะอีก ไม่คาดคิดว่านาทีต่อมา หลี่เจี้ยนจวินก็เดินตามพยาบาลออกมาแล้ว

พวกเขาพากันมองหลี่เจี้ยนจวิน เจ้าตัวมีร่องรอยความเศร้าบนใบหน้า ทว่าไม่นานก็ยิ้มออกมาอย่างยินดีปรีดา

ได้ไงกัน!

คนขับรถทุกคนเข้าไปล้อมหลี่เจี้ยนจวินไว้ทันที

ทุกคนถามอย่างฉงนว่า “เป็นยังไงบ้าง ฝีมือการรักษาโรคเป็นยังไงเหรอ”

“เชื่อถือได้ไหม รักษาได้รึเปล่า”

“รู้สึกยังไงบ้าง รู้กระฉับกระเฉงขึ้นไหม”

“เงียบ!”

หลี่เจี้ยนจวินตะโกนเมื่อเห็นว่าพยาบาลกำลังจะอ้าปากตำหนิพวกเขา

เป็นเหตุให้คนขับรถทุกคนเงียบทันที พวกเขาทั้งหมดจึงหันไปมองเหล่าหม่าอย่างใจจดใจจ่อแทน

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท