คุรุการแพทย์ – บทที่ 103 การประมูล! ผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะ!

คุรุการแพทย์

บทที่ 103 การประมูล! ผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะ!

บทที่ 103 การประมูล! ผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะ!

“เหล่าอี้ สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่”

“ต้องจ่ายถึงสามแสนหยวนเลยเหรอ มันคุ้มแน่นะ”

“ไม่น่าจะเป็นสมุนไพรนะ ดูเหมือนอัญมณีมากกว่า แต่ถ้ามันไม่ใช่อัญมณี แล้วมันจะมีมูลค่าถึงสามแสนหยวนได้อย่างไร”

“เหล่าอี้ คิดให้ดี ๆ นะ ใช้เงินตั้งสามแสนหยวนเพื่อซื้อสมุนไพรต้นนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย”

คนที่อยู่รอบ ๆ ผู้อาวุโสอี้ต่างพูดขึ้นมาทีละคน

แต่ทว่า ผู้อาวุโสอี้ก็ไม่ยอมตอบคำถามอะไรเลย เขากำพุทราวิญญาณแดงในมือให้แน่นขึ้นมากกว่าเดิม

“ต้องการเท่าไหร่” ผู้อาวุโสอี้จ้องไปที่ฟางชิวแล้วถามราคาอีกครั้ง

เมื่อได้ยินคำถามของผู้อาวุโสอี้ ฝูงชนแถวนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ

เสนอราคาไปแล้วสามแสนหยวน ฟางชิวก็ยังไม่ยอมขาย แล้วนี่ผู้อาวุโสอี้ยินดีที่จะเสนอราคาเพิ่มอีกหรือ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้?

สรุปแล้วไอ้สมุนไพรต้นนั้นคืออะไรกันแน่?

“คุณเสนอมาสิ” แม้ต้องเผชิญกับฝูงชนที่กำลังตกตะลึง ฟางชิวก็ยังตอบคำถามของผู้อาวุโสอี้อย่างใจเย็น

“ห้าแสน” ผู้อาวุโสอี้เสนอราคาด้วยน้ำเสียงคาดหวัง สายตาจ้องมองฟางชิวอย่างไม่วางตา

คำพูดของผู้อาวุโสอี้กำลังบอกทุกคนเป็นนัยว่าสมุนไพรต้นนี้มีค่ามากกว่าห้าแสนหยวน จึงเป็นเหตุให้ฝูงชนเริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที

ทุกสายตาหันไปมองพุทราวิญญาณแดงที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสอี้ด้วยความสนใจ แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังมองอะไรอยู่ก็ตาม

“ห้าแสน?” ฟางชิวหัวเราะออกมาแล้วถามว่า “นั่นคือราคาที่คุณยินดีจ่ายให้ขุมทรัพย์สมุนไพรเหรอ?”

ตู้ม!

ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!

ขุมทรัพย์สมุนไพร!

ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกคนในที่แห่งนั้นล้วนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ทุกคนเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ พวกเขาย่อมเคยได้ยินเกี่ยวกับขุมทรัพย์สมุนไพรในตำนาน

สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่เรียกว่าขุมทรัพย์สมุนไพรก็เป็นเพียงตำนาน ไม่มีใครเลยที่เคยเห็นขุมทรัพย์สมุนไพรของจริง

แต่ว่ามีขุมทรัพย์สมุนไพรอยู่ที่นี่?

ในงานแสดงสินค้าเล็ก ๆ แบบนี้เนี่ยนะ?

พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะจินตนาการอย่างไรแล้ว?

ขุมทรัพย์สมุนไพรเคยปรากฏเป็นครั้งคราวในงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ แต่พวกมันก็ถูกปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระดับสูงประมูลไป

พวกเขาไม่เคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในระดับนั้นจึงไม่เคยเห็น และแล้ววันนี้ขุมทรัพย์สมุนไพรได้อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

ช็อก!

ช็อกสุดขีด!

ทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมผู้อาวุโสอี้ถึงกำมันไว้ในมือตั้งแต่เห็นครั้งแรก และเข้าใจแล้วว่า ทำไมเขายังยอมเสนอราคากับฟางชิวอีก

เพราะว่ามันเป็นขุมทรัพย์สมุนไพรนี่เอง

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสอี้ตั้งใจจะซื้อมันไว้ ทุกคนจึงมั่นใจว่ามันเป็นขุมทรัพย์สมุนไพรแน่นอน

หลังจากนั้น เมื่อความตกใจค่อย ๆ จางหายไป ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในงานแสดงสินค้าทันที

สายตาทุกคู่ต่างวาบประกาย

ไม่มีใครคิดจะซื้อขายของกันอีกแล้ว ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ต่างปิดแผงขายของแล้วพุ่งความสนใจไปที่ขุมทรัพย์สมุนไพรแทน

ในเวลาเดียวกัน ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ต่างจ้องมองพุทราวิญญาณแดงที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสอี้ด้วยความประหลาดใจ

ผู้อาวุโสอี้รู้ว่ามันคืออะไรสินะ!

ผู้อาวุโสอี้มองไปที่ฟางชิว เขากำขุมทรัพย์สมุนไพรในมือแน่นขึ้น สายตาที่ร้อนแรงและปรารถนาที่อยู่รอบตัวทำให้เขารู้สึกกดดัน

เพราะผู้อาวุโสอี้ต้องการขุมทรัพย์สมุนไพรนี้เป็นอย่างมาก!

ฟางชิวหันไปหาชายหนุ่มแขนหักที่แอบอยู่ด้านหลังของผู้อาวุโสอี้แล้วถามว่า “จะซื้อขุมทรัพย์สมุนไพรของฉันในราคาเท่าไหร่นะ?”

ชายหนุ่มคนนั้นก้มหน้าลงอย่างเงียบ ๆ

สามหมื่นหยวน

สามหมื่นหยวนสำหรับขุมทรัพย์สมุนไพร?

นี่มันเป็นการปล้นชัด ๆ!

ตลกแล้ว!

ไม่มีใครจะเชื่อว่าชายหนุ่มจะกล้าเสนอราคานี้ออกมา แต่คำพูดนี้ออกมาจากปากของเขาเอง

กระจ่างแล้ว…

เรื่องราวได้กระจ่างขึ้นมาแล้ว

ชายหนุ่มคนนั้นหาเรื่องตายจริง ๆ

ประการแรก ชายหนุ่มคนนั้นต้องการซื้อขุมทรัพย์สมุนไพรจากฟางชิวในราคาแค่สามหมื่นหยวนโดยปราศจากข้อตกลง และเขาก็ยังพยายามที่จะใช้กำลัง แต่สุดท้ายก็เอาชนะฟางชิวไม่ได้ เขาจึงหันไปใส่ร้ายฟางชิวแทน นี่ไม่ได้เรียกว่าหาเรื่องตายแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?

บรรดาผู้ที่เคยเห็นอกเห็นใจชายหนุ่มคนนั้นก่อนหน้านี้ต่างรู้สึกละอายใจ

คนที่อยู่ใกล้ชายหนุ่มคนนั้นพากันส่งสายตาดุร้ายใส่ ก่อนจะผลักเขาออกจากฝูงชนไป

“ขุมทรัพย์สมุนไพร?”

“นี่เป็นขุมทรัพย์สมุนไพรจริง ๆ เหรอ?”

“ฉันนึกว่าในชีวิตนี้ฉันจะไม่มีวันได้เห็นขุมทรัพย์สมุนไพรในตำนานแล้วซะอีก ได้เห็นที่นี่ถือเป็นบุญตาจริง ๆ!”

“ขุมทรัพย์สมุนไพรหายาก มีค่ามาก คนส่วนใหญ่น่ะไม่มีวันได้เห็นหรอก”

“ฉันได้ยินมาว่าขุมทรัพย์สมุนไพรสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแก่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ยสิ”

“เรื่องจริงสิ ขุมทรัพย์สมุนไพรเป็นอัญมณีวิเศษ มีพลังปราณอยู่ภายใน เพียงหนึ่งต้น ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นแล้ว แต่ขุมทรัพย์สมุนไพรหายากมาก เนื่องจากพวกมันถูกซ่อนไว้ในที่เร้นลับอย่างดี พวกเราตั้งใจหาก็หาไม่เจอหรอก”

“สุดยอดไปเลย”

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ! ขุมทรัพย์สมุนไพรถือเป็นของวิเศษสำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้เลยนะ!”

ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึง

“เหล่าอี้!” ทันใดนั้นก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมาแล้วพูดกับผู้อาวุโสอี้ว่า “ขุมทรัพย์สมุนไพรมันยังไม่ถูกขายให้คุณ กำแน่นขนาดนั้นจะดีเหรอ?”

“ถ้าคิดจะครอบครองคนเดียวก็ไม่เหมาะสมหรอกมั้ง!!” ผู้อาวุโสอี้พลันหน้าแดง อับอายขึ้นมาเมื่อได้ยินชายวัยกลางกล่าวอย่างนั้น

ผู้อาวุโสอี้รู้ว่าพุทราวิญญาณแดงนี้เป็นขุมทรัพย์สมุนไพร แต่เขาไม่ยอมบอกใคร แ่เขากลับเก็บมันไว้ในมือและพยายามจะซื้อมันโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น

แต่สุดท้ายฟางชิวก็เปิดเผยความจริงออกมา ในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ผู้อาวุโสอี้ย่อมรู้สึกกระดากอาย

ชายวัยกลางคนยังกล่าวต่อ “ในเมื่อพวกเรายังไม่เคยเห็นขุมทรัพย์สมุนไพร ทำไมไม่เอามาให้พวกเราดูก่อนล่ะ?”

ฝูงชนพยักหน้ารับพร้อมกัน

“ไม่เหมาะสม!” ผู้อาวุโสอี้ลังเล “แล้วถ้ามีคนแย่งเอาไปกินล่ะ จะไม่แย่เอาหรือไง”

ได้ยินอย่างนี้แล้ว ฝูงชนก็ต่างตกใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมาให้มากความอีก

บางคนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จนกระทั่งผู้อาวุโสอี้เตือน

นี่เป็นถึงขุมทรัพย์สมุนไพร ไม่มีใครรู้ว่ารสชาติของมันจะเป็นอย่างไร ใครบ้างจะไม่อยากลิ้มลอง?

ชายวัยกลางคนกล่าวออกมาอย่างใจกว้าง “ฉันจะรับผิดชอบเอง ไม่มีใครกล้าก่อความวุ่นวายหรอก”

ผู้อาวุโสอี้ถอนหายใจ จากนั้นหันไปมองฟางชิวอีกครั้งราวกับว่าต้องการขอความคิดเห็นจากเขา

“คุณรวยมากไหม” ฟางชิวหันไปถามชายวัยกลางคน

“มาก!” ชายวัยกลางคนตอบทันที ผู้อาวุโสอี้ก็พยักหน้าเช่นกัน

ฟางชิวเลยพยักหน้ายินยอม ชายหนุ่มไม่กลัวว่าจะมีใครมาขโมยขุมทรัพย์สมุนไพร เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของตนเองแล้ว ไม่มีใครในที่แห่งนี้สามารถเอาขุมทรัพย์สมุนไพรไปจากเขาได้

แต่ถึงจะมีคนกินเข้าไป ฟางชิวก็ไม่สามารถฆ่าคนคนนั้นได้อยู่ดี

ถ้ามีคนกินเข้าไป เขาคงหมดโอกาสหาเงินถ้าคนที่ก่อเรื่องเป็นพวกพาลที่ยอมตายดีกว่ายอมจ่ายค่าเสียหาย เขาก็คงสูญเสียครั้งใหญ่

และมันจะเป็นปัญหาจริง ๆ แน่นอน ถ้ามีคนโลภกินพุทราวิญญาณแดงเข้าไป

ฟางชิวไม่สามารถฆ่าคนได้ แต่พอมีคนบอกว่าจะรับผิดชอบ ฟางชิวจึงเลิกกังวล

ผู้อาวุโสอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้ว ก็เอาตามที่คุณพูดเถอะ”

เมื่อฝูงชนจ้องมองไปที่พุทราวิญญาณแดงที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสอี้ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสดใส

“มาดูสิ” ภายใต้การจับจ้องของสายตาที่มากมาย ผู้อาวุโสอี้ก็ยื่นพุทราวิญญาณแดงออกไปด้วยความไม่เต็มใจ

ชายวัยกลางคนรับมันมาดูทันทีและเริ่มดูอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้นฝูงชนก็ผลัดกันแวะเวียนเข้ามาชม ทุกคนประคองมันด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะกลัวว่าตนเองจะออกแรงมากเกินไป

แล้วฝูงชนก็สังเกตเห็นว่า ผู้อาวุโสอี้คอยเฝ้าติดตามพุทราวิญญาณแดงอย่างใกล้ชิด ราวกับว่าจะกลัวเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ถึงจะมีคนบอกว่าจะรับผิดชอบเองถ้าเกิดอะไรขึ้นก็เถอะ แต่ผู้อาวุโสอี้ไม่สนใจ เขาสนใจมากกว่าว่าขุมทรัพย์สมุนไพรจะบุบสลายหรือไม่ เพราะเขาอยากได้มันมาก

“นี่เหรอขุมทรัพย์สมุนไพร?”

“เหมือนมีเวทมนตร์เลย สัมผัสแล้วรู้สึกต่างออกไป”

“ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นี่ครั้งแรกเลยล่ะ”

“สัมผัสครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าแตกต่าง เป็นขุมทรัพย์สมุนไพรจริงด้วย”

“เหมือนมีอะไรอยู่ข้างในนะ มันเป็นพลังปราณภายในเหรอ?”

“ฉันกำลังสัมผัสขุมทรัพย์สมุนไพร! ฉันได้สัมผัสขุมทรัพย์จริง ๆ!”

“วันนี้โชคดีจริง ๆ ที่ได้เห็นขุมทรัพย์สมุนไพรในตำนานด้วยตาตัวเอง!”

เสียงชื่นชมก็ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ

โชคดีที่ไม่มีใครก่อความวุ่นวาย กระนั้นผู้อาวุโสอี้ก็จับตาดูอย่างใกล้ชิดอยู่ดี

“น้องชาย ขายขุมทรัพย์สมุนไพรนี้ราคาเท่าไหร่? ฉันจะซื้อเอง!”

“ฉันก็อยากได้เหมือนกัน ฉันขอแลกกับของบางอย่างได้ไหม”

“เขารับเงินสดเท่านั้น น้องชายจะเอาเท่าไหร่”

หลากหลายคำถามดังออกมาปากจากของฝูงชน ทว่าเมื่อคนสุดท้ายดูพุทราวิญญาณแดงเสร็จ ผู้อาวุโสอี้ก็ไปคว้ามันกลับมาแล้วพูดว่า “ฉันจองไว้แล้ว!”

“จองไว้? คุณยังไม่ได้ซื้อมันเลยไม่ใช่เหรอ”

“ใช่แล้ว เหล่าอี้ เพื่อขุมทรัพย์สมุนไพรชิ้นเดียว คุณคงจะไม่ฆ่าพวกเราทุกคนที่นี่ด้วยกระบวนท่าเดียวหรอกใช่ไหม?”

“ให้โอกาสพวกเราบ้างสิ”

“ทำไมไม่ประมูลล่ะ”

“ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะ แบบนี้เป็นไง?” ผู้คนในฝูงชนต่างโห่ร้องกันออกมา

เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสอี้ไม่พอใจ สีหน้าของเขาคล้ำมืดลง

อุตส่าห์เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นแท้ ๆ!

“คนที่มาก่อนต้องได้ไปไม่ใช่หรือไง?” ผู้อาวุโสอี้กล่าวพลางยกหมัดขึ้น

ฝูงชนกลับแสดงท่าทีเดียวกันแล้วตะโกนว่า “ต้องเป็นผู้ที่ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะสิ!”

ผู้อาวุโสอี้พูดไม่ออก เขาจึงหันไปขอความคิดเห็นจากฟางชิว

คนอื่น ๆ ก็หันไปหาฟางชิวเพื่อรอการตัดสินใจของชายหนุ่มเช่นกัน

“แล้วแต่พวกคุณ ผมขอจำนวนเงินที่มากที่สุด” ฟางชิวเหลือบมองท่าทีทุกคนแล้วกล่าวเสียงราบเรียบออกมา

“ยอดเยี่ยม!” ชายวัยกลางตื่นเต้นทันที “พวกเราจะทำการประมูล ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะได้รับขุมทรัพย์สมุนไพรไป”

หลังจากพูดจบ เขาก็หันไปหาผู้อาวุโสอี้แล้วพูดเสริมว่า “เหล่าอี้ รีบเอาขุมทรัพย์สมุนไพรไปคืนเจ้าของสิ พวกเราพร้อมเสนอราคากันแล้วนะ”

ผู้อาวุโสอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคืนพุทราวิญญาณแดงให้ฟางชิว

ชายวัยกลางคนบังคับตัวเองให้ละสายตาจากขุมทรัพย์สมุนไพรก่อนจะกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย เราจะใช้ราคาห้าแสนหยวนที่ผู้อาวุโสอี้เคยเสนอมาเป็นราคาเริ่ม ถ้าใครต้องการเสนอราคาก็ให้ยกมือขึ้นแล้วตะโกนราคาออกมาดัง ๆ”

“เริ่ม!” ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้น

ผู้อาวุโสอี้ยืนมองด้วยสีหน้าหดหู่ ส่วนคนอื่นดูตื่นเต้นราวกับว่าถูกเลือดไก่ฉีดเข้าเส้น*[1]

“ห้าแสนห้าหมื่น!” ทันทีที่การประมูลเริ่มต้นขึ้น ชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้นและเสนอราคาออกมา

“ห้าแสนหกหมื่น!” ชายอีกคนยกมือขึ้นทันที

“หกแสน!” ผู้อาวุโสอี้ตะโกนออกมาเสียงดัง

“หกแสนห้าหมื่น” ชายวัยกลางคนที่เสนอให้ประมูลตะโกนบอกราคาเช่นกัน

ในชั่วพริบตา ราคาพุทราวิญญาณแดงก็เพิ่มขึ้นจากห้าแสนหยวนเป็นหกแสนสามหมื่นหยวน

คนส่วนใหญ่ในฝูงชนไม่สามารถซื้อในราคานี้ได้ จึงเหลือเพียงเหล่าเศรษฐีที่ยังจับตามองดูการเสนอราคานี้อยู่

ในที่สุดฟางชิวก็รู้สึกโล่งใจที่เขาสามารถหาเงินสามแสนหยวนได้ในเวลาไม่นาน

ยิ่งเงินมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีก

“เจ็ดแสน!” ผู้อาวุโสอี้กลั้นหายใจก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง!

เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะครอบครองพุทราวิญญาณแดงให้ได้

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้คนจำนวนมากก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ออกมา

เจ็ดแสนไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ เลย ถึงแม้ว่าบางคนจะมีเงินบัญชีมากกว่าเจ็ดแสนหยวน และใช้เงินเก็บซื้อขุมทรัพย์สมุนไพรนี้ได้ แต่พวกเขายังต้องกินยังต้องใช้จ่าย ประมูลไปแล้วจะหาเลี้ยงครอบครัวต่อได้อย่างไร?

ทุกครั้งที่มีคนเสนอราคาที่สูงกว่า คนก็ถูกคัดออกไปเรื่อย ๆ

“แปดแสน” ชายวัยกลางที่เสนอให้ประมูลตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง

[1] ถูกเลือดไก่ฉีดเข้าเส้นคือ วิธีการรักษาที่นิยมในประเทศจีน ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 ถึงช่วงต้นของการปฏิวัติวัฒนธรรม เพราะเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนยาวิเศษรักษาสารพัดโรค โดยฉีดเลือดไก่สด ๆ เข้าทางเส้นเลือดของคน ในปัจจุบัน คำนี้ถูกใช้เป็นคำสแลง เป็นการบรรยายถึงบุคคลที่มีความกระตือรือร้นมาก ส่วนใหญ่คำนี้จะใช้ในการประชดประชัน

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน