คุรุการแพทย์ – บทที่ 130 ฟางชิว ไอ้คนนิสัยเสีย!

คุรุการแพทย์

บทที่ 130 ฟางชิว ไอ้คนนิสัยเสีย!

บทที่ 130 ฟางชิว ไอ้คนนิสัยเสีย!

หลังจากที่ฟางชิวกลับมาที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็ไปหาอะไรกินในโรงอาหาร พอถึงสองทุ่มกว่า ๆ เขาก็กลับห้องพัก

ภายในหอพัก

โจวเสี่ยวเทียน ซุนฮ่าวและจูเปิ่นเจิ้งกำลังนอนอยู่บนเตียงของตนเอง พวกเขากำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์กับพื้นฐานของการแพทย์แผนจีนกันอยู่

เพื่อทำแบบทดสอบในชั้นเรียนของวันพรุ่งนี้ วันนี้ทั้งสามจึงพากันตั้งใจอ่านหนังสือ

สามสัปดาห์ผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันทดสอบและคัดเลือกครั้งสุดท้ายสำหรับการแข่งขันความรู้พื้นฐานทางการแพทย์แผนจีนของน้องใหม่

คราวนี้ทางมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกตัวแทนเก้าคน

ดังนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงพยายามอย่างเต็มที่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกคัดเลือก แต่พวกเขาก็จะต้องเอาชนะเจ้าเด็กที่อายุน้อยที่สุดในห้องอย่างฟางชิวให้ได้!

พวกเขาอาจจะได้รับการคัดเลือก ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะฟางชิวได้

เช้าวันต่อมา เมื่อถึงเวลาแปดโมงเช้า นักศึกษาห้องสามทุกคนก็มารวมตัวกันในห้องเรียน

เฉียวมู่ปรากฏตัวในชั้นเรียนตรงเวลา เขาเข้ามาพร้อมกับกองกระดาษทดสอบในมือ และทันทีที่เฉียวมู่ปรากฏตัว นักศึกษาทุกคนก็จับจ้องไปที่กระดาษทดสอบทันที

“นักศึกษาทุกคน” เฉียวมู่เดินไปที่โพเดียม จากนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือแบบทดสอบครั้งสุดท้าย ฉันเชื่อว่าทุกคนพร้อมรับแบบทดสอบแล้ว”

“แต่ฉันอยากจะเตือนพวกเธอล่วงหน้าว่า แบบทดสอบครั้งนี้เกี่ยวกับเกรดตัวสุดท้ายของพวกเธอด้วย ถ้าพวกเธอผ่านแบบทดสอบ พวกเธอก็จะผ่านการสอบปลายภาคของวิชานี้เช่นกัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของทุกคนในห้องก็เปล่งประกายขึ้นทันที

สิ่งที่นักศึกษากลัวมากที่สุดคืออะไรน่ะหรือ?

การสอบตกไงล่ะ!

ตามที่เฉียวมู่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ ถ้าผ่านแบบทดสอบนี้ก็หมายความว่าจะผ่านการสอบปลายภาคของวิชานี้เหมือนกัน

ใครเล่าฟังแล้วจะไม่ตื่นเต้น

ไม่เพียงแต่ผลแบบทดสอบนี้จะเกี่ยวกับเกรดตัวสุดท้าย แต่มันยังเกี่ยวข้องกับการฝึกงานของพวกเขาด้วย!

“พวกเธอมีความมั่นใจกันไหม” เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของทุกคนแล้ว เฉียวมู่ก็ตะโกนถามออกไปทันที

“มี!” เสียงคำตอบของพวกเขาทำเอาเพดานห้องเรียนสั่นสะเทือน

หลังจากตะโกนปลุกพลังกันเสร็จแล้ว เหล่านักศึกษาก็หันไปมองฟางชิวอย่างกระตือรือร้น เพราะทุกคนเข้าใจจุดประสงค์ในแบบทดสอบครั้งนี้

พวกเขาตั้งใจเรียนกันอย่างหนักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแบบทดสอบในครั้งนี้ ที่ผ่านมาฟางชิวได้คะแนนสูงกว่าพวกเขามาโดยตลอด พวกเขาจะยอมแพ้ฟางชิวในครั้งสุดท้ายนี้ได้อย่างไร

หลังจากเตรียมตัวมานาน คราวนี้พวกเขาจะต้องถูกคัดเลือก!

“ดี!” เฉียวมู่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ยื่นกระดาษทดสอบให้นักศึกษา

“ระยะเวลาของแบบทดสอบนี้คือหกสิบนาที”

“เริ่มได้!” หลังจากเฉียวมู่พูดจบ ทุกคนก็เริ่มเขียนคำตอบกันอย่างกระตือรือร้น

พวกเขาอ่านคำถามอย่างระมัดระวังและเขียนคำตอบลงไปอย่างรวดเร็ว

เฉียวมู่ค่อย ๆ เดินไปรอบ ๆ เพื่อดูเหล่านักศึกษาเขียนคำตอบ จากนั้นเขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เพราะดูเหมือนว่าตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาเหล่านี้จะตั้งใจเรียนกันอย่างหนัก!

เป็นธรรมดาที่อาจารย์จะรู้สึกพึงพอใจที่ลูกศิษย์ตัวเองตั้งใจเรียนกันอย่างเต็มที่แบบนี้

หลังจากเดินวนจนครบหนึ่งรอบ เฉียวมู่ก็กลับไปที่โพเดียมแล้วมองไปที่ฟางชิว

ในตอนนี้ ฟางชิวก็ยังคงอ่านคำถามและตอบคำถามอย่างใจเย็นอย่างเคย ถึงจะดูผ่อนคลาย แต่เขาก็เขียนคำตอบเร็วมาก

เด็กคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

ด้วยความสามารถของฟางชิว เขาสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างแน่นอน แบบทดสอบที่ยากที่สุดเขาก็ยังผ่านมาได้ นับประสาอะไรกับแบบทดสอบในครั้งนี้

คิดได้ดังนั้น เฉียวมู่ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าไปยิ้มไป

แล้วเมื่อเฉียวมู่นึกขึ้นได้ว่าฟางชิวได้คะแนนมากกว่าแปดสิบคะแนนในแบบทดสอบที่ยากที่สุด เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

นักศึกษาบางคนเงยหน้าขึ้นเป็นครั้งคราว แล้วพวกเขาก็พบว่าเฉียวมู่กำลังจ้องมองไปที่ฟางชิวอยู่ด้วยสีหน้าเชื่อมั่น

เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว จู่ ๆ นักศึกษาที่ต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในแบบทดสอบครั้งนี้ก็ต้องการเอาชนะมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเอาชนะฟางชิว

นายทำได้? พวกฉันก็ทำได้เหมือนกัน!

หากแบบทดสอบนี้เป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว พวกเขาก็จำเป็นจะต้องต่อสู้กับกระแสน้ำ ส่วนฟางชิวก็เหมือนประตูสู่ความสำเร็จที่ยืนอยู่ที่ต้นน้ำ

เหมือนกับปลาหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูมังกร*[1]!

แม้ว่าฟางชิวจะทำแบบทดสอบด้วยความรวดเร็วแล้ว แต่พวกเขาก็จะทำให้เร็วกว่า

แต่ว่าแบบทดสอบนี้ก็ยากเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะมีความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับกระแสน้ำ แต่พวกเขาก็ไม่อาจเร่งความเร็วได้อีก

เมื่อมองย้อนกลับไปที่ฟางชิว เหล่านักศึกษาก็จะพบว่าเขายังคงเขียนคำตอบอย่างใจเย็นไปเรื่อย ๆ

แล้วเวลาครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ณ เวลานี้ ทุกคนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามกันอย่างหนัก แต่ทันใดนั้น ฟางชิวก็ลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลันพร้อมกับกระดาษทดสอบในมือ

เป็นเหตุให้ทุกคนหยุดเขียนคำตอบแล้วจ้องมองไปที่ฟางชิวด้วยความตกตะลึง

ฟางชิวจะทำอะไร?

เขาจะส่งกระดาษคำตอบหรือ?

“อาจารย์เฉียว ผมทำเสร็จแล้ว” ฟางชิวเดินไปที่โพเดียมแล้วส่งกระดาษคำตอบให้เฉียวมู่

แม่งเอ๊ย!

พวกเขาทุกคนอดไม่ได้ที่จะสบถในใจ

ฟางชิวส่งกระดาษคำตอบจริง ๆ หรือนี่?

ครั้งที่แล้วเขาทำเสร็จเร็วมาก! คราวนี้เขาก็ยังเร็วเหมือนเดิม!

ยิ่งไปกว่านั้น แบบทดสอบครั้งนี้มันยากมากเลยนะ!

นักศึกษาทุกคนต่างมองไปที่กระดาษคำตอบของฟางชิว บนนั้นเต็มไปด้วยคำตอบยาวเป็นพรืด พอหันกลับมามองกระดาษคำตอบของตัวเอง พวกเขาก็พบว่าตนยังตอบคำถามเสร็จไม่ถึงครึ่ง

ต่างคนต่างพูดไม่ออก พวกเขาตั้งใจเรียนอย่างหนักเป็นเวลาสองสัปดาห์เต็ม แต่สุดท้ายฟางชิวก็ยังสามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

ฟางชิว ไอ้คนนิสัยเสีย!

ไอ้คนหยิ่งยโสที่ไม่รู้จักออมมือให้เพื่อนร่วมชั้น!

แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบ่นออกมา

พวกเขาไม่เคยเห็นฟางชิวตอนตั้งใจเรียนเลย แต่ทำไมฟางชิวถึงได้เก่งอย่างนี้ล่ะ?

และแล้วเสียงร้องไห้และเสียงคร่ำครวญอันแผ่วเบาก็ดังไปทั่วห้องเรียน

หลังจากที่ฟางชิวส่งกระดาษคำตอบแล้ว เขาก็เดินกลับไป ตอนที่เขาเดินผ่านโจวเสี่ยวเทียนนั้น เขาก็เห็นว่าโจวเสี่ยวเทียนกลอกตาใส่ แถมยังกระซิบเบา ๆ ว่า “ไอ้คนนิสัยเสีย”

ฟางชิวฉีกยิ้มกว้างให้โจวเสี่ยวเทียนทันที แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นรอยยิ้มของความประชดประชัน

อะเฮือก!

โจวเสี่ยวเทียนได้รับบาดเจ็บสาหัสทางจิตใจอีกครั้ง

ส่วนที่โพเดียม เฉียวมู่หยิบกระดาษคำตอบของฟางชิวขึ้นมาแล้วมองดูคร่าว ๆ จากนั้นเขาก็พยักหน้าและวางกระดาษคำตอบลงด้วยความพึงพอใจ

อัจฉริยะ ฟางชิวเป็นอัจฉริยะจริง ๆ!

เขาจะผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันด้วยผลคะแนนนี้อย่างแน่นอน!

อีกด้านหนึ่ง เมื่อฟางชิวกลับไปที่โต๊ะแล้ว เขาก็หยิบคัมภีร์เน่ยจิงออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเริ่มอ่านหนังสือที่มุมห้องเรียนคนเดียว

หลังจากที่ฟางชิวส่งกระดาษคำตอบแล้ว นักศึกษาที่เหลือในห้องเรียนก็ล้มเลิกการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอันดับหนึ่งของการส่งกระดาษคำตอบ จากนั้นพวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงอันดับที่สองแทน

พวกเขาเอาชนะฟางชิวไม่ได้ จึงตัดสินใจที่จะแย่งชิงอันดับสอง

อันดับสองอาจฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่มันก็ยังดูดี!

ทุกคนก้มหน้าลงเขียนคำตอบต่อไป โดยมีความคิดแบบนี้อยู่ในใจ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เวลาในการทำแบบทดสอบก็สิ้นสุดลง

“วางปากกาลง!” เฉียวมู่ที่เฝ้าสังเกตจากโพเดียมตลอดเวลาตะโกนออกมา ทันทีที่เขาออกคำสั่งก็ทำให้เกิดความโกลาหลในห้องเรียนทันที

นักศึกษาทุกคนต่างร้องไห้คร่ำครวญออกมา พวกเขาจึงมองหน้ากันไปมา ในที่สุดพวกเขาก็พบว่าไม่มีใครทำแบบทดสอบเสร็จเลยสักคนเดียว ยกเว้นฟางชิว

ด้วยความความเร็วของพวกเขาแล้ว แม้แต่ที่สองก็ทำไม่ได้!

ท่ามกลางเสียงโอดครวญอันขมขื่น กระดาษคำตอบทั้งหมดก็ถูกส่งไปที่เฉียวมู่

หลังจากที่พวกเขาทุกคนยื่นกระดาษคำตอบเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็หันเหความสนใจไปยังฟางชิวที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่มุมห้องคนเดียว

“ไอ้คนนิสัยเสีย!”

“ไอ้คนนิสัยเสียแบบสุด ๆ!”

“ทำไมฉันถึงได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของฟางชิวกันนะ? ฟางชิวยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

ความคับแค้นใจทุกประเภทก็ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจพวกเขาทุกคน

พวกเขาสัญญาว่าจะไม่ทำแบบทดสอบกับฟางชิวอีกแน่นอน เพราะมันน่าขายหน้าเกินไป

แล้วบรรยากาศในห้องเรียนก็เปลี่ยนเป็นอึมครึมทันทีที่นักศึกษาทุกคนส่งกระดาษคำตอบแล้ว

หลังจากรวบรวมกระดาษคำตอบทั้งหมดแล้ว เฉียวมู่ก็กล่าวสองสามประโยคให้บรรยากาศในห้องเรียนสดใสขึ้น จากนั้นเขาก็เริ่มการเรียนการสอนทันที

การทำแบบทดสอบในครั้งนี้ทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่พวกเขาก็เก็บอารมณ์ของตัวเองไว้แล้วนั่งฟังบทเรียนที่เฉียวมู่เริ่มบรรยายอย่างตั้งใจ

เมื่อคลาสเรียนจบลงแล้ว เฉียวมู่ก็ออกจากห้องเรียนพร้อมกับกระดาษคำตอบ แล้วไปรวมตัวกับอาจารย์คนอื่น ๆ ที่ดูแลแบบทดสอบ

แบบทดสอบนี้ โดยทั่วไปแล้วจะตรวจสอบเสร็จสิ้นภายในวันเดียว

แน่นอนว่าทางมหาวิทยาลัยก็ได้เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบบทดสอบรั่วไหล ทุกห้องเรียนจึงมีแบบทดสอบที่แตกต่างกันออกไป ทว่าทุกแบบทดสอบก็ยังมีระดับความยากเท่ากัน

เมื่อเสร็จสิ้นการเรียนของวันนี้แล้ว ฟางชิว โจวเสี่ยวเทียน ซุนฮ่าวและจูเปิ่นเจิ้งก็ออกเดินทางไปพร้อมกัน โดยที่พวกเขาวางแผนที่จะไปหาอะไรกินในโรงอาหารแล้วค่อยมุ่งหน้ากลับไปที่หอพักของพวกเขา

ระหว่างทาง พวกเขาทั้งสี่คนก็ได้เดินผ่านภูเขาเหยาหวัง รูมเมตทั้งสามคนก็เลยพูดคุยเกี่ยวกับคำถามของแบบทดสอบ รวมถึงความไวของฟางชิวในการทำแบบทดสอบด้วย

ส่วนฟางชิวที่ไม่ได้เข้าร่วมการสนทนาก็มองไปรอบ ๆ แทน

เมื่อฟางชิวมองไปที่ภูเขาเหยาหวัง เขาก็เห็นอาจารย์ชราคนหนึ่งกำลังเดินนำกลุ่มนักศึกษาไปหาสมุนไพร

“หืม?” ฟางชิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาจำอาจารย์สูงวัยคนนี้ได้

ศาสตราจารย์หม่าเหวินเซวียนเป็นหนึ่งในอาจารย์ห้าสิบคนของโครงการฝึกงาน เขามีความรู้ที่กว้างขวางมาก เพราะนอกจากจะเชี่ยวชาญการรักษาโรคทั่วไปกับโรคที่รักษาได้ยากบางโรคแล้ว เขาก็ยังเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรอีกด้วย

ศาสตราจารย์หม่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าที่มีความเข้าใจและการประยุกต์ใช้สมุนไพรจีน แล้วเขาก็ยังเคยได้รับรางวัลที่สำคัญ ๆ มามากมาย

“นั่นศาสตราจารย์หม่านี่?” ทั้งสามคนที่กำลังพูดเรื่องคำถามของแบบทดสอบกันอยู่ถูกเสียงฟางชิวดึงดูดความสนใจไป พวกเขาทั้งสามคนจึงหันไปมองทางภูเขาเหยาหวังทันที

“ศาสตราจารย์หม่ากำลังพาลูกศิษย์ไปทัศนศึกษาเหรอ?” ซุนฮ่าวเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

“โห ศาสตราจารย์หม่าใจถึงมาก” จูเปิ่นเจิ้งรู้สึกอิจฉาพวกนักศึกษาที่กำลังเดินตามหลังศาสตราจารย์หม่าอย่างยิ่ง

“ทำไมเขาไม่เลือกฉัน? ศาสตราจารย์หม่า ลูกศิษย์ตัวจริงของคุณอยู่ที่นี่นะ!” โจวเสี่ยวเทียนถึงขั้นร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจ

“ถ้าพวกเราเก่งพอที่จะผ่านสัมภาษณ์ ก็คงเก่งพอที่จะทำแบบทดสอบ” ซุนฮ่าวถอนหายใจออกมาอย่างแรง

“ใช่ ถ้าในตอนนั้นฉันพยายามตั้งใจเรียน ฉันก็คงจะได้เจออาจารย์ฝึกงานของฉันแล้ว” หน้าจูเปิ่นเจิ้งเหมือนมีคำว่าเสียใจเขียนอยู่ตัวโต ๆ

“เจ้าห้า…” โจวเสี่ยวเทียนมองฟางชิวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “จิตใจของนายทำด้วยอะไร ทำไมยังทนมองพวกฉันแบบนี้ได้”

ซุนฮ่าวกับจูเปิ่นเจิ้งมองไปที่ฟางชิวพร้อม ๆ กัน

ตอนแรกพวกเขาคิดจะอ่านคัมภีร์เน่ยจิงยี่สิบรอบ เพราะคิดว่าเนื้อหามันไม่น่าจะยากเท่าไร แต่ใครจะรู้ว่าเนื้อหามันดันยากเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ในเวลาอันสั้น

ฟางชิวหมดคำจะบ่น “พวกนายอ่านไปกี่ครั้งแล้ว”

“ครั้งเดียว” จูเปิ่นเจิ้งอายมาก จากนั้นเขาก็พูดเสริมว่า “แต่ฉันตั้งใจจริงจังเลยนะ ไม่ได้อ่านข้ามสักตัวอักษร”

“ฉันด้วย” ซุนฮ่าวกล่าว

“ฉันก็ตั้งใจอ่านเหมือนกัน” โจวเสี่ยวเทียนรีบบอกฟางชิว

“อืม…” เมื่อได้ฟัง ฟางชิวจึงไตร่ตรองและวิเคราะห์สถานการณ์

ถ้าพวกเขาอ่าน ‘คัมภีร์เน่ยจิง ‘ จบภายในหนึ่งสัปดาห์ ก็แสดงว่าพวกเขาค่อนข้างขยันเลยทีเดียว เพราะคัมภีร์เน่ยจิงไม่ใช่หนังสือที่จะเข้าใจได้ถ้าอ่านแค่คร่าว ๆ

นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังตั้งใจเรียนกันมากจริง ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้

เมื่อฟางชิวคิดได้ดังนั้นแล้ว เขาจึงพูดไปว่า

“ก็ได้ ฉันจะช่วยพวกนายหาอาจารย์ฝึกงานให้” ฟางชิวกล่าวพลางพยักหน้าไปด้วย

หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ฟางชิวพูด ใบหน้าเศร้า ๆ ของพวกเขาทั้งสามคนก็สลายหายไปทันที

“เจ้าห้า นายคือผู้ช่วยชีวิตของพวกเราจริง ๆ!” ซุนฮ่าวกล่าวอย่างซาบซึ้ง “ฉันเกือบจะร้องไห้เพราะนายแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลนะ เพื่อนที่น่ารักของนายจะจดจำบุญคุณนี้ไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน”

“ใช่ นายทำเราซึ้งจนน้ำตาไหลเลยอะ!” จูเปิ่นเจิ้งกับโจวเสี่ยวเทียนต่างก็พยักหน้า

“…” ฟางชิวได้แต่คิดว่า

แล้วน้ำตาอยู่ที่ไหนกันล่ะ?

“พวกนายกลับไปกันก่อนเลย ฉันจะไปห้องสมุด”

ฟางชิวหันหน้าเดินจากไป รูมเมตทั้งสามคนจึงมองหน้ากัน ก่อนจะพากันยิ้มออกมาแล้วมุ่งหน้ากลับไปที่หอพักอย่างมีความสุข

ส่วนฟางชิวไม่ได้แวะที่อื่น เขาเดินตรงไปที่ห้องสมุดเลย แล้วก็ได้พบกับสวีเมี่ยวหลิน

เวลานี้สวีเมี่ยวหลินกำลังจัดเรียงหนังสือที่นักศึกษาคนอื่นส่งคืนอยู่บนโต๊ะ

“สวัสดีครับอาจารย์สวี” ฟางชิวทักทายสวีเมี่ยวหลินด้วยความเคารพ

“มาแล้วเหรอ” สวีเมี่ยวหลินชำเลืองมองไปที่ฟางชิวครู่หนึ่ง จากนั้นก็จัดเรียงหนังสือต่อไป

“ครับ” ฟางชิวเดินไปช่วยสวีเมี่ยวหลินจัดเรียงหนังสือ ขณะที่เขากำลังช่วยจัดเรียงหนังสืออยู่นั้น เขาก็ถามออกมาว่า “อาจารย์สวีครับ ผมอยากถามอะไรอาจารย์หน่อย ในมหาวิทยาลัยของเรา นอกจากอาจารย์แล้ว ยังมีอาจารย์คนไหนที่เก่ง ๆ แต่ไม่มีใครรู้จักบ้าง”

[1] ปลาหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูมังกร หมายถึง ต้องมีความพยายามถึงจะประสบความสำเร็จ

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน