บทที่ 135 จับตัวชายลึกลับ!
บทที่ 135 จับตัวชายลึกลับ!
“ที่พูดจริงหรือ!”
เฉินอินเซิงกลับพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
เขาไม่คิดว่าครั้งนี้ชายลึกลับก็ยื่นมือเข้ามาช่วยอีกครั้ง
ชายลึกลับคอยช่วยคนในมหาวิทยาลัยให้อยู่รอดปลอดภัยอยู่เสมอ!
เขายิ้มพลางเอ่ยกับหัวหน้าหน่วยดับเพลิง “นักศึกษาไม่ได้พูดผิด มีชายลึกลับในมหาวิทยาลัยจริง ๆ ครับ หากคุณจะบอกว่าชายลึกลับเป็นคนดับไฟ ทั้งยังช่วยชีวิตคน ผมก็เชื่อทุกประการ”
เจ้าหน้าที่ถอยหลังหนึ่งก้าวทันที
สายตาของเขาปรากฏคำว่า ‘สมองคุณถูกกระทบกระเทือนเหมือนกันเหรอ’ ในขณะที่เขามองไปที่เฉินอินเซิง
“มัน… ก็ยากที่จะอธิบายให้เข้าใจอยู่หรอก”
เฉินอินเซิงเอ่ยอย่างจนปัญญา
อันที่จริง เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เดิมทีเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่อธิบายได้ยากอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากผู้ฟังจะไม่เชื่อ
“ถึงแม้พวกคุณจะไม่ได้เป็นคนดับไฟ แต่ไหน ๆ ก็มาที่นี่แล้ว โปรดช่วยเราตามหาสาเหตุของอุบัติเหตุด้วยเถอะครับ”
หัวหน้าหน่วยดับเพลิงพยักหน้าและหยุดการกล่าวถึงเรื่องชายลึกลับอันน่าพิศวงนั้นไว้
หลังจากนั้นทั้งหมดจึงขึ้นไปที่ชั้นหก
เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าตรวจสอบ เพียงไม่นานก็ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เป็นเพราะสายไฟเก่า ทั้งยังอยู่ในสภาพทรุดโทรมประกอบกับการใช้กระแสไฟฟ้าเกิน จึงนำไปสู่การเกิดไฟไหม้
เมื่อตรวจสอบเสร็จ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงในอาคารต่อ ปรากฏว่าอุปกรณ์ดับเพลิงทั้งหมดในแต่ละชั้นนั้นไม่สามารถใช้การได้ ทว่ามีไว้เพียงเพื่อแสดงเท่านั้น
ใบหน้าของเฉินอินเซิงมืดครึ้มทันทีที่ได้ยิน
ในฐานะรองอธิการบดี เมื่อหน่วยดับเพลิงพบปัญหาร้ายแรงเช่นนี้ เขาจะยอมรับได้อย่างไร?
“ใครเป็นคนดูแลเรื่องการดับเพลิงของมหาวิทยาลัย?”
เฉินอินเซิงโกรธจัด เขาเอ่ยเสียงดังใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา “มหาวิทยาลัยลงทุนเงินจำนวนมากไปกับการป้องกันอัคคีภัย แต่กลับมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ไปตรวจสอบมา! ไปหาคำตอบมาว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
ลูกน้องเขารีบจดบันทึกไว้แล้วแยกย้ายไปหาสาเหตุ ส่วนเฉินอินเซิงก็ส่งหน่วยดับเพลิงกลับไปด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงยังย้ำชัดทิ้งท้ายไว้ว่านี่คือมหาวิทยาลัย การป้องกันอัคคีภัยนั้นต้องทำให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
พอนักดับเพลิงกลับไป เฉินอินเซิงก็รีบปลอบนักศึกษาที่อยู่ในสภาวะตื่นกลัวที่รวมตัวกันอยู่ด้านล่างหอพักหญิง โดยไม่ได้กล่าวถึงการลงโทษหรือเรื่องอื่นใด หลังจากนั้นจึงปล่อยให้ทุกคนกลับหอพักเพื่อพักผ่อน
สำหรับนักเรียนในหอพักที่เกิดไฟไหม้และหอพักโดยรอบบางส่วน ทางมหาวิทยาลัยจะจัดที่พักสำรองให้ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เฉินอินเซิงจึงหันหลังและจากไปพร้อมใบหน้าไม่พึงพอใจกับความหละหลวมของทางมหาวิทยาลัย
นักศึกษาที่รวมตัวกันด้านล่างของหอพักหญิงต่างแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเมื่อเหตุการณ์จบลง
ฟางชิวที่กำลังจะเดินออกไปก็เห็นรูมเมตทั้งสามคนพอดี
โจวเสี่ยวเทียน ซุนฮ่าว และจูเปิ่นเจิ้งที่ไม่รู้ว่าออกมาจากฝูงชนตอนใดเอ่ยทักทายฟางชิวทันทีที่เห็นว่าเขายืนอยู่รอบนอกสุดของฝูงชน
“เมื่อกี้นายไปไหนมา?”
ซุนฮ่าวแตะไหล่ฟางชิวพร้อมถามด้วยความตื่นเต้น “ได้เห็นชายลึกลับไหม?”
“เห็นแล้ว”
ฟางชิวพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติแล้วเอ่ยต่อ “ฉันอยู่ที่นี่ตลอดน่ะก็เลยเห็น”
“ชายลึกลับน่าทึ่งจริง ๆ!”
ซุนฮ่าวตาเป็นประกาย “ฉันเห็นภาพตอนเกิดเรื่องแล้ว นึกว่าฮอลลีวูดมาถ่ายหนังที่มหาวิทยาลัยของเรานะเนี่ย”
“ไอดอลของฉันสุดยอดอยู่แล้ว ยังต้องให้พูดอีกเหรอ?”
โจวเสี่ยวเทียนเอ่ยแทรกขึ้นทันที
“ชายลึกลับก็เป็นไอดอลของฉันเหมือนกัน”
ซุนฮ่าวกล่าวพลางมองไปยังโจวเสี่ยวเทียน
“ฉันด้วย!”
จูเปิ่นเจิ้งเองก็เห็นด้วย “แต่ชายลึกลับไม่ใช่ซูเปอร์แมนในหนัง เขามีชีวิตอยู่จริง ในสายตาของฉัน ชายลึกลับคือฮีโร่ เป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศและประชาชน!”
ซุนฮ่าวและโจวเสี่ยวเทียนต่างยกนิ้วโป้งให้จูเปิ่นเจิ้งอย่างเห็นด้วยทันที
กล่าวได้ดี! กล่าวในสิ่งที่พวกเขากำลังคิดเป๊ะ ๆ เลย!
และในค่ำคืนนี้เอง ชายลึกลับก็ได้กลายเป็นไอดอลของใครหลายคน
หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผ่านไป เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยก็เต็มไปด้วยโพสต์ขอคลิปวิดีโอ
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องร้ายแรง เกือบทุกคนในมหาวิทยาลัยจึงทราบเรื่อง แต่ก็ไม่มีใครโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะการปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดของชายลึกลับทำให้ทุกคนตกใจไม่น้อย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนตกตะลึงจนลืมบันทึกวิดีโอไว้
นี่ทำให้ทุกคนล้วนกลัดกลุ้มใจ
พวกเขาลอบสาบานกันว่าครั้งต่อไปที่พวกเขาเจอเรื่องนี้ พวกเขาจะต้องถ่ายวิดีโอไว้
จู่ ๆ ทุกคนก็นึกถึงโพสต์ก่อนหน้าเกี่ยวกับการจัดอันดับชายลึกลับอีกครั้ง ทุกคนจึงแห่กันมาดูว่าคราวนี้จะหาชายลึกลับเจอหรือไม่!
‘ระยะการค้นหาแคบลง ชายลึกลับอยู่ท่ามกลางคนพวกนั้น’
จากการปรากฏตัวอีกครั้งของชายลึกลับ โพสต์ดังกล่าวที่หมดความนิยมไปแล้วก็กลายมาเป็นที่นิยมอีกครั้งพร้อมกับผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างล้นหลาม
ผู้ดูแลเว็บบอร์ดจึงดันโพสต์ขึ้นมาและปรับแก้เนื้อหาใหม่ล่าสุด
ทุกคนยังจำได้ดี จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่ายังมีบุคคลที่อาจเป็นชายลึกลับอยู่ในรายชื่ออีกห้าสิบห้าคน
[สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือเพียงคัดกรองทั้งห้าสิบห้าคน ถ้าคัดกรองดี ๆ ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะเจอตัวชายลึกลับ]
[เจ้าของโพสต์ล่ะ ออกมาทำงานเถอะ!]
[อัปเดตด่วน! รีบอัปเดตได้แล้ว!]
[ขอนั่งรอเจ้าของโพสต์อัปเดตด้วยคน! เหตุการณ์ไฟไหม้หอพักหญิงครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั้งนักศึกษาและอาจารย์ เราก็น่าจะคัดคนออกไปได้ไม่น้อยใช่ไหม?]
[ไม่ใช่แค่คัดออก แต่ฉันว่าคราวนี้เราหาตัวของชายลึกลับเจอเลยล่ะ]
[หลี่เทียนอวิ๋น เพื่อนร่วมชั้นภาควิชาภาษาอังกฤษ วันนี้อยู่กับฉัน เขาไม่ได้ไปไหนเลยตั้งแต่ตอนที่ไฟไหม้จนถึงดับไฟได้ ตัดเขาออกได้เลย]
[จางอิ้งชุนที่เรียนการฝังเข็มและการนวดห้องสามก็ตัดออกได้]
แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของโพสต์นั้นอยู่หรือไม่ แต่นักศึกษาต่างหลั่งไหลเข้ามาในโพสต์นั้นด้วยความกระตือรือร้น แต่ละคนเล่าในสิ่งที่พวกเขารู้ และคัดคนที่ไม่น่าเกี่ยวข้องออกอย่างต่อเนื่อง
…
อีกด้าน หลี่จีที่อยู่ต่างเมืองก็ได้ยินว่าชายลึกลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เนื่องจากหลี่จีสนใจชายลึกลับมาโดยตลอด เขาจึงคอยสอบถามข้อมูลของชายลึกลับในมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ ดังนั้นทันทีที่ชายลึกลับปรากฏตัว ข่าวจึงมาถึงหูของหลี่จีอย่างรวดเร็ว
“ชายลึกลับปรากฏตัวแล้ว!”
ในค่ำคืนอันมืดมิด หลี่จีที่ได้รับข่าวจึงรีบตรงเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง
ในห้องลั่วชูที่นอนอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นถามทันที “ผู้อาวุโสคนนั้น?”
“ใช่!”
หลี่จีเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ฉันได้ยินข่าวมาว่าหอพักนักศึกษาหญิงที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงถูกไฟไหม้ นักศึกษาหญิงถูกไฟไล่ให้ไปอยู่ที่ระเบียง พอทำท่าจะร่วงลงมา ผู้อาวุโสคนนั้นก็ออกมาแล้วขึ้นไปที่ชั้นหกเพื่อช่วยชีวิตหญิงสาวคนนั้น ทั้งยังเป็นคนดับไฟด้วย”
“สุดยอด!”
ลั่วชูยกนิ้วโป้งให้ แต่ก็เปลี่ยนมาทอดถอนหายใจก่อนเอ่ยคำ “ผู้อาวุโสคนนี้คงเป็นคนที่คอยปกป้องทุกคน เขาปรากฏตัวในทุกที่ที่มีปัญหาเลย แต่ขอบเขตดูเหมือนจะจำกัดอยู่เพียงแค่ในมหาวิทยาลัย ฉันว่าเขาไม่รู้ว่าโลกนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน มีสถานที่อีกไม่น้อยที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา น่าเสียดายที่เขาไม่ยินดี”
หลี่จีพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยตอบ “ถึงผู้อาวุโสคนนั้นจะปฏิเสธเรา แต่หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล เราจะไปเร่งรีบไม่ได้หรอก เราต้องใช้เวลา”
ผ่านไปสักพัก เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ลงชื่อเข้าใช้เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงแล้วอ่านอย่างละเอียด
ในขณะเดียวกัน เฉินชงผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยพ่ายแพ้ให้กับชายลึกลับก็ตรวจสอบเรื่องไฟไหม้เช่นกัน
ในตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ มาคิด ๆ ดูแล้วเขาก็เสียใจไม่น้อย หากอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างน้อยเขาก็สามารถเรียนรู้บางอย่างจากการกระทำของชายลึกลับได้ แม้จะไม่ได้คุยกับชายลึกลับสักคำก็ตาม
ครั้งล่าสุดที่ชายลึกลับให้คำแนะนำแก่เขา เขาได้รับประโยชน์มากมายจากคำแนะนำนั้น หากว่าเขาได้พูดคุยด้วยอีกครั้ง เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เขาพลาดไป
ไม่ใช่แค่คนเหล่านี้ แต่คนเกือบทุกคนในมหาวิทยาลัยล้วนให้ความสนใจกับเหตุการณ์การดับไฟของชายลึกลับ
แม้แต่นักศึกษาหญิงที่เกือบร่วงลงมาจากชั้นหกเพราะเปลวไฟก็กลายเป็นบุคคลสำคัญในมหาวิทยาลัย หลายคนไปหาเธอเพื่อถามเกี่ยวกับชายลึกลับ
อยู่ในอ้อมแขนของชายลึกลับรู้สึกไงบ้าง? กล้ามท้องชัดเจนไหม?
กระทั่งเรื่องกลิ่นตัวของชายลึกลับก็มีคนถาม
เว็บบอร์ดจึงปลุกกระแสข่าวระลอกแล้วระลอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องชายลึกลับ แต่ยังคงไร้การอัปเดตจากเจ้าของโพสต์
จนถึงเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้าย เจ้าของโพสต์ก็ตอบกลับมา
[มีการตอบกลับมากเกินไป ตรวจสอบยากมาก จะมาอัปเดตในวันพรุ่งนี้แทน]
วันต่อมา ผู้คนนับไม่ถ้วนรอให้โพสต์อัปเดต สุดท้ายแล้วพวกเขาก็รอไปจนถึงบ่ายสาม
[ครั้งนี้คัดออกสิบคน ยังเหลืออีกสี่สิบห้าคน]
หลังจากมีการอัปเดตโพสต์ ทุกคนที่รอการอัปเดตต่างก็ผิดหวังไปตาม ๆ กัน
ในความเห็นของพวกเขา ในครั้งนี้สามารถพุ่งเป้าไปว่าชายลึกลับคือใครได้แน่นอน
แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมา ยังคงเหลือคนที่น่าสงสัยจำนวนไม่น้อย จะชี้ตัวก็คงยาก
ดูเหมือนเจ้าของโพสต์จะสัมผัสได้ถึงความผิดหวังของผู้คนจึงตอบกลับไปอีกครั้ง
[เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังวุ่นวายมากจนไม่มีใครสังเกตว่านักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ ตัวไปไหนบ้าง ทำให้มีคนเพียงสิบคนเท่านั้นที่ถูกคัดออก]
หลังจากเห็นการตอบกลับของเจ้าของโพสต์ ทุกคนก็พอจะเริ่มเข้าใจ
ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ก็เป็นอย่างนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถไปตำหนิใครได้
[หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะตื่นตัวและคอยจับตาดูเพื่อนนักศึกษาทั้งสี่สิบห้าคนในรายชื่อ เมื่อชายลึกลับปรากฏตัวครั้งต่อไป ฉันหวังว่าเราทุกคนจะร่วมมือกันเพื่อชี้ตัวชายลึกลับ!]
ในท้ายที่สุด ด้วยคำขอร้องของเจ้าของโพสต์ ทุกคนจึงบอกว่าพวกเขาจะจัดการชายลึกลับในครั้งต่อไปให้ได้
ในระหว่างนั้น ฟางชิวที่ไม่มีเรียนตอนบ่ายก็อยู่ในหอพักเพื่ออ่านหนังสือ
ตู๊ด!
โทรศัพท์ดังขึ้น เขาจึงกดรับสาย
“ฮัลโหล?”
“[ฉันเอง นักสืบผู้ยิ่งใหญ่ เหอเกาหมิง]”
ปลายสายเอ่ยตอบด้วยเสียงที่ค่อนข้างจะแผ่วเบา
“ว่ายังไง?”
ฟางชิวถาม
“[ได้เรื่องแล้ว ออกมาเจอกันหน่อยสิ]” เหอเกาหมิงเอ่ยตอบ
“เร็วขนาดนี้เลย?” ฟางชิวสงสัย
“[ไม่ใช่บอกว่าสิบวันหรอกเหรอ?]”
นี่แค่สามวันเท่านั้นเอง!
“[ก็ฉันเป็นมืออาชีพนี่!]”
เหอเกาหมิงเม้มปากครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ “[เดี๋ยวฉันส่งสถานที่ไปให้]”
หลังจากกล่าวจบ เหอเกาหมิงก็วางสาย
ฟางชิวลุกขึ้น เขายังไม่ทันก้าวออกจากหอพัก ตำแหน่งของเหอเกาหมิงก็ถูกส่งมายังโทรศัพท์มือถือของเขา ชายหนุ่มจึงขึ้นแท็กซี่จากหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปที่นั่น
ไม่นานนักฟางชิวก็มาถึงตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เดินไปไม่อีกกี่ก้าว เขาก็เห็นเหอเกาหมิง เจ้าตัวนั่งอยู่เพียงลำพังที่แผงขายบะหมี่เล็ก ๆ โดยมีชามเปล่าวางอยู่บนโต๊ะข้างหน้า ดูเหมือนว่าเพิ่งจะกินเสร็จ ส่วนสายตากวาดมองไปรอบ ๆ ราวกับรอใครสักคน
“เถ้าแก่ ขออีกชาม”
ขณะที่ฟางชิวกำลังเดินไปที่โต๊ะ ดวงตาของเหอเกาหมิงเป็นวาบประกาย
“ได้เลย!” เถ้าแก่เอ่ยตอบ
“ฉันไม่หิว” ฟางชิวเอ่ยพลางนั่งลง
“แน่นอน ฉันรู้ว่าคุณไม่หิว ฉันสั่งให้ตัวเองหรอก”
เหอเกาหมิงตอบ