คุรุการแพทย์ – บทที่ 137 กินบะหมี่ให้หมด!

คุรุการแพทย์

บทที่ 137 กินบะหมี่ให้หมด!

บทที่ 137 กินบะหมี่ให้หมด!

“บ้าเอ๊ย ทำไมแกถึงยังอยู่ที่นี่อีก!” หัวหน้ากลุ่มเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก เขารีบวิ่งเข้าไปหาเว่ยตงแล้วจ้องมองเว่ยตงด้วยความโกรธก่อนจะพูดว่า “ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของแก? แกอยากโดนทุบอีกเหรอ เป็นเพราะฉันไม่ปล่อยให้แกอยู่ในอาคารที่สร้างเสร็จแล้วใช่ไหม แกถึงได้มาอยู่ที่นี่”

“ฉันแค่ต้องการค่าจ้างของฉัน” เว่ยตงไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา เขามองไปที่หัวหน้ากลุ่มและพูดอย่างใจเย็นว่า “จ่ายค่าจ้างให้ฉัน แล้วฉันจะไป”

“ไอ้**!” เมื่อได้ยินเว่ยตงพูดเช่นนั้น ชายหนุ่มที่มีรอยสักก็กระโดดออกมาจากฝูงชน แล้วตะโกนด่าเว่ยตงทันที “ขนาดฉันไม่มีเงินให้ผลาญ แต่แกยังกล้าร้องขอเอาเงินอีกเหรอ แกอยากโดนทุบจริง ๆ ใช่ไหม หา”

“เก็บของแล้วออกไปจากที่นี่ซะ ไม่งั้นแกถูกทุบอีกแน่”

“แกรีบไสหัวไปให้ไวเลยนะ พวกฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไล่แก”

“ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

ฝูงชนรุมล้อมที่เว่ยตงเอาไว้ พวกเขาต่างตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

แต่เขายังคงนิ่งเฉย

เว่ยตงเม้มริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือออกไปยกหม้อขึ้นมาจากกองไฟ ไม่ว่าบะหมี่จะยังร้อนอยู่หรือไม่ก็ตาม เขาก็รีบกินมันทันที ราวกับว่าเขากลัวคนกลุ่มนี้จะตีเขา ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่กลัวที่จะถูกตีด้วยซ้ำ แต่เขากลัวว่าบะหมี่สองสามคำสุดท้ายจะถูกคนกลุ่มนี้ทำลาย

“ยังกินข้าวอยู่อีกหรือไง” จู่ ๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มก็โกรธและพร้อมที่จะลงมือทันที

ทันใดนั้นหัวหน้ากลุ่มก็จับมือชายหนุ่มเอาไว้ เพื่อให้เวลาเว่ยตงกินบะหมี่ แล้วเขาก็กล่าวว่า “หลังจากที่แกกินบะหมี่เสร็จแล้ว แกควรรีบไปจากที่นี่ซะ ฉันเหนื่อยที่จะอัดแกแล้ว อย่าเอาแต่นิ่งเฉยเหมือนผีตายซากอย่างนี้ ตกลงไหม”

“จ่ายค่าแรงให้ฉัน แล้วฉันจะไป” เว่ยตงวางหม้อลงแล้วพูดอย่างดื้อรั้น

“จะต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง? อาคารนั่นมันไม่มีเงินทุนในการสร้างแล้ว แล้วฉันจะไปเอาเงินจากที่ไหนมาให้แก”

หัวหน้ากลุ่มกล่าวเสริมด้วยความโกรธว่า “แกรีบออกไปจากที่นี่ซะ และหยุดก่อเรื่องได้แล้ว ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าพวกฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน” ขณะที่พูด เขาก็ได้ผลักเว่ยตงอย่างแรง

เว่ยตงจึงเซไปเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามที่จะรักษาการทรงตัวเอาไว้

เว่ยตงหันหน้าไปพูดกับหัวหน้ากลุ่มพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า “ฉันก็อยากจากที่นี่ไปเหมือนกันแหละ แต่ฉันไปไม่ได้ จ่ายค่าจ้างให้ฉันสิแล้วฉันจะไป เพราะเงินพวกนี้เป็นเงินฉันที่หามาอย่างยากลำบาก จ่ายให้เงินฉัน แล้วฉันจะไปทันที ขอร้องล่ะ!”

เมื่อเว่ยตงพูดจบประโยค ชายหนุ่มที่พร้อมจะลงมือมานานแล้วก็เตะไปที่เว่ยตงทันที

เพล้ง!

ชายหนุ่มเตะหม้อออกจากมือของเว่ยตงอย่างแม่นยำ ก่อนที่เว่ยตงจะได้กินบะหมี่อีกคำ บะหมี่ที่สุกแล้วก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้น

ขณะที่เว่ยตงมองดูบะหมี่กับน้ำซุปที่พื้น เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้จะโกรธมากก็ตาม เขาทำได้เพียงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม แล้วพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไม่ไหลไปมากกว่านี้

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว ฟางชิวก็โกรธมาก เขารีบไปที่นั่นทันทีโดยปราศจากลังเลใด ๆ

ผัวะ!

ทันทีที่ฟางชิววิ่งเข้าไปในฝูงชน เขาก็โจมตีโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขายกเท้าเตะชายหนุ่มคนที่เตะหม้อของเว่ยตงอย่างแรงจนเจ้าตัวกระแทกกับกำแพง

เวลานี้ ความโกรธของฟางชิวได้ถูกจุดชนวนขึ้นมาแล้ว

ฟางชิวขยับกาย ทั้งต่อยและเตะไปพร้อม ๆ กัน เป็นเหตุให้ผู้คนที่อยู่รอบตัวของเขามากกว่าสิบสองคนล้มลงไปนอนกับพื้น

“เก็บบะหมี่พวกนี้ขึ้นมากินซะ!” ฟางชิวชี้ไปที่บะหมี่ที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นและตะโกนใส่ผู้คนนับสิบคนด้วยความโกรธ

“นี่เป็นอาหารของเขาสำหรับหนึ่งวัน แต่พวกแกกลับเตะมันทิ้ง อาหารพวกนี้มันหามาได้ง่ายนักหรือไง?”

“กินให้หมด!”

“ถ้าใครกินไม่หมด ฉันจะหักขาทิ้งซะ!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ผู้คนเหล่านี้ก็ล้วนตกตะลึง พวกเขาได้แต่เหม่อมองไปตรงหน้าด้วยความสับสน

ทำไมจู่ ๆ ชายสวมหน้ากากก็ออกมาทุบตีพวกเขาทุกคนล่ะ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“ไอ้หนู อย่าก่อเรื่อง…” หัวหน้ากลุ่มลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าโกรธจัด แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ กำปั้นใหญ่ของฟางชิวก็ต่อยที่เบ้าตาซ้ายของเขาอย่างแรง

หลังจากถูกต่อย หัวหน้ากลุ่มก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มือยกกุมตาซ้ายของตัวเองไว้แล้วล้มลงไปนอนกับพื้น

คนอื่นต่างตื่นตระหนก เพราะพวกเขาไม่เห็นการโจมตีของฟางชิวเลย พวกเขาเห็นแค่เพียงเงาเลือนรางเท่านั้น

หัวหน้ากลุ่มลุกขึ้นอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่ฟางชิว ทันใดนั้นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว สุดท้ายจึงยอมเอื้อมมือไปหยิบบะหมี่ที่พื้นยัดใส่ปากของตัวเอง

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว คนอื่น ๆ ในกลุ่มก็ไม่กล้าต่อต้าน พวกเขารีบนอนคว่ำทันที แล้วหยิบบะหมี่บนพื้นขึ้นมากินอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้เจ้านายของพวกแกอยู่ที่ไหน” หลังจากที่พวกเขากินเสร็จแล้ว ฟางชิวก็เหลือบมองพวกเขาแล้วถามอย่างเย็นชา

เมื่อน้ำเสียงเย็นชาของฟางชิวดังขึ้น ผู้คนนับสิบที่อยู่บนพื้นก็เงียบทันที พวกเขามองหน้ากันและจ้องไปที่หัวหน้ากลุ่ม

“เขาอยู่ที่ไหน?” ฟางชิวย่อตัวลงและมองไปที่หัวหน้ากลุ่มด้วยใบหน้าที่เย็นชา

“ฉัน ฉันไม่รู้” หัวหน้ากลุ่มตื่นตระหนก เขาชี้ไปที่ผู้ชายหลายสิบคนที่เป็นลูกน้องของเขาแล้วถอยหลังหนีฟางชิวด้วยความหวาดกลัว “ถามพวกเขาสิ พวกเขารู้ ถามพวกเขา…”

ได้ยินแบบนั้นแล้ว สีหน้าของคนนับสิบก็เปลี่ยนไป พวกเขาต่างลุกขึ้นเพื่อเตรียมวิ่งหนี

แต่ฟางชิวจะปล่อยให้พวกเขาหนีได้อย่างไร?

ไวเท่าความคิด เขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ผัวะ!

ฟางชิววิ่งตรงไปยังชายหนุ่มคนแรกที่ยืนขึ้นและเตะเขาลงกับพื้นทันที จากนั้นเขาก็เบี่ยงตัวออกไปอีกด้านและพุ่งเข้าใส่ชายคนที่สองด้วยความว่องไว

ผัวะ! ผัวะ!

ผัวะ!

เกิดเสียงคนร่วงกระแทกพื้นดังก้อง

ฟางชิวเตะพวกที่กำลังจะหนีอีกครั้งโดยไม่ละเว้นแม้แต่คนเดียว

หัวหน้ากลุ่มตกใจกับสิ่งที่เห็น เขาเคยคิดที่จะให้คนของเขาไปล้อมโจมตีฟางชิว แต่เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เขาล้มเลิกความคิดนั้นไปทันที

ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก

สัตว์ประหลาดชัด ๆ

ไม่สิ!

เขาน่ากลัวกว่าสัตว์ประหลาดด้วยซ้ำ

คิดได้ดังนั้น หัวหน้ากลุ่มก็ทำท่าวิ่งหนีระหว่างที่ฟางชิวกำลังโจมตีคนอื่น ๆ อยู่ แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวขาวิ่ง ฟางชิวก็ทุบตีทุกคนจนหมดแล้ว จึงมีแค่หัวหน้ากลุ่มที่ยืนอยู่เพียงลำพังคนเดียว

“อยากหนีเหรอ” ฟางชิวถอนหายใจอย่างเย็นชาแล้วเดินเข้าไปหาหัวหน้ากลุ่ม “ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย เจ้านายของแกอยู่ที่ไหน”

หัวหน้ากลุ่มรู้สึกหวาดกลัว เขากลัวจนเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก

“ฉัน ฉัน…” มองไปที่ฟางชิว ขาของเขาก็สั่น เขารีบเร่งก้าวถอยหลัง

ทันใดนั้น

กร๊อบ!

ฟางชิวก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือขวาออกไปจับแขนของหัวหน้ากลุ่มและหักมันอย่างแรง

“โอ๊ย!” หัวหน้ากลุ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เขาอยู่ที่ไหน?” ฟางชิวยังคงถามต่อไป

“ที่วิลล่า เขาอยู่ในวิลล่าที่ไม่ไกลจากที่นี่” เมื่อรู้ว่าฟางชิวโหดร้ายเพียงใด หัวหน้ากลุ่มก็ไม่กล้าที่จะยื้อเวลาอีกต่อไป เขาจึงรีบตอบด้วยน้ำเสียงวิงวอนทันที

ส่วนคนอื่นที่ล้มอยู่รอบ ๆ หลังจากได้เห็นสิ่งที่ฟางชิวทำแล้วก็ไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามอีกต่อไป พวกเขานอนอยู่บนพื้นโดยแสร้งทำเป็นว่าตายแล้ว เพื่อพยายามที่จะไม่ให้ฟางชิวสนใจพวกเขาอีก

“พาฉันไปที่นั่น” หลังจากรู้ที่อยู่แล้ว ฟางชิวก็สั่งออกมา

“เอ่อ…” หัวหน้ากลุ่มกล่าวด้วยความสั่นเทา “ฉันได้บอกที่อยู่ไปแล้ว คุณก็ไปที่นั่นด้วยตัวเองเถอะ ถึงฉันไปด้วยก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี”

“หืม?” เกิดแสงประกายเย็นวาบในดวงตาของฟางชิวทันที

เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวหน้ากลุ่มก็เปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว “ฉันจะไป ฉันจะไป” จากนั้น เขาก็ชี้ไปที่ผู้คนประมาณสิบกว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาแล้วพูดว่า “ทุกคนลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ผู้คนหลายสิบคนก็ตกตะลึง

ในเมื่อหัวหน้ากลุ่มสามารถนำทางด้วยตัวเองได้ ทำไมเขาต้องให้พวกเราไปด้วยอีกล่ะ

พวกเขาพากันคิดอย่างหมดหนทาง

ทว่าหลังถูกหัวหน้ากลุ่มเรียกแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นด้วยความจำใจ

ฟางชิวเดินไปหาเว่ยตง พูดกับเขาว่า “รอผมที่นี่นะครับ”

ต่อมา ด้วยการนำทางของคนประมาณสิบกว่าคน พวกเขาก็เดินทางมาจนถึงชานเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารที่สร้างไม่เสร็จ

เนื่องจากที่นี่เป็นชานเมือง ฟางชิวจึงเห็นบ้านเดี่ยวจำนวนมากตลอดทาง ดูเหมือนว่าจะมีเศรษฐีมากมายอยู่แถวนี้

อย่างไรก็ตาม ถ้าหัวหน้าคนงานสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินเลย

ฟางชิววางแผนที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าเกิดหัวหน้าคนงานเป็นคนดี แต่มีเหตุผลทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เว่ยตงได้ ฟางชิวก็จะไปหาสาเหตุและช่วยเหลือเขา

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น

ไม่นาน กลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคนก็พาฟางชิวมาถึงประตูวิลล่าสวยหรู

ด้านหน้าของวิลล่ามีทางให้รถวิ่งโดยเฉพาะ ขนาดของสวนดอกไม้ก็ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป

ฟางชิวมองไปรอบ ๆ แม้จะอยู่ในย่านชานเมืองที่มีวิลล่าหลายหลังก็ตาม แต่วิลล่าหลังนี้ก็ถือได้ว่าโดดเด่นมาก ดอกไม้และพืชพรรณรอบ ๆ นั้นสร้างความสบายตาแก่คนมองอย่างยิ่ง

แต่ฟางชิวไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมพวกมันเลย เขากลับรู้สึกโกรธด้วยซ้ำตอนเห็นวิลล่าหรูหราหลังนี้

“ขอ… ขอส่งตรงนี้นะ” หัวหน้ากลุ่มกระซิบหลังจากที่พวกเขาผ่านสวนและมาถึงประตูของวิลล่าแล้ว

“เคาะประตู” ฟางชิวกล่าว

หัวหน้ากลุ่มกลอกตา แต่ก็ยอมเดินไปเคาะประตู หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีสาวใช้รูปร่างดีวิ่งมาเปิดประตูและนำพวกเขาเข้าไป

ฟางชิวเดินตามหลังคนกลุ่มนี้เข้าไปข้างใน

เมื่อฟางชิวมาถึงห้องโถงของวิลล่า เขาก็เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนสวมชุดอยู่บ้านกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหนังและดูโทรทัศน์อยู่

“เกิดอะไรขึ้น?” หัวหน้าคนงานเอ่ยถามพลางมองไปที่ทีวีโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองพวกเขาด้วยซ้ำ “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามาที่นี่ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“เกิดปัญหานิดหน่อยครับ!” หัวหน้ากลุ่มพูดอย่างตะกุกตะกัก

“พูดมา” หัวหน้าคนงานกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้คนหลายสิบคนก็หันหน้าไปมองฟางชิวทันที

ฟางชิวก็ไม่ได้ซ่อนตัวอีกต่อไป เขาเดินออกมาจากฝูงชน และในขณะที่เดินไปหาหัวหน้าคนงาน เขาก็พูดว่า “คุณดูมีกินดีอยู่ดีมากเลยนะ ดูจากที่ตกแต่งวิลล่าซะหรูหราขนาดนี้”

“แกเป็นใคร?” หัวหน้าคนงานหันหน้าไปที่มองฟางชิวแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร” ฟางชิวกล่าวพร้อมกับส่ายหัว “คุณจำเป็นต้องรู้แค่ว่าตอนนี้ มันถึงเวลาที่คุณจะต้องคืนหนี้คนงานเหล่านั้นแล้ว”

“เฮ้…” หัวหน้าคนงานขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็มองไปที่ลูกน้องรอบตัวเขา ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา

หัวหน้าคนงานมองไปที่ฟางชิวพร้อมกับถามว่า “ฉันเป็นหนี้ใครเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องล่ะ”

“คุณเป็นหนี้ใครงั้นเหรอ?” หลังสิ้นเสียงหัวหน้าคนงานแล้ว ฟางชิวที่อยู่ห่างจากเขาสามเมตร จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาเหมือนผีทันที

ฟางชิวมองเข้าไปในตาของหัวหน้าคนงานแล้วถามว่า “แล้วคุณคิดว่าใครล่ะ”

พรึ่บ!

หัวหน้าคนงานรีบถอยหลังหนี แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่กลัวแล้วตะโกนออกไป “แกเป็นใคร? ต้องการอะไร?”

“ฉันก็บอกชัดเจนแล้ว” ฟางชิวส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันจะให้เวลาหนึ่งนาที จ่ายเงินให้คนงานซะ!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของหัวหน้าคนงานก็คล้ำเครียดลง จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังกลุ่มลูกน้องหลายสิบคนของเขาทันที เพื่อถามพวกเขาทางสายตาว่าเหตุใดพวกเขาถึงพาชายคนนี้มาที่วิลล่า

เพราะความกดดัน หัวหน้าคนงานจึงจำใจล้วงโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดโทรออกหาใครคนหนึ่ง

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน