คุรุการแพทย์ – บทที่ 141 ไร้พ่าย!

คุรุการแพทย์

บทที่ 141 ไร้พ่าย!

บทที่ 141 ไร้พ่าย!

หลังจากประกาศผลการแข่งขันไม่นานนัก บริกรสาวสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นเดินขึ้นไปหาฟางชิวแล้วพูดว่า

“ยินดีด้วยค่ะ คุณได้รับรางวัลหนึ่งพันหยวน”

บริกรสาวยิ้มพร้อมหยิบเงินหนึ่งพันหยวนออกมาจากถาดแล้วส่งให้ฟางชิว

“ขอบคุณครับ”

ฟางชิวรับเงินมาด้วยรอยยิ้ม

ชายวัยกลางที่อยู่ข้าง ๆ มองไปยังฟางชิวด้วยความตกตะลึง

เขาเป็นคนวางเดิมพันคนแรก แต่ขาดทุนไปแล้ว

ผู้ที่มั่นใจว่าจะชนะเดิมพันกลับพ่ายแพ้ กลับกลายเป็นว่าหนุ่มหน้าใหม่ที่วางเดิมพันไปส่ง ๆ เป็นฝ่ายชนะ

“น้องชาย นายดูออกอยู่แล้วหรือเดิมพันส่ง ๆ ไปอย่างนั้น?”

ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เดิมพันไปส่ง ๆ ครับ”

ฟางชิวยิ้ม

อันที่จริง เขาดูออก

ในตอนที่นักสู้ทั้งสองคนก้าวเข้าสู่สังเวียน เขาสังเกตเห็นว่านักสู้ที่ชื่อว่านซูเฉวียนนั้นมีความสามารถอยู่ในระดับที่สูงกว่าจินอี้หานไปหนึ่งระดับ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้ว

สำหรับจินอี้หาน แม้ว่าความสามารถจะดีไม่น้อย แต่ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องฝ่าฟันเพื่อเข้าไปสู่ระดับปรมาจารย์

นั่นคือเหตุผลที่ฟางชิววางเดิมพันกับว่านซูเฉวียน

แม้ว่าในใจของเขาจะรู้แจ้งชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้น ฟางชิวไม่ได้บอกในสิ่งที่เขารู้ออกไป เขาเกรงว่าตนอาจไปบิดเบือนความตั้งใจดีของเจ้าของสถานที่แห่งนี้

หากเอ่ยออกไปจริง ๆ ทุกคนล้วนต้องวางเดิมพันตามเขา นั่นจะไม่ทำให้การแข่งขันกลายเป็นการพนันหรอกหรือ?

“ถ้าผมดูออกจริง ๆ ทำไมผมจะไม่เดิมพันมากกว่านี้ล่ะครับ?” ฟางชิวกล่าว

“ก็จริง”

ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ในตอนนั้นเอง พิธีกรสาวสวยก็เดินขึ้นสังเวียน

“การแข่งขันครั้งแรกจบลงแล้ว ผู้ชนะคือว่านซูเฉวียน”

พิธีกรสาวยิ้มพลางผายมือไปยังว่านซูเฉวียนซึ่งกำลังยิ้มอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่ได้ลงจากเวที

“ต่อไป เป็นการแข่งขันครั้งที่สอง” พิธีกรสาวสวยเอ่ยต่อ “เนื่องจากชัยชนะครั้งแรกเป็นของว่านซูเฉวียน ดังนั้นเขาจะยังคงเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่สองต่อไป คู่ต่อสู้ของเขารอบนี้คือโจวไท่”

เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้าสู่สังเวียน

ชายคนนี้สวมชุดซ้อมสีดำ อายุราว ๆ สามสิบแปดหรือสามสิบเก้าปี

“โจวไท่ สถิติจากแข่งขันทั้งหมดสิบห้าครั้ง ชนะสิบสี่ครั้ง”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฝูงชนอุทานอย่างตื่นตะลึงพลางพยักหน้า

“สิบห้าครั้ง ชนะไปสิบสี่ครั้ง แข็งแกร่งน่าดู!”

“ฉันเคยเห็นเขาประลองครั้งหนึ่ง แข็งแกร่งทีเดียว ทั้งยังสามารถข่มคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา”

“ได้ยินมาว่าจุดแข็งการโจมตีด้วยมือ ดูเหมือนว่าฝ่ามือของเขาจะทรงพลังมาก”

“ว่านซูเฉวียนเพิ่งชนะการต่อสู้ ใช้กำลังไปเยอะอยู่ เขาน่าจะแพ้โจวไท่นะ”

ท่ามกลางเสียงพูดคุยของฝูงชน การเดิมพันยังคงดำเนินต่อไป ทุกคนล้วนเห็นชัยชนะในตัวโจวไท่ พวกเขาจึงพร้อมวางเดิมพัน

ชายวัยกลางคนข้าง ๆ ฟางชิวก็เดิมพันเช่นกัน

เมื่อบริกรสาวมาหาฟางชิวอีกครั้ง เธอก็มองไปยังชายหนุ่มพร้อมกับความคิดที่ว่า เขาคงจะหยิบธนบัตรหนึ่งพันหยวนในมือออกมาสักสองสามใบเพื่อวางเดิมพัน

ใครกันจะคาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเกิดดอกแต่ไม่ออกผล เก็บเงินนั้นเข้ากระเป๋า หลังจากคลำหาเงินอยู่เสี้ยววิก็หยิบเงินออกมาห้าสิบหยวนอีกครั้ง

“เดิมพันข้างว่านซูเฉวียน”

ฟางชิวกรอกแบบฟอร์มการเดิมพัน

บริกรสาวสวยหมดคำพูดในวินาที ชนะตั้งหนึ่งพันหยวน แต่ยังคงเดิมพันเพียงห้าสิบหยวน ขี้ขลาดอะไรอย่างนี้!

แต่สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกยิ่งกว่าคือด้านหลัง

ฟางชิวชนะเดิมพันอีกครั้ง…

การประลองฝีมือระหว่างนักสู้จะใช้เวลาสามถึงห้านาที แต่เพียงชั่วพริบตา ว่านซูเฉวียนก็ชนะการแข่งขันครั้งที่สอง

บริกรสาวคนนั้นมาหาฟางชิวเป็นครั้งที่สามด้วยใบหน้าทึ่ง ๆ พร้อมนำเงินมาให้เขาอีกหนึ่งพันหยวน

“รางวัลของคุณ โปรดรับไป”

“ขอบคุณครับ”

ฟางชิวยิ้มพร้อมรับเงินมา

ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ พลันตกตะลึงอีกครั้ง

นี่มันบ้าอะไรกัน! เด็กหนุ่มคนนี้วางเดิมพันถูกคนอีกแล้ว

ทำไมถึงโชคดีอย่างนี้?

ต่อมาเป็นการแข่งขันครั้งที่สาม

ว่านซูเฉวียนที่ชนะสองครั้งติดต่อกัน เขายังคงอยู่บนสังเวียน ส่วนผู้ที่ก้าวมาบนสังเวียนเป็นปรมาจารย์ที่มีสถิติชนะการแข่งขันทั้งสิบเจ็ดครั้ง ทั้งยังได้รับการยกย่องจากเจ้าภาพว่าเป็นคนแรกที่อยู่ในระดับปรมาจารย์

ชื่อของเขาคือหลินจื่อเสียง

การเดิมพันยังคงดำเนินต่อไป

“น้องชาย คราวนี้นายจะเดิมพันฝั่งไหน?”

เมื่อเห็นว่าฟางชิวชนะเดิมพันทั้งสองคน ชายวัยกลางคนผู้แพ้เดิมพันไปสองครั้งติดกันจึงเข้ามาหาพร้อมเอ่ยถามทันที

ฟางชิวเงยหน้าขึ้นมองชายสองคนบนสังเวียนอย่างลังเล

เขาสามารถบอกได้ว่า ว่านซูเฉวียนคนนี้จวนจะทะลวงผ่านขั้นแล้ว เขาคงจะห่างชั้นจากระดับปรมาจารย์อยู่เพียงเล็กน้อย และดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของการเข้าร่วมการแข่งขันก็เพื่อการทะลุทะลวงไปอีกขั้น

ชายที่ชื่อหลินจื่อเสียงเองก็แข็งแกร่งไม่น้อย ทั้งยังอยู่ในตำแหน่งเดียวกับว่านซูเฉวียน

แต่ถึงอย่างนั้น ฟางชิวก็ยังคงเห็นแนวโน้มที่ดีในตัวว่านซูเฉวียน เพราะพวกที่อยากทะลวงขั้นผ่านไปนั้่นจะต้องมีระดับการฝึกยุทธ์ที่สูง ทั้งเวลาต่อสู้ยังหลงลืมทุกสิ่งไปได้อย่างคาดไม่ถึง การเอาชนะคนประเภทนี้จึงเป็นเรื่องยาก

เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ฟางชิวจึงหยิบเงินห้าสิบหยวนออกมาอีกครั้งพร้อมลงเดิมไปพันไปที่ว่านซูเฉวียน

ห้าสิบหยวนอีกแล้ว

ถึงบริกรสาวจะไม่แสดงสีหน้า แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำตำหนิ หนุ่มคนนี้แลกแบงค์ห้าสิบมาโหลหนึ่งเพื่อมาที่นี่หรืออย่างไร!

อีกด้าน

ชายวัยกลางคนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงนำเงินออกมาห้าสิบหยวนและวางเดิมพันฝั่งว่านซูเฉวียน ในขณะที่บริกรกำลังจะจากไป เขาก็เรียกบริกรอีกครั้งพร้อมวางเงินเดิมพันไปยังเหลียงหย่งเจี๋ยห้าร้อยหยวน

“หึ ๆ”

หลังจากวางเดิมพันเรียบร้อย เขาจึงหันไปหัวเราะหึ ๆ กับฟางชิว

ผลลัพธ์ที่ออกมาคือว่านซูเฉวียนเป็นผู้ชนะอีกครั้ง…

ทั้งบริกรสาวสวยและชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างฟางชิวล้วนตกตะลึง

ให้มันได้อย่างนี้สิ!

“โชคดีอะไรอย่างนี้!”

บริกรเอ่ยพึมพำ

“จุ๊ ๆ ไม่ขาดทุนแถมได้กำไรอีกสี่ร้อยห้าสิบ… ฮ่า ๆ!”

ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

ฟางชิวหมดคำพูด

ชายคนนี้เจ้าเล่ห์พอตัว เขาจะขาดทุนได้อย่างไรหากวางเดิมพันเช่นนี้?

แม้ว่าจะเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีคนใดในที่นี้ที่ทำแบบนั้น

ธาตุแท้ของทุกคนล้วนยากจะหยั่งถึง!

และแล้วการแข่งขันครั้งที่สามสิ้นก็สุดลง

“ยังจะแข่งต่อไหม?”

พิธีกรขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งแล้วเอ่ยถามว่านซูเฉวียนที่เหนื่อยหอบเล็กน้อยหลังจากชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่สาม

“แข่ง!”

ว่านซูเฉวียนพยักหน้าอย่างมั่นใจ

พลันเกิดเสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วบริเวณ

‘เขายังพลาดอยู่นิดหน่อย’

ฟางชิวเอ่ยในใจ

เขาเห็นได้ว่าในการแข่งขันแต่ละครั้ง ความแข็งแกร่งของว่านซูเฉวียนจะเพิ่มขึ้นทีละเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถข้ามขีดจำกัดนั้นไปได้ ดังนั้น แม้ว่าพลังกายของเขาจะหมดลง แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดต่อไป

เขายังไม่รู้สึกถึงปราณฟ้าดิน!

“ดี!”

พิธีกรยิ้ม ก่อนจะเอ่ยต่อ “ต่อไป ปรมาจารย์คนนี้มาจากมณฑลใกล้เคียง ไม่เคยแพ้ใครในเมืองนั้น แข่งขันร้อยครั้ง ชนะ 99 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง”

“เขาเป็นมือหนึ่งในระดับปรมาจารย์ วันนี้เขามาที่นี่เพื่อร่วมแข่งขันกับเรา!”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนล้วนตื่นตกใจ

มีคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ด้วยหรือ?

ไร้พ่ายเป็นร้อยเกม?

เมื่อพิจารณาจากสถิตินี้ ชายที่กำลังจะขึ้นสังเวียนถือเป็นปรมาจารย์ในระดับปรมาจารย์อย่างแท้จริง!

“ขอเชิญ เหลียงหย่งเจี๋ย!”

พิธีกรบนสังเวียนตะโกนด้วยความฮึกเหิม

หลังจากกล่าวจบ ชายหนุ่มในชุดกีฬาก็ก้าวเข้าสู่สังเวียนด้วยใบหน้าเฉยชา

เมื่อเห็นว่าเหลียงหย่งเจี๋ยอายุน้อยเพียงใด ทุกคนพลันตกตะลึงอีกครั้ง

อายุยังน้อยเพียงนี้แต่ช่างโดดเด่น พรสวรรค์น่าทึ่งจริง ๆ!

อีกด้าน

ว่านซูเฉวียนที่ต่อสู้มาสามครั้งติดต่อกันดูเหนื่อยล้า แต่ทันทีที่เขาเห็นเหลียงหย่งเจี๋ย ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเขาหายไปโดยพลัน ทั้งยังถูกแทนที่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

“เอาล่ะ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ถึงเวลาที่แขกผู้มีเกียรติจะวางเดิมพัน” พิธีกรกล่าวเสียงดัง

บริกรทั้งสี่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ ฟางชิวยังคงลงเดิมพันด้วยเงินห้าสิบหยวน

หากแต่แตกต่างกับครั้งก่อนหน้า เขาไม่ได้วางเดิมพันฝั่งว่านซูเฉวียน แต่กลับวางเดิมพันฝั่งเหลียงหย่งเจี๋ย

บริกรก็เริ่มสงสัยในทันที เพราะตอนแรกฟางชิววางเดิมพันฝั่งว่านซูเฉวียนสามครั้งติดต่อกัน ในความคิดของเธอ ฟางชิวอาจโชคดีจริง ๆ หรือไม่ก็เป็นแฟนตัวยงของว่านซูเฉวียน ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงวางเดิมพันแบบนั้นสามครั้งติดต่อกัน

แต่ครั้งที่สี่นี้ ทำไมถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน?

“น้องชาย ทำไมถึงไม่เดิมพันข้างว่านซูเฉวียนล่ะ?”

ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างฟางชิวออกปากถามด้วยความสงสัยไม่น้อย

บริกรเองยังคงจ้องมองฟางชิวอยู่ด้วยความอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจด้วยเช่นกัน

“ว่านซูเฉวียนเหนื่อยขนาดนั้น เหลียงหย่งเจี๋ยชนะแน่ ๆ ครับ” จากนั้นฟางชิวก็เอ่ยถามด้วยความงุนงง “ผลการแข่งขันนี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอครับ?”

ชายวัยกลางคนตัวแข็งค้าง รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาโดยพลัน

ความจริงที่เรียบง่ายเช่นนี้ เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร

ก็จริง ว่านซูเฉวียนผู้นี้ต่อสู้มาสามครั้งติดกัน กำลังกายย่อมหมดลง ส่วนเหลียงหย่งเจี๋ยเป็นปรมาจารย์ผู้ไร้พ่ายในการต่อสู้ ทุกคนย่อมวางเดิมพันไปที่เหลียงหย่งเจี๋ย

“ฉันเดิมพันห้าร้อยหยวนฝั่งเหลียงหย่งเจี๋ย!”

ไม่ต้องรอให้บริกรเอ่ยอะไร ชายวัยกลางคนรีบส่งเงินให้ทันที

หลังจากเดิมพันเสร็จ บริกรจึงออกไป

ฟางชิวรู้ว่าเหลียงหย่งเจี๋ยเป็นปรมาจารย์ตัวจริง แม้ว่าว่านซูเฉวียนจะห่างชั้นกับระดับปรมาจารย์เพียงเล็กน้อย ช่องว่างนี้ไม่ใช่พลังกายแต่อย่างใด ถึงว่านซูเฉวียนจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมสู้ แต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลียงหย่งเจี๋ย

เป็นเพราะสาเหตุนี้ ฟางชิวจึงวางเงินเดิมพันไปที่เหลียงหย่งเจี๋ย

ไม่นาน การแข่งขันก็เริ่มขึ้น พิธีกรจึงก้าวลงจากสังเวียน

“ให้เวลาคุณพักห้านาที”

เหลียงหย่งเจี๋ยมองไปยังว่านซูเฉวียนพร้อมเอ่ยคำ “ผมไม่สู้กับคนอ่อนแอกว่า”

ไม่สู้กับคนอ่อนแอกว่า?

เพียงประโยคเดียวก็แสดงถึงความโอหังอวดดีเต็มที่ นี่นับว่ายั่วยุว่านซูเฉวียนไม่น้อย

ยังไม่ทันได้แข่งเลย

อีกฝ่ายกลับจัดเขาไว้ในกลุ่มคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองแล้ว เขาจะยอมรับมันได้อย่างไร?

“ลงมือเถอะ!”

ว่านซูเฉวียนเอ่ยคำด้วยความคับแค้นใจ

“ผมไม่สู้กับคนที่อ่อนแอกว่า” เหลียงหย่งเจี๋ยยังคงอวดดี

“ฮึ่ม!”

ใบหน้าของว่านซูเฉวียนเต็มไปด้วยความโกรธ เขาก้าวเท้าด้วยความเร็วตามหลักแปดทิศ เหวี่ยงกำปั้นพร้อมโจมตีไปที่อีกฝ่ายทันที

โจมตีอย่างรุนแรง?

เหลียงหย่งเจี๋ยเบะปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม

ชายหนุ่มหมดสิ้นซึ่งความลังเล มือของเขาขยับเหมือนงูสองตัวที่กำลังเลื้อย ก่อนจะพุ่งโจมตีว่านซูเฉวียนด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก

เนื่องจากความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ทั้งสองจึงต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!

เสียงการกระทบกระแทกกันดังสนั่นต่อเนื่องราวกับเม็ดฝน ฝูงชนล้วนเกิดความสนใจทันที

บนสังเวียนทั้งสองกำลังปะทะกันด้วยความเร็วมหาศาล และแม้ว่ามันจะรุนแรง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ขยับเท้าเลยแม้แต่น้อย พวกเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมพร้อมต่อสู้กันอย่างดุเดือด

“เร็วมาก!”

“ใช่ สองคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

“ว่านซูเฉวียนต่อสู้มาแล้วสามครั้ง แต่เขายังคงมีกำลังกายที่ทรงพลังเช่นนี้ สุดยอดเลย! ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครได้เปรียบนะ”

“ถึงจะดูเหมือนเสมอกัน แต่จริง ๆ แล้วว่านซูเฉวียนเสียเปรียบตั้งแต่แรก”

“ยังไง?”

“พวกคุณเห็นไหมว่าว่านซูเฉวียนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถหาช่องทางโจมตีได้เลย แต่ถูกบังคับให้ตั้งรับ ถึงจะอาศัยพละกำลังมหาศาลเพื่อป้องกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ชั่วคราว แต่หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า”

ฝูงชนต่างหันไปจ้องมอง และแล้วก็พบว่าเป็นความจริง

ความเร็วในการโจมตีของทั้งสองทำให้ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็นความจริงข้อนี้แต่อย่างใด

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน