คุรุการแพทย์ – บทที่ 153 เก่งทุกคนเลย!

คุรุการแพทย์

บทที่ 153 เก่งทุกคนเลย!

บทที่ 153 เก่งทุกคนเลย!

“ฮ่า ๆ…”

นักศึกษาต่างตั้งใจฟังคำชมเชยจากผู้บริหารของทั้งแปดมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง เฉินอินเซิงได้แต่หัวเราะ ก่อนจะผายมือออกไปพร้อมเอ่ยคำ “เชิญครับ ห้องประชุมพร้อมแล้ว”

เมื่อกล่าวจบ ผู้บริหารและนักศึกษาจากแปดมหาวิทยาลัยซึ่งนำโดยเฉินอินเซิงและผู้บริหารมหาวิทยาลัยอีกหลายคนก็เดินไปยังห้องประชุมขนาดใหญ่ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ณ อาคารสำนักงานของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน

ณ ห้องประชุม

ที่ตรงกลางของห้องประชุมมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ นั่งรอบโต๊ะกลมนั้น

ด้านหลังผู้บริหารแต่ละมหาวิทยาลัย คือนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนั้น ๆ

หลังจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยและนักศึกษาทั้งแปดคนนั่งลง นักศึกษาทั้งเก้าคนจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเดินเข้าไปในห้องประชุม

ตามหลักแล้ว ในฐานะเจ้าภาพ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงควรมาถึงและรอรับแขกที่ห้องประชุมก่อนตามมารยาท

แต่สาเหตุที่ฟางชิวรวมถึงนักศึกษาคนอื่น ๆ มาถึงช้านั้นเป็นความตั้งใจของผู้บริหารมหาวิทยาลัยตั้งแต่แรก

ผู้ปรากฏตัวท้ายสุดเปรียบดั่งคนสำคัญที่สุด

เป้าหมายคือเพื่อให้เจ้าภาพได้แสดงความสามารถที่มีอย่างเต็มที่!

อย่างไรเสีย ที่นี่คืออาณาเขตของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ทั้งแปดมหาวิทยาลัยมารวมตัวกันที่นี่เพื่อการแข่งขัน ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดต้องสู้กันแบบตัวต่อตัว อย่างนั้นแล้วทำไมถึงจะไม่แสดงอำนาจตั้งแต่เริ่มล่ะ?

ฟางชิวที่เดินเข้าไปในห้องประชุมดึงดูดความสนใจของผู้บริหารและนักศึกษาของอีกแปดมหาวิทยาลัยในทันที

ตรงที่นั่งของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ย เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยซึ่งนั่งอยู่ในลำดับแรกของนักศึกษาทั้งหมดยิ้มให้ฟางชิวทันทีเมื่อเห็นเขา

ฟางชิวยิ้มตอบ เขาจึงไม่ทันสังเกตว่าแววตาของเจียงเหมี่ยวอวี๋ซึ่งอยู่ข้างหลังเขาหม่นแสงลง

แม้ว่าจะมีอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจ แต่เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็ไม่ได้เปิดเผยมันออกมา ทั้งยังส่งยิ้มกลับไปให้กับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย

เพราะถึงอย่างไร ทั้งสองก็รู้จักกัน

แต่นักศึกษาคนอื่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับแตกต่างออกไป

ทุกคนรู้ว่าฟางชิวอยู่ในอันดับที่หนึ่ง ทุกสายตาจึงมุ่งความสนใจไปที่ชายหนุ่ม พวกเขาอยากรู้ว่าฟางชิวเป็นคนแบบไหน แต่ผลได้ที่ออกมา กลับกลายเป็นว่าพวกเขาล้วนถูกดึงดูดโดยความงามของเจียงเหมี่ยวอวี๋แทน

คนกลุ่มหนึ่งจ้องมองไปยังเจียงเหมี่ยวอวี๋ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ทั้งยังมองอย่างเอาเป็นเอาตาย

พอหันกลับมามองเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยอีกครั้ง

ทั้งคู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ให้ตายสิ! ทำไมมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงถึงมีนักศึกษาที่สวยแบบนี้ ทำไมมหาวิทยาลัยของเราไม่มีเลย!”

“มาถูกที่แล้วจริง ๆ นี่แค่วันแรกก็ได้เจอสาวงามถึงสองคนแล้ว”

“ว้าว พวกเราช่างโชคดี”

นักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยแอบกระซิบกระซาบกันอย่างอดไม่ได้

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยที่ซึ่งเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเรียนอยู่นั้น ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงสามารถประชันความงามกับดาวมหาวิทยาลัยของพวกเขาได้

พวกเขาคิดว่าจะสามารถบดขยี้มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้ตั้งแต่เรื่องหน้าตา ใครกันคาดคิดว่าคะแนนจะเสมอกัน

เมื่อใช้หน้าตามาสู้ได้ งั้นต้องแข่งกันด้วยมันสมองล้วน ๆ!

ทุกคนรู้ว่านี่คือการประชุม ดังนั้นต่างคนต่างรวบรวมสติ ก่อนจะนั่งตัวตรง

เฉินอินเซิงเองก็บอกให้ทั้งเก้าคนรวมถึงฟางชิวนั่งลง และไม่มีใครมาเพิ่มอีก

เท่าที่เห็นในตอนนี้ ผู้เข้าแข่งขันอย่างเป็นทางการทั้งเก้าคนนี้ยังไม่พบปัญหาอะไร จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้ตัวสำรอง

เฉินอินเซิงยืนขึ้น กวาดสายตามองไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัยและนักศึกษาทุกคนที่เข้าร่วมด้วยรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยคำ “ในฐานะรองอธิการบดี ผมในนามของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ยินดีต้อนรับทุกท่าน!”

เขาปรบมือต้อนรับหลังเอ่ยจบ ทุกคนจึงปรบมือเช่นกัน

“หวังว่าผู้บริหารและนักศึกษาทุกคนจะมีช่วงเวลาที่ดีในช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงของเรา”

หลังจากเสียงปรบมือเงียบลง เฉินอินเซิงพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยต่อ “ต่อไป การประชุมจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ขอให้แต่ละมหาวิทยาลัยแนะนำตัวเองตามธรรมเนียม งั้นเรา… จะเริ่มต้นด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวแนะนำนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตนเองสักหน่อยครับ”

เขาเอ่ยด้วยยิ้มพลางชี้ไปยังรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวที่อยู่ด้านซ้ายมือ

รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวเป็นชายวัยกลางคน สวมชุดสูท เซ็ตผมอย่างดี และมีใบหน้าเหลี่ยม อายุของเขาประมาณสี่สิบปี ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“สวัสดีทุกคนครับ ผมรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจว จางกั๋วต้งครับ”

จางกั๋วต้งแนะนำตัวเอง แล้วเอ่ยต่อ “ต่อไป ผมจะแนะนำให้รู้จักกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเราที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้”

“คนแรก เถาอี้หราน”

“เขาเป็นลูกหลานจากตระกูลแพทย์แผนจีน ตระกูลเถา”

ทุกคนมองไปยังนักศึกษาคนนั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ทายาทตระกูลแพทย์แผนจีน!

หากในโลกนี้มีทายาทเศรษฐีกับคนธรรมดา เถาอี้หรานคนนี้ก็คงเป็นทายาทเศรษฐีของโลกการแพทย์แผนจีน

เขาเกิดในครอบครัวแพทย์แผนจีน ย่อมต้องคลุกคลีกับแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังมีความเข้าใจในการแพทย์แผนจีนกว่านักศึกษาคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด

“เถาอี้หรานคือผู้ที่ได้อันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยของเราด้วยคะแนนเต็มในการทดสอบ”

เมื่อเห็นความประหลาดใจจากทุกคน จางกั๋วต้งก็ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยคำอีกครั้ง ทว่าพอนักศึกษาทุกคนได้ยินคำพูดนั้น สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความระแวดระวังโดยพลัน

เถาอี้หรานคนนี้เป็นศัตรูที่น่ากลัว!

ในขณะเดียวกัน หลังจางกั๋วต้งให้สัญญาณ เถาอี้หรานก็ยืนขึ้น ก่อนจะค้อมศีรษะให้ทุกคนเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม

เขาเป็นนักศึกษาที่มีรูปร่างผอมบาง ทั้งยังดูค่อนข้างอ่อนแอ สวมชุดนักศึกษาเรียบร้อย ผมของเขาไม่ยาวไม่สั้น แสกผมบางส่วน ใบหน้าเป็นรูปแตงโม น่าเสียดายที่เขาสวมแว่นตา มิฉะนั้นรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเพียงอย่างเดียวก็สามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย

“คนที่สอง หวังจื้อซิ่ง”

นักศึกษาอีกคนยืนขึ้น เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้ว คนคนนี้ค่อนข้างท้วม ใบหน้ากลม แม้จะไม่ได้ตัวสูงมากนัก แต่ก็เป็นที่ถูกใจไม่น้อยตั้งแต่แรกเห็น

“แม้ว่าหวังจื้อซิ่งจะไม่ได้เกิดในครอบครัวแพทย์แผนจีน แต่เขาอ่านหนังสือทางการแพทย์มาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังศึกษาหนังสือทางการแพทย์ทุกประเภทที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในโลก ซึ่งรวมถึงตำราเกี่ยวกับทฤษฎีว่าด้วยไข้ตัวร้อนและโรคเบ็ดเสร็จก็สามารถท่องได้โดยไม่พลาดสักคำ” จางกั๋วต้งแนะนำด้วยรอยยิ้ม

ความตื่นตะลึงพลันเกิดขึ้นกับทุกคนอีกครั้ง

“เก่งขนาดนี้เลย?”

“ไม่มีทาง ขนาดวรรณกรรมคลาสสิคตอนเรียนมัธยมฉันยังจำไม่ได้เลย แต่คนคนนี้กลับจดจำทฤษฎีว่าด้วยไข้ตัวร้อนและโรคเบ็ดเสร็จทั้งหมดได้งั้นเหรอ?”

“พระเจ้า ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นปีศาจหรือเปล่าเนี่ย”

เกิดการกระซิบถกเถียงกันเป็นวงกว้าง แต่ไม่มีใครปล่อยให้มหาวิทยาลัยอื่นได้ยิน พวกเขาพูดกับนักศึกษามหาวิทยาลัยของตัวเองเท่านั้น

แต่การพูดคุยทั้งหมดล้วนเข้าหูฟางชิว คำเดียวก็ไม่ขาด

อีกด้าน หวังจื้อซิ่งที่จางกั๋วตงเป็นผู้แนะนำค้อมศีรษะให้ทุกคนก่อนจะนั่งลง

จากนั้นจางกั๋วตงก็แนะนำอันดับสามถึงอันดับเก้า การแนะนำแต่ละครั้งจะเล่าภูมิหลังอันทรงพลังที่สามารถทำให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่นตกตะลึง

พอการแนะนำตัวของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวจบลง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจงโจวที่อยู่ทางด้านซ้ายก็ตอบรับ ก่อนจะเริ่มแนะนำนักศึกษาของเขา

“อันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยเราเป็นทายาทตระกูลแพทย์แผนจีน…”

“มีทายาทตระกูลแพทย์แผนจีนอีกคนเนี่ย?”

“นี่พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อเพิ่มความกดดันเราเหรอ?”

“การแข่งขันมีคนเก่งขนาดนี้เลยเหรอ? แต่ละคนเก่งกันทั้งนั้นเลย!”

“ใครเหรอ?”

พวกเขาพากันกระซิบพึมพำพร้อมกับทำสายตาสงสัย

รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว ผายมือออกไปพร้อมชี้ไปยังนักศึกษาคนแรกที่นั่งอยู่ข้างหลังก่อนจะเอ่ยว่า “ซูจือโม่”

ทุกคนหันไปมอง แม้ว่าเขาจะสวมชุดนักศึกษา แต่ทรงผมของเขาอินเทรนด์ทีเดียว ผมของเขาถูกเซ็ตขึ้นสูงจึงเผยให้เห็นใบหน้าทั้งหมด ไหนจะดวงตาเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน ดูอย่างไรคนคนนี้ก็หล่อไม่น้อย

“ทำไมทายาทตระกูลแพทย์แผนจีนถึงได้ผิวดีขนาดนี้”

“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขามาจากครอบครัวแพทย์จีน พวกเขาดูแลผิวตั้งแต่ยังเด็ก ผิวของพวกเขาจะแย่ได้ไง?”

“น่าอิจฉา อยากเกิดมาในครอบครัวแพทย์แผนจีนบ้างจัง”

เสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบาจากนักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งดังเข้าหูฟางชิวทันที

ในขณะเดียวกัน

ซูจือโม่ยืนขึ้น ก่อนจะค้อมศีรษะเล็กน้อยให้ทุกคน

จุดนี้ทำให้นักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งตะลึงทันที

เขาสูงมากทีเดียว

สูงเกือบร้อยเก้าสิบใช่ไหมนั่น?

ในขณะที่ทุกคนกำลังจ้องมองไปยังซูจือโม่ด้วยความอิจฉา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจงโจวก็เอ่ยขึ้น “มัวแต่ยุ่งอยู่กับการแนะนำนักศึกษาแก่ทุกท่านจนลืมแนะนำตัวไปเลย”

“สวัสดีทุกคน ฉันรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว ซ่งเหวินหัว”

ได้ยินดังนั้น นักศึกษาก็ปรบมือทันที

“โอเค ต่อไป”

หลังจากแนะนำตัวเอง ซ่งเหวินหัวจึงผายมือไปยังหญิงสาวข้าง ๆ ซูจือโม่พร้อมเอ่ยแนะนำ “หร่วนซือจิ้ง”

ทุกคนหันไปมองภาพที่เธอลุกขึ้น หร่วนซือจิ้งเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างเงียบขรึม ดูดีทีเดียว เธอตัดผมสั้นที่ดูฉลาดเฉลียว แม้จะอยู่ในชุดนักศึกษา แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง

“หร่วนซือจิ้งเคยได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ความสามารถของเธอในทุกด้านเรียกได้ว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบ” ซ่งเหวินหัวกล่าวแนะนำ

ให้ตายเถอะ!

แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่!

ทุกคนพลันตะลึงงัน

หร่วนซือจิ้งยกยิ้มพร้อมค้อมศีรษะเล็กน้อยไปทางฝูงชน

“คนต่อไป”

ซ่งเหวินหัวเอ่ยแนะนำต่อ

ไม่รู้ว่าจงใจหรือเพราะเหตุผลอื่น ทุกครั้งที่แนะนำ ซ่งเหวินหัวจะเอ่ยถึงข้อดีของนักศึกษาคนนั้นพร้อมกับประดิดประดอยคำพูดจนใคร ๆ ล้วนอดประหลาดใจไม่ได้

ทั้งห้องประชุมจึงมีเสียงอุทานดังขึ้นบ่อยครั้ง

อีกด้านหนึ่ง

เฉินอินเซิง รวมถึงผู้บริหารคนอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงฟังผู้บริหารของอีกแปดมหาวิทยาลัยเริ่มหนักใจขึ้นเรื่อย ๆ

“ให้ตาย ทำไมพวกเขาถึงเก่งขนาดนี้?”

เฉินอินเซิงรู้สึกแย่ไม่น้อย เขาเกิดความหวั่นใจขึ้นมา

ความสามารถของนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยล้วนโดดเด่นไม่น้อย ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนจีนนั้นแทบจะเป็นแพทย์แผนจีนโดยกำเนิด พวกเขาชนะตั้งแต่เริ่มโดยไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ

การแนะนำตัวใช้เวลาไม่นาน หลังจากซ่งเหวินหัวแนะนำเสร็จสิ้น ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเป่ยก็ยืนขึ้นทันที

“สวัสดีทุกคนครับ ผมรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย เจียงไห่”

ชายคนนี้สูงและผอม มีรอยยิ้มบนใบหน้า ให้ความรู้สึกเป็นมิตรยามที่สบมอง

ทุกคนจึงปรบมือต้อนรับขับสู้

“ต่อไป ผมขอแนะนำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเรา”

เจียงไห่เอ่ยด้วยร้อยยิ้ม “อันดับหนึ่ง เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย”

“ผลสอบเข้าวิทยาลัยระดับมณฑลเป็นอันดับหนึ่ง ผลสอบเข้าวิทยาลัยประจำจังหวัดเป็นอันดับสาม ในการทดสอบของมหาวิทยาลัยนี้เธอก็ได้คะแนนเต็ม””

เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยลุกขึ้นเป็นการตอบรับ

“แน่นอน คนสวยย่อมมีเสน่ห์!”

“สาวสวยเด็กเทพ ยิ่งมีเสน่ห์!”

“อย่าถูกหลอกด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอเชียว แม้ว่าเธอจะไม่ได้มาจากตระกูลแพทย์แผนจีน แต่ได้คะแนนเต็มร้อยก็ถือว่าเก่งมากแล้ว บางทีการแข่งขันนี้อาจตกอยู่ในมือของเธอ?”

“คนคนหนึ่งจะทั้งสวยทั้งเรียนเก่งเลยเหรอ? ถึงจะสวย แต่เราก็เป็นคู่แข่งกับเธอ เรายิ่งต้องระวังให้มากขึ้นต่างหาก!”

เสียงอุทานอย่างประหลาดใจกระทบโสตของฟางชิวอีกครั้ง หลายคนต่างยกให้เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเป็นตัวเต็งที่ควรระวังทันที

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท