คุรุการแพทย์ – บทที่ 158 อะไรนะ ส่งกระดาษคำตอบแล้ว

คุรุการแพทย์

บทที่ 158 อะไรนะ? ส่งกระดาษคำตอบแล้ว?

บทที่ 158 อะไรนะ? ส่งกระดาษคำตอบแล้ว?

ในห้องสอบ

หลังจากเห็นแบบทดสอบแล้ว กรรมการคุมสอบก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับนักศึกษาที่กำลังตอบคำถาม

กรรมการคุมสอบเองก็คิดว่าแบบทดสอบครั้งนี้ยากเกินไป

“นักศึกษาเหล่านี้จะทำเสร็จไหมนะ”

“นี่มันไม่ควรเป็นแบบทดสอบสำหรับน้องใหม่เลย!”

“ใครที่ทำได้ต้องเก่งมากแน่ ๆ”

“ใครเป็นคนตั้งโจทย์กัน น่ากลัวไปแล้ว”

กรรมการคุมสอบแต่ละห้องมองดูกระดาษคำถามเหล่านี้ด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก เพราะแบบทดสอบที่ยากแบบนี้ มันไม่เหมือนใช้ทดสอบนักศึกษาเลย แต่เหมือนใช้ทดสอบพวกเขามากกว่า

ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาเลย กระทั่งพวกเขาก็ยังปวดหัวหลังจากที่เห็นแบบทดสอบแล้ว

แล้วก็เป็นไปตามที่กรรมการคุมสอบคาดการณ์ไว้ นักศึกษาหลายคนเริ่มเกาหัว เพราะทุกคนกำลังเจอปัญหา นั่นคือการตอบคำถามไม่ได้

ณ ห้องสอบหมายเลขหนึ่ง

ทุกคนพบว่ามีผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งกำลังเขียนคำตอบอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้หยุดเขียนเลยตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน และความเร็วในการตอบคำถามของเขาก็เร็วมากด้วย

คนคนนั้นก็คือฟางชิว

เมื่อเห็นฟางชิวตอบคำถามอย่างรวดเร็ว นักศึกษาในห้องสอบหมายเลขหนึ่งก็รู้สึกประหลาดใจมาก

พวกเขารู้ดีว่าแบบทดสอบนี้มันยากมากแค่ไหน ในสายตาของพวกเขา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนทำแบบทดสอบเสร็จได้อย่างราบรื่น

ทว่าฟางชิวก็ได้แสดงให้พวกเขาเห็นแล้วว่า เขาสามารถทำแบบทดสอบเสร็จได้อย่างราบรื่นเพียงใด

ด้วยความประหลาดใจนี้เอง ทุกคนจึงแอบกระซิบกันเบา ๆ

“ผู้ชายคนนั้นเขียนเร็วมากเลย แต่คงข้ามคำถามข้อยาก ๆ แล้วไปตอบคำถามข้อง่าย ๆ แทนใช่ไหม?”

ทุกคนรู้จักฟางชิว แล้วก็ยังรู้อีกว่าเขาเป็นนักศึกษาที่เก่งที่สุดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง แถมยังได้คะแนนเต็มในทำแบบทดสอบครั้งก่อนอีกด้วย

ทว่าแบบทดสอบครั้งนี้ไม่เหมือนกับแบบทดสอบครั้งก่อน เพราะความยากของคำถามสูงขึ้นหลายเท่า แม้ว่าความฉลาดของฟางชิวจะเฉียบแหลมมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะตอบคำถามได้รวดเร็วแบบนี้

นักศึกษาในห้องสอบหมายเลขหนึ่งต่างกระซิบคุยกันด้วยความสงสัย

จูเปิ่นเจิ้งและเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่อยู่ในห้องสอบเดียวกับฟางชิวก็ประหลาดใจเช่นกัน

ในห้องควบคุมการแข่งขัน

ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยกำลังนั่งดูการแข่งขันของนักศึกษาผ่านกล้องวงจรปิด

“ความเร็วตกลงแล้ว” เจียงไห่กล่าวว่า “พวกนักศึกษาน่าจะทำคำถามง่าย ๆ เกือบหมดแล้ว แต่คำถามต่อไปน่าจะยากมาก”

“น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ” จางกั๋วต้งพยักหน้าเบา ๆ และกล่าวเสริมว่า “เพราะนักศึกษาทั้ง 81 คนเป็นนักศึกษาหัวกะทิที่ได้รับคัดเลือกจากเก้ามหาวิทยาลัย แม้ว่าพวกเขาจะเป็นน้องใหม่ แต่พวกเขาก็มีพรสวรรค์กันทุกคน ถึงจะอย่างนั้นคำถามบางคำถามก็ยากเกินความรู้ของพวกเขาอยู่ดี”

“พวกเราต้องเชื่อใจพวกเขา” เฉินอินเซิงกล่าว “พวกเขาเป็นความหวังในอนาคตของวงการแพทย์แผนจีน ถึงคำถามจะยาก แต่คำถามพวกนี้จะทำให้พวกเขาพัฒนาความรู้ของตนเอง”

“นั่นอะไรน่ะ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงประหลาดใจดังขึ้น

อธิการบดีของมหาวิทยาลัยหนึ่งชี้ไปยังกล้องวงจรปิดตัวที่สอง ซึ่งกำลังฉายให้เห็นนักศึกษาคนหนึ่งกำลังตอบคำถามอย่างรวดเร็ว นักศึกษาคนนั้นไม่ได้สนใจนักศึกษาคนอื่นที่เอาแต่นั่งเกาหัวอยู่เลยแม้แต่น้อย อธิการบดีคนนั้นจึงพูดว่า “นักศึกษาคนนี้ดูจะเก่งมากเลยนะ”

เขาหันมามองเฉินอินเซิงด้วยสายตาซับซ้อนแล้วพูดขึ้นมาว่า “นักศึกษาคนนี้ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษาที่ชื่อฟางชิวจากมหาวิทยาลัยของคุณนะครับ”

เมื่อเฉินอินเซิงแน่ใจว่าเป็นฟางชิวจริง เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มทันที

ในเวลานี้ เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยที่เหลือก็สังเกตเห็นฟางชิวเช่นกัน

“นักศึกษาคนนี้ร้ายกาจมาก พวกคุณเห็นไหมว่าขณะที่คนอื่นกำลังงุนงงกับคำถาม แต่เขาไม่หยุดเขียนคำตอบเลย ทำเหมือนตอบคำถามได้ทั้งหมดอย่างนั้นแหละ” ระหว่างที่เจียงไห่กำลังพูด เจ้าตัวก็กล่าวชื่นชมเฉินอินเซิงว่า “เหล่าเฉิน ลูกศิษย์ของคุณยอดเยี่ยมมาก!”

ซ่งเหวินหัวมองไปยังหน้าจอนั้นด้วยความประหลาดใจ “ฉันไม่นึกเลยว่านักศึกษาคนนี้จะมีความรู้รอบด้านขนาดนี้ เขาไม่ได้มีแค่ไอเดียดี ๆ แต่เขายังทำแบบทดสอบได้ดีด้วยสินะ”

“ฉันเฝ้าดูเขาตั้งแต่แรกแล้ว” อธิการบดีของมหาวิทยาลัยคนหนึ่งกล่าว “เด็กคนนี้ไม่ได้หยุดมือเลยตั้งแต่เริ่มสอบ ดูเหมือนเขาไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดด้วยซ้ำ คงจะได้เต็มแน่ ถ้าทำคะแนนได้ถึงแปดสิบคะแนนก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเลยล่ะ”

ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดีของทุกคน เฉินอินเซิงก็หัวเราะออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “ความเชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนของเขาค่อนข้างจะสูงน่ะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าใบหน้าของเหล่าผู้บริหารแต่ละมหาวิทยาลัยจะยิ้มออกมา แต่ภายในใจของพวกเขาก็รู้สึกเป็นกังวลมากทีเดียว

ถ้าฟางชิวทำแบบทดสอบเร็วแบบนี้ ก็แสดงว่าเขารู้คำตอบของคำถามทั้งหมดแบบทดสอบ แล้วมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็จะชนะ

แต่นี่ก็เป็นแค่การคาดเดาและการชื่นชมเท่านั้น

ถ้าเกิดว่าเด็กคนนี้ทำแบบทดสอบออกมาได้ไม่ดีล่ะ? เพราะเป็นไปได้ว่ายิ่งฟางชิวเร็วเท่าไร เขาก็จะยิ่งทำผิดพลาดมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเห็นความเร็วของฟางชิวแล้ว เหล่าผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยก็หวังว่านักศึกษาของพวกเขาจะค่อย ๆ เขียนคำตอบแต่ละข้ออย่างระมัดระวัง เพราะจะได้ไม่ทำผิดพลาดในสิ่งที่ไม่น่าจะพลาด

ณ ห้องสอบหมายเลขหนึ่ง

ฟางชิวตอบคำถามอย่างรวดเร็วโดยไม่ข้ามข้อไหนไปเลย เขาใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการคำถามอัตนัยข้อสุดท้าย

“หืม?” เมื่อเห็นคำถามอัตนัยข้อสุดท้าย ฟางชิวก็ผงะไปเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมา

คำถามนี้มันเกี่ยวกับบทที่สองของ ‘คัมภีร์เน่ยจิง’ ที่กล่าวถึงความสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในแต่ละฤดูกาล

“อย่างนี้นี่เอง” เมื่อเห็นคำถามนี้ ฟางชิวก็เข้าใจทันทีว่าทำไมถึงต้องขยายเวลาทำแบบทดสอบเป็นหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

เพราะมันไม่ได้เสียเวลาแค่ในการเขียนเท่านั้น แต่ยังเสียเวลาในการเขียนตัวหนังสือโบราณด้วย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้

แม้ว่าจะมีใครบางคนจำได้ แต่พวกเขาก็ต้องคิดอย่างรอบคอบแล้วถึงจะเขียนลงไปทีละคำ

สำหรับฟางชิวแล้ว นี่เป็นคำถามที่จะทำให้เขาได้คะแนนเต็ม เขาไม่ได้อ่าน ‘คัมภีร์เน่ยจิง’ หนึ่งร้อยครั้งแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลยหรอกนะ!

ฟางชิวจะเขียน ‘คัมภีร์เน่ยจิง’ ทั้งเล่มก็ยังได้

จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มเขียนคำตอบลงไปทันที

‘ฤดูใบไม้ผลิในเดือนมีนาคมคือการเกิดของสรรพสิ่ง แล้วทุกสรรพสิ่งก็มีแต่ความรุ่งโรจน์…’

บทความทั้งหมดมีเกือบแปดร้อยคำ ฟางชิวใช้เวลาเขียนครึ่งชั่วโมง เพราะเขาค่อย ๆ เขียนทีละคำ

เหตุผลที่ฟางชิวค่อย ๆ เขียนทีละคำนั้น เป็นเพราะเขากลัวว่าตนเองจะเขียนได้ไม่เรียบร้อย กลัวคนตรวจจะอ่านไม่ออกแล้วคิดไปว่าเขาเขียนคำตอบผิด ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังอย่างมาก

หลังจากตรวจสอบกระดาษคำตอบทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ฟางชิวก็ลุกขึ้นยืนทันที

“อาจารย์ครับ ผมขอส่งกระดาษคำตอบครับ”

“ว่าไงนะ?” คำพูดของฟางชิวทำให้นักศึกษาคนอื่น ๆ ในห้องสอบตกตะลึง

แม่งเอ๊ย!

เพิ่งจะชั่วโมงเดียวเอง

เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงก่อนจะหมดเวลาทำแบบทดสอบ นี่เขาจะส่งกระดาษคำตอบแล้วเรอะ!?

ตอนแรกพวกเขาเห็นฟางชิวตอบคำถามโดยไม่หยุดพัก นึกว่าฟางชิวจะยอมแพ้แล้วเขียนคำตอบลงไปตามอำเภอใจซะอีก

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะส่งกระดาษคำตอบเร็วแบบนี้!

ผู้ชายคนนี้ทำแบบทดสอบเสร็จ โดยที่ไม่ยอมแพ้จริง ๆ หรือ?

ทุกคนเริ่มอารมณ์เสียทันที

‘ไอ้คนประหลาดนี่!’

จูเปิ่นเจิ้งที่นั่งอยู่ไกลจากฟางชิวเงยหน้าขึ้นมองเจ้าห้าประจำห้องพักแล้วสบถในใจ จากนั้นก็เร่งความเร็วในการตอบคำถาม

แต่นักศึกษาอีกคนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่ทำแบบทดสอบอยู่ในห้องเดียวกันกับฟางชิวกลับรู้สึกมีความสุขมาก

การที่ฟางชิวทำเช่นนี้ แรงกดดันของนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้น หากมีแรงกดดันมากก็ย่อมมีโอกาสผิดพลาดสูง แล้วมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็จะได้เปรียบทันที

ส่งกระดาษคำตอบ?

หลังจากที่กรรมการคุมสอบทั้งเก้าคนได้ยินคำพูดนั้นแล้ว พวกเขาก็หันไปมองฟางชิว เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยืนขึ้นและต้องการส่งกระดาษคำตอบจริง ๆ กรรมการคุมสอบทั้งเก้าคนก็อ้าปากค้างด้วยความอึ้ง

ตลอดการคุมสอบเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง พวกเขาได้ลองอ่านคำถามในกระดาษทดสอบทุกข้อแล้ว ทำให้พวกเขารู้ดีว่าแบบทดสอบนี้มันยากแค่ไหน

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่คิดว่าจะมีใครทำเสร็จเร็วอย่างนี้

ฟางชิวใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการทำแบบทดสอบ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

นี่มันเป็นไปไม่ได้!

บรรดากรรมการคุมสอบที่มาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเตือนฟางชิวว่า “นักศึกษา เธอไม่ตรวจสอบกระดาษคำตอบก่อนส่งจริง ๆ เหรอ”

“ผมตรวจสอบแล้วครับ” ฟางชิวตอบ

“ถ้าอย่างนั้น… ก็โอเค” เหล่ากรรมการคุมสอบแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ

ในห้องควบคุมการแข่งขัน

อาจเป็นเพราะเวลาในการสอบจัดไว้นานเกินไป บวกกับไม่มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้ความสนใจของผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยถูกเบี่ยงเบนไปจากกล้องวงจรปิด พวกเขาหัวเราะและพูดคุยกันโดยไม่สนใจสถานการณ์ในห้องสอบเลย

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ทันหุบยิ้มคนหนึ่งยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ระหว่างนั้นก็เหลือบมองจอมอนิเตอร์ระหว่างการสนทนา เมื่อเห็นภาพบนจอมอนิเตอร์ ผู้นำคนนั้นก็ตกใจ เขาโน้มตัวไปข้างหน้า กลืนชาลงคอ จากนั้นก็อุทานขึ้นมา

“หืม? มีคนส่งกระดาษคำตอบแล้ว!”

เมื่อเห็นภาพบนจอมอนิเตอร์ ผู้บริหารคนนั้นก็ตกใจ เขาโน้มตัวไปข้างหน้า กลืนชาลงคอ จากนั้นก็อุทานขึ้นมา

หลังจากได้ยินดังนั้นแล้ว ผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเช่นกัน

ผู้บริหารสองคนที่กำลังดื่มชาอยู่ก็ตกใจจนพ่นน้ำชาออกมา

อะไรนะ?

มีคนส่งกระดาษคำตอบแล้วหรือ?

ผู้บริหารทุกคนจึงรีบดูที่หน้าจอมอนิเตอร์ ทำให้พวกเขาเห็นตอนที่ฟางชิวกำลังถือกระดาษคำตอบเดินไปที่โพเดียมพอดิบพอดี

เป็นฟางชิวจริง ๆ ด้วย!

ตอนที่พวกเขาได้ยินว่ามีคนส่งกระดาษคำตอบแล้ว คนแรกที่พวกเขาคิดคือฟางชิว

หลังจากที่เห็นว่าชายหนุ่มส่งกระดาษคำตอบแล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ทำได้แค่มองหน้ากันไปมา

การที่ฟางชิวเขียนคำตอบได้อย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาประหลาดใจก็จริง แต่ทุกคนก็คิดว่าความยากของแบบทดสอบนี้สูงมาก แม้ว่าฟางชิวจะเร็วแค่ไหน แต่เขาก็ไม่น่าจะส่งกระดาษคำตอบก่อนหมดเวลาได้ แน่นอนว่าก็ต้องมีบางคำถามที่เจ้าตัวทำไม่ได้

ทว่าฟางชิวก็ได้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เพราะเขากำลังส่งกระดาษคำตอบจริง ๆ!

เป็นเหตุให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วทั้งห้อง ผู้บริหารทุกคนก็เงียบไปเช่นกัน

“แค่ชั่วโมงเดียวเองเหรอ?” เจียงไห่ถามขึ้นมา

ทุกคนจึงมองดูเวลา แล้วพบว่ามันเป็นหนึ่งชั่วโมงพอดี คราวนี้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ฟางชิวใช้เวลาในการทำแบบทดสอบสุดหินแค่หนึ่งชั่วโมง!

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นอกเหนือจากคำถามอัตนัยข้อสุดท้ายที่ฟางชิวใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ฟางชิวก็ใช้เวลาแค่เพียงครึ่งชั่วโมงในตอบคำถามที่เหลือ?

ความเร็วนี้ราวกับจรวดเลย!

ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยหันไปมองที่เฉินอินเซิงด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก

“เหล่าเฉิน ลูกศิษย์ของคุณเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” จางกั๋วต้งมองไปที่เฉินอินเซิงด้วยความสงสัยและพูดว่า “คุณคงไม่ได้เอาคนอื่นมาสวมรอยแข่งแทนใช่ไหม”

“ใช่แล้ว น้องใหม่จะร้ายกาจขนาดนั้นได้ยังไง” ซ่งเหวินหัวถาม

“จะเป็นไปได้ยังไง” เมื่อฟื้นจากความตกใจแล้ว เฉินอินเซิงก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธแล้วพูดว่า “ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน ทำไมฟางชิวถึงส่งกระดาษคำตอบเร็วขนาดนี้? เหล่าฉี มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ในฐานะคณบดีคณะแพทยศาสตร์จีน ฉีไคเหวินย่อมเฝ้าดูสถานการณ์ในห้องสอบอยู่ในห้องควบคุมเช่นกัน

“ฮ่า ๆ” เมื่อได้ยินคำถามของเฉินอินเซิง ฉีไคเหวินก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ฟางชิวเป็นนักศึกษาปีหนึ่งแน่นอน ถ้าต้องการตรวจสอบ พวกคุณก็สามารถตรวจสอบประวัติของเขาอย่างละเอียดตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมหาวิทยาลัยได้”

“ผมจะบอกประวัติเขาสักหน่อยก็แล้วกัน” ฉีไคเหวินพยายามทำให้พวกเขาสงสัย

“ประวัติอะไร”

“มันคืออะไรครับคณบดี?”

“ฟางชิวคนนี้เคยเรียนแพทย์แผนจีนก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ก็โตมาในตระกูลแพทย์แผนจีนใช่ไหม?”

ทุกคนต่างถามคำถามออกมาไม่หยุด

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน