คุรุการแพทย์ – บทที่ 160 ได้คะแนนเต็ม!

คุรุการแพทย์

บทที่ 160 ได้คะแนนเต็ม!

บทที่ 160 ได้คะแนนเต็ม!

ในห้องควบคุมการแข่งขัน

“ใกล้หมดเวลาแล้ว นักศึกษาส่งกระดาษคำตอบมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย” จางกั๋วต้งผู้กำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิดกล่าวด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขาลืมฟางชิวไปเสียสนิท

นักศึกษาของจางกั๋วต้งเป็นคนที่สามที่ออกจากห้องสอบ เขาเห็นแล้วก็พอใจมาก

“ใช่ แม้ว่าแบบทดสอบในครั้งนี้จะยากมาก แต่นักศึกษาใหม่ปีนี้ก็มีศักยภาพมากเช่นกัน!” เจียงไห่คลี่ยิ้มออกมา

เพราะหานอวี่เซวียนที่มาจากมหาวิทยาลัยของเขาเป็นคนส่งกระดาษคำตอบคนที่สอง ส่วนเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเป็นคนที่ห้า เมื่อตัวแทนนักศึกษาสองคนจากเก้าคนอยู่ในห้าอันดับแรกในด้านความเร็วแบบนี้ เขาจะไม่ยิ้มได้อย่างไร

ส่วนคนอื่นกลับยิ้มไม่ออกแต่อย่างใด

เฉินอินเซิงเอนตัวไปมองหน้าจอที่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นเขาก็พบว่าสามในหกคนแรกที่ส่งกระดาษคำตอบมาจากมหาวิทยาลัยของเขา ดังนั้นเขาจึงมีความสุขมาก

แม้ว่าเฉินอินเซิงจะมีความสุขมาก แต่เขาก็ไม่แสดงออกมา เขาพูดอย่างใจเย็นขณะกำลังดื่มชาว่า “ดูเหมือนว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยฉันในปีนี้จะไม่เลวเลยนะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยก็เม้มริมฝีปากเงียบและไม่มีใครตอบกลับคำพูดของเฉินอินเซิงเลยสักคนเดียว

โอ้อวดเข้าไปเถอะ!

ในเวลาต่อมา มีนักศึกษาส่งกระดาษคำตอบก่อนหมดเวลามากขึ้นเรื่อย ๆ

เวลาในการทำแบบทดสอบคือเก้าสิบนาที แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งนาทีก่อนจะหมดเวลาสอบ แต่ก็ถือว่าเป็นการส่งกระดาษคำตอบก่อนหมดเวลาสอบอยู่ดี

ถึงแม้ว่าในทีแรกมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะทำได้ดีมากก็ตาม แต่โดยภาพรวมแล้ว นักศึกษาเหล่านั้นก็ยังส่งกระดาษคำตอบก่อนหมดเวลาสอบเป็นอย่างน้อยล่ะนะ

ผลลัพธ์นี้ทำให้เฉินอินเซิงที่เดิมทีกำลังมีความสุข เปลี่ยนสีหน้า ตรงกันข้ามกับบรรดาผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่สีหน้าค่อย ๆ ดูดีขึ้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้วก็หมดเวลาสอบ!

นักศึกษาหลายคนที่ยังทำข้อสอบไม่เสร็จทำได้เพียงหยุดเขียนและส่งกระดาษคำตอบ

ในไม่ช้า ทุกคนก็เดินออกจากห้องสอบ แล้วไปจับกลุ่มกับเพื่อนจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน

“คำถามยากเกินไป ว่าไหม?”

“ใช่ แค่คะแนนผ่านเกณฑ์ฉันก็ดีใจแล้ว”

“ยากมากจริง ๆ มหาวิทยาลัยฉันยังไม่เคยให้โจทย์ยากขนาดนี้”

ทีแรก นักศึกษาต่างพูดถึงความยากของแบบทดสอบ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความสนใจของพวกเขาก็เปลี่ยนไปที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันแทน

“เถาอี้หราน นายทำแบบทดสอบเร็วมากเลย นายเป็นคนแรกที่ออกจากห้องสอบใช่ไหม?” นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวเอ่ยถามเถาอี้หราน

“เฮ้อ ฉันทำให้นายผิดหวังแล้ว ฉันไม่ใช่คนแรก” เถาอี้หรานยิ้มอย่างขมขื่น

“แล้วเป็นใครล่ะ?” มีคนถามขึ้นมา

“เป็นฟางชิว” นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวที่อยู่ในห้องสอบเดียวกันกับฟางชิวกล่าวว่า “หมอนั่นไม่ธรรมดาเลยนะ! ฉันนั่งใกล้เขามาก ตั้งแต่นาทีที่การสอบเริ่มขึ้น ฉันไม่เคยเห็นเขาหยุดมือเลย เขาก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างเดียว พอหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เขาก็หยุดเขียน แต่ฉันก็ไม่นึกว่าเขาจะส่งกระดาษคำตอบ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น นักศึกษาคนอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวต่างก็อึ้งทึ่งไป

ร้ายกาจขนาดนั้นเลยเรอะ?!

ในอีกด้านหนึ่ง

มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็พูดถึงฟางชิวกันอย่างออกรส

เนื่องจากมีนักศึกษาสามคนของแต่ละมหาวิทยาลัยอยู่ในห้องสอบเดียวกันกับฟางชิว ทำให้ข่าวการทำข้อสอบเร็วจนผิดปกติของฟางชิวลอยไปถึงหูของผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคน เป็นเหตุให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันของแต่ละมหาวิทยาลัยตกใจมาก

และยังเป็นการกระตุ้นความระแวดระวังและจิตวิญญาณในแข่งขันของพวกเขาอีกด้วย

ส่วนฟางชิวที่เป็นจุดสนใจของทุกคน ได้พบกับสถานที่อันเงียบสงบสำหรับอ่านหนังสือ เขาไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าความเร็วในการทำข้อสอบของเขาจะทำให้เกิดการสนทนาที่ดุเดือดหน้าห้องสอบ

หลังหมดเวลาสอบก็จะเป็นช่วงเวลาที่อาจารย์ตรวจคำตอบ ในเวลานี้ ฝูงชนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนก็ค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทุกมหาวิทยาลัยต่างไปพักผ่อนอยู่ที่ห้องประชุมใหญ่

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง การตรวจคำตอบก็ได้เสร็จสิ้นแล้ว และผลคะแนนก็ได้ออกมาแล้วเช่นกัน ผลคะแนนถูกส่งไปยังห้องควบคุมที่เหล่าผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยอยู่ทันที

“ผลคะแนนออกมาแล้ว!” อาจารย์เก้าคนจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เดินเข้ามาในห้องควบคุมพร้อมกระดาษคำตอบที่ตรวจแล้ว

“อันดับหนึ่งเป็นใคร” เจียงไห่ถามทันที

“นั่นสิ เป็นใครกันนะ” จางกั๋วต้งก็ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

ผู้บริหารคนอื่น ๆ ต่างก็รีบถามเพราะความอยากรู้เหมือนกัน

แม้ว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะได้เปรียบเรื่องความเร็วอย่างมาก แต่ในตอนนี้ เวลาไม่ใช่กุญแจสำคัญในการทำแบบทดสอบอีกต่อไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลคะแนน

ทำเสร็จเร็วแล้วมีประโยชน์อะไร?

ผลคะแนนสิที่สำคัญที่สุด

ยิ่งฟางชิวทำเสร็จเร็วเท่าไร เขาก็ยิ่งทำผิดง่ายขึ้นเท่านั้น

ผู้บริหารทุกคนต่างคาดหวังว่านักศึกษาของพวกเขาจะได้อันดับหนึ่ง ส่วนฟางชิวนั้น พวกเขาเลิกคิดว่าจะได้ที่หนึ่งตั้งแต่เขาส่งกระดาษคำตอบเร็วแล้ว

เฉินอินเซิงเป็นกังวลมาก เพราะนักศึกษาคนเดียวที่เขานึกถึงในตอนนี้ก็คือฟางชิว

ทันใดนั้น อาจารย์ที่ถือผลคะแนนก็ประกาศว่า “อันดับหนึ่งคือฟางชิว!”

“ใครนะ?” สีหน้าของผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยดูไม่อยากจะเชื่อ และคิดว่าตัวเองหูฝาดไป

“ฟางชิว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง!” อาจารย์คนนั้นตอบอีกครั้ง

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฉินอินเซิงก็มองเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่นที่กำลังตกตะลึงด้วยความพึงพอใจและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

แม้แต่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยอื่นที่เป็นคนกลางก็ตกตะลึงเช่นกัน

ฟางชิวที่เป็นคนแรกที่ส่งกระดาษคำตอบได้ที่หนึ่ง?

ไม่ปล่อยให้คนอื่นได้มีโอกาสแข่งขันหน่อยหรือ?

เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?

จู่ ๆ เจียงไห่ก็คิดอะไรบางอย่างออก เขารีบถามว่า “ฟางชิวได้คะแนนเท่าไหร่?”

เพราะในความคิดของเจียงไห่ หานอวี่เซวียนใช้เวลามากกว่าฟางชิวสิบห้านาที ดังนั้นในแง่ของการตอบคำถาม คำตอบของหานอวี่เซวียนจะต้องแม่นยำกว่าฟางชิว และหานอวี่เซวียนก็ควรจะได้ที่หนึ่ง

เป็นไปได้ไหมว่าหานอวี่เซวียนอาจจะตอบผิดก็เลยพลาดไปสองสามข้อ?

“หนึ่งร้อยคะแนนเต็ม” เมื่อได้ยินคำถามของเจียงไห่ อาจารย์ที่ถือผลคะแนนก็ตอบกลับทันที

อธิการบดีของมหาวิทยาลัยคนปัจจุบันรวมถึงเฉินอินเซิงตกใจยิ่งกว่าเดิม

“คะแนนเต็ม?”

“นี่มันหมายความว่าไง?”

“เป็นไปได้ยังไงกัน”

“แบบทดสอบชุดนี้ยากกว่าปีที่แล้ว นักศึกษาจะได้คะแนนเต็มได้ยังไง”

“ใช่ ฟางชิวใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวเอง”

“พวกคุณตรวจผิดกันหรือเปล่า”

“มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

เสียงถามด้วยความตกใจดังขึ้นเป็นระยะ ๆ

“พวกเราได้นำกระดาษคำตอบกับผลคะแนนมาด้วย พวกคุณลองตรวจสอบก็ได้ครับ”

ระหว่างที่พูด อาจารย์ทั้งเก้าคนที่เป็นผู้ตรวจคำตอบก็วางกระดาษคำตอบกับผลคะแนนลงบนโต๊ะ

ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยก็พุ่งไปดูผลคะแนนทันที ทุกคนไม่ได้สนใจกระดาษคำตอบ เพราะกระดาษคำตอบที่ผ่านการตรวจสอบจากอาจารย์ทั้งเก้าคนไม่มีทางที่จะผิดพลาดไปได้

พวกเขาอ่านผลการจัดอันดับคะแนนออกมา

“อันดับที่หนึ่ง ฟางชิว 100 คะแนน”

“อันดับที่สอง หานอวี่เซวียน 93 คะแนน”

“อันดับที่สาม ซูจือโม่ 92 คะแนน”

“อันดับที่สาม เถาอี้หราน 92 คะแนน”

“อันดับที่ห้า หวังจื้อซิ่ง 89 คะแนน”

“อันดับที่ห้าอีก จ้าวเหยียนเฉิง 89 คะแนน”

“อันดับที่เจ็ด เจียงเหมี่ยวอวี๋ 88 คะแนน”

“อันดับที่เจ็ดอีก เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย 88 คะแนน”

“อันดับที่เก้า หร่วนซือจิ้ง 87 คะแนน”

เมื่อเห็นผลคะแนนแล้ว เฉินอินเซิง เจียงไห่ ซ่งเหวินหัวและจางกั๋วต้งต่างก็ยิ้มออกมา

นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพวกเขาติดอยู่ในสิบอันดับแรก

นอกจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงแล้ว คนที่พอใจมากที่สุดก็คือเจียงไห่ เพราะนักศึกษาของเขาอย่างหานอวี่เซวียนกับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยได้อันดับสองและห้าตามลำดับ ซึ่งมันดีมาก

จางกั๋วต้งกับซ่งเหวินหัวก็พอใจเช่นกัน อย่างน้อยจากผลคะแนนนี้นักศึกษาของพวกเขาก็ได้เปรียบ

การสอบย่อมมีคะแนนสูงและคะแนนต่ำเสมอ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เห็นว่าได้อันดับไม่ดีก็ได้แต่ตีสีหน้าเคร่งขรึม

ดังคำกล่าวที่ว่า ในขณะที่หลายคนกำลังมีความสุข ก็มีอีกหลายคนที่กำลังทุกข์ทน

“เอาล่ะ” หลังจากที่ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยดูการจัดอันดับทั้งหมดแล้ว เฉินอินเซิงก็กล่าวว่า “ผลคะแนนก็ปล่อยให้ผู้เข้าร่วมการแข่งไปดูด้วยตัวเอง พวกเราจะได้ไม่ต้องประกาศในที่สาธารณะ”

ผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยพยักหน้าเห็นด้วย

จากนั้น ผลคะแนนก็ถูกแปะบนกระดานประกาศของมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจึงเข้ามาดูผลลัพธ์ของตัวเอง

“อันดับที่หนึ่ง ฟางชิว 100 คะแนน”

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากมหาวิทยาลัยทุกแห่งที่อยู่รอบ ๆ กระดานประกาศต่างประหลาดใจเมื่อเห็นชื่อคนที่ได้อันดับหนึ่ง

“พระเจ้า! ผู้ชายคนนี้จะเก่งไปไหน! เขาใช้เวลาชั่วโมงเดียวเองนะ แต่กลับได้คะแนนเต็ม ฉันนับถือเลย” เถาอี้หรานทึ่งมาก ทั้งยังไม่มีความอิจฉาเจืออยู่ในน้ำเสียงของเขาเลย จากนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา ขณะที่ในใจยกให้ฟางชิวเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคนแรกของเขาอย่างเป็นทางการ

“คะแนนเต็ม?” หานอวี่เซวียนมองไปที่ผลคะแนนของฟางชิวแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในอันดับที่สอง แต่เขาก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี

พวกเขาคะแนนแตกต่างกันถึงเจ็ดคะแนน

ความต่างของเจ็ดคะแนนนี้มันอยู่ที่ไหนกัน?

เพราะคำถามอัตนัยข้อสุดท้ายหรือเปล่า?

ขณะที่หานอวี่เซวียนกำลังคิด เขาก็หันหลังจากไปอย่างไร้ความรู้สึก

“สุดยอดเลย ฉันไม่คิดเลยว่าฟางชิวจะได้คะแนนเต็ม เพราะแบบทดสอบออกจะยากขนาดนั้น” หร่วนซือจิ้ง หญิงสาวผู้มีบุคลิกอ่อนโยนเองก็กำลังมองดูข้อความบนกระดานประกาศ เธอจ้องไปที่ชื่อของฟางชิวด้วยความตื่นเต้นและพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ถ้าคนคนนี้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับฉัน ฉันก็น่าจะเรียนรู้จากเขาและเพิ่มคะแนนของฉันได้”

“ข้อสอบยากมากเลย ใช้หัวตั้งนาน แต่ก็ได้แค่อันดับสาม” ซูจือโม่ยิ้มพลางส่ายหัว อย่างไรเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องอันดับมากนัก

“ฟางชิว นายออมมือให้ฉันมาตลอดจริง ๆ ด้วย” ตอนเจี่ยงหมิ่งเจี๋ยเห็นผลคะแนน เธอตรวจสอบผลคะแนนของฟางชิวก่อน ถึงแม้เขาจะชนะเธอ เธอก็ยิ้มออกมาอยู่ดี

“ฟางชิว” หวังจื้อซิ่งขมวดคิ้ว ขณะมองไปที่ผลคะแนนด้วยท่าทางจริงจัง

“หมอนี่มันอะไรกัน”

“หานอวี่เซวียนเป็นเด็กฝึกงานของแพทย์ระดับปรมาจารย์ ส่วนซูจือโม่กับเถาอี้หรานต่างก็เป็นลูกหลานของตระกูลการแพทย์แผนจีน ถ้าฉันแพ้ให้พวกเขา ฉันก็พอจะยอมรับได้”

“แต่ฟางชิวเป็นใคร เขาไม่มีภูมิหลังเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนด้วยซ้ำ ทำไมฉันต้องแพ้เขาด้วย”

“ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ฟางชิวเพิ่งจะเรียนได้ครึ่งทางเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาเก่งกว่าฉัน?”

ยิ่งคิดหวังจื้อซิ่งก็ยิ่งขุ่นเคือง เขาแค่นเสียง ใบหน้าทวีความเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที

เวลานี้นักศึกษาคนอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็เข้ามาดูผลคะแนนด้วยความใคร่รู้

เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟางชิวได้อันดับหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขขึ้นมา บางคนถึงกับถ่ายภาพผลคะแนนเพื่อเอาไปโพสต์ลงในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว

ไม่นานโพสต์เกี่ยวกับผลคะแนนก็ได้ปรากฏขึ้นมา เช่นเดียวกับข่าวที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

ภายในเวลาอันสั้นก็เกิดเป็นกระแสฮือฮาในมหาวิทยาลัยทันที โดยหัวข้อบทสนทนาคือ ฟางชิวได้อันดับหนึ่ง แถมยังคะแนนเต็ม

[ฟางชิวเก่งจังอะ มีคนสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยของพวกเราสักที!]

[ฮ่า ๆ อันดับหนึ่งมาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงของพวกเรา!]

[ฉันกำลังอ่านอะไรอยู่เนี่ย? ตอนฟางชิวส่งกระดาษคำตอบในหนึ่งชั่วโมง ฉันนึกเขายอมแพ้กับการทำแบบทดสอบยาก ๆ ซะอีก แล้วตอนนี้มัน…]

[สุดยอดมาก มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะอยู่ยงคงกระพัน ฟางชิวก็อยู่ยงคงกระพัน!]

[ใจเย็น ๆ ถึงฟางชิวจะได้ที่หนึ่ง แต่ผลคะแนนโดยรวมของมหาวิทยาลัยพวกเราก็ยังคงรั้งท้ายอยู่ พวกเขายังต้องพยายามกันต่อไปนะ]

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน