คุรุการแพทย์ – บทที่ 163 MVP!

คุรุการแพทย์

บทที่ 163 MVP!

บทที่ 163 MVP!

ด้วยความช่วยเหลือของฟางชิว ในที่สุด จูเปิ่นเจิ้งก็ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ ทั้งความเร็วและความแม่นยำในการตอบครึ่งหลังของเขาก็ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา คำถามมีห้าข้อ เขาสามารถตอบถูกต้องทั้งข้อเลย

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลังผ่านไปห้าคำถาม มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็มีหกคะแนน และไต่ขึ้นมาอยู่อันดับกลาง ๆ แล้ว

แม้ว่าอันดับจะไม่สูงมาก แต่เมื่อเทียบกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่นที่มีความสามารถอันแข็งแกร่งกับความยากของคำถามที่เพิ่มขึ้น ก็ถือว่าดีมากแล้ว

สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด กลับทำคะแนนได้เพียงหกคะแนนหลังจากตอบคำถามไปได้เก้าข้อ

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมาก รองอธิการบดีเจียงไห่ที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมก็มองไปที่นักศึกษาคนหนึ่งและขมวดคิ้ว

เขาก็คิดว่ามันแปลก ๆ ตั้งแต่ที่เห็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงตกประหม่า แต่เจียงไห่ไม่ได้คาดคิดว่านักศึกษาของเขาจะประหม่าจนตอบผิดสามครั้งติดต่อกัันเช่นกัน!

มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ!

เจียงไห่คิดว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงหันไปหาหานอวี่เซวียน

แล้วแค่หานอวี่เซวียนหันสายตาไปสบกับเจียงไห่ เขาก็เข้าใจทันที

เมื่อมองไปที่เพื่อนร่วมทีมคนนั้น หานอวี่เซวียนก็เอื้อมมือไปเคาะโต๊ะสามครั้ง ‘ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!’

ขณะที่เคาะโต๊ะ หานอวี่เซวียนก็พูดกับเพื่อนร่วมทีมคนนั้นว่า “ใจเย็นๆ ผ่อนคลายหน่อย”

“อะไรเนี่ย!” ทุกคนในที่แห่งนั้นยิ้ม เมื่อเห็นหานอวี่เซวียนเลียนแบบฟางชิว

“ไร้ยางอาย เขากล้าเลียนแบบเจ้าห้า เขาจ่ายค่าเรียนหรือยัง?” โจวเสี่ยวเทียน ซึ่งยืนอยู่ในกลุ่มผู้ชมก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

“บางทีมันอาจจะไม่ได้ผล… ให้ตายสิ! ฮ่า ๆ ตอบผิดอีกแล้ว!” ซุนฮ่าวชี้ไปที่กระดานคำตอบที่นักศึกษาคนนั้นเพิ่งยกขึ้น แล้วก็หัวเราะออกมาทันที

นักศึกษาคนอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็หัวเราะเช่นกัน

“ฮ่า ๆๆๆ…”

หลังจากเลียนแบบฟางชิวแล้ว แต่มันก็ไร้ประโยชน์ แล้วหานอวี่เซวียนจะขอโต้แย้งใครได้บ้าง?

เพราะนักศึกษาคนนั้นตอบผิดอีกแล้ว?!

หานอวี่เซวียนมองไปที่เพื่อนร่วมทีมที่กำลังก้มหน้าอยู่ด้วยความลำบากใจ และใบหน้าของเขาก็ดูบูดบึ้งเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะเพื่อนร่วมทีมของเขาทำผิดพลาด แต่ยังเป็นเพราะการเรียนรู้ของเขาที่ถ่ายแบบมาจากฟางชิวนั้นก็ไร้ประโยชน์ด้วย

การได้เรียนรู้จากฟางชิวถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของหานอวี่เซวียน แต่สุดท้ายมันก็ไร้ประโยชน์ สิ่งนี้ทำให้หานอวี่เซวียนขาดทุน

“หึ!” หานอวี่เซวียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา และพูดกับเพื่อนร่วมทีมคนนั้นว่า “รีบปรับอารมณ์ของนายซะ! นายรู้คำตอบนี้อยู่แล้ว! นายจะประหม่าทำไม!”

“ตกลง!” เพื่อนร่วมทีมคนนั้นพูดพร้อมกับหายใจเข้าลึก ๆ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของหานอวี่เซวียนได้ผล หรือเพื่อนร่วมทีมคนนั้นสามารถทนต่อแรงกดดันมหาศาลและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกันแน่ เพราะในคำถามต่อจากนั้น เขาก็ไม่ได้ตอบผิดอีกเลย

เมื่อเห็นเช่นนั้น รองอธิการบดีเจียงไห่ที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ฟู่! ในที่สุดเขาก็หยุดตอบผิดเสียที ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร มันยังไม่สายเกินไป”

การแข่งขันก็ดำเนินต่อไป

มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่นตอบผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง และทุกความผิดพลาดนั้นก็ได้นำไปสู่เสียงอุทานในหมู่ผู้ชม

การแข่งขันค่อย ๆ เข้มข้นขึ้น

หลังจากตอบคำถามสิบเก้าข้อ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็มีคะแนนสะสมได้สิบหกคะแนนและเป็นที่หนึ่ง ซึ่งเสมอกับ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวที่เถาอี้หรานศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจวที่ซูจือโม่ศึกษาอยู่ และม้ามืดจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงฉาง

ส่วนมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยที่เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกับหานอวี่เซวียนกำลังศึกษาอยู่ได้อันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 15 คะแนน

อันดับถัดมาก็จะเป็นของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่มี 14 คะแนนและ 13 คะแนน

แม้ว่าคะแนนจะไม่ได้แตกต่างกันจนดูมีนัยยะ ทว่าแต่ละคะแนนก็สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนอันดับได้

“ได้เวลาของคำถามพิเศษข้อที่ยี่สิบแล้ว!” ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยไหนจะตอบถูก?”

“ตอนนี้ ฟางชิว เถาอี้หราน หานอวี่เซวียน และซูจือโม่ได้ตอบคำถามไปทั้งหมดแล้ว ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อสุดท้ายได้ถูกต้อง ก็ถือว่าพวกเขาตอบถูกทุกข้อ”

“ก่อนอื่น มาดูกันว่าคำถามพิเศษข้อสุดท้ายนี้คืออะไร เนื่องจากเป็นคำถามพิเศษ มันจึงตอบได้ไม่ง่ายนัก และอาจไม่มีใครตอบได้เลย”

เมื่อได้ยินดังนั้น ก็เกิดการถกเถียงกันมากมายในหมู่ผู้ชม ผู้ชมต่างตั้งหน้าตั้งตารอคำถามข้อสุดท้ายกับผลสุดท้ายว่า ใครจะเป็นผู้ชนะคนแรก?

นักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยย่อมต้องการให้เพื่อนร่วมสถาบันของตนเป็นฝ่ายตอบถูก

“นี่เป็นคำถามสุดท้าย” พิธีกรมองไปที่นักศึกษาจากเก้ามหาวิทยาลัย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คำถามสุดท้ายนี้จะเป็นคำถามพิเศษนะคะ”

หลังจากที่เธอพูดออกไป ทั้งเวทีก็เงียบกริบ ทุกคนกลั้นหายใจและฟังคำถาม

“ตามชื่อเลย คำถามนี้พิเศษมาก” พิธีกรปล่อยให้ผู้ฟังคาดเดา ก่อนจะพูดว่า “หากแบ่งคำถามนี้ตามประเภทของคำถามในกระดาษแบบทดสอบ คำถามนี้ก็ถือว่าเป็นคำถามวิเคราะห์”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็ตะลึง

คำถามวิเคราะห์? นี่มันไม่ใช่การทำแบบทดสอบหรืออย่างไร?

ทำไมถึงมีคำถามวิเคราะห์ได้ล่ะ แล้วผู้เข้าร่วมการแข่งขันแต่ละคนจะสามารถตอบคำถามให้เสร็จภายในห้าวินาทีได้อย่างไร

ไม่ใช่แค่นักศึกษาด้านล่างเวทีเท่านั้นที่ตกตะลึง นักศึกษา 81 คนที่อยู่บนเวทีก็ตกตะลึงเช่นกัน

“แน่นอนว่า” ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย พิธีกรก็พูดต่อไปว่า “เนื่องจากมันเป็นคำถามพิเศษ กฎของคำถามนี้จึงแตกต่างจากคำถามสิบเก้าข้อก่อนหน้านี้”

“ทุกคนไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ให้ถูกต้อง ตราบใดที่มีคนตอบถูกหนึ่งคน ทีมของมหาวิทยาลัยนั้นก็จะสามารถทำคะแนนได้”

“และในขณะเดียวกัน เวลาในการตอบคำถามก็จะเพิ่มขึ้นจากห้าวินาทีเป็นหนึ่งนาที”

หลังจากได้ยินอย่างนั้น ฝูงชนก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ

การที่นักศึกษาทุกคนจะสามารถตอบคำถามวิเคราะห์ได้ถูกต้องแบบทุกคำนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่หากมีเพียงหนึ่งคนที่ตอบคำถามได้อย่างถูกต้องมันก็ไม่มีปัญหาแล้ว อย่างไรก็ตาม สามสิบวินาทีก็ถือว่ายังน้อยไปสำหรับพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้ว คำตอบสำหรับคำถามวิเคราะห์ก็ไม่ได้สั้น แม้ว่าจะมีคนรู้คำตอบแล้ว แต่พวกเขาจะเขียนมันให้เสร็จภายในหนึ่งนาทีได้หรือ?

“พวกเธอเข้าใจไหม” พิธีกรมองไปที่นักศึกษา 81 คนแล้วถาม

“เข้าใจครับ/ค่ะ” นักศึกษาทุกคนพยักหน้า

ทุกคนรวบรวมสมาธิทันที เพราะไม่มีใครยอมถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว

ดังนั้น พวกเขาจะแพ้ไม่ได้!

“ดี!” พิธีกรพยักหน้าและพูดว่า “คำถามสุดท้าย หยินและหยางในการแพทย์แผนจีนนั้นยังคงพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โปรดระบุแหล่งที่มาของการได้รับหยางจากหยิน ใบสั่งยาและส่วนผสมของสมุนไพรเหล่านั้นให้ถูกต้อง”

หลังจากฟังคำถามแล้ว ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนก็ตกตะลึง

พวกเขารู้ความสัมพันธ์ระหว่างหยินและหยางเพราะมันถูกเขียนไว้ในหนังสือ แต่หยางได้อะไรจากหยินล่ะ?

ผู้คนมักจะใช้หยางเพื่อเสริมส่วนที่ขาดไปไม่ใช่หรือ? แล้วจะแสวงหาหยางจากหยินทำไม?

มีความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในสายตาของผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายคน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครเริ่มเขียนคำตอบ

ผู้ชมด้านล่างเวทีก็ตกใจเช่นกัน เพราะคำถามนี้มันยากมาก!

นักศึกษารุ่นพี่บางคนเคยได้ยินเรื่องการแสวงหาหยางในหยิน แต่พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจ และก็ไม่รู้แหล่งที่มาเฉพาะด้วย เพราะพวกเขาคิดว่ามันมีบันทึกไว้อย่างชัดเจนในหนังสือโบราณ

สำหรับหยางที่ลดลงบางส่วน ให้ใช้ ‘การเติมแหล่งกำเนิดไฟเพื่อกำจัดหยิน’ นั่นคือ ‘การรักษาโรคหยินในหยาง’

แต่ทำไมถึงยังได้รับหยางจากหยินอีกล่ะ?

เรื่องนี้ไม่สามารถตำหนินักศึกษาได้ เพราะผู้บริหารที่อยู่นอกเวทีก็ยิ้มอย่างขมขื่นเช่นกัน

คำถามนี้ยากเกินไป

นักศึกษาจะรู้วิธีแสวงหาหยางในหยินได้อย่างไร? เพราะนี่คือสิ่งที่แพทย์ระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจ และนำไปใช้ได้

เด็กไร้เดียงสากลุ่มนี้รู้เพียงวิธีใช้หยางเพื่อเติมเต็มหยาง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหยางสามารถหาได้จากหยินด้วย

คำถามนี้มันช่างสร้างสรรค์จริง ๆ

บางทีคนที่ตั้งคำถามอาจจะไม่ได้ตั้งใจให้ใครตอบถูกก็ได้ แต่แค่ต้องการเตือนนักศึกษาเหล่านี้ว่าพวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงควรกลับไปศึกษาให้ดี

แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปสิบวินาที ก็ยังไม่มีใครบนเวทีเริ่มเขียนคำตอบ รวมถึงหานอวี่เซวียน ลูกศิษย์ของแพทย์ระดับปรมาจารย์ และทุกคนที่มาจากตระกูลแพทย์แผนจีน

พวกเขาทุกคนต่างขมวดคิ้วและครุ่นคิดอย่างหนัก

จูเปิ่นเจิ้ง และคนอื่น ๆ ทำได้เพียงยอมแพ้และยิ้มอย่างขมขื่น เนื่องจากพวกเขาไม่รู้คำตอบ พวกเขาจึงได้แต่ยอมแพ้ เพราะพวกเขาจะถูกหัวเราะเยาะหากพวกเขาดึงดันที่จะตอบ

แสวงหาหยางในหยินอย่างนั้นหรือ?

ฟางชิวซึ่งฟังคำถามเสร็จก็หลับตาลง เขามีคำอธิบายเกี่ยวกับแง่มุมนี้ในใจแล้ว แต่เขาจำเป็นต้องแยกแยะให้ออก

“ยังมีอีกสี่สิบวินาที” เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว พิธีกรก็เอ่ยเตือน

เมื่อได้ยินอย่างนั้น คิ้วของทุกคนก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น

หานอวี่เซวียนยกปากกาขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเขียนอะไรออกมาได้

ทันใดนั้น ฟางชิวก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันและคลี่ยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนคำตอบทันที

บ้าเอ๊ย ฟางชิวรู้คำตอบแล้วหรือนี่?

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่นมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง คิ้วของพวกเขาก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น

หานอวี่เซวียนมองไปที่ฟางชิวด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่เชื่อว่าฟางชิว ซึ่งไม่มีพื้นฐานมาก่อนจะรู้เรื่องที่ยากเช่นนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความสนใจของทุกคนฟางชิวก็เขียนเร็วมาก และเขาก็ไม่หยุดเขียนเลย

ภาพมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นในที่แห่งนั้น ทุกคนที่อยู่ทั้งในและนอกเวทีต่างก็พากันนิ่งเงียบ

มีเพียงฟางชิวเท่านั้นที่เขียนคำตอบ ราวกับว่าเขาอยู่คนเดียวในโลกนี้

“หมดเวลา!” หลังจากผ่านไปหกสิบวินาที พิธีกรก็ตะโกนขึ้นมาทันที

เมื่อได้ยินคำพูดของพิธีกร ฟางชิวก็เขียนเสร็จพอดี

“หมดเวลาตอบคำถามแล้ว กรุณาแสดงกระดานคำตอบ”

พรึ่บ!

กระดานทั้งหมดว่างเปล่าและไม่มีตัวอักษรอะไรเลย

ทุกคนจึงมุ่งความสนใจไปที่กระดานคำตอบของฟางชิวทันที พวกเขาต่างสงสัยว่าฟางชิวตอบอะไร

ทุกคนต่างชะเง้อคอมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น และพยายามมองมันอย่างเต็มที่ แม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม

“นี่เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจาก ‘ซินฟางเป่าเจิ้น’ ของจางเจี่ยปิน ความว่า ผู้ที่เสริมพลังหยางได้ดีจึงต้องแสวงหาหยางจากหยิน จากนั้นหยางจะได้รับความช่วยเหลือจากหยินอย่างไม่มีวันหมดสิ้น”

“ใบสั่งยาที่เป็นตัวแทนคือยาต้มโย่กุ้ยหยิน ซึ่งประกอบด้วยสูตี้ ซันเย่า ซันจูอวี๋ ชะเอมเทศ เม็ดเก๋ากี้ โต๋วต๋งหรือผัดขิง อบเชย และรากหู่จื้อ”

การเขียนของฟางชิวนั้นเลอะเทอะมาก เพราะมันยากมากที่จะเขียนมากกว่าหนึ่งร้อยตัวอักษรภายในสี่สิบวินาที แต่มันก็ยังสามารถทำให้ผู้คนเข้าใจได้

นักศึกษาทั้งบนและล่างเวทีต่างสับสน เพราะไม่รู้ว่าคำตอบของฟางชิวถูกต้องหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน เหล่าผู้บริหารที่อยู่ด้านล่างเวทีก็มองไปที่ฟางชิวด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ

มีคนเขียนคำตอบลงไปจริง ๆ และมันก็ถูกต้องด้วย!

ผู้บริหารเหล่านี้จึงมองไปที่ฟางชิวด้วยความชื่นชม

ฟางชิวคนนี้มีความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์แผนจีนที่แข็งแกร่งจริง ๆ! เพราะเขาสามารถตอบคำถามที่ยากแบบนี้ได้

น่าประทับใจมาก!

ผู้บริหารของอีกแปดมหาวิทยาลัยต่างก็ยอมรับว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงคนนี้เก่งกว่านักศึกษาของพวกเขา

“ถูกต้อง!” เวลานี้ เมื่อพิธีกรตรวจคำตอบเสร็จแล้ว เธอก็ประกาศออกมาดัง ๆ ว่า “เนื่องจากฟางชิวตอบคำถามสุดท้ายได้ถูกต้อง มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะได้เพิ่มอีกหนึ่งคะแนน ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ จะไม่ได้รับคะแนน”

“การแข่งขันรอบแรกจบลงแล้ว”

“มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง คว้าอันดับหนึ่งไปได้สิบเจ็ดคะแนน!”

หลังสิ้นเสียงของพิธีกร ผู้ชมก็ปรบมือเสียงดังเกรียวกราวด้วยความตื่นเต้น!

พวกเขาพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับปรบมือไปด้วย

“ฮ่า ๆ มหาวิทยาลัยของพวกเราเจ๋งที่สุด พวกเราชนะอันดับหนึ่งในรอบแรก และมีเพียงฟางชิวคนเดียวเท่านั้นที่ตอบคำถามข้อสุดท้ายได้ถูกต้อง แต่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นไม่สามารถแม้แต่จะเขียนอะไรลงไปได้”

“นี่นายรู้ไหมว่ามีแค่ฟางชิวเท่านั้นที่ตอบคำถามทั้งยี่สิบข้อได้ถูกต้อง”

“ฟางชิวตอบถูกทุกข้อเลยเหรอ?”

“แม่งเอ๊ย! ฟางชิวแม่งสุดยอดจริง ๆ ว่ะ!”

“นอกจากนี้ก็ยังสามารถพูดได้ว่าการแข่งขันนี้พลิกผันเพราะฟางชิว ประการแรก เขาช่วยมหาวิทยาลัยของพวกเราจากความผิดพลาดในตอนเริ่มต้น และหลังจากนั้นเขาก็เอาชนะทุกคน จนทำให้มหาวิทยาลัยพวกเราได้ที่หนึ่ง”

“สุดยอดมาก! นี่คือ MVP!”

“ฟางชิวคือ MVP ในรอบนี้!”

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน