คุรุการแพทย์ – บทที่ 169 ฟางชิวถูกวางยา!

คุรุการแพทย์

บทที่ 169 ฟางชิวถูกวางยา!

บทที่ 169 ฟางชิวถูกวางยา!

หลังจากที่จับลูกบอลกระดาษขึ้นมาแล้ว ฟางชิวก็ก้าวถอยหลัง ไม่ได้เปิดมันในทันทีตามกติกา

มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ส่งตัวแทนมาจับฉลากเช่นกัน

“เอาล่ะ เปิดลูกบอลกระดาษในมือของพวกเธอได้ ทีนี้หันหน้าเข้าหาผู้ชม จะได้แสดงให้เห็นว่าใครได้หมายเลข 1 ไป” เมื่อเห็นทุกคนจับฉลากกันเสร็จแล้ว พิธีกรก็พูดขึ้นมาทันที

ได้ยินเช่นนั้น ทั้งเก้าคนก็ไม่รีรอ พวกเขารีบเปิดลูกบอลกระดาษในมือทันที

ฟางชิวเปิดลูกบอลกระดาษในมือก่อนจะชะงักไป

เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้ด้วยเรอะ!

ระหว่างที่อีกแปดคนกำลังค้นหาหมายเลขหนึ่ง ฟางชิวก็รู้สึกพูดไม่ออก จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นพร้อมแผ่นกระดาษในมือ

เขาได้หมายเลขหนึ่ง!

กล้องรีบไปโฟกัสฟางชิวอย่างรวดเร็ว ทำให้ฟางชิวปรากฏตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่พร้อมกับเลขหนึ่งสีแดงสดในมือ

ในวินาทีนั้น ผู้ชมต่างพากันตกใจ

เฮ้ย?! แม่งเอ๊ย!

ไอ้เวรนี่!!!

ให้ตายเถอะ หมอนี่จะโชคดีไปไหนวะ!

ไม่เคยมีใครคิดมาก่อนว่าฟางชิวจะคว้าหมายเลขหนึ่งมาได้

“อันดับหนึ่งคือฟางชิวค่ะ!” เมื่อเห็นหมายเลขในมือของฟางชิว พิธีกรก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ประกาศด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว อีกแปดคนที่เพิ่งรู้ผลก็หันไปหาฟางชิวทันที ทุกคนจ้องที่กระดาษในมือของฟางชิวด้วยความรู้สึกประหลาดใจและไม่อาจทำอะไรถูกอีก

มารดามันเถอะ ฟางชิวทำได้ไง!

ตอนที่ใช้เครื่องตอบคำถาม ฟางชิวก็ได้อันดับหนึ่ง ทุกคนจึงเปลี่ยนเป็นการเป่ายิ้งฉุบ และเขาก็ยังชนะในการเป่ายิ้งฉุบอีก

ขนาดเปลี่ยนมาจับฉลาก! ฟางชิวก็ยังได้อันดับหนึ่ง!

นี่เท่ากับว่าไม่ได้ให้โอกาสคนอื่นบ้างเลย!

ฟางชิวได้แต่คลี่รอยยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา เพราะเขาเองก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตนจะโชคดีขนาดนี้ เอาเข้าจริงเขามีโอกาสหนึ่งจากเก้าเท่านั้นที่จะจับให้ได้หมายเลยหนึ่ง

นี่… นี่มันแปลกมาก!

หลังจากเงียบไปนาน เหล่าตัวแทนจากมหาวิทยาลัยอื่นจึงทำได้เพียงถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาเริ่มยอมรับความจริงในที่สุด

คงต้องยอมรับความโชคดีของฟางชิว! บ่นไปก็เท่านั้น!

การแข่งขันรอบที่สองดำเนินต่อไป แม้ทุกคนจะยังคงตกใจกับความโชคดีของฟางชิวอยู่

หลังจากพูดคุยกับเพื่อนตัวแทนในทีมแล้ว ฟางชิวก็ยังคงเลือกคำถามที่ยากที่สุดประเภท A อีกครั้ง

แต่เนื่องจากพวกเขาเคยเลือกคำถามเกี่ยวกับใบสั่งยาแบบดั้งเดิมแล้ว ครั้งนี้พวกเขาจึงไม่สามารถเลือกได้อีก ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นคำถามเชิงทฤษฎีแทน

อาจเป็นเพราะฟางชิวทำได้ดีในรอบที่ผ่านมา ทำให้ในรอบนี้ฟางชิวเป็นคนตอบคำถามทั้งหมด

ผลที่ตามมาคือ พวกเขาแทบไม่ต้องปรึกษากันเลย ฟางชิวใช้เวลาเพียงห้าสิบวินาที ในการตอบคำถามสิบข้อได้อย่างถูกต้อง

ความเร็วนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก

เขาใช้เพียงห้าวินาทีต่อคำถาม ยกเว้นฟางชิวกับผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยก็ไม่มีใครที่สามารถทำเช่นนี้ได้

เหมือนรอบก่อน ผู้ชมต่างปรบมือกันอย่างชื่นชม

หลังจากที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงตอบคำถามเสร็จสิ้นแล้ว มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็เริ่มตอบคำถามเช่นกัน

ยี่สิบนาทีต่อมา

รอบที่สองของการแข่งตอบคำถามแบบปรนัยก็ได้จบลง

ผลคะแนนล่าสุดถูกรวบรวมอย่างรวดเร็ว และขึ้นแสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่ทันที ทุกคนจึงสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน

“มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง 17 คะแนนในรอบแรก 26 คะแนนในรอบที่สอง 45 คะแนนในรอบแรกของการตอบคำถามแบบปรนัย และ 50 คะแนนในรอบที่สองของการตอบคำถามแบบปรนัย มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจึงคว้าอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสูงถึง 138 คะแนน”

“มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย ได้ 16 คะแนนในรอบแรก 1 คะแนนสำหรับรอบที่สอง 40 คะแนนสำหรับรอบแรกในการตอบคำถามแบบปรนัย และ 40 คะแนนสำหรับรอบที่สองในการตอบคำถามแบบปรนัย ด้วยคะแนนรวม 97 คะแนน จึงคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศไป”

“มหาวิทยาลัยการแพทย์จีนฮุ่ยโจวได้ 15 คะแนนสำหรับรอบแรก 1 คะแนนสำหรับรอบที่สอง 27 คะแนนสำหรับรอบแรกของการตอบคำถามแบบปรนัย และ 40 คะแนนสำหรับรอบที่สองของการตอบคำถามแบบปรนัย ด้วยคะแนนรวม 83 คะแนน จึงคว้าอันดับที่สามไปครอง”

“…”

เมื่อดูผลคะแนนแล้ว ผู้ชมต่างปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียง

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่มาดูการแข่งขันต่างโห่ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

แข็งแกร่งมาก!

ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

เนื่องจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงแทบจะไม่เคยมีช่วงเวลาเช่นนี้เลย เครดิตทั้งหมดต้องยกให้ชายคนหนึ่ง

นั่นคือฟางชิว!

ตั้งแต่การแข่งรอบแรกจนถึงตอนนี้ ฟางชิวสามารถเอาชนะนักศึกษาคนอื่น ๆ ทั้งหมดมาได้ ทำให้มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงไปสู่จุดสุงสุด ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทำได้เพียงแค่ตามหลังมาเท่านั้น

ความฉลาดของฟางชิวไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเท่านั้น แต่ยังสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับเพื่อนร่วมสถาบันอีกด้วย วินาทีนี้ไม่มีนักศึกษาคนใดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงไม่รู้สึกภาคภูมิใจ!

ทั้งมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงนักศึกษา ทุกคนต่างรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง

ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ นั้น ตั้งแต่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยจนถึงนักศึกษา พวกเขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง

แม้ว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะได้เปรียบในถิ่นตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงในปีนี้แข็งแกร่งมาก

โดยเฉพาะฟางชิว เขาเป็นเหมือนสัตว์ประหลาด ใช้ความรู้ของตัวเองต่อสู้กับมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่ง

และเขาก็ไม่ได้พ่ายแพ้!

ใครจะหาเหตุผลอะไรมาแย้งกับความแข็งแกร่งนี้ได้!

เมื่อรอบที่สองสิ้นสุดลงในช่วงบ่าย ผลคะแนนล่าสุดก็กระจายไปทุกช่องทางทันที และแพร่ไปถึงมหาวิทยาลัยทั้งเก้าแห่ง

ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย

“ฉันไม่นึกว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะได้ที่สอง แต่ช่องว่างของผลคะแนนมันไม่ห่างเกินไปหน่อยเหรอ? นี่มันก็น่าขายหน้าอยู่นะ!”

“ฟางชิวเป็นสัตว์ประหลาด”

“มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงปีนี้แข็งแกร่งจริง ๆ!”

ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจว

“อันดับสามก็โอเค ในฐานะที่พวกเราไม่ใช่อันดับสุดท้าย”

“เถาอี้หรานกับหวังจื้อซิ่งก็เก่งทั้งคู่ แต่ทำไมผลคะแนนถึงต่างกันมากขนาดนี้ล่ะ”

“การแข่งขันความรู้น้องใหม่ปีนี้มันเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ!”

ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว

“ถึงจะได้แค่อันดับสี่ แต่ซูจือโม่ก็เก่งมาก เรามีหร่วนซือจิ้งคอยสนุบสนุนด้วย จะได้อันดับที่สี่ได้ยังไง? พวกเขาร่วมมือกัน แต่ก็ยังแพ้ฟางชิวอีกเหรอ”

“เป็นฟางชิวอีกแล้วเหรอ การทดสอบก่อนหน้านี้เขาก็ได้ที่หนึ่ง เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ไง ฉันอยากเจอเขาจริง ๆ!”

มหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับสูง ๆ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาเกินจริงเท่าไร ส่วนมากจะมีทัศนคติค่อนข้างเป็นกลาง

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยที่ได้อันดับต่ำกลับรู้สึกแตกต่างออกไป

โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว

ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับคำถามประเภท A ในการตอบคำถามแบบปรนัย แต่พวกเขาก็ได้ศูนย์คะแนน สุดท้ายก็เลยได้คะแนนน้อยที่สุดไป

เมื่อเห็นผลคะแนนและการจัดอันดับแล้ว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจวก็ไม่พอใจทันที

“บ้าเอ๊ย ไอ้พวกนั้นมันกินโชคขี้หมามาเหรอ? ถ้าฉันอยู่ด้วยคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอน!”

“ได้โอกาสดีขนาดนั้นแล้ว แต่พวกเขาได้แค่ศูนย์คะแนน! ไม่ขายหน้าเขาหรอกเหรอ?”

“น้องใหม่ปีนี้น่าผิดหวังเกินไปแล้ว!”

“เฮ้อ มหาวิทยาลัยของพวกเราอยู่อันดับท้ายสุดเลย ว่าแต่ฟางชิวคือใคร? เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ไง”

ขณะที่มหาวิทยาลัยเก้าแห่งกำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ฟางชิวกับเหล่าเพื่อนร่วมทีมก็กำลังจะรับประทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย

ส่วนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นก็กลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนและประชุมการแข่งขัน

แม้ว่าพวกเขาจะผิดหวัง แต่ก็ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนยอมแพ้ เพราะพวกเขารู้ดีว่า ไม่ว่าวันนี้ผลคะแนนจะแย่แค่ไหน ในวันพรุ่งนี้ก็อาจจะมีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์ได้

ไม่มีใครรู้ว่าใครจะชนะใครจะแพ้จนกว่าจะจบการแข่งขัน!

ฟางชิวเป็นหนามอันใหญ่ที่ต้องคิดวิธีรับมือ!

คิดแล้วเหล่าตัวแทนจากแต่ละมหาวิทยาลัยต่างหดหู่ใจไปตาม ๆ กัน

หกโมงเย็น ณ โรงอาหารชั่วคราวของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง

หลังจากที่รับนักศึกษาและผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งเมื่อวันก่อน โรงอาหารนี้ก็ไม่ได้ปิด แต่กลายเป็นโรงอาหารพิเศษสำหรับตัวแทนเก้าคนที่เข้าร่วมการแข่งขันความรู้ รวมถึงฟางชิวด้วย

ในระหว่างการแข่งขัน อาหารทั้งสามมื้อของทั้งเก้าคนก็ถูกจัดเตรียมโดยมหาวิทยาลัย เพราะถ้าพวกเขากินอะไรที่ทำให้ปวดท้องในระหว่างการแข่งขัน มันก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการแข่งขัน

ทุกคนได้รับข้าวกล่องขนาดใหญ่ ในนั้นเป็นอาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างระมัดระวัง

“เจ้าห้า ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ” จูเปิ่นเจิ้งถือกล่องอาหารกลางวันของตัวเองไปที่ฝั่งของฟางชิวแล้วนั่งลงพร้อมกับถอนหายใจออกมา “ถ้าไม่ใช่เพราะนาย พวกเราอาจจะทำได้ไม่ดีในวันนี้”

“ใช่แล้ว!” เจียงเหมี่ยวอวี๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนแข่งตอบคำถามรอบแรกกับรอบที่สอง นายยอดเยี่ยมมากเลยฟางชิว!”

ตัวแทนคนอื่น ๆ ก็ชื่นชมฟางชิวเช่นกัน

ยกเว้นจ้าวเหยียนเฉิง ในสายตาของเขา ฟางชิวถือว่าเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

ชายหนุ่มยอมรับว่า วันนี้หากไม่มีฟางชิว พวกเขาก็จะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ จุดนี้เขานับถือฟางชิว แต่ต่อจากนี้จะเป็นการแข่งขันตัวต่อตัวแล้ว และในฐานะผู้สืบทอดตระกูลแพทย์แผนจีน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ต้องแข่งขันกับฟางชิวตัวต่อตัวให้ได้ จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เก่งกว่า!

เหล่าตัวแทนพูดคุยกันขณะที่รับประทานอาหารถึงเรื่องสรุปผลคะแนนในวันนี้ พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันในวันพรุ่งนี้

ทว่าในระหว่างการรับประทานอาหาร จู่ ๆ ฟางชิวก็ขมวดคิ้วและวางตะเกียบในมือลง เขาเอามือกุมหน้าท้องด้วยใบหน้าซีดเผือด หน้าผากมีเหงื่อผุดพรายออกมาเป็นเม็ด ๆ

อาหารเป็นพิษ!

ฟางชิวกัดฟันแน่นกับอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เขารีบรวบรวมพลังปราณภายในไปล้อมรอบอาหารที่เพิ่งกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้พิษแพร่กระจาย

เมื่อเห็นฟางชิวเปลี่ยนสีหน้าอย่างกะทันหัน จูเปิ่นเจิ้งก็ตกใจ เขารีบวางตะเกียบในมือลง จับมือฟางชิวอย่างกังวลแล้วถามว่า “เจ้าห้า นายเป็นอะไร”

“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงเหมี่ยวอวี๋วางตะเกียบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เธอยืนขึ้น ถามฟางชิวว่า “ฟางชิว นายไม่สบายตรงไหน?”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฟางชิวก็กัดฟันเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “อาหารมีพิษ วางตะเกียบลง!”

คนอื่น ๆ หยุดกินทันทีที่ได้ยินแบบนั้น พวกเขาต่างตกใจที่เห็นว่าใบหน้าของฟางชิวบิดเบี้ยวไปแล้ว

“ฉันจะไปบอกอาจารย์!” ตัวแทนคนหนึ่งลุกขึ้นและรีบวิ่งออกไปทันที

ในไม่ช้า เฉินอินเซิงกับฉีไคเหวินที่กำลังรับประทานอาหารในอีกห้องหนึ่งก็รีบวิ่งมาหาพวกเขาอย่างเร่งรีบ

“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเข้ามาในห้อง เฉินอินเซิงก็เข้ามาหาฟางชิวและถามทันที

ฟางชิวเป็นเสาหลักของการแข่งขันความรู้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาจะเป็นปัญหาใหญ่

ถ้าเกิดปัญหาจริง ๆ แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรในการแข่งต่อไป?

เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของฟางชิวแล้ว ฉีไคเหวินก็รู้สึกกังวลเช่นกัน และหลังจากที่ฟังเรื่องราวจากนักศึกษาคนอื่น ๆ แล้ว เขาก็รีบพูดว่า “เร็วเข้า รีบส่งฟางชิวไปล้างท้องที่โรงพยาบาล”

“อย่า!” ฟางชิวส่ายหัวด้วยใบหน้าซีด

ฟางชิวรู้ดีว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะล้างท้องของเขาตอนนี้

กระเพาะอาหารก็ไม่สามารถหยุดย่อยอาหารเป็นพิษนี่ได้ สารพิษบางส่วนถูกย่อยได้เข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว

ถึงฟางชิวจะรู้ว่าเฉินอินเซิงกับฉีไคเหวินดีกับเขา แต่ฟางชิวก็ไม่กล้าที่จะไว้ใจใครในตอนนี้

เขาเชื่อแค่ตัวเองเท่านั้น

“ไม่ได้ เธอต้องล้างท้องเดี๋ยวนี้” เฉินอินเซิงสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

ฟางชิวส่ายหัวอีกครั้ง เขากัดฟันอดทน หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาให้จูเปิ่นเจิ้งแล้วพูดว่า “โทรหาอาจารย์ของฉัน และบอกให้เขามาช่วยฉันเดี๋ยวนี้!”

“อาจารย์ของนาย?” จูเปิ่นเจิ้งรีบดูรายชื่อในมือถือของฟางชิวก่อนจะถามว่า “ใครคืออาจารย์ของนาย”

“อาจารย์สวีเมี่ยวหลิน!” ฟางชิวตอบด้วยสีหน้าเจ็บปวด

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท