บทที่ 172 จะถูกคัดออกไหม?
บทที่ 172 จะถูกคัดออกไหม?
“เอาล่ะ เรามาต่อกันที่คำถามถัดไป” พิธีกรสาวยังคงทำหน้าที่ได้ดี
ทว่าเวลานี้เหงื่อกาฬมากมายกลับผุดซึมที่หน้าผากของชายหนุ่ม เขากินยาเมื่อเช้านี้จึงทำให้อาการทวีความรุนแรงขึ้น
ฟางชิวรู้ว่านี่เป็นสัญญาณว่ายากำลังทำงานอยู่ ดังนั้นเขาต้องกัดฟันอดทนต่อไป
จูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าว และโจวเสี่ยวเทียนคอยเหลือบมองเขาเป็นระยะด้วยความกังวล เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยก็เช่นกัน
เวลาตอบคำถามเสร็จ เธอก็จะหันไปมองฟางชิวทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพราะตอนนี้หญิงสาวรู้สึกกังวลจนเกินคำบรรยาย
ชายหนุ่มยังคงยืนหยัดสู้ต่อไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ตอบเลยสักคำถามเดียว และอาการปวดท้องยังคงไม่บรรเทาแม้จะผ่านมาสักพักแล้ว
สิบนาทีต่อมา
ผู้เข้าแข่งขันสิบคนถูกคัดออก ขณะนี้เหลือเก้าอี้ว่างสิบตัวบนเวที นักศึกษาที่เหลืออีก 71 คนก็ตอบคำถามต่อไป
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างก็จับตามองฟางชิว และสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
ใบหน้าและการเคลื่อนไหวของฟางชิวผิดแปลกไป โดยเฉพาะสีหน้าเจ็บปวดนั่น ฝูงชนรู้สึกสับสนระคนกังวลใจ กลัวว่าฟางชิวจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน
แม้จะรู้สึกเช่นนั้น แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาและเฝ้าดูการแข่งขันอย่างเงียบ ๆ
การแข่งขันประเภทเดี่ยวควรจะสร้างสีสันไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะเหงาหงอยไปมากเพราะฟางชิว
วันนี้ไม่ค่อยคึกคักเลย…
สิบห้านาทีต่อมา
ผู้เข้าแข่งขันสามสิบคนถูกคัดออกหลังผ่านไปสามสิบคำถาม
ในบรรดาคำถามทั้งสามสิบข้อ ฟางชิวพยายามตอบทุกครั้ง แต่พออาการปวดกำเริบ เขาก็แทบจะเขียนคำตอบไม่ออก
ผู้ชมมองดูการแข่งขันตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนก โชคดีที่ฟางชิวยังไม่สลบไปก่อน
“เอาล่ะ ตอนนี้มีแค่หนึ่งคนเท่านั้นที่จะถูกคัดออก” พิธีกรเอ่ยพลางอ่านคำถามถัดไป
และบังเอิญว่ามีนักศึกษาเพียงคนเดียวที่ตอบผิดพอดี การคัดเลือกรอบแรกจึงสิ้นสุดลง
เหล่าทีมงานขึ้นมาเคลียร์เก้าอี้ว่าง 41 ตัวออกไป พวกเขาวางโต๊ะเล็ก ๆ บนเวทีและเครื่องตอบรับเครื่องเล็ก ๆ ไว้ตรงหน้าผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่เหลือ
“ต่อไปคือรอบที่สองของการแข่งขันประเภทเดี่ยว”
“ในรอบนี้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะต้องแย่งกันตอบคำถามด้วยการกดเครื่องตอบรับ หากตอบคำถามสองข้อถูกต้องก็จะเข้าสู่รอบต่อไปและมีเพียงยี่สิบคนเท่านั้น”
หลังจากสรุปกฎเกณฑ์ต่าง ๆ แล้ว พิธีกรก็เอ่ยถาม “มีใครมีคำถามอะไรอีกไหมคะ?”
เห็นได้ชัดว่าคำถามนี้มีไว้สำหรับผู้ที่สงสัยฟางชิวเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังจื้อซิ่ง…
เครื่องตอบรับเป็นเหมือนจุดบกพร่องสำหรับทุกคน เพราะฟางชิวเรียกได้ว่ามือขั้นเทพ หากจะคัดค้านก็ต้องเลือกใช้วิธีการอื่นแทน
ทว่าทุกคนยังต้องประหลาดใจ เพราะครั้งนี้หวังจื้อซิ่งไม่ลุกขึ้นมาโต้แย้งและเพียงพูดว่า “ไม่มีครับ”
เมื่อวานมันวุ่นวายพอสมควรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าฟางชิวยังอาการไม่ค่อยดี ถ้าลุกขึ้นมาคัดค้านตอนนี้คงจะโหดร้ายไปหน่อย
พวกเขาเห็นอาการของฟางชิวแล้ว และรู้ว่าเขาเจ็บปวดไม่น้อยจึงรู้สึกเห็นใจขึ้นมา
คนที่น่าเกรงขามเมื่อวานนี้ วันนี้แทบสิ้นลม อนิจจา!
ชีวิตคนเรา…
พิธีกรสาวมองไปที่หวังจื้อซิ่งและคนอื่น ๆ ด้วยความประหลาดใจ “ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน… ถ้าอย่างนั้นเรามาเข้าสู่ช่วงถัดไปกันดีกว่า”
ไม่นานเธอก็อ่านคำถามแรกจบ
“กรุณาตอบด้วยค่ะ!”
“ปี๊บ!” เสียงเครื่องตอบรับดังขึ้น
ทุกคนหันไปหาฟางชิวอย่างเคยชิน แต่พบว่าเครื่องตอบรับของเขาไม่กะพริบ อีกทั้งชื่อบนหน้าจอก็ยังไม่ใช่ของเขา!
ไม่ใช่ฟางชิวหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร?
บรรดาผู้คนต่างตื่นตระหนก ความโกลาหลพลันบังเกิด
“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ฟางชิวเหรอ”
“ไม่มีทางอะ ฟางชิวจะพลาดได้ไง”
“มีอะไรผิดปกติกับโปรแกรมหรือเปล่า? ฟางชิวจะพลาดได้ไง? เมื่อวานนี้เขายังคว้าโอกาสตอบคำถาม 26 ครั้งติดต่อกันได้อยู่เลย”
“ฟางชิวป่วยงั้นเหรอ?”
…
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น
ชายหนุ่มมองไปที่เครื่องตอบรับในมือด้วยรอยยิ้มขมขื่น เขาอยากจะกดใจจะขาด แต่ความเจ็บปวดมันแล่นขึ้นมาถึงขั้วหัวใจ ทำให้เขาเสียสมาธิไป
ทันใดนั้นคนอื่น ๆ ก็เข้าใจทันทีว่า… ฟางชิวถูกวางยาพิษจริง ๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ความเร็วลดลง และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคว้าสิทธิ์ในการตอบคำถาม
แล้วกระบวนการตอบคำถามนี้ก็เป็นการยืนยันการคาดเดาของทุกคน ส่วนคำถามแรกก็เป็นหวังจื้อซิ่งที่ตอบและถูกต้อง
คำถามที่สองก็เป็นหวังจื้อซิ่งเช่นเดิม
การตอบถูกสองครั้งรวดทำให้หวังจื้อซิ่งเป็นคนแรกที่เข้ารอบ
เหลือแค่สิบเก้าที่นั่งเท่านั้น
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่เหลือก็เริ่มวิตกกังวล พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรีบกดเครื่องตอบรับ
เมื่อเห็นคู่แข่งเข้ารอบ ฟางชิวก็ยังไม่สามารถคว้าสิทธิ์ที่จะตอบคำถามได้เลย เขาพลาดโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า!
อาการปวดท้องเริ่มแย่ลง ฟางชิวจึงต้องเบี่ยงเบนความสนใจส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมพลังปราณภายใน และต่อสู้กับสารพิษในร่างกายให้มันถูกขับออกทีละนิด
การแข่งขันรอบที่สองยังคงดำเนินต่อไป
หานอวี่เซวียนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยเป็นคนที่สองที่เข้ารอบ
ตามมาด้วยซูจือโม่กับหร่วนซือจิ้ง จากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว และเถาอี้หรานจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจว
ถึงกระนั้น ฟางชิวก็ยังไม่มีโอกาสตอบคำถามใด ๆ เลย ตอนนี้เหลืออีกสิบห้าที่นั่งแล้ว
การแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้น
สิบนาทีต่อมา
เจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิงก็เข้ารอบ ตามด้วยเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย และนักศึกษาบางคนที่ไม่มีชื่อเสียงก็เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้น
ในพริบตาก็เหลือเพียงสามที่นั่งเท่านั้น ถึงตอนนี้ฟางชิวก็ยังไม่ได้ตอบสักคำถาม
ด้านล่างเวที
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้อีกต่อไป
การพลาดหนึ่งหรือสองคำถามไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทำไมฟางชิวจึงพลาดถึงสิบเจ็ดครั้ง?
“เกิดอะไรขึ้น? ใครก็ได้บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น? ฟางชิวเป็นอะไร”
“ต้องมีอะไรแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดแบบนี้”
“ฟางชิวสู้ ๆ! ถ้าไม่สามารถคว้าโอกาสตอบคำถามได้ คุณจะถูกคัดออก!”
“เหลือเพียงสามที่นั่งเท่านั้นเอง ทุกคนตอบถูกไปแล้วหนึ่งคำถาม เหลือตอบคำถามอีกแค่หนึ่งข้อเพื่อเข้ารอบ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฟางชิวจะต้องถูกคัดออก”
“มันจบแล้ว! พวกเราจะได้ที่หนึ่งโดยไม่มีฟางชิวได้ไหม”
“คว้าโอกาสมาให้ได้นะฟางชิว นายต้องเข้ารอบสิ!”
…
มีการถกเถียงกันมากมายในฝูงชน พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟางชิวย่ำแย่ขนาดนี้
เฉินอินเซิงกับไคเหวินซึ่งนั่งอยู่ในพื้นที่วีไอพีต่างก็ขมวดคิ้ว
จนถึงตอนนี้ นักศึกษาสองคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ได้เข้ารอบไปแล้ว นั่นคือเจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิง พวกเขาทั้งคู่มีความสามารถ แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะคว้าแชมป์
ความหวังหมู่บ้านจึงอยู่ที่ฟางชิว แต่เมื่อเห็นอาการของเขาแล้วก็ไม่แน่ใจว่าฟางชิวจะอดทนไหวหรือไม่… พวกเขาจึงได้แต่ภาวนา
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปแม้จะมีเสียงอึกทึกครึกโครม
ชายหนุ่มพลาดไปอีกหนึ่งคำถาม ส่วนนักศึกษาที่เคยตอบถูกไปแล้วหนึ่งข้อและตอบข้อนี้ถูกก็เข้ารอบไป
ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงสองที่นั่งเท่านั้น!
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนที่เข้ารอบไปแล้วต่างมองไปที่ฟางชิวด้วยความสงสาร ชายหนุ่มอาจจะมาไกลได้แค่นี้
ฟางชิวขมวดคิ้วแน่น แทบไม่ได้ยินคำถามเลย เพราะต้องควบคุมพลังปราณภายในอย่างเต็มที่เพื่อขับพิษออกจากร่างกาย
หลังจากพยายามอย่างหนักมาหนึ่งวันหนึ่งคืน ควบคู่ไปกับฤทธิ์ยา สารพิษตกค้างก็ถูกขับออกไปมาก แม้ว่าจะไม่หายขาดในทันทีแต่ก็เริ่มดีขึ้น
“เกือบแล้ว… เกือบแล้ว…” เขากัดฟันแน่นแล้วหลับตาลง ก่อนจะมุ่งความสนใจไปที่การขับพิษออก
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังขับสารพิษออก นักศึกษาอีกคนก็ผ่านเข้ารอบไป
ฝูงชนตื่นตระหนก เฉินอินเซิงกับฉีไคเหวินก็เช่นกัน
ตอนนี้เหลือที่นั่งสุดท้ายแล้ว!
ฟางชิวจะถูกคัดออกจริง ๆ หรือ?
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ชายหนุ่มด้วยความคิดหลากหลาย
แต่ดวงตาของฟางชิวยังคงปิดอยู่ และแทบจะไม่สนใจตอบคำถามเลย
“เหลือที่เดียวแล้ว!” โจวเสี่ยวเทียนที่ด้านล่างเวทีก็กล่าวอย่างเป็นกังวล
“นอกจากฟางชิวแล้ว ยังมีนักศึกษาอีกสิบคนเหลืออยู่บนเวที ตอนนี้ห้าคนตอบถูกไปแล้วหนึ่งคำถาม ถ้าหนึ่งในห้าได้โอกาสในคำถามถัดไป เจ้าห้าจะต้องถูกคัดออก” ซุนฮ่าวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อเห็นว่าฟางชิวที่ยังคงหลับตา พวกเขาจึงทำได้เพียงอธิษฐานในใจ
“ตอนนี้พวกเราเหลือที่นั่งสุดท้ายแล้ว นักศึกษาบนเวทีทุกคนจะต้องพยายามกันต่อไปนะคะ!” พิธีกรมองไปที่ฟางชิวอย่างตั้งใจ ในขณะที่เอ่ยเตือน
เหล่านักศึกษาที่เหลือต่างก็กลั้นหายใจเพื่อตั้งใจฟังคำถาม
ทันทีที่พิธีกรสาวอ่านคำถามจบ…
“ปี๊บ!” เสียงเครื่องตอบรับดังขึ้น
และยังคงไม่ใช่ฟางชิว!
ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหล กระนั้นดวงตาของฟางชิวก็ยังคงปิดอยู่
ผู้คนเริ่มยอมรับแล้วว่าเขาจะถูกคัดออก
แต่ในเวลานั้น
“เอ๋? นักศึกษาคนนี้ไม่เคยตอบสักข้อเลยนี่นา”
“แล้วไง?”
“นั่นก็หมายความว่าฟางชิวยังมีโอกาสไงล่ะ”
“ฝันไปเถอะ แหกตาดูสิ เขาแทบจะไม่สนใจคำถามเลยเอาแต่หลับตา แล้วก็ยังไม่ได้ตอบสักข้อเดียว แล้วจะมีโอกาสที่ไหนอีก”
“พวกเราคงทำได้แค่ภาวนาให้เจียงเหมี่ยวอวี๋กับจ้าวเหยียนเฉิงทำผลงานให้ดี!”
“เฮ้อ… เกิดอะไรขึ้น? ใครก็ได้ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟังที”
ฝูงชนส่ายหัวไปมา แม้จะยังมีความหวังอยู่บ้าง แต่ก็ยอมยกธงขาวอย่างจำนน
ฟางชิวจะคว้าสองคำถามติดต่อกันได้หรือไม่?
เมื่อวานอาจจะเป็นไปได้ แต่วันนี้แทบไม่มีโอกาส!!!
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป
นักศึกษาที่ได้สิทธิ์ตอบคำถามคนนั้นตอบถูก คำถามถัดไปจึงเริ่มขึ้นทันที
ในเวลานี้มีนักศึกษาหกคนที่เคยตอบคำถามไปแล้วหนึ่งข้ออยู่บนเวที ถ้าคนไหนแย่งตอบคำถามต่อไปนี้ได้ การแข่งในรอบนี้จะจบลง
พิธีกรยังคงอ่านคำถามต่อไป
“กรุณาตอบด้วยค่ะ!” พิธีกรมองไปที่ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นฟางชิวยังคงหลับตา เธอก็ได้แต่ส่ายหัว
แต่วินาทีต่อมา
“ปี๊บ!” เสียงเครื่องตอบรับดังขึ้น
ผู้ชมมองไปรอบ ๆ เพื่อพยายามหาว่าใครได้โอกาสในการตอบคำถามนี้
แต่พวกเขาพบว่านักศึกษาหกคนที่เคยตอบคำถามไปแล้วหนึ่งข้อไม่ได้สิทธิ์นี้ นักศึกษาทั้งสี่คนที่ยังไม่เคยตอบคำถามก็เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า…
เป็นฟางชิว!
พรึ่บ!
ทุกคนหันไปมองฟางชิวทันที
ชายหนุ่มลืมตาอยู่ ใบหน้ายังคงซีดเซียว แต่ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก แล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องตอบรับในมือของฟางชิวที่กำลังกะพริบเป็นสีแดง
ฟางชิวคว้าโอกาสได้แล้ว!
ในที่สุด! เขาจะโชว์ศักยภาพแล้วใช่ไหม?
ลุยเลยฟางชิว! สู้เขา!! จัดการเจ้าพวกนั้นให้ราบ!!!
ทุกคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงต่างรู้สึกตื่นเต้นและกำหมัดแน่น
พวกเขาหวังว่านี่จะไม่ใช่แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน
ฟางชิวถอนหายใจออกอย่างช้า ๆ
โชคดีที่ยังไม่ได้ถูกคัดออก เขายังมีโอกาส!