บทที่ 177 ฟางชิวได้แชมป์! มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ได้เป็นแชมป์เช่นกัน!
บทที่ 177 ฟางชิวได้แชมป์! มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ได้เป็นแชมป์เช่นกัน!
หลังจากคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ในที่สุดหานอวี่เซวียนก็ถอนหายใจอย่างหดหู่ใจ และรับรู้ถึงความจริงว่าเขาแพ้แล้ว ซ้ำยังเป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก
หานอวี่เซวียนไม่สามารถทำในสิ่งที่ฟางชิวทำได้ และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น
แม้แต่อาจารย์ของหานอวี่เซวียน เว่ยฉีที่เป็นปรมาจารย์ด้านการจัดกระดูกก็ยังทำไม่ได้เลยมั้ง!
สีหน้าของหานอวี่เซวียนคล้ำลง เขาจ้องมองฟางชิวราวกับว่ากำลังดูสัตว์ประหลาด
ความตกใจนี้ หานอวี่เซวียนไม่อาจสงบใจได้เลย
แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
เจ้านั่นจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
แข็งแกร่งขนาดที่ว่าสามารถบดขยี้เขาให้แหลกได้!!
ด้านล่างเวที
“เหวอ…” เหล่าผู้ชมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
นักศึกษากับเหล่าผู้บริหารต่างประหลาดใจกับทักษะของฟางชิว
เวลานี้เฉินอินเซิงก็เข้าใจแล้วว่า… ทำไมฟางชิวถึงได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ช่วยแพทย์ในแผนกกระดูกและข้อ และทำไมเขาถึงได้รับป้ายเกียรติคุณจากคนไข้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขาทั้งนั้น!
และก็เป็นความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
เมื่อรู้ว่าหานอวี่เซวียนไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ฟางชิวจึงหันไปหาพิธีกรสาว
เมื่อสายตาของทั้งคู่สอดประสาน พิธีกรสาวก็สัมผัสได้ถึงความหมายของฟางชิวทันที
“ฉันขอประกาศว่า…”
“อันดับหนึ่งในการแข่งขันความรู้สำหรับน้องใหม่นี้คือ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง และแชมป์ของการแข่งขันประเภทเดี่ยวก็คือ… ฟางชิวค่ะ!”
เมื่อเธอประกาศออกมา เหล่าผู้ชมที่กลับมาได้สติก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
แปะ! แปะ! แปะ!
เกิดเสียงปรบมือดังประสานกันอย่างครึกครื้น
“ฟางชิว! ฟางชิว!” เสียงเชียร์ดังก้อง
ทุกคนต่างเรียกชื่อของฟางชิว
ดวงตาของทุกคนสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น
ฟางชิวคือใคร?
ฟางชิวก็คือแชมป์อย่างไรล่ะ! ทั้งยังคว้าชัยชนะมาได้อย่างไร้ข้อกังขาด้วย
แม้จะต้องความทุกข์ทรมานจากอาหารเป็นพิษ แต่เขาก็ยังคงทำคะแนนการแข่งประเภทเดี่ยวได้!
ชายหนุ่มถือได้ว่าเป็นราชาแห่งการแข่งขันความรู้ที่นำพามหาวิทยาลัยที่อยู่รั้งท้ายผงาดให้ขึ้นมาเป็นแชมป์ได้!
สมควรแล้วที่เขาจะได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์!
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอีกแปดแห่งก็ปรบมือเช่นกัน พวกเขายอมรับฟางชิวโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ทั้งใจเปี่ยมด้วยความรู้สึกชื่นชมที่ชายหนุ่มสามารถพามหาวิทยาลัยไต่ระดับไปเป็นแชมป์ได้ แม้ว่าผลคะแนนสุดท้ายจะยังไม่ออก แต่ทุกคนก็ทราบดีว่าผลคะแนนรวมของเขามีมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ
อีกทั้งยังประทับใจในการควบคุมพละกำลังของฟางชิวด้วยเช่นกัน
ในขณะที่พวกเขาเพิ่งเข้าสู่เส้นทางของแพทย์แผนจีน แต่ฟางชิวกลับก้าวนำไปก้าวหนึ่งแล้ว
ขณะนี้พวกเขายอมรับฟางชิวหมดหัวใจ!
เจียงเหมี่ยวอวี๋กับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยที่อยู่ด้านล่างเวที และรูมเมตทั้งสามคนของฟางชิวก็ปรบมือด้วยความยินดีปรีดา
มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่า… การเดินทางของฟางชิวในครั้งนี้ยากลำบากเพียงใด
และถึงแม้จะไม่อาจจะพรรณนาความเจ็บปวดของเขาได้ แต่เพียงแค่มองหน้าชายหนุ่ม พวกเขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว
ภายใต้สถานการณ์ยากลำบากเหล่านี้ ฟางชิวยังคงคว้าตำแหน่งแชมป์มาครองได้
และที่สำคัญยังจัดการเจ้าหานอวี่เซวียนได้อยู่หมัด
พวกเราภูมิใจในตัวนายจริง ๆ ฟางชิว!
ชายหนุ่มคำนับให้ผู้ชมก่อนที่จะเดินลงจากเวที
ด้วยคำประกาศจากพิธีกรสาว ข่าวที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งก็แพร่กระจายไปถึงมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนบางแห่งที่ให้ความสนใจในการแข่งขัน
เมื่อนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยได้ยินข่าว พวกเขาทุกคนก็ตะลึงงัน
พวกเขาจึงเริ่มกระซิบกระซาบถึงข่าวนั้น
“เฮ้ย! เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย?”
“ให้ตายเถอะ! แชมป์ควรเป็นของพวกเราสิ! แต่ถูกเจ้าฟางชิวบ้านั่นขโมยไปได้ ชิ!”
“แค่นี้ยังอับอายไม่พออีกเหรอ? นายไม่ได้อ่านข้อความจากพวกนักศึกษาในเว็บไซต์รึไง หานอวี่เซวียนท้าทายฟางชิว แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้หมดท่า ทีนี้ยังกล้าฝันคิดถึงตำแหน่งแชมป์อีกไหม? เดิมทีมันก็น่าอัปยศอดสูอยู่แล้ว ดูสิ พวกเราพ่ายแพ้ตั้งสองครั้ง!”
“ฟางชิวคนนี้มาจากไหนกัน? แม้แต่ลูกศิษย์ของหมอเว่ยฉีก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ นี่มันเหลือเชื่อมาก!”
“ถ้าหานอวี่เซวียนไม่ใจร้อนก็คงดี เพราะอย่างน้อยมหาวิทยาลัยของพวกเราก็ได้อันดับสองกับสามมา แต่ตอนนี้ความหุนหันพลันแล่นของหานอวี่เซวียนทำลายชื่อเสียงของมหาลัยจนป่นปี้ไปหมดแล้ว”
“นั่นสิ สมองเจ้าหานอวี่เซวียนคงผิดปกติแน่ ๆ ทำไมต้องประณามความอัปยศอดสูตัวเองให้ชาวบ้านเขารับรู้ด้วย ฮึ่ย”
…
มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจว
หลังจากได้รับผลการแข่งขันรอบสุดท้ายแล้ว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจวก็มีกระแสตอบรับอย่างกระตือรือร้น
เพราะปีที่แล้วพวกเขาเป็นแชมป์!
“น้องใหม่ปีนี้เอาเรื่องไปเลย!”
“จริงด้วย ปีที่แล้วมหาวิทยาลัยพวกเราได้ส่งทายาทสองคนของตระกูลแพทย์แผนจีนไป ก็ได้ชัยชนะกลับมาอย่างง่ายดาย แต่ครั้งนี้เถาอี้หรานที่เป็นลูกหลานของตระกูลแพทย์แผนจีน กลับได้อยู่ในห้าอันดับแรกเท่านั้น”
“มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะเจ้าฟางชิว!”
“ฟางชิวคนนั้นมันเป็นคนประหลาด!”
“ใช่แล้ว ฟางชิวได้คะแนนเต็มในการทำแบบทดสอบก่อนการตอบคำถาม แล้วก็ตอบคำถามทั้งหมดในแบบทดสอบได้เร็วกว่าคนอื่น แถมยังทำคะแนนได้หนึ่งร้อยเต็มอีกด้วย หลังจากนั้นก็เอาชนะผู้เข้าแข่งขันทุกคน… ความรู้ของเขาเหมือนว่าจะอยู่ในระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ!”
…
มหาวิทยาลัยแพทย์จงโจว
“ให้ตายเถอะ! ทำไมมหาวิทยาลัยเราถึงได้ที่โหล่อีกแล้ว”
“หนึ่งในนักศึกษาของพวกเราไม่ได้ติดอันดับหนึ่งในสิบของการแข่งขันประเภทเดี่ยวเหรอ? อันดับสุดท้ายอีกแล้วหรือไงเนี่ย เซ็งจริง ๆ”
“น่าอายเกินไป พวกเขามีคะแนนน้อยมากในสองสามรอบแรก แต่กล้าดียังไงที่ไปเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยพวกเรา คว้าสักคะแนนมาก็ยังไม่ได้!!”
“ให้ตายเถอะ! ที่โหล่… ฉันยังไม่เคยสอบได้ที่โหล่เลย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าต้องได้ที่โหล่ไปด้วย นี่มันอัปยศเกินไปแล้ว!”
“มหาวิทยาลัยต้องรีบทำอะไรสักอย่าง! ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราจะมีอนาคตที่สดใสได้อย่างไร!”
“อื้ม ฉันเห็นด้วย! ทางมหาวิทยาลัยต้องทำอะไรสักอย่าง… ไม่งั้นฉันจะเรียนที่อื่น!”
“ใช่! พวกเราไปประท้วงกันเถอะ!”
…
มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง
เมื่อการแข่งขันประเภทเดี่ยวในช่วงเช้าจบลง ทั่วทั้งวิทยาเขตก็มีชีวิตชีวาคล้ายว่าเป็นวันตรุษจีน ใบหน้าทุกคนอิ่มเอม ผิวพรรณเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและความตื่นเต้น
ตำแหน่งแชมป์!
เกียรติยศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน
บรรดานักศึกษาตลอดจนผู้บริหารจึงแทบสำลักความสุข
ผ่านไปที่ไหนก็ได้ยินเสียงคุยกันจอแจราวกับว่าพวกเขาได้คะแนนเต็มในการสอบเสียเอง
ในเวลาเดียวกัน
การแข่งขันชิงแชมป์ของฟางชิวพร้อมกับผลงานก่อนหน้านี้ของเขาก็ถูกรวบรวมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ถูกอัปโหลดไปยังเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย
ความนิยมของฟางชิวจึงเพิ่มขึ้นทันที เขากลายเป็นหัวข้อในการสนทนายอดฮิตของทุกคน
ทำให้ค่าความนิยมของชายหนุ่มในเว็บบอร์ดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแซงหน้าชายลึกลับที่ครองตำแหน่งสูงสุดมาเนิ่นนานได้ครั้งแรก
ขณะที่พวกเขาคุยกันอย่างดุเดือด
หลังจากแข่งเสร็จ ฟางชิวก็กลับไปที่หอพักทันทีเพื่อขับพิษที่เหลืออยู่ออกไป
เมื่อถึงตอนเที่ยง
ในที่สุดเขาก็ขับพิษออกจนหมด เมื่อไม่มีพิษอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น และใบหน้าซีดเซียวก็เริ่มดูดีขึ้นมาอีกครั้ง
ฟางชิวพ่นลมอย่างเหนื่อนอ่อน เพราะในที่สุดพิษก็หมดสักที
ทว่าตอนนี้เขาก็ยังไม่มีเวลาหาตัวการ แม้ว่าการแข่งขันจะจบลงแล้ว แต่ก็ยังคงมีพิธีมอบรางวัลอยู่
แน่นอนว่าพิธีนี้ถูกจัดขึ้นเป็นเพียงแค่กิจกรรมเล็ก ๆ เท่านั้น โดยมุ่งเป้าไปที่นักศึกษาจากเก้ามหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ส่วนนักศึกษาที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันก็ไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ เพราะเวลาและสถานที่ได้ถูกเก็บเป็นความลับ
ฟางชิวเงยหน้ามองดูเวลา
ขณะนี้เวลา 13:55 น.
ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาทีก่อนพิธีมอบรางวัลจะเริ่ม
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฟางชิวก็เดินออกจากหอพักไปยังงานมอบรางวัล
แต่ทันทีที่มาถึงหน้าประตูห้องประชุม โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาเสียก่อน
เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้า ฟางชิวก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และพบว่าเป็นสายจากเฉาเจ๋อ
“สวัสดีครับ?” ฟางชิวพูดด้วยความอย่างสับสน
“[ฟางชิวใช่ไหม?]” เสียงของเฉาเจ๋อที่ดังออกมาแลดูร้อนรนจนผิดปกติ
“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?” ฟางชิวถาม
“[นายมาโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นน่ะ คนขับรถแท็กซี่ที่กระดูกหักเลือกนายให้เป็นคนรักษา และยังบอกอีกว่าเขาเชื่อมั่นในตัวนาย ซ้ำยังไม่ยอมให้หมอคนอื่นรักษาเลย]”
อีกฝ่ายยังคงเร่งเร้า “[นายรีบมาดูอาการคนเจ็บเร็วเข้า]”
“โอเค เดี๋ยวผมตามไป” ชายหนุ่มรีบตอบรับไม่ลังเล
หลังจากวางสายแล้ว ฟางชิวก็รีบเข้าไปในห้องประชุมที่ทำพิธีมอบรางวัล
เดิมทีตอนที่ขอลางานจากโรงพยาบาลหนึ่งวัน เขาไม่ได้วางแผนที่จะไปโรงพยาบาลเลย แต่การที่เฉาเจ๋อโทรมาอ้อนวอนเช่นนี้ทำให้เขากังวลมากกว่าเดิม
เพราะผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่อาจรอช้าได้แม้วินาทีเดียว!
ทุกคนในห้องประชุมต่างฉงนไปตาม ๆ กันกับท่าทีอุกอาจของฟางชิว
เกิดอะไรขึ้น?
“อาจารย์ครับ ผมต้องขออภัย แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นที่โรงพยาบาล” ฟางชิวรีบอธิบายให้เหล่าผู้บริหารของแต่ละมหาวิทยาลัยฟัง
“คนเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เรียกให้ผมไปรักษา อีกทั้งยังปฏิเสธหมอทุกคนนอกจากผม นี่เป็นเหตุฉุกเฉิน ผมต้องรีบไปตอนนี้ เดี๋ยวจะไม่ทันการนะครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเหล่าผู้บริหารก็พลันเคร่งเครียดขึ้นมา
“จะมามัวพิธีรีตองไม่ได้ เธอรีบไปเถอะ” เฉินอินเซิงกล่าวเสียงเข้ม
“รีบไปเถอะ เราเลื่อนพิธีมอบรางวัลออกไปก่อนได้”
“อืม ไม่ต้องห่วงทางนี้” เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่นต่างพยักหน้าเข้าใจ
ทว่าจู่ ๆ หานอวี่เซวียนก็ลุกพรวดและพูดกับฟางชิว “ฉันจะไปกับนายด้วย”
หลังจากแพ้การแข่งขัน หานอวี่เซวียนก็ยังเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะแพ้การแข่งขันด้านพละกำลัง แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะได้เห็นทักษะที่แท้จริงของฟางชิวให้จงได้!
“…หานอวี่เซวียนมีฝีมือ เขากำลังเรียนกับเว่ยฉีผู้เป็นปรมาจารย์ด้านการจัดกระดูกจึงมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ให้เขาไปกับเธอสิ ส่วนนักศึกษาคนอื่น ๆ ก็ไปด้วยได้ ทีนี้ทุกคนจะได้เห็นว่าทักษะของเธอนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน”
เจียงไห่ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยกล่าว “รองอธิการบดีเฉิน นี่เป็นโอกาสที่ดี ฟางชิวจะได้ฝึกฝน และนักศึกษาของพวกเราจะได้เรียนรู้จากเขา”
“มันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับ” ฟางชิวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่ง “โรงพยาบาลไม่ใช่สถานที่วิ่งเล่น คงจะดีกว่าถ้าไม่มีคนพลุกพล่าน”
“ไม่เป็นไร” เฉินอินเซิงเอ่ยเสียงขรึม “ฉันจะแจ้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอสามารถพาพวกเขาไปด้วยได้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงหยุดโต้แย้ง จากนั้นเขาก็เดินนำเหล่านักศึกษาไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
…
ภายในเวลาอันสั้น คนทั้งหมดก็มาถึงโรงพยาบาล
ในเวลานี้ มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ห้องโถงชั้นล่าง พยาบาลจากแผนกกระดูกและข้อหลายคนกำลังรอฟางชิวอย่างใจจดใจจ่อ
“คุณหมอฟางชิวมาถึงแล้ว!” ทันทีที่ฟางชิวมาถึง นางพยาบาลก็เข้ามาพร้อมกับชุดคลุมสีขาวที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วให้ทันที
“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ” ในขณะถาม ฟางชิวก็รับชุดมาและสวมใส่อย่างรวดเร็ว
“คนไข้นอนอยู่บนทางเดินของแผนกกระดูกและข้อ คุณหมอท่านอื่นอยากจะรักษาเบื้องต้นแต่ก็โดนปฏิเสธมา เขายืนยันว่าจะรอคุณ” นางพยาบาลวิ่งนำหน้าฟางชิวพลางอธิบายไปด้วย
“เขามาถึงโรงพยาบาลนานแค่ไหนแล้ว” ฟางชิวถาม
“ประมาณหกนาทีได้แล้วค่ะ”