คุรุการแพทย์ – บทที่ 196 ยอมให้ฟางชิวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา

คุรุการแพทย์

บทที่ 196 ยอมให้ฟางชิวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา?

บทที่ 196 ยอมให้ฟางชิวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา?

“อาจารย์เสิ่นครับ” เมื่อต่อสายติดแล้ว ฟางชิวก็เอ่ยทักทายด้วยความเคารพ

“[ว่าไง? เธอกังวลจนทนไม่ไหวแล้วเหรอ?]” เสิ่นชุนยิ้มและพูดว่า “[การจะให้เธอกลับไปทำงานในโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ตราบใดที่ยังมีความหวัง ฉันก็จะพยายามช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่แน่นอน ฉะนั้นอย่ากังวลจนเกินเหตุ]”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ” ฟางชิวส่ายหัว “ผมแค่อยากรู้ว่าทางมหาวิทยาลัยคิดอย่างไรตอนที่ไล่ผมออกจากโรงพยาบาล พวกเขาพูดอะไรบ้าง?”

“[อยากรู้จริง ๆ เหรอ?]” เสิ่นชุนถาม

“ครับ” ฟางชิวพยักหน้ายืนยัน เสิ่นชุนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็พูดออกมา

“[ทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจริบรางวัลกับเกียรติประวัติของเธอทั้งหมดคืน และไม่อนุญาตให้เธอเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอีก]”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฟางชิวก็เข้าใจทุกอย่างในทันที “ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับอาจารย์เสิ่น” พูดจบ ฟางชิวก็วางสาย

ดีมาก!

คิดได้อย่างนั้น ฟางชิวก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา เพราะไม่ว่าจะทำอะไรอีกในอนาคต อย่างไรเสีย ทางมหาวิทยาลัยก็จะลงโทษเขาเหมือนเดิมอยู่ดี

การที่เขาทำในสิ่งที่ถูกกลับกลายเป็นความผิดเสียอย่างนั้น! และการที่ทำผิดก็จะกลายเป็นบาปมหันต์แทน!

เนื่องจากเฉินอินเซิงเป็นรองอธิการบดีจึงมีอำนาจมาก เขาก็เลยสามารถตัดสินอนาคตของฟางชิวในมหาวิทยาลัยได้ด้วยคำพูดง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำ

แต่… มันยังไม่จบ!

ในตอนเที่ยง

ฟางชิวกับโจวเสี่ยวเทียน ซุนฮ่าว และจูเปิ่นเจิ้ง พวกเขาก็ได้มาที่โรงอาหารของนักศึกษา

ฟางชิวนั่งลงที่โต๊ะทันทีโดยไม่ได้ไปซื้ออาหาร เพราะในช่วงเวลาสั้น ๆ รูมเมตทั้งสามคนก็ได้นำอาหารชุดใหญ่มาให้แล้ว

แม้ว่ามันจะเป็นอาหารจานด่วนทั้งหมด แต่ก็เต็มไปด้วยอาหารที่ดีที่สุดของโรงอาหารนี้แล้ว และถึงจะอร่อยสู้ร้านอาหารข้างนอกมหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่มื้อนี้ก็มาจากความจริงใจของทั้งสามคน

ขณะที่พวกเขาเริ่มรับประทานอาหาร นักศึกษาก็เข้ามาในโรงอาหารมากขึ้น ในไม่ช้าโต๊ะว่างที่อยู่ใกล้กับฟางชิวก็ถูกจับจองกันหมด

ในระหว่างมื้ออาหาร ผู้คนจำนวนมากต่างพูดถึงการที่ฟางชิวถูกลงโทษ บางคนก็รู้สึกสงสาร แต่ในขณะที่บางคนคิดว่าสมควรโดนลงโทษแล้ว

แม้ว่าเจ้าตัวจะได้ยินการสนทนาทั้งหมดนี้ แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนัก ทว่าจูเปิ่นเจิ้งกับรูมเมตอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้างกลับเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

ฟางชิวอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว และตอนนี้คนเหล่านี้ยังคงพูดถึงเรื่องนี้อีก พวกเขาสามคนก็เลยรู้สึกโกรธมาก จึงหันไปมองพวกที่กำลังซุบซิบนินทารอบตัวทันที

“ตั้งใจกินข้าวซะ อย่าใส่ใจกับคำพูดของพวกเขาเลย” ฟางชิวพูด

“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันมีคนเยอะกว่านะ รับรองได้ว่าพวกเราสู้กับพวกมันได้แน่นอน!” ซุนฮ่าวกล่าวอย่างโกรธเคือง

“ถ้าเฉินชงอยู่ที่นี่ เขาคงจะไปอัดพวกนั้นด้วยแน่ ๆ!” โจวเสี่ยวเทียนพยักหน้า

ฟางชิวพูดยิ้ม ๆ “กินข้าวได้แล้วน่า”

รูมเมตทั้งสามคนจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ และกินข้าวต่อไป

ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“กีฬามหาวิทยาลัยระดับมณฑลได้เริ่มขึ้นแล้วในวันนี้ และการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ ก็ดุเดือดมาก ดังนั้นไปรับชมภาพถ่ายทอดผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกันเลย”

ข่าวนี้กำลังถูกฉายอยู่ในโทรทัศน์ของโรงอาหาร

เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยประจำมณฑล นักศึกษาทุกคนในโรงอาหารก็หันไปดูโทรทัศน์ทันที

“จากผลการจัดอันดับ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยทั่วไปอยู่ในอันดับที่หนึ่งด้วยสองเหรียญทองและหนึ่งเหรียญเงิน”

“อันดับสองตกเป็นของมหาวิทยาลัยสารพัดช่าง”

“อันดับที่สามถูกครอบครองโดยมหาวิทยาลัยเจียงจิง”

ในโทรทัศน์ ผู้ประกาศข่าวก็ได้กำลังประกาศผลการจัดอันดับอยู่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะฟังมาตั้งนาน แต่เหล่านักศึกษาก็ยังไม่ได้ยินชื่อของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเลย

ด้วยความสับสน นักศึกษาหลายคนจึงมองดูผลการจัดอันดับในโทรทัศน์อย่างตั้งใจ จากนั้นก็พบว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงอยู่ในอันดับสุดท้าย!

“อันดับสุดท้ายคือมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าจะชิงเหรียญรางวัลมาได้ แต่น่าเสียดายที่ทำผลงานได้ไม่ดีในวันแรก และยังไม่ได้รับเหรียญรางวัลใด ๆ เลยจนถึงตอนนี้…”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ทุกคนในโรงอาหารก็พากันเงียบทันที แต่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เกิดการสนทนาขึ้นมา

“บัดซบ! น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!”

“พวกเรายังไม่ได้รับเหรียญรางวัลเลย แม้แต่เหรียญเดียว!”

“อยู่ในอันดับสุดท้าย นี่มันน่าอายเกินไปหน่อยไหม!”

“แปลกจัง! ทีมกรีฑาก็มีเกาเฟยไม่ใช่หรือ ทำไมพวกเขาถึงไม่ได้เหรียญเลยล่ะ แล้วยังไม่ได้แม้แต่เหรียญทองแดงเลยหรือ?”

“ผลงานในการแข่งของเกาเฟยยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่เป็นไปได้ไหมว่าครั้งนี้เขาจะทำผลงานได้ไม่ดี?”

“ฉันได้ยินมาว่าเกาเฟยฝีมือตกเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ฉันก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน”

“นี่มันน่าอายจริง ๆ พวกเราเพิ่งได้ที่หนึ่งในการแข่งขันความรู้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในการแข่งขันกีฬาตอนนี้พวกเรากลับรั้งท้ายซะงั้น มหาวิทยาลัยอื่นคงจะหัวเราะเยาะแน่เลย”

“เกี่ยวอะไรกับการแข่งขันความรู้? การแข่งขันความรู้เป็นเพียงการแข่งขันระหว่างเก้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่การแข่งขันกีฬาตอนนี้ เขาแข่งกันทั้งจังหวัด แม้แต่ข่าวก็ยังเอามาออกอากาศเลย ดังนั้นในตอนนี้พวกเราได้ขายหน้าไปทั่วประเทศแล้ว”

“ครั้งที่แล้วมหาวิทยาลัยของพวกเราได้อันดับสาม แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้ที่โหล่ล่ะ?”

เวลานี้ความสนใจของทุกคนได้หันเหจากฟางชิว ไปที่การแข่งขันกีฬาประจำมณฑลแทน

ผลงานของมหาวิทยาลัยพวกเขาแย่มาก!

ในฐานะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง พวกเขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองไม่ให้ด่าออกไปได้

ส่วนฟางชิวยังคงกินข้าวต่อไปโดยที่ไม่ได้สนใจข่าวในโทรทัศน์

เฉินอินเซิงที่กำลังทานอาหารเย็นที่บ้านก็เห็นข่าวนี้เช่นกัน “พวกเราได้ที่โหล่เหรอ?”

เมื่อเห็นข่าวที่ออกอากาศบนคอมพิวเตอร์ สีหน้าของเฉินอินเซิงก็คล้ำลงทันที และเขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อด้วยซ้ำ

แม้ว่าจะเป็นเพียงรองอธิการบดี แต่ก็รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยได้ส่งนักศึกษาที่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับมหาวิทยาลัยประจำมณฑลตลอดทั้งสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักศึกษาเหล่านั้นกลับทำผลงานออกมาได้ย่ำแย่มาก และผลการจัดอันดับก็ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์อีกด้วย

มันช่างน่าอายอะไรอย่างนี้!

เฉินอินเซิงวางตะเกียบในมือลง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อรีบโทรหาคณบดีของคณะพลศึกษาอย่างรวดเร็ว

“คณบดีเหลียง เกิดอะไรขึ้นในการแข่งขันมหาวิทยาลัยระดับจังหวัด? นักศึกษาในคณะของคุณมีทักษะด้านกีฬาที่ยอดเยี่ยมมากไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงทำผลงานออกมาได้แย่อย่างนี้? และคว้าที่โหล่มาอีก?!”

ทันทีที่สายโทรศัพท์เชื่อมต่อ เฉินอินเซิงก็เอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

เหลียงหย่งเสียง คณบดีพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ได้ตอบกลับไปว่า “ท่านรองอธิการบดีเฉิน ผมว่าจะรายงานให้คุณทราบเรื่องแล้ว แต่คุณโทรหาผมซะก่อน”

เหลียงหย่งเสียงหัวเราะออกมาแห้ง ๆ แล้วอธิบายอย่างเร่งรีบ “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในครั้งนี้คู่แข่งแข็งแกร่งเกินไปและทีมกรีฑาของพวกเราที่เคยโดดเด่นก็อยู่ในสภาพย่ำแย่ ก็เลยทำผลงานออกมาได้ไม่ดี”

“มันไม่สำคัญว่าคู่แข่งจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ทำไมทีมกรีฑาถึงอยู่ในสภาพแย่เช่นนี้” เฉินอินเซิงขมวดคิ้วและยังคงถามต่อไป

“เอ่อ…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหลียงหย่งเสียงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา “ผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีมกรีฑาของพวกเราคือเกาเฟย อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้แข่งขันกับฟางชิว และประสบความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ในเวลานั้น ฟางชิวก็ได้พูดอะไรบางอย่างที่ไม่ดีให้กับสมาชิกของทีมกรีฑาฟัง ผลงานของพวกเขาก็เลยออกมาแย่อย่างนี้”

ฟางชิวอีกแล้ว!

เมื่อได้ยินชื่อของฟางชิวอีกครั้ง เฉินอินเซิงก็โกรธจัด

ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงเกี่ยวข้องไปเสียทุกเรื่องเลย?

เฉินอินเซิงระงับความโกรธและถามออกไปว่า “ฟางชิวพูดอะไรกับทีมกรีฑาบ้าง”

“ฟางชิวกล่าวว่าเด็กพิเศษด้านกีฬาเหล่านี้ไม่มีอนาคต แม้ว่าจะได้เกรดดี แต่มหาวิทยาลัยก็ไม่สนับสนุน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหางานทำหลังจากเรียนจบ นอกจากนี้ ฟางชิวยังกล่าวอีกว่าทางมหาวิทยาลัยจะไม่รับผิดชอบอนาคตของพวกเขา ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะสูญเสียช่วงเวลาวัยรุ่นเพื่อให้ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัย” เหลียงหย่งเสียงกล่าวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว

“ไร้สาระ!” เฉินอินเซิงรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม

นี่ไม่ใช่ว่าฟางชิวต้องการจะถอดเขาออกจากตำแหน่งรองอธิการบดีหรอกหรือ?

แม้ว่าสิ่งที่ฟางชิวพูดจะถูก แต่ในฐานะรองอธิการบดี เฉินอินเซิงก็ไม่สามารถยอมให้ใครมาถอดตำแหน่งของเขาเด็ดขาด และเกียรติยศของมหาวิทยาลัยก็เป็นเกียรติยศของเขาเหมือนกัน การที่ฟางชิวต่อต้านเขาก็เท่ากับว่าได้ต่อต้านมหาวิทยาลัยด้วย

ฟางชิวกล้าดีอย่างไรกัน?

เฉินอินเซิงหายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่พยายามระงับ แล้วก็รีบพูดต่อ “ไปปลอบใจผู้เล่นทุกคนซะ แล้วพยายามทำผลงานออกให้ดีในการแข่งขันต่อไป”

“เอ่อ…” เหลียงหย่งเสียงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบโดยไม่มั่นใจว่า “นี่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมคิดว่าผมรู้วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว”

“วิธีอะไร?” เฉินอินเซิงถามด้วยความสงสัย

“ง่ายมาก” เหลียงหย่งเสียงเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว “ก็ให้ฟางชิวเข้าร่วมการแข่งขันด้วยสิ เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของฟางชิวแล้ว เขาสามารถทำผลงานดี ๆ ให้มหาวิทยาลัยได้อย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาเอาชนะเกาเฟยได้”

“ไม่มีทาง!” เฉินอินเซิงคัดค้านทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น

เพราะเขาได้ออกคำสั่งห้ามฟางชิวไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยต่อหน้าผู้บริหารทุกคนของมหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าเขายอมปล่อยให้ฟางชิวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา นั่นจะไม่เป็นการกลืนน้ำลายตัวเองเหรอ?

นอกจากนี้ จะให้เขาขอความช่วยเหลือจากนักศึกษา? เขาทำไม่ได้เด็ดขาด!

“นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น” เหลียงหย่งเสียงถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า “หากผลงานต่อจากนี้ยังไม่ดี อย่าโทษฉันแล้วกัน”

“ไม่โทษคุณ? แล้วให้โทษใครล่ะ!?” เฉินอินเซิงขึ้นเสียงคำราม “แทนที่จะให้กำลังใจนักศึกษาในคณะ คุณกลับแนะนำให้ฉันไปขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาของคณะอื่น นี่คือสิ่งที่คณบดีพลศึกษาควรทำเหรอ? คุณไม่สามารถแม้แต่จะปลูกฝังนักศึกษาของคุณให้ดีได้ นี่ไม่เท่ากับว่ากำลังละทิ้งหน้าที่ของตัวเองหรือไง? ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะใช้วิธีใด แต่ครั้งนี้คุณจะต้องทำผลงานที่ดีออกมาให้ได้!”

เมื่อพูดจบ เฉินอินเซิงก็วางสายทันที แล้วไม่ปล่อยให้เหลียงหย่งเสียงมีเวลาที่จะโต้แย้งอีก

“ฟางชิว!” หลังวางสายโทรศัพท์แล้ว เฉินอินเซิงก็คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

ตอนนี้เขาเกลียดฟางชิวอย่างสุดหัวใจ

เขาได้สกัดกั้นฟางชิวจากทุกด้านแล้ว ยกเว้นการขับไล่ออกจากมหาวิทยาลัย แต่ฟางชิวก็ยังสามารถสร้างปัญหาได้อีกหรือ?

ขับไล่?

เฉินอินเซิงไม่มีแผนดังกล่าว เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะแฉความลับที่ทางมหาวิทยาลัยได้ซ่อนคนที่วางยาพิษไว้

แล้วหากเขาทำอย่างนั้นจริง ๆ มันจะทำให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เฉินอินเซิงไม่อนุญาตให้ฟางชิวไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่น เพราะเขาจะไม่สามารถควบคุมฟางชิวได้อีก แล้วภายใต้การฝึกฝนของผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ฟางชิวจะมีความก้าวหน้าอย่างแน่นอน จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็จะถูกเหยียบย่ำ

เฉินอินเซิงไม่โง่พอที่จะมอบอัจฉริยะให้กับคู่ต่อสู้ของเขา

สิ่งที่จะทำตอนนี้คือการบีบคออัจฉริยะคนนี้ให้ตายโดยไม่ให้ทรัพยากรและโอกาสแก่เขา!

ในเวลาเดียวกัน วงการแพทย์แผนจีนที่เคยสงบนิ่งเหมือนน้ำมาตลอด จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา

บัญชีที่มีชื่อเสียงของเวยป๋อ ที่ใช้ชื่อ ‘หลี่เหวินป๋อ’ ได้โพสต์เนื้อหาที่มีขนาดยาวเหยียดลงมาอย่างฉับพลัน

‘หลี่เหวินป๋อขอประกาศท้าทายปรมาจารย์แห่งการวินิจฉัยชีพจรของการแพทย์แผนจีนทุกท่าน…

คุณสมบัติ: ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีนทุกคนในประเทศสามารถเข้าร่วมได้

เนื้อหา: การทดสอบการตั้งครรภ์ ทำนายว่าหญิงคนหนึ่งจะตั้งครรภ์หรือไม่ โดยการจับชีพจรอย่างเดียว ด้วยการทดสอบแบบนี้ หากใครมีอัตราความถูกต้องมากกว่าแปดในสิบส่วนขึ้นไป จะเป็นผู้ชนะทันที”

รางวัล: ไม่มีค่าลงทะเบียน ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลห้าแสนหยวน และฉันจะไม่เรียกการแพทย์แผนจีนว่าเป็นวิทยาศาสตร์ปลอมไปตลอดชีวิต’

โพสต์นี้ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในวงการแพทย์แผนจีนทันที!

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน