คุรุการแพทย์ – บทที่ 202 ฟางชิวจะถูกไล่ออก

คุรุการแพทย์

บทที่ 202 ฟางชิวจะถูกไล่ออก?

บทที่ 202 ฟางชิวจะถูกไล่ออก?

[วิเคราะห์แล้ว วิดีโอเป็นของจริง]

[ตรวจสอบแล้ว ภาพก็ไม่ได้ถูกตัดต่อเช่นกัน]

ด้วยการปรากฏตัวของผู้เชี่ยวชาญด้านวิดีโอและภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงบนเวยป๋อ ทำให้โลกออนไลน์ทั้งหมดระเบิดในทันที

[ของจริง? มันกลายเป็นของจริง?]

[ฮ่าฮ่า พวกที่สงสัย เมื่อรู้ความจริงกันแล้ว รู้สึกเสียใจไหม? ฉันรู้อยู่แล้วว่าศิลปะการต่อสู้ของจีนนั้นไม่ธรรมดาเลย!]

[ถ้างั้นมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็น่าทึ่งจริง ๆ !]

[ในความคิดของฉัน ควรจะเรียกว่ามหาวิทยาลัยนี้ว่ามหาวิทยาลัยปีศาจ]

[นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงอยู่ที่ไหน? ช่วยออกมายืนยันวิดีโอและภาพถ่ายเหล่านี้หน่อย]

[แต่ฉันยังสงสัยอยู่ดีว่าวิดีโอกับรูปภาพเหล่านี้เป็นของปลอม]

ทันใดนั้น ผู้คนจำนวนมากบนเวยป๋อต่างก็มองหานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง เพื่อพิสูจน์ว่าวิดีโอ รูปภาพ และข้อความเหล่านี้เป็นของจริงหรือไม่

หลังจากที่มองหาอยู่นานก็ยังไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าออกมายืนยัน

เวลาผ่านไปไม่นานก็มีคนตอบกลับมา

[นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงไม่กล้าที่จะออกมายืนยัน เพราะการด่าทอของพวกคุณ ในเวลานี้ ใครจะกล้ายอมรับว่าตนเองเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงกันล่ะ?]

จากนั้นคำตอบนี้ก็กลายเป็นไวรัล ทุกคนในเวยป๋อจึงรู้สึกหดหู่ใจ

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า พวกนักศึกษาจะรู้สึกกลัวกับการกระทำบ้า ๆ บอ ๆ ของพวกเขาในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย

เนื่องจากไม่มีหนทางอื่นแล้ว ชาวเน็ตจึงทำได้เพียงคาดเดาความจริงของวิดีโอและภาพถ่ายของชายลึกลับต่อไป

ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

มันเป็นความจริงที่พวกนักศึกษาไม่อยากออกไปยืนยันความจริงของวิดีโอและภาพถ่ายของชายลึกลับ และไม่มีใครกล้าออกไปยืนยันด้วย

ข่าวที่ฟางชิวยอมรับคำท้าก็ได้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยในทันที ซึ่งทำให้อาจารย์และนักศึกษาทุกคนตกตะลึง

แม้แต่อาจารย์ที่พร้อมจะรับคำท้าก็ยังตกตะลึง

ใครจะคิดว่าคนที่ยอมรับคำท้าอย่างเปิดเผยบนเวยป๋อ จะอยู่ในมหาวิทยาลัยและอยู่ใกล้ตัวพวกเขาอย่างนี้

แม้ว่าพื้นฐานของฟางชิวจะแข็งแกร่ง แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะคำท้าในการวินิจฉัยชีพจรตั้งครรภ์ ไม่ต้องพูดถึงอาจารย์เลย แม้แต่นักศึกษาด้วยกันเองก็ยังมองฟางชิวในแง่ไม่ดี

พวกเขารู้สึกว่า ฟางชิวประเมินตัวเองสูงเกินไป และมีความอวดดีหลังจากที่เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันความรู้

พูดตามตรง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะสนับสนุนฟางชิว เพราะท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ในใจคนเหล่านี้บางส่วนแอบเอาใจช่วย แต่ทว่าการกระทำของฟางชิวในครั้งนี้ มันอยู่เหนือความคาดหมายไปอย่างสิ้นเชิง

หากอาจารย์คนใดคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยเป็นผู้ยอมรับคำท้าเอง พวกเขาจะสนับสนุนอย่างแน่นอน

ทว่าคนที่รับคำท้ากลายเป็นฟางชิวซะงั้น!

ในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ทุกคนยังคงสงบนิ่ง

ทว่านอกมหาวิทยาลัย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งอื่น ๆ ก็ปรากฏตัวทีละคนด้วยความโกรธและเข้าร่วมกลุ่มในการประณามฟางชิว

[ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของฟางชิวมานานแล้ว ฉันคิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ไม่นึกว่าจะเป็นคนโง่ด้วย]

[ฉันก็เป็นนักศึกษาปีหนึ่งเหมือนกัน ฟางชิวคนนี้ไม่รู้จักการประมาณตนเองเลยจริง ๆ เขากล้าดียังไงไปยอมรับคำท้าด้วยความรู้เพียงน้อยนิด]

[ถูกต้อง ดีแค่ไหนแล้วที่นักศึกษาใหม่จะมีความเชี่ยวชาญความรู้พื้นฐานของการแพทย์แผนจีน แต่จะเป็นไปได้ยังไงที่นักศึกษาใหม่จะมีความเชี่ยวชาญในการจับชีพจร]

[มหาวิทยาลัยของพวกเราได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ผลงานของฟางชิวนั้นดีมากจริง ๆ ตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการแพทย์แผนจีนในอนาคตซะอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นแค่คนโง่คนหนึ่ง!]

[ตอนนี้ฉันรู้สึกอายที่จะยอมรับว่ามหาวิทยาลัยของฉันก็มีส่วนร่วมในการแข่งขันความรู้ด้วยเหมือนกัน]

ขณะที่นักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยมุ่งเป้าไปที่ฟางชิว หานอวี่เซวียนที่เคยพ่ายแพ้ให้กับฟางชิวมาแล้วหลายครั้งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาหลังจากได้ยินข่าว “ฉันคิดผิดที่ถือว่านายเป็นคู่แข่งของฉัน! ”

“อนิจจา… ทำไมฉันถึงต้องมาเจอคู่แข่งที่ไร้สมองแบบนี้ด้วยนะ”

“แชมป์ในการแข่งขันความรู้?”

“ฟางชิว นายไม่ได้เก่งไปกว่าใครเลย!”

ในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง หลังจากปิดเว็บบอร์ดแล้ว เจ้าหน้าที่แผนกเครือข่ายของมหาวิทยาลัยก็รายงานสถานการณ์ที่ผิดปกตินี้ให้เฉินอินเซิงทราบทันที

“อะไรนะ?!” เสียงคำรามด้วยความโกรธดังไปทั่วอาคารสำนักงานของผู้บริหารมหาวิทยาลัย

เฉินอินเซิงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ดูกลัดกลุ้มใจมาก ดวงตาของเขาแดงก่ำ และลมหายใจหอบหนัก

“ให้ตายเถอะ! ฟางชิว!” เมื่อการหายใจของเฉินอินเซิงกลับมาเป็นปกติ เขาก็เริ่มตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะเรื่องการท้าทายของการวินิจฉัยชีพจรตั้งครรภ์กับเรื่องของจางซินหมิง ทำให้เฉินอินเซิงอารมณ์เสียมาก เพื่อดูแลความเรียบร้อยของอาจารย์และนักศึกษา เฉินอินเซิงจึงไม่มีอารมณ์จะไปจัดการกับฟางชิว

แต่ตอนนี้ เมื่อได้ยินรายงานจากแผนกเครือข่ายแล้ว เฉินอินเซิงก็โกรธจัด เพราะไม่เคยคาดคิดว่าผู้ที่ยอมรับคำท้าจะเป็นฟางชิว!

มันเหมือนฝันร้าย เวลาที่เขาได้ยินชื่อของฟางชิวทีไรก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อก่อนเคยคิดว่าฟางชิวจะเป็นดาวนำโชคของมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นดาวหายนะมากกว่า!

ตราบใดที่เวลามีคนกล่าวถึงฟางชิว มันก็มักจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอยู่เสมอ!

แม้ว่าเฉินอินเซิงจะให้ฟางชิวอยู่ในหมวดหมู่ตัวซวยมานานแล้ว แต่ยังคาดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะนำปัญหาใหญ่มาให้อย่างนี้!!

บัดซบ!

โลกออนไลน์สั่นสะเทือนเพราะฟางชิว ยิ่งไปกว่านั้น ชาวเน็ตต่างมาสร้างความปั่นป่วนในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย

จบแล้ว!

มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงจบสิ้นแล้ว!

ในอนาคต เขาจะกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนได้อย่างไร!

“คุณ…”

หลังจากนั้นไม่นาน เฉินอินเซิงก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองคนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะ ก่อนจะออกคำสั่งว่า “ไปแจ้งผู้บริหารมหาวิทยาลัยทั้งหมดให้เข้าร่วมการประชุม คณบดีและรองคณบดีทุกคนก็ต้องเข้าร่วมการประชุมด้วย!”

เนื่องจากเห็นว่าเฉินอินเซิงกำลังโกรธเคือง เจ้าหน้าที่จะกล้าประวิงเวลาได้อย่างไร? เขารีบวิ่งออกจากสำนักงานทันทีเพื่อแจ้งให้ผู้บริหารทุกคนทราบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว เฉินอินเซิงก็ลุกยืนขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นแล้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง

เวลานี้เขาโกรธมาก!

โกรธจนแทบคลั่ง!

“ฟางชิว แกต้องการที่จะโยนปัญหาให้กับมหาวิทยาลัยทั้งหมดโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมาเลยหรือไง?” เสียงคำรามด้วยความโกรธดังออกมาจากลำคอของเฉินอินเซิง เขารู้ดีว่าฟางชิวทำเรื่องนี้เพื่อต่อต้านเขา

เพราะเขาไม่อนุญาตให้ไปเป็นผู้ช่วยแพทย์ ไม่ให้เปิดคลาสบรรยายในที่สาธารณะ และไม่ให้รางวัล รวมถึงทุนการศึกษาด้วย ดังนั้นฟางชิวจึงทำสิ่งนี้เพื่อแก้แค้นเขากับมหาวิทยาลัย!

สิ่งสำคัญก็คือ ข้อมูลประจำตัวบนเวยป๋อ ได้เน้นเป็นพิเศษว่าฟางชิวเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

ฟางชิว แกช่างไร้ความปรานีจริง ๆ !

แกต้องการอะไรกันแน่?

ในขณะนี้ เฉินอินเซิงรู้สึกเสียใจอย่างกะทันหัน เขาเสียใจที่บีบบังคับฟางชิวมากไป บางทีถ้าดีกับฟางชิวมากกว่านี้ ง ฟางชิวคงจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไข

ดังนั้นความเกลียดชังของเฉินอินเซิงที่มีต่อฟางชิวจึงทวีคูณเพิ่มขึ้นหลายเท่า!!

“รอก่อนเถอะ!” เฉินอินเซิงเหวี่ยงหมัดอย่างรุนแรงและคำรามออกมาด้วยความโกรธ “ถ้าฉันจัดการแกไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกชื่อฉันว่าเฉินอินเซิงเลย!”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

คณบดีของแต่ละคณะและผู้บริหารทุกคนที่กลับบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง

ในห้องประชุมของอาคารสำนักงานผู้บริหารมหาวิทยาลัย ทุกคนนั่งลงอย่างเรียบร้อยเพื่อรอเฉินอินเซิงคนเดียว

เนื่องจากเรื่องนี้แพร่สะพัดทางออนไลน์ ผู้บริหารเกือบครึ่งจึงได้รู้เรื่องนี้แล้ว ช่วงหลายนาทีนี้ที่พวกเขากำลังรอเฉินอินเซิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่เป็นแพทย์แผนจีนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ในสายตาของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฟางชิวจะชนะการท้าทายนี้ นักศึกษาปีหนึ่งจะวินิจฉัยการตั้งครรภ์โดยการจับชีพจรได้อย่างไร?

นี่มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาปีหนึ่งเลย แม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ยังไม่มีความมั่นใจเช่นกัน

เหล่าผู้บริหารอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย มองดูไปรอบ ๆ ด้วยความมึนงง

การแสดงออกที่รุนแรงของคนรอบข้างทำให้พวกเขาสับสน พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมบรรยากาศถึงแลดูอึมครึมขนาดนี้

หลังจากนั้นไม่นาน เฉินอินเซิงก็เข้ามา และมีเจ้าหน้าที่สองคนเดินตามหลังเขาเข้ามาด้วย ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้องประชุม เจ้าหน้าที่สองคนก็วิ่งไปยังโปรเจ็กเตอร์ทันที

เฉินอินเซิงนั่งลงบนเก้าอี้ของตำแหน่งประธานด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก่อนจะจ้องไปที่หน้าจออย่างไม่วางตา

เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนจึงเริ่มหันหน้าไปที่หน้าจอเช่นกัน

ในเวลานี้ ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่สองคน ภาพหน้าเข้าสู่ระบบของเวยป๋อก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทันที หลังจากเข้าสู่ระบบเวยป๋อแล้ว พวกเขาก็ค้นหาบัญชีที่ชื่อว่า ‘แกมันก็งั้น ๆ แหละ’ แล้วคลิกเข้าไปที่หน้าแรก

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากเฉินอินเซิงล่วงหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงข้อมูลการระบุตัวตนของบัญชีนี้ให้แก่ผู้บริหารทุกคนดู รวมถึงข้อความทั้งหมดที่ฟางชิวโพสต์ด้วย

ในช่วงเวลาต่อมา

“…”

ทุกคนต่างอ้าปากค้างทันที

เมื่อดูความคิดเห็นเหล่านั้นบนเวยป๋อ พวกเขาก็พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นเกือบหนึ่งแสน และมีการรีโพสต์หลายหมื่นครั้ง แต่ความคิดเห็นทั้งหมดเป็นการด่าทอฟางชิว และไม่มีความคิดเห็นไหนที่กล่าวในทางที่ดีเลย

และบางคนถึงขั้นด่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงด้วยความหยาบคาย

เมื่อมองดูภาพตรงหน้าแล้ว ผู้บริหารทุกคนก็เปลี่ยนสีหน้าทันที และในตอนนี้เหล่าผู้บริหารที่ไม่รู้ความจริงต่างก็ตกตะลึง

“ช่วยบอกฉันทีว่าควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง” หลังจากที่ทุกคนดูเสร็จแล้ว เฉินอินเซิงก็เอ่ยถามขึ้นมา

ในห้องประชุม

ทุกคนต่างพากันเงียบกริบ ไม่มีใครรู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรดี ขนาดรองอธิการบดียังไม่รู้ แล้วพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรกัน

ไม่มีใครคาดคิดว่าฟางชิวที่เป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่งจะกล้าได้กล้าเสียมากขนาดนี้ เขากล้าที่จะท้าทายคนอื่นบนเวยป๋อ!

แม้แต่ฉีไคเหวินเองยังตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าฟางชิวจะมีความกล้าหาญมากขนาดนี้ อีกทั้งกล้าดีอย่างไรที่ไปยอมรับคำท้าของผู้อื่นหลังจากที่เรียนรู้ได้เพียงไม่กี่เดือน

แน่นอนว่าทุกคนในห้องประชุมรวมถึงฉีไคเหวินด้วย ไม่มีใครเชื่อว่าฟางชิวจะชนะ

“พูดมา!” เฉินอินเซิงตะโกนขึ้นมา เพราะที่เขาเรียกทุกคนให้มาประชุมกันในวันนี้ก็เพื่อหาทางออก ถ้าไม่มีใครพูดออกมา แล้วการประชุมจะมีความหมายได้อย่างไร?

“ฉันมีข้อเสนอ” รองคณบดีคนหนึ่งเปิดปากพูด “พวกเราควรไล่ฟางชิวออก!”

ได้ยินแบบนั้นแล้ว ทุกคนก็ตัวแข็งทื่อทันที

รองคณบดีคนนั้นกล่าวเสริมว่า “ตราบใดที่นักศึกษาที่ชื่อฟางชิวถูกไล่ออก ปัญหาเหล่านั้นก็จะเป็นปัญหาส่วนตัวของเขาเอง แล้วจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยของพวกเราอีก”

ผู้บริหารหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้นักศึกษาคนเดียวทำลายเกียรติของมหาวิทยาลัย

ไล่ฟางชิวออกถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

แต่ในช่วงเวลาต่อมา ก่อนที่เฉินอินเซิงจะพูดอะไรออกมา จู่ ๆ ฉีไคเหวินก็ยืนขึ้นและพูดอย่างหนักแน่นว่า “พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้!”

เป็นเหตุให้ทุกคนหันไปมองฉีไคเหวินเป็นตาเดียว

พวกเขาพากันคิดในใจว่า เนื่องจากฟางชิวเป็นนักศึกษาของคณะแพทย์แผนจีน และผลงานของฟางชิวก็ดีมากเช่นกัน นี่จึงเห็นได้ชัดว่าในฐานะคณบดี ฉีไคเหวินกำลังปกป้องฟางชิวอยู่

แต่มันไม่ถูกเวลา! เพราะเวลานี้การกระทำของชายหนุ่มกำลังจะนำความอับอายมาสู่มหาวิทยาลัย

“จะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!” เมื่อมองไปที่ผู้บริหารทุกคน ฉีไคเหวินก็พูดอย่างยุติธรรมว่า “ถ้าพวกเราไล่ฟางชิวออกในเวลานี้ พวกเราก็จะตกเป็นจำเลยของสังคม ทุกคนจะคิดว่าพวกเรากระตือรือร้นที่จะแยกตัวออกจากฟางชิว แล้วทีนี้พวกนักศึกษาจะคิดยังไงกับพวกเรา? สมาชิกของวงการแพทย์แผนจีนจะคิดยังไง? แล้วมหาวิทยาลัยอื่นล่ะจะคิดยังไง?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็คิดว่าสิ่งที่ฉีไคเหวินพูดนั้นไม่ผิด แต่ถ้าการไล่ฟางชิวไม่เหมาะสม แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้อีก?

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ช่วยบอกฉันทีว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรดี?” เฉินอินเซิงจ้องมองที่ฉีไคเหวิน แล้วเอ่ยถามอย่างเย็นชา

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน