คุรุการแพทย์ – บทที่ 216 จรรยาบรรณของแพทย์แผนจีน!

คุรุการแพทย์

บทที่ 216 จรรยาบรรณของแพทย์แผนจีน!

บทที่ 216 จรรยาบรรณของแพทย์แผนจีน!

หลี่เหวินป๋อหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า และเมื่อดูความคิดเห็นในการถ่ายทอดสดแล้ว ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นเคร่งขรึมทันที

ฟางชิววินิจฉัยไปแล้วแปดคนติดต่อกัน ผู้หญิงที่หลี่เหวินป๋อเตรียมมาในวันนี้มีทั้งหมดยี่สิบคน ถ้าวินิจฉัยผู้หญิงไปอีกสองคนก็จะเหลือจำนวนผู้หญิงเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น อัตราความแม่นยำของฟางชิวคือหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ราวกับแอบใช้กลโกง เพราะไม่เคยวินิจฉัยผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

นี่มันแตกต่างจากที่หลี่เหวินป๋อคาดไว้ในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง!

“คนต่อไปเชิญครับ” ราวกับว่าฟางชิวสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหลี่เหวินป๋อ เขาเลยหัวเราะเบา ๆ และเริ่มเรียกผู้หญิงคนถัดไปด้วยตัวเอง

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของฟางชิว หลี่เหวินป๋อก็กัดฟันและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา

ผู้หญิงคนที่เก้า

“ยินดีด้วย คุณกำลังท้อง” ฟางชิวกล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากจับชีพจรแล้ว

ทนายความก็ยืนยันว่าผู้หญิงคนที่เก้าตั้งครรภ์จริง ๆ

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลี่เหวินป๋อก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง และเริ่มมีเหงื่อซึมทั่วฝ่ามือ

“คนต่อไป” ชายหนุ่มตะโกนเรียกอีกครั้ง

สิ้นเสียงก็มีผู้หญิงคนที่สิบเดินเข้ามา

ฟางชิวยื่นมือไปจับชีพจรของเธอ นาทีต่อมาก็ประกาศผลการวินิจฉัย

“คุณไม่ได้ท้อง”

ทนายความยืนยันว่าผู้หญิงคนที่สิบไม่ได้ตั้งครรภ์

จนถึงตอนนี้ฟางชิววินิจฉัยผู้หญิงสิบคนติดต่อกันแล้ว และทุกคำตอบก็ถูกต้องทั้งหมด!

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มวินิจฉัยถูกต้องมาตลอด เหงื่อกาฬจึงไหลซึมทั่วแผ่นหลังของหลี่เหวินป๋อ เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าการแพทย์แผนจีนจะสุดยอดได้ขนาดนี้ และนักศึกษาปีหนึ่งที่เพิ่งจะเรียนการแพทย์แผนจีนจะเจ๋งแบบนี้

ฟางชิววินิจฉัยสิบกว่าคนไม่มีผิดพลาด ศึกครานี้ถือได้ว่าเป็นการบดขยี้หลี่เหวินป๋อจนแหลกละเอียด!!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในบรรดาผู้หญิงทั้งสิบคน ฟางชิวสามารถวินิจฉัยได้หมด

จากข้อมูลนี้เพียงอย่างเดียวก็พิสูจน์ได้แล้วว่าแพทย์แผนจีนสามารถวินิจฉัยการตั้งครรภ์ด้วยการจับชีพจรได้จริง ๆ

“พวกเรามาพักกันก่อนดีไหม” หลี่เหวินป๋อเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากขณะเงยหน้ามองไปที่ฟางชิว

วันนี้เขารู้สึกหาเรื่องใส่ตัวเข้าแล้ว ดังนั้นต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะสายเกินไป

หยุดพัก?

ฟางชิวมองไปที่หลี่เหวินป๋อด้วยความสงสัย และจากสายตาของหลี่เหวินป๋อ ฟางชิวก็เห็นคำอ้อนวอนอย่างชัดเจน

เวลานี้ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้มุมมองทางวิทยาศาสตร์ของหลี่เหวินป๋อพังทลายลงไป!

หลี่เหวินป๋อ ผู้ให้ความสนใจกับการแพทย์แผนจีนมาโดยตลอดและค้นหาหลักฐานทุกครั้งที่มีโอกาส เขาจึงแน่ใจยิ่งกว่าแน่ว่าการแพทย์แผนจีนไม่สามารถวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยการจับชีพจรเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาจึงกล้าเสนอการท้าทายนี้อย่างโจ่งแจ้ง

แต่ตอนนี้อัตราความแม่นยำหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ของฟางชิวทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออก!

หลี่เหวินป๋อไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงไม่อาจสรรหาคำใดมาโต้แย้งได้

“ฉันไม่จำเป็นต้องหยุดพัก มาวินิจฉัยกันต่อเถอะ” เมื่อได้ยินคำถามของหลี่เหวินป๋อ ฟางชิวก็ส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า “การแพทย์แผนจีนของพวกเราไม่ได้ล้ำค่าขนาดนั้น”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลี่เหวินป๋อก็ดูน่าเกลียดทันที เพราะฟางชิวไม่เพียงปฏิเสธคำแนะนำของเขาเท่านั้น แต่ยังใช้ประโยคนี้โจมตีเขาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการแพทย์แผนตะวันตก!

หลังฟังประโยคนั้นแล้ว ทุกคนที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที!

ฟางชิวพูดถูก! การแพทย์แผนจีนของพวกเราไม่ได้ล้ำค่าขนาดนั้น!

[การแพทย์แผนจีนของพวกเราไม่ได้ล้ำค่าขนาดนั้น!]

ทันใดนั้นก็มีข้อความแสดงความคิดเห็นทำนองนี้นับไม่ถ้วน

นี่ทำให้ผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนตะวันตกพูดไม่ออก ในขณะนี้ผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนได้ถือไพ่เหนือกว่าแล้ว

ไม่ใช่ว่าพวกเขามั่นใจแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ข้อเท็จจริงตรงหน้านี้ต่างหากที่ทำให้ยืดอกได้อย่างมั่นใจ

ฟางชิวสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องสิบครั้งติดต่อกัน และยังสัมผัสได้ถึงชีพจรตั้งครรภ์สี่ครั้ง ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฟางชิวถือว่าสุดยอดไหมล่ะ?

นี่คือการแพทย์แผนจีนของพวกเราเอง! และการแพทย์แผนจีนของพวกเราก็ไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากมาย!

จะให้หยุดพัก? จะหยุดพักทำ**อะไร!

ตอนนี้มุมมองของพวกเขาที่เกี่ยวกับฟางชิวได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เดิมทีหวังแค่ว่าฟางชิวจะรักษาหน้าของแพทย์แผนจีนไว้ได้เท่านั้น แต่ตอนนี้กลับหวังว่าชายหนุ่มจะพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อให้แพทย์แผนจีนได้หน้ามากขึ้นไปอีก อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดในตอนนี้เปลี่ยนความคิดไปสิ้นเชิงแล้ว

ชายหนุ่มได้กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีน

ไม่ใช่แกเหรอที่บอกว่าการแพทย์แผนจีนไม่ดี และการจับชีพจรตั้งครรภ์ก็เป็นของปลอม? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?

แต่ฟางชิวมาที่นี่เพื่อตบหน้าแกแล้ว! เจ็บไหมล่ะ?

ขณะนี้พวกเขาทุกคนรู้สึกภูมิใจในตัวฟางชิวมาก! ทำให้หลายคนเริ่มเรียกเพื่อนให้มาดูการถ่ายทอดสดด้วยกัน

ในบริษัทยาจีนแห่งหนึ่ง

“ดูนี่ ดูนี่สิ” ชายหนุ่มในที่ทำงานกระซิบบอกเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้าง ๆ “การถ่ายทอดสดของการต่อสู้ระหว่างการแพทย์แผนจีนกับการแพทย์แผนตะวันตกนี้น่าตื่นเต้นมาก”

“ไม่เห็นน่าตื่นเต้นเลย” เพื่อนร่วมงานคนนั้นเม้มปาก แล้วถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องดูหรอก ผลสุดท้ายการแพทย์แผนจีนของพวกเราก็แพ้อยู่ดี แล้วคุณจะดูอีกทำไม?”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าจะแพ้” ชายหนุ่มรีบพูด “ฟางชิววินิจฉัยผู้หญิงไปสิบคนแล้ว และยังไม่เคยวินิจฉัยผิดเลย!”

“อะไรนะ?” ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็ผงะไป ก่อนจะเดินเข้าไปดูการถ่ายทอดสดใกล้ ๆ ด้วยใบหน้าประหลาดใจ

ทันทีที่เห็นความคิดเห็นที่สนับสนุนฟางชิวลอยขึ้นมาเต็มหน้าจอ เขาก็ตกตะลึงทันที

ณ ห้องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งหนึ่ง

“ฮัลโหล นายได้ดูการถ่ายทอดสดหรือเปล่า” นักศึกษาที่กำลังดูการถ่ายทอดสดด้วยคอมพิวเตอร์อยู่รีบยกโทรศัพท์ไว้ข้างหูแล้วพูดว่า “นายรู้ได้ไงว่ามันไม่น่าตื่นเต้น? ตอนนี้ไม่มีเรียนควรรีบลุกมาดูการถ่ายทอดสดให้ไว มันโคตรน่าตื่นเต้นเลย! การได้เห็นฟางชิวตบหน้าหลี่เหวินป๋อนี่มันเจ๋งจริง ๆ นะเฟ้ย”

“[อะไรนะ?]” เสียงที่ประหลาดใจดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ แล้วถามว่า “[ไม่ใช่ว่าหลี่เหวินป๋อควรจะตบฟางชิวเหรอ]”

“ตบอะไรล่ะ!” นักศึกษาคนนั้นหัวเราะเสียงดัง “ตรงกันข้ามต่างหาก ตอนนี้ฟางชิวกำลังตบหน้าหลี่เหวินป๋อ มันเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก ทำไมนายไม่รีบไปดูล่ะ?”

“[ไม่หรอกมั้ง?]” เสียงกังขาดังมาจากปลายสายอีกด้าน แล้วถามว่า “[จริงเหรอ]”

“จริงสิ ฉันจะโกหกทำเบื๊อกอะไร ไม่งั้นจะโทรหานายเหรอ?” นักศึกษาคนนั้นตอบกลับ

“[โอเค ฉันจะเปิดคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้]”

แล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในสถานที่นับไม่ถ้วน

สักพัก… ข่าวที่ว่าฟางชิววินิจฉัยถูกสิบครั้งติดต่อกันก็แพร่สะพัดไปทั่ว หลายคนที่ไม่ได้สนใจจะดูการต่อสู้ในตอนแรกต่างก็พากันเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูการถ่ายทอดสดทันที

หลังจากที่ดู พวกเขาเห็นว่าฟางชิวกำลังตบหน้าหลี่เหวินป๋อจริง ๆ !

เพียงไม่กี่นาที จำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบสองล้านคนแล้ว

ตัวเลขนี้ทำให้หลี่เหวินป๋อตกตะลึง เดิมทีหวังว่ายิ่งมีคนดูการถ่ายทอดสดมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่ตอนนี้หวังว่าจะไม่มีใครกดเข้ามา

แต่หลี่เหวินป๋อไม่สามารถควบคุมจำนวนคนดูการถ่ายทอดสดได้ และเขาก็เป็นผู้เสนอให้ถ่ายทอดสดเอง ทำให้ตอนนี้รู้สึกอยากจะตบตัวเองยิ่งนัก

ในขณะเดียวกัน ผู้ที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดต่างประหม่ากว่าตอนแรกมาก

เนื่องจากความสามารถของฟางชิวยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ทุกคนจึงแอบภาวนาในใจว่าขออย่าให้ฟางชิวยอมแพ้กลางทางเลย

ฟางชิวต้องไปต่อให้สุด!!

อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ!

นักศึกษาฟางชิว! เธอไม่ได้ตัวคนเดียว ตอนนี้เธอเป็นตัวแทนของวงการแพทย์แผนจีนแล้ว!

ฉะนั้นก็สู้ ๆ นะ!

“ในเมื่อเธอไม่อยากพัก ถ้างั้นพวกเราก็มาต่อกันเถอะ” หลี่เหวินป๋อถอนหายใจออกมา เขารู้สึกหดหู่และวิตกกังวลมาก ด้วยรู้ว่าถ้าขืนสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะต้องเป็นฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ในตอนนี้ วิธีเดียวที่ทำได้ก็คือการภาวนาขอให้ฟางชิววินิจฉัยผิดพลาด แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาตรงกันข้ามกับที่คาดเอาไว้!

เมื่อถึงผู้หญิงคนที่สิบเอ็ด

“ยินดีด้วย นี่เป็นชีพจรตั้งครรภ์ คุณกำลังท้อง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากจับชีพจร

ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มกลับ

“กรุณายืนยันผลวินิจฉัยด้วย” ในเวลานี้หลี่เหวินป๋อไม่สามารถพูดประโยคนี้ได้ ดังนั้นฟางชิวจึงพูดแทน

ทนายความจึงพาผู้หญิงคนที่สิบเอ็ดออกไปเพื่อยืนยันผลวินิจฉัย

“ผู้หญิงคนที่สิบเอ็ดได้รับการยืนยันว่าตั้งครรภ์จริง ๆ” ทนายความประกาศผลออกมา

เมื่อหลี่เหวินป๋อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็แดงก่ำ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่มากขึ้นกว่าเดิม

เจ้านี่วินิจฉัยถูกต้องอีกแล้ว! และไม่มีข้อผิดพลาดเลย!!!

แต่ในขณะนั้นเอง ผู้หญิงคนที่สิบเอ็ดที่ควรจะออกจากห้องประชุมไปก็หันกลับมามองฟางชิวด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยถามด้วยท่าทางเหนียมอาย “พี่ชาย เอ่อ… คุณวินิจฉัยว่าฉันตั้งครรภ์ ถ้างั้นช่วยบอกได้ไหมว่า ลูกของฉันเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง? เมื่อครู่นี้ฉันดูการถ่ายทอดสดในห้องนั้น แล้วคุณก็สามารถบอกเพศด้วยการจับชีพจรได้ด้วย?”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทุกคนจึงมองไปที่ฟางชิวทันที ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดด้วย

พวกเขาต้องการดูว่าฟางชิวจะตอบว่าอย่างไร และเขาสามารถตรวจสอบเพศของทารกในครรภ์ได้จริง ๆ หรือ

“ก่อนผมจะตอบคุณ ผมขอถามคำถามคุณหน่อย” เมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น ฟางชิวก็เม้มปากแล้วถามว่า “คุณชอบเด็กผู้ชายหรือว่าเด็กผู้หญิง”

“แน่นอนว่าเป็นเด็กผู้ชาย” ผู้หญิงคนนั้นเปิดปากและพูดทันที “สิ่งที่ฉันต้องการก็คือกำเนิดทายาทที่สามารถสืบทอดวงศ์ตระกูลให้กับสามีได้ ถ้าเกิดลูกในท้องเป็นเด็กผู้หญิง ฉันจะไม่ยอมคลอดเธอออกมา!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางชิวก็ขมวดคิ้วทันที เขาจ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นแน่นิ่ง “ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะชอบเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง” เสียงของเขาค่อย ๆ เย็นชาและจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม

“ด้วยจรรยาบรรณทางการแพทย์ ผมจะไม่บอกเพศของทารกในครรภ์ และไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนทุกแห่งก็จะไม่บอกเช่นกัน ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเพศของทารกในครรภ์อีก!”

“ในตอนนั้นทำไมคุณถึงบอกเพศของทารกกับผู้หญิงคนอื่นล่ะ? คุณแสร้งทำเป็นคนดีหรือเปล่า” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างไม่พอใจ

“อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ เพราะชีพจรของผู้หญิงคนนั้นไม่คงที่ ดังนั้นเธอจึงต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันการแท้งบุตร แต่ความไม่คงที่ของชีพจรก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เธอแค่ต้องให้ความสนใจในการดูแลครรภ์มากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วเหตุผลที่ผมบอกเธอว่าลูกเป็นเด็กผู้ชายก็เพื่อให้เธอกับครอบครัวสนใจการดูแลครรภ์ให้มากขึ้น! นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องทำอย่างนั้น!”

ว้าว!

ผู้ชมทุกคนต่างชื่นชมระคนตะลึงงัน!

เพราะถ้าฟางชิวไม่พูด พวกเขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาจะบอกเพศของทารกในครรภ์ด้วยเหตุผลแบบนี้! ฟางชิวช่างนิสัยดีอะไรอย่างนี้! เขามีจรรยาบรรณแพทย์ที่ดีจริง ๆ !

“แปะ แปะ แปะ…”

“เยี่ยมมาก!”

ในห้องทำงานของรองอธิการบดี เฉินอินเซิงที่กำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้น แล้วปรบมือให้กับการกระทำของฟางชิว

“สมกับเป็นแพทย์แผนจีนจริง ๆ เพราะนี่คือคุณธรรมของแพทย์แผนจีน!” เฉินอินเซิงรู้สึกตื่นเต้นมาก

แต่หลังจากที่ปรบมือไปครู่หนึ่งก็หยุดกะทันหันราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก เขาหันไปมองรอบ ๆ อย่างลนลาน หลังจากเห็นว่าประตูไม่ได้เปิดและไม่มีใครอยู่นอกหน้าต่าง เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เมื่อครู่เขาลืมตัวไปหน่อย! ถ้าคนอื่นเห็นละก็… คงน่าขายหน้าไม่น้อย!

“และเพราะคุณชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ผมจึงไม่บอกคุณว่าลูกของคุณมีเพศอะไร ดังนั้นเชิญออกไปได้แล้วครับ!” ฟางชิวพูดด้วยเสียงทุ้ม

“ไม่บอกก็ไม่บอกสิ!” ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองชายหนุ่มด้วยความโกรธ แล้วหันหลังจากไปทันที

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ยกนิ้วให้อย่างเงียบ ๆ

กฎที่แพทย์ไม่ควรบอกเพศของทารกในครรภ์เป็นความยินยอมโดยปริยายของทุกโรงพยาบาล แม้จะไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็สะท้อนถึงจรรยาบรรณของแพทย์อยู่ดี

ในความคิดเห็นของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง มันก็เหมือนกันหมด ทำไมพ่อแม่ควรรู้เพศของลูกล่วงหน้า?

ถ้าหมอบอกว่าลูกของคุณไม่ใช่เด็กผู้ชาย คุณจะทำแท้งไหม? แค่ประโยคเดียวนี้ก็อาจจะส่งผลต่อการเกิดของทารกตัวน้อย ๆ ได้ การกระทำของฟางชิวไม่เพียงสะท้อนถึงจริยธรรมทางการแพทย์ของเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเมตตาและจรรยาบรรณแพทย์ด้วย

ผู้คนพากันยกย่องฟางชิวอย่างล้นหลาม เมื่อกวาดสายตามองหน้าจอการถ่ายทอดสดจะพบว่าเวลานี้ความคิดเห็นล้วนแต่เป็นอีโมจิตัวเดียวเท่านั้น นั่นคืออีโมจิยกนิ้วให้เลย!

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน