บทที่ 218 เชิดหน้าให้สูงได้แล้ว! (Part 2)
บทที่ 218 เชิดหน้าให้สูงได้แล้ว! (Part 2)
ผู้ชมทั้งหมดเงียบลง ความสนใจพุ่งไปที่ฟางชิวผู้กำลังจับชีพจรของผู้หญิงคนสุดท้าย และชายหนุ่มก็ไม่ได้ปล่อยให้พวกเขารอนานเกินไป
หนึ่งนาทีต่อมา
“นี่ไม่ใช่ชีพจรตั้งครรภ์ คุณไม่ได้ท้อง” ฟางชิวเอานิ้วออกจากข้อมือของผู้หญิงคนสุดท้าย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดก็หันเหความสนใจไปที่ทนายความทันที เพราะจนถึงตอนนี้ ชีพจรของผู้หญิงทั้งยี่สิบคนได้รับการตรวจสอบแล้ว
สิบเก้าคนแรก ฟางชิวสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง แต่คนสุดท้ายนี้ ผลยังไม่ออกมาว่าสามารถวินิจฉัยผู้หญิงทั้งยี่สิบคนได้ถูกต้องหรือไม่?
ทุกคนต่างรอคอยฟังการประกาศผลครั้งสุดท้าย…
ส่วนทางด้านของหลี่เหวินป๋อที่ถูกฟางชิวจัดการด้วยพลังปราณ ก็เดินโซซัดโซเซไปนั่งที่เก้าอี้ทันที
เขารู้ว่าเวลานี้ตัวเขาพ่ายแพ้หมดรูป! ไม่จำเป็นต้องประกาศผลเลย เพราะถึงยังไงก็ถูกต้องอยู่แล้ว!
ความหวังสุดท้ายที่จะรักษาหน้าตาของหลี่เหวินป๋อพังทลายครืนลงหมดแล้ว
“…ผลตรวจสอบแล้วว่า… ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ท้อง” ทนายความประกาศผล
ในขณะนี้ทุกคนต่างรู้สึกตกใจมากที่ฟางชิววินิจฉัยผู้หญิงทั้งยี่สิบคนได้อย่างถูกต้อง!
แม้ว่าจะคาดหวังให้เป็นเช่นนี้ แต่ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี ใครจะเดาผลลัพธ์นี้เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าได้ ในเมื่อทุกคนต่างก็เชื่อว่าฟางชิวจะต้องแพ้
นี่มันคืออะไรน่ะหรือ?
นี่มันคือปาฏิหาริย์! …เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์!
ในตอนนี้ความประทับใจของทุกคนที่มีต่อฟางชิวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาคนนี้ไม่ได้โง่ แต่กลายเป็นว่าแสร้งทำเป็นอ่อนแอ!
ทนายความกำลังกล่าวครั้งสุดท้าย แต่ไม่มีใครฟังเลย เพราะทุกคนรู้ว่าฟางชิวชนะแล้ว!
ฟางชิววินิจฉัยผู้หญิงยี่สิบคนติดต่อกันได้อย่างแม่นยำ แล้วเขาจะแพ้ได้อย่างไร?
ครู่หนึ่ง ทุกคนที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนก็โห่ร้องอย่างดุเดือด พวกเขาชนะแล้วจริง ๆ ! และเป็นชัยชนะที่เหนือความคาดหมาย!!! ใครจะคิดว่านักศึกษาปีหนึ่งที่กล้ารับคำท้าทายต่อสาธารณชนจะชนะได้!
แสดงว่าตอนที่ฟางชิวรับคำท้า เขาไม่ได้เย่อหยิ่งเลย และไม่ได้มีปัญหาทางจิตที่อยากทำให้การแพทย์แผนจีนเสื่อมเสียด้วย แต่เป็นเพราะเขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ !
แม้ว่าจะไม่มีใครสนับสนุนหรือไว้วางใจเขา แต่ฟางชิวก็ใช้ความสามารถที่ยอดเยี่ยมนี้ตบหน้าผู้ที่กล้าสงสัยการแพทย์แผนจีน! และเขายังตบหน้าหลี่เหวินป๋ออย่างแรงอีกด้วย!
ด้วยพลังอันแน่วแน่นี้ ฟางชิวได้แสดงให้ผู้ชมเห็นว่าการแพทย์แผนจีนยอดเยี่ยมเพียงใด!
ไม่ใช่พวกคุณเหรอที่ดูหมิ่นแพทย์แผนจีน?
ไม่ใช่พวกคุณเหรอที่บอกว่าการแพทย์แผนจีนเป็นวิทยาศาสตร์เทียม?
แล้วไม่ใช่พวกคุณเหรอที่บอกว่าการแพทย์แผนจีนด้อยกว่าการแพทย์แผนตะวันตก?
แล้วดูตอนนี้ …พวกคุณจะกล้าพูดอะไรอีกไหม?!
เช่นเดียวกับชื่อบัญชีเวยป๋อของฟางชิว ‘แกมันก็งั้น ๆ แหละ!’ ดังนั้น พวกแกมันก็งั้น ๆ แหละ!!
ตอนนี้พวกเขาสามารถเชิดหน้าขึ้นสูงได้แล้ว นี่คือความรู้สึกของผู้สนับสนุนการแพทย์แผนจีนทุกคน
นับตั้งแต่วันที่หลี่เหวินป๋อประกาศคำท้า ผู้คนในแวดวงการแพทย์แผนจีนต่างกลัวว่าการแพทย์แผนจีนจะถูกกดขี่ เยาะเย้ย และถูกกล่าวหาว่าด้อยกว่าการแพทย์แผนตะวันตก ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลมาก
พวกเขาหวังว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนจะกล้าออกมารับคำท้า และสอนบทเรียนให้แก่แพทย์แผนตะวันตกที่หยิ่งยโสเหล่านั้น รวมถึงหลี่เหวินป๋อด้วย
แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครออกมาเลย แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจ แต่ไม่มีข้อตำหนิหรือโต้แย้งใด ๆ หากแต่ทันใดนั้นฟางชิวก็ปรากฏตัวขึ้น
นักศึกษาปีหนึ่งเป็นคนรับคำท้า!?
ในวันนั้น ผู้ที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนรู้สึกว่าโลกทั้งใบดับแสงลง ราวกับว่าการแพทย์แผนจีนจมดิ่งลงเหวและสิ้นชื่อก็วันนี้!
ในช่วงเวลานั้น พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยของผู้ที่สนับสนุนการแพทย์ตะวันตก ไม่กล้าโต้กลับและทำได้เพียงระงับความโกรธเอาไว้ ทำให้ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ พวกเขาจึงระบายความโกรธทั้งหมดใส่ฟางชิวดั่งสนามอารมณ์
แต่วันนี้ได้เห็นกับตาตัวเองว่าฟางชิวที่ไม่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบจากพวกเขา ทำให้หลี่เหวินป๋อเสียศักดิ์ศรีได้!
เวลานี้ต่างรู้สึกโล่งใจมาก ความโกรธทั้งหมดที่อัดแน่นอยู่ในใจระเบิดออกมาเป็นเสียงโห่ร้องที่ดังกึกก้อง
ในขณะเดียวกันผู้สนับสนุนการแพทย์แผนตะวันตกทั้งหมดก็เงียบกริบ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว …พวกเขาจะพูดอะไรได้อีก?
เพราะความจริงทุกอย่างอธิบายอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นในตอนนี้หากพวกเขาพูดแม้แต่คำเดียวก็ผิดแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเขาเย้ยหยันการแพทย์แผนจีนแทบจมดิน และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องชดใช้!
…
ณ มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง
ในหอพักหญิง
“เย่ เขาชนะแล้ว!” เจียงเหมี่ยวอวี๋ตื่นเต้นมาก เลยยืนขึ้นพร้อมกับหัวเราะคิกคักเบา ๆ ด้วยความสุข
“เยี่ยมไปเลย ฟางชิวชนะแล้ว” หยวนเป้ยก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าฟางชิวจะสุดยอดขนาดนี้!” ดวงตาของหวังอวี๋เป็นประกาย
“วู้ววววว ชนะแล้ว!” หวงหมานหม่านกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น พวกสาว ๆ ต่างพากันส่งเสียงเชียร์
…
ในหอพักชาย
“เยี่ยม! ทำได้ดีมาก!” จูเปิ่นเจิ้งที่ตัวสั่นเพราะความตื่นเต้น “เจ้าห้านี่ไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง!”
“ฮ่าฮ่า เจ้าห้าสมกับเป็นราชาแห่งความเกลียดชังจริง ๆ เขาจัดการใครก็ได้ที่เกลียด! ฮ่าฮ่า” ซุนฮ่าวหัวเราะอย่างตื่นเต้น
“หลี่เหวินป๋อคนนี้สูญเสียศักดิ์ศรีครั้งใหญ่แล้ว” โจวเสี่ยวเทียนชี้ที่หลี่เหวินป๋อแล้วหัวเราะจนท้องแข็ง
ความจริงแล้ว พวกเขาสามคนเชื่อมั่นในตัวฟางชิวเสมอ เจ้าห้าไม่ใช่คนบุ่มบ่ามหรือกระทำอย่างโง่เขลา และแอบสันนิษฐานกันว่าฟางชิวมีไพ่ลับอยู่ในมือ
แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะเอาชนะหลี่เหวินป๋อได้เช่นนี้
สิ่งที่ฟางชิวทำ มันทำให้พวกเขารู้สึกสะใจมาก!
เจ้าห้า …พวกเราภูมิใจในตัวนายนะ!
…
ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย
“ฟางชิว นายไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ” เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยตื่นเต้นมากจนเผลอกำหมัดแน่นไม่รู้ตัว
เธอเชื่อมั่นในตัวฟางชิวว่าจะชนะแน่นอน ด้วยความเชื่อนี้ เธอจึงได้ให้กำลังใจฟางชิวทุกช่วงเวลา
และตอนนี้เขาก็ทำสำเร็จแล้ว!
และจากวันนี้ไป ผู้คนมากมายจะรู้จักฟางชิวมากขึ้น ทำให้หนทางข้างหน้าของเขาราบรื่นและไม่มีความทุกข์อีกต่อไป
ความอิ่มเอมใจที่สุดในชีวิตของเธอคือการได้เห็นคนที่สนิทที่สุดมีอนาคตสดใส
“เฮ้อ…” แตกต่างจากเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย หานอวี่เซวียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อรู้ผลการท้าทาย “…ฉันยังไม่เก่งเท่าเจ้านั่นเลย ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญหรือความแข็งแกร่ง…”
…
ในห้องตรวจของโรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง
“ในที่สุดก็ชนะ ฟางชิวทำได้ดีมาก!” เสิ่นชุนหัวเราะและปรบมือชื่นชม
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผลงานของฟางชิวในการท้าทายครั้งนี้เกินความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง แต่ทางด้านของเฉาเจ๋อ กลับตกใจจนพูดไม่ออก
…
“ศิษย์น้องของพี่!” ฉีไคเหวินตบไหล่ของสวีเมี่ยวหลินอย่างตื่นเต้น “ลูกศิษย์ของนายคนนี้เก่งเกินไปแล้ว ถ้ามีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดต่อไป ในไม่ช้าเขาแซงหน้านายแน่!”
สวีเมี่ยวหลินได้ยินดังนั้นก็ผงะไป
“เวลาที่เห็นว่านายถูกแซงหน้าแล้ว ทำไมฉันถึงได้รู้สึกมีความสุขมากขนาดนี้กันนะ?” ฉีไคเหวินหัวเราะออกมาดัง ๆ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเมี่ยวหลินก็กลอกตาใส่ นอกจากนี้เขายังแอบรู้สึกโล่งใจ
ทำไมเขาถึงให้ฟางชิวเป็นคนรับคำท้าน่ะหรือ?
ประการแรกตั้งใจจะให้ฟางชิวเติบโตภายใต้ความกดดัน เช่นนั้นจะได้มีความเข้าใจลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน ส่วนประการที่สอง คำพูดของหลี่เหวินป๋อหยาบคายและน่ารังเกียจมาก อีกทั้งเจ้านั่นอวดดีเกินไป!
ในฐานะที่เป็นแพทย์ระดับปรมาจารย์ สวีเมี่ยวหลินจึงไม่สามารถยอมรับคำท้าด้วยตนเองได้
ถ้ายอมรับคำท้า เขาจะถูกตำหนิจากแพทย์แผนตะวันตกโดยอ้างว่ารังแกผู้น้อย นอกจากนี้หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผย ชีวิตก็จะถูกรบกวน การสูญเสียความเป็นส่วนตัวสำคัญมากกว่าการได้รับชัยชนะ ดังนั้นจึงให้ฟางชิวเป็นคนรับคำท้าแทน
แม้ว่าสวีเมี่ยวหลินจะสอนฟางชิวมาสองวันแล้ว และรู้ว่าเขามีความสามารถมากมาย แต่อดไม่ได้ที่จะแอบหวั่นใจเพราะกลัวว่าจะแพ้
กระนั้นยังกังวลที่ขอให้ลูกศิษย์ที่เพิ่งเรียนได้สองวันเข้าร่วมการท้าทายแบบนี้
แต่ตอนนี้ฟางชิวก็ชนะแล้ว สวีเมี่ยวหลินจึงรู้สึกโล่งใจมาก
…
ณ มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง ในห้องทำงานของรองอธิการบดี
“นี่ นี่ นี่…” หลังจากได้เห็นชัยชนะของฟางชิวด้วยตา เฉินอินเซิงก็ตกตะลึง เพราะไม่ใช่แค่เรื่องเลวร้ายเท่านั้นที่หายไป แต่ยังมีเรื่องที่น่ายินดีอีกด้วย!
…
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…” หลังจากที่ทนายความประกาศผลการท้าทายแล้ว หลี่เหวินป๋อก็ตัวสั่นคล้ายคยเสียสติ เขาเอาแต่พึมพำกับตัวเองตลอดเวลาว่า “… กะ… แกเป็นพ่อมด แกต้องเป็นพ่อมดแน่ ๆ !”
เวลานี้ หลี่เหวินป๋อเหมือนคนไร้สติไปแล้ว
เมื่อมองไปที่หลี่เหวินป๋อ ฟางชิวก็ตรงไปคว้ากล่องที่มีเงินหนึ่งล้านหยวนที่หลี่เหวินป๋อวางไว้บนโต๊ะน้ำชา จากนั้นก็หันไปหา เจ้าของแล้วพูดว่า “ผมขอรับเงินรางวัลนี้ด้วยความยินดี”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่เหวินป๋อก็จ้องมองมาที่ฟางชิวและตื่นจากภวังค์ทันที อีกทั้งสีหน้ายังแดงจัดด้วยความอับอาย
ในการท้าทายครั้งนี้ ตอนแรกหลี่เหวินป๋อมั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะ แต่ตอนนี้กลับพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
หากหลี่เหวินป๋อพ่ายแพ้ให้แพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียง เขาจะรู้สึกเสียหน้าน้อยลงกว่านี้ แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับนักศึกษาปีหนึ่ง…
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ช่างน่าขันสิ้นดี เขาคือหลี่เหวินป๋อนะโว้ย!
เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของหลี่เหวินป๋อผ่านการถ่ายทอดสด ทุกคนที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที ความอัดอั้นตันใจที่เคยเก็บไว้ บัดนี้ได้ระบายออกมาหมดแล้ว
ใครอยากให้หลี่เหวินป๋อดูถูกแพทย์แผนจีนเองล่ะ ซ้ำยังเป็นคนทำลายชื่อเสียงของแพทย์แผนจีนเองไม่ใช่เหรอ?
เพราะหลี่เหวินป๋ออยากทำตัวหยิ่งยโสเอง! เป็นไงล่ะ ตอนนี้คงได้ลิ้มรสความขมขื่นแล้วสินะ!
ในฐานะพลเมืองจีน หลี่เหวินป๋อกล้าดีอย่างไรที่มาดูถูกการแพทย์อันล้ำค่าของบรรพบุรุษ เขาไม่มีมโนธรรมเลย
นี่เป็นการลงโทษของบรรพบุรุษสำหรับลูกหลานที่เนรคุณอย่าง หลี่เหวินป๋อ!
เวลานี้ ทุกสายตาจับจ้องไปที่หลี่เหวินป๋อ
ฟางชิวตบกล่องเงินในมือเบา ๆ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองไปที่กล้องถ่ายทอดสดแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย การท้าทายสิ้นสุดลงแล้ว และในเวลานี้ผมอยากจะพูดอะไรสักสองสามคำ”
ได้ยินดังนั้นทุกคนก็ละทุกสิ่งที่ทำในมือลง เกิดความเงียบไปทั่วห้องถ่ายทอดสด
เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่ฟางชิวคว้าชัยชนะมาได้ สถานะของเขาในใจของทุกคนก็สูงขึ้นมาก ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าชายหนุ่มต้องการจะพูดอะไรก็ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะ
และพวกเขายังต้องการฟังสิ่งที่ฟางชิวจะพูดด้วย… ว่าจะอวดดีหรือเหน็บแนมหลี่เหวินป๋ออีกหรือไม่? หรือจะใช้โอกาสนี้เพื่อโปรโมทตัวเอง?